หนึ่งฝ่ามือสยบโลกา – บทที่ 568 ลับฝีมือ

บทที่ 568 ลับฝีมือ

เสริมพลังจากปราณกังวานอีกร้อยละเจ็ดสิบ!

หวังเป่าเล่อเอ่ยพูดขึ้นขณะที่ทั้งสองพุ่งเข้าหากัน กำปั้นและนิ้วมือเข้าปะทะกัน พลังปราณของทั้งคู่พวยพุ่งออกมาในทันใด สองพลังประสานรวมกันเป็นอานุภาพกล้าแกร่งที่สามารถทำลายล้างได้ทุกสิ่ง!

 ท่ามกลางเสียงปะทะดังสนั่น เลือดสดไหลออกจากมุมปากของโจวชู่เต๋าที่กำลังล่าถอยไป ด้านหวังเป่าเล่อเองก็มีสภาพไม่ต่างกัน นัยน์ตาของชายหนุ่มส่องสว่าง เขาก้าวเท้าไปข้างหน้าพร้อมกับหัวเราะชอบใจ จากนั้นก็พุ่งเข้าไปโจมตีโจวชู่เต๋าอีกครั้ง!

เสียงดังสนั่นหวั่นไหวเมื่อทั้งคู่เข้าปะทะกัน โจวชู่เต๋าถอยหลังไปจากแรงปะทะ หวังเป่าเล่อไม่ยั้งมือ พลังรัศมีของหวังเป่าเล่อผู้มาท้าสู้ทรงอำนาจมากยิ่งขึ้นขณะกำลังปลดปล่อยพลังปราณแกร่งกล้าพุ่งเข้าไปหาโจวชู่เต๋าอีกรอบ

“หมัดที่สี่!” เสียงแกร่งกล้าราวอัสนีสวรรค์ดังลั่นผสานเขากับพลังรัศมีที่แผ่พุ่งส่งให้ชายหนุ่มดูไร้เทียมทาน โจวชู่เต๋าหายใจถี่รัว สังหรณ์ใจว่าหากอีกฝ่ายยังสามารถเพิ่มพูนพลังขึ้นไปได้เรื่อยๆ เช่นนี้ หมัดที่ห้าซึ่งเป็นหมัดสุดท้ายคงจะทรงพลังขนาดสั่นสะเทือนฟ้าดินได้!

ปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้! จิตวิญญาณนักสู้ในตาโจวชู่เต๋ายังไม่เลือนหายไป กลับลุกโชนโชติช่วงยิ่งกว่าเดิม เขาถอยหลังไปยกมือขวาตั้งขณะมือขณะอีกฝ่ายกำลังพุ่งเข้ามาใกล้ ทันใดนั้นแสงจันทราก็ส่องสว่างออกมาจากทรวงอก แสงจันทร์ส่องจ้า ชายหนุ่มตั้งผนึกมืออย่างต่อเนื่อง พลันแสงจันทราก็แปรเปลี่ยนเป็นภาพดวงจันทร์มาปรากฏเบื้องหน้า!

แม้ดวงจันทร์จะส่องแสงสุกสว่าง แต่กลับสัมผัสไม่ได้ถึงความบริสุทธิ์ ดูแปลกประหลาดยิ่งนัก เสียงแช่งสั่นคลอนประสาทดังออกมาจากภายใน

แสงแช่งฟังดูราวกับเป็นคำสาปอำมหิต!

“จันทราต้องสาป!” โจวชู่เต๋าร้องคำรามพร้อมกับหันผนึกมือชี้ไปทางหวังเป่าเล่อ ทันใดที่นิ้วชี้มา หวังเป่าเล่อก็ตื่นตะลึงไปเมื่อสัมผัสได้ถึงภัยอันตรายที่ระเบิดออกภายในจิตใจ แต่ก็ไม่มีเวลาให้ชายหนุ่มได้ไตร่ตรองอะไรมาก เขาปรับสรีระจนอยู่ในท่วงท่าแปลกๆ ขณะกำลังทะยานพุ่งด้านหน้าอย่างรวดเร็ว

ศิษย์เอกแห่งสำนักวังเต๋าไพศาลที่ได้รับการยอมรับจากตู้กูหลินอย่างโจวชู่เต๋านั้นแกร่งกล้ากว่าผู้ฝึกตนขั้นกำเนิดแก่นในทั่วไป แม้แต่ผู้ฝึกตนขั้นจุติวิญญาณก็ยังไม่แน่ว่าจะล้มเขาลงได้หรือไม่

เสียงของโจวชู่เต๋าดังก้องพร้อมกับส่งนิ้วมือพุ่งทะยานไป หวังเป่าเล่อไม่สามารถหลบการโจมตีครั้งนี้ได้ทัน พลันแสงจันทราก็เข้าห้อมล้อม ดวงตาของชายหนุ่มฉายแสงที่มองไม่เห็น ภาพทับซ้อนของตนเองปรากฏขึ้น ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ขณะที่จันทรากำลังรวมแสงอย่างรวดเร็ว ภาพดวงจันทร์ที่ปรากฏขึ้นเบื้องหน้าโจวชู่เต๋าก็โอบล้อมรอบศัตรู หวังเป่าเล่อในตอนนี้เหมือนได้กลายร่างเป็นจันทราไป!

หวังเป่าเล่อรู้สึกอ่อนแรงเมื่อโดนดวงจันทราห้อมล้อม ชายหนุ่มหายใจถี่รัว ตัวสั่นเทา หนังตาเริ่มหนักอึ้ง เกือบจะปิดตาหลับไป ความอ่อนเพลียกระจายไปทั่วร่างราวกับคลื่นยักษ์ ความรู้สึกอ่อนแรงที่สัมผัสถึงได้แปรเปลี่ยนตนไปเป็นคนธรรมดา!

อารมณ์ความรู้สึกปั่นป่วนไปหมด ความเศร้า ความสิ้นหวัง ความคิดอยากฆ่าตัวตาย ความรู้สึกด้านลบต่างๆ ผุดขึ้นในใจ!

พลังปราณของเขาก็ได้รับผลกระทบไปด้วย พูดให้ชัดเจนคือพลังในการควบคุมต่างหากที่ได้รับผลกระทบ ก่อนหน้านี้ชายหนุ่มสามารถคุมพลังปราณของตนเองได้ดั่งใจนึก แต่พอได้รับความคิดด้านลบต่างๆ  พลังในการควบคุมก็ลดทอนลงไปถึงครึ่ง!

นี่คือหนึ่งในไพ่ตายของโจวชู่เต๋า วิชาจันทราต้องสาป!

หากเป็นผู้อื่น ชายหนุ่มคงจะพุ่งเข้าไปสังหารในทันทีเพื่อไม่ให้เปลืองพลังปราณหรือสมบัติเวท แต่คู่ต่อสู้ของเขาคือหวังเป่าเล่อ แม้จะไม่เข้าใจในตัวอีกฝ่ายมากนัก แต่หลังจากประมือกันไม่นาน เขาก็ประเมินความสามารถของหวังเป่าเล่อได้ว่ามีฝีมือเทียบเท่ากับตู้กูหลิน!

โจวชู่เต๋าจะประมาทไม่ได้เมื่อพบกับคู่ต่อสู้เก่งกาจเช่นนี้ ดวงตาของชายหนุ่มฉายแสงเย็นยะเยือก แม้ว่าอีกฝ่ายจะได้รับผลกระทบจากจันทราต้องสาปอยู่ แต่เขาก็ไม่ได้เข้าไปใกล้ เลือกที่จะหยิบเอารูปไม้แกะสลักออกมาจากกระเป๋าคลังเวท!

รูปแกะสลักสีดำปล่อยรัศมีเย็นยะเยือกทันทีที่หยิบออกมา เป็นรูปสลักของหมาล่าเนื้อที่มีแสงดุร้ายแฝงอยู่ในแววตา หมาล่าเนื้อกัดลิ้นของตนเองและบ้วนเลือดสดออกมากองหนึ่ง ทันใดนั้นพลังปราณมืดจำนวนมากก็แผ่พุ่งออกมา

เสียงคำรามดุร้ายดังสนั่นสั่นสะเทือนฟ้าดิน รูปสลักไม้พลันตื่นชีวิต กลายร่างเป็นหมาล่าเนื้อสีดำสูงสามสิบเมตร!

มันมีฟันแหลมคม นัยน์ตาเต็มไปด้วยความกระหายเลือด หมาล่าเนื้อร้องคำรามลั่นพร้อมกับพุ่งเข้าใส่หวังเป่าเล่อ หมายจะกลืนกินคนตรงหน้า!

ภาพเบื้องหน้าเหมือนดัง…จันทรุปราคาที่มีหมาล่าเนื้อกำลังจะกลืนกินดวงจันทร์!

“จบแค่นี้แหละ เสียดายที่เจ้าไม่สามารถประกาศศักดาให้ผู้อื่นรู้ได้!” โจวชู่เต๋าหรี่ตาเล็กพร้อมกับเอ่ยขึ้นช้าๆ หมาล่าเนื้อพุ่งเข้าไปใกล้หวังเป่าเล่อ มันอ้าปากเตรียมจะกัดกินภาพจันทราและชายหนุ่มที่อยู่ภายใน!

คนที่เฝ้าดูอยู่รอบๆ รวมถึงกลุ่มผู้ฝึกตนนอกสนามทดสอบต่างตื่นกลัวจนตัวสั่น เหล่าพันธุ์กล้าเป็นกังวลใจหนัก!

ทันใดนั้น…เหตุการณ์ไม่คาดคิดก็บังเกิดขึ้น!

หวังเป่าเล่อที่ถูกจันทราห้อมล้อมพูดขึ้นอย่างเสียดาย

“เสียดายจริงๆ ที่เจ้าไม่ยอมเข้ามาใกล้…”

ทันใดที่เสียงดังขึ้น มือที่สร้างขึ้นจากอัสนีก็ขยายใหญ่ออกมาจากด้านในจันทราต้องสาป รวดเร็วเสียจนพุ่งเข้าไปรับคมเขี้ยวของหมาล่าเนื้อแสนดุร้ายเบื้องหน้าในพริบตา!

อัสนีพลันบังเกิด คลื่นระเบิดกระจายไปทั่วทุกทิศส่งเสียงดังกึกก้อง พลังแกร่งกล้าพวยพุ่งออกมาจากจันทราต้องสาปในทันใด ก่อนจะทลายจันทราทิ้งพร้อมกับพุ่งตรงไปอัดอสูรร้ายตรงหน้า หมาล่าเนื้อล่าถอยไปพร้อมกับกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด จันทราต้องสาปถูกทำลายทิ้งลงในพริบตา โจวชู่เต๋าตื่นตกใจไป ในตอนนั้นเอง หวังเป่าเล่อก็พุ่งออกมาจากจันทราที่ทลายลงด้วยความเร็วเหนือชั้นกว่าครั้งก่อน เขาพุ่งเข้าไปใกล้ชายเบื้องหน้าด้วยความเร็วดุจดั่งสายฟ้าพร้อมกับต่อยหมัดตรงไป!

หมัดที่สี่!

เสริมพลังจากปราณกังวานอีกหนึ่งเท่าตัว!

หมัดที่ปล่อยออกไปแฝงด้วยพลังเสริมจากปราณกังวานที่มากกว่าเดิม เป็นดั่งคลื่นมรสุมทรงพลังกว่าครั้งก่อน หมัดของหวังเป่าเล่อในครั้งนี้นั้นแข็งแกร่งเป็นสองเท่าจากพลังกาย!

เป็นผลมาจากปราณกังวานที่ช่วยดันให้พลังปราณและพลังวิญญาณพุ่งทะลุเกินขีดจำกัด หมัดพุ่งตรงไปอัดเข้าอย่างจัง โจวชู่เต๋าหลบไม่พ้น ทำได้แค่ต้านทานสุดพลังที่มี เกิดเสียงดังสนั่น คนโดนต่อยกระอักเลือดออกมากองใหญ่ วัตถุเวทป้องกันกายพังทลายไม่มีชิ้นดี ทรวงอกถูกทะลวง มีเลือดพุ่งออกมาไม่หยุด เขาถอยหลังไปพร้อมกับความเดือดดาลที่ปะทุขึ้นในแววตา!

“อัสนีอวตาร!”

“ถูกต้อง!” หวังเป่าเล่อสร้างร่างอวตารขึ้นมาตอนตกอยู่ในสถานการณ์คับขัน จันทราต้องสาปและหมาล่าเนื้อต่างพุ่งเข้าใส่ร่างอวตารของเขากันหมด ก่อนร่างอวตารจะระเบิดออก เผยร่างจริงของหวังเป่าเล่อที่ทะยานออกมาปล่อยหมัดที่สี่

หากโจวชู่เต๋าพลาดท่าเข้าไปใกล้หวังเป่าเล่อ การต่อสู้ในครั้งนี้คงจะจบไปแล้ว!

หวังเป่าเล่อพุ่งเข้าใส่โจวชู่เต๋าระหว่างการสนทนา ชายหนุ่มแสนดุดันและไร้เทียมทาน มองเห็นได้เลยว่าอีกฝ่ายกำลังจะโดนกำราบสิ้น!

“ต่อไปเป็นหมัดสุดท้าย!” ความกระหายอยากต่อสู้พุ่งขึ้นสูง โจวชู่เต๋าร้องคำรามขึ้นขณะหวังเป่าเล่อพุ่งเข้าไปใกล้ ร่างที่กำลังถอยหนีพลันหยุดเคลื่อนไหว ดวงตาเริ่มแดงก่ำ สัมผัสปราณกังวานปะทุออกมาจากโจวชู่เต๋า!

“เจ้าจะไม่ได้ปล่อยหมัดสุดท้าย!” เขายกมือขวาขึ้นตั้งผนึกมือ เส้นเลือดปูดโปนขึ้นบนใบหน้า พลังปราณสั่นไหวรุนแรง!

“เก้าสมัย…”

“ลวงสังหาร!”

ทันทีที่พูดจบ ร่างมายามากมายก็ปรากฏขึ้นจากกายาของโจวชู่เต๋า แต่ละร่างเป็นภาพของตนเอง ราวกับว่าชาติภพทั้งเก้าพลันปรากฏขึ้น เขาตั้งผนึกขึ้นพร้อมกับเหล่าร่างมายา พลังรัศมีที่ทำให้คนรอบข้างตัวแข็งทื่อด้วยความกลัวพลันปะทุขึ้น!

หนึ่งฝ่ามือสยบโลกา

หนึ่งฝ่ามือสยบโลกา

นิยายกำลังภายใน แปลจีน จากนักเขียนขายดีตลอดกาล ‘เอ่อร์เกิน’ กับตัวเอกแปลกใหม่ ไม่มีใครเหมือน! บังอาจดูถูกความหล่อเหลาของข้า จงเรียกข้าว่า ‘บิดา’ แล้วข้าจะไว้ชีวิตเจ้า! ค.ศ. 3029 วิทยาการบนโลกมนุษย์พัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว จนแต่ละประเทศไม่มีเขตพรมแดนกั้นอีกต่อไป โลกได้ผสานรวมกลายเป็นหนึ่งเดียว เริ่มต้นยุคสมัยแห่งสหพันธรัฐ ตอนนั้นเอง กระบี่ยักษ์เล่มหนึ่งตกลงมาจากห้วงอวกาศปักเข้าใจกลางดวงอาทิตย์ แรงกระแทกนั้นทำให้ฝักกระบี่แตกออกเป็นเศษชิ้นส่วนและกระจัดกระจายไปทั่วทั้งจักรวาลรวมถึงบนโลก ก่อให้เกิดแหล่งพลังงานรูปแบบใหม่อันไร้ขีดจำกัดขึ้นบนโลกในบัดดล พลังงานนี้มีชื่อเรียกกันว่า ‘ปราณวิญญาณ’ เมื่อสหพันธรัฐและขุมอำนาจอื่นๆ เริ่มออกรวบรวมเศษชิ้นส่วนต่างๆ พวกเขาก็ได้รู้ถึงเคล็ดวิชาการฝึกตน การหลอมโอสถ การหลอมศิลาวิญญาณ และเคล็ดวิชาพิสดารนานัปการ ตัวอักขระที่จารึกอยู่บนเศษชิ้นส่วนเหล่านั้นล้วนเก่าแก่ยิ่งนัก นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ผู้คนกลับมานิยมใช้ภาษาจีนโบราณกันอีกครั้ง การถือกำเนิดของปราณวิญญาณ ทำให้แหล่งพลังงานรูปแบบเดิมตกยุค และได้เปลี่ยนวิถีชีวิตของมนุษย์โลกไปโดยสิ้นเชิง ไม่เพียงแต่เครือข่ายวิญญาณจะได้รับการคิดค้นขึ้นมา แต่ปราณวิญญาณยังพลิกโฉมอารยธรรมมนุษย์ นำพาโลกเข้าสู่ยุคสมัยแห่งการฝึกตน ซึ่งต่อมารู้จักกันในนามว่ายุคกำเนิดวิญญาณ หวังเป่าเล่อ หนุ่มร่างท้วมผู้ทะเยอทะยาน ใฝ่ฝันจะได้เป็นผู้นำสหพันธรัฐ ด้วยหวังว่าจะไม่มีใครมารังแกเขาได้อีกต่อไป ชายหนุ่มศึกษาอัตชีวประวัติของเจ้าพนักงานสหพันธรัฐจนขึ้นใจ และเมื่อเดินทางเข้ามาศึกษาในสำนักศึกษาเต๋าศักดิ์สิทธิ์ เขาก็ใช้ความรู้เหล่านั้นบวกกับความ ‘หน้าหนาหน้าทน’ ของตัวเอง วางกลยุทธ์อันฉลาดล้ำกำราบศัตรูคนแล้วคนเล่า ใครหน้าไหนก็ไม่อาจมาขัดขวางเส้นทางสู่การเป็นหนึ่งในใต้หล้าของชายอ้วนผู้นี้ได้ …เว้นเสียแต่คำสาปประจำตระกูล ที่บอกไว้ว่าหวังเป่าเล่อจะต้องตายหากเขาไม่ผอมลงก่อนอายุสามสิบปี!! ในเมื่อบรรพบุรุษร่างจ้ำม่ำมายืนรอให้เขาไปอยู่ด้วยขนาดนี้ ชายหนุ่มจึงต้องทั้งฝึกตนและลดน้ำหนักไปพร้อมๆ กัน!

Options

not work with dark mode
Reset