หนึ่งฝ่ามือสยบโลกา – บทที่ 575 ศึกตัดสิน!

บทที่ 575 ศึกตัดสิน!
ทั้งคู่ร้องตะโกน ปลดปล่อยพลังเต็มขั้น ทะเลสีเลือดที่มีปลาไนเก้าตัวว่ายวนอยู่พลันปรากฏขึ้นเบื้องหน้าตู้กูหลิน คลื่นสีโลหิตพัดสาดกระเซ็นทุกครั้งที่ปลาไนกระโจนพ้นน้ำ

ภาพมายาเบื้องหน้าส่งกลิ่นโลหิตคลุ้งไปทั่วพื้นที่ ยอดเขาใต้เท้าตู้กูหลินเปรอะเปื้อนไปด้วยสีเลือด!

ด้านหวังเป่าเล่อก็ไม่แพ้กัน รอบกายชายหนุ่มมีสายฟ้าฟาดผ่ารอบทิศ เกิดเป็นเขตอัสนีขนาดใหญ่ ฟ้าปิดมืดสนิทขณะนำพาคลื่นสายฟ้าปกคลุมไปทั่วยอดเขา!

มองไกลๆ เห็นเป็นยอดเขาโลหิตและยอดเขาอัสนี มีพลังขนาดสั่นคลอนผืนดินและสรวงสวรรค์ไม่ต่างกัน!

เหล่าผู้ชมต่างตื่นตะลึงเมื่อได้เห็นภาพเบื้องหน้า ขณะเดียวกัน ผู้เข้าร่วมทดสอบคนอื่นๆ ก็มาถึงบริเวณยอดเขาคู่ พวกเขาไม่กล้าเข้าไปใกล้ ได้แต่เฝ้าดูอยู่ไกลๆ ร่างกายของผู้ฝึกตนนั้นแตกต่างจากคนทั่วไป แม้จะมองจากไกลห่างก็สามารถเห็นทุกอย่างได้ชัดเจน

แต่ก็ทำให้พวกเขาสัมผัสได้ถึงความกดดันจนสั่นคลอนในใจ เริ่มหายใจถี่รัวขึ้นขณะหวังเป่าเล่อและตู้กูหลินปลดปล่อยพลังออกมาบนยอดเขาสีเลือดและยอดเขาอัสนี!

“การต่อสู้กำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว!”

“นี่เป็นการต่อสู้ของยอดฝีมือระดับต้นๆ รองจากขั้นจุติวิญญาณในสำนักวังเต๋าไพศาล!”

“ผู้ชนะในศึกครั้งนี้จะเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดรองจากขั้นจุติวิญญาณ!”

เหล่าศิษย์ทั้งในและนอกสนามรบต่างคอยจับตาดูศึกครั้งนี้ พวกที่เอาใจช่วยตู้กูหลินต่างรู้สึงกังวลใจ

สานุศิษย์จากสหพันธรัฐเองก็รู้สึกไม่ต่างกัน ขณะที่ทุกคนกำลังจับจ้องไปที่ยอดเขาแฝด หวังเป่าเล่อก็หัวเราะขึ้น เสียงหัวเราะของเขาดังขึ้นเรื่อยๆ ก่อนจะยกมือขึ้นโบกไปมา

ชายหนุ่มไม่ได้ลงมือโจมตี แต่กลับโยนกุญแจทั้งหมดที่มีลงหุบเขาที่กั้นระหว่างทั้งสอง กุญแจมากมายสองแสงเป็นประกาย ร่วงหล่นไปก้นหุบเขาราวกับดวงดาวส่องแสงระยิบระยับ!

ภาพเบื้องหน้าทำให้เหล่าผู้ชมแปลกใจ พวกเขาไม่คิดว่าชายหนุ่มจะโยนกุญแจทิ้งไป แต่หลังจากหยุดคิดสักพัก ก็ตระหนักได้ว่าเป็นการกระทำที่มีเหตุผลทีเดียว!

กฏของการทดสอบนี้ได้เปลี่ยนไปแล้ว พูดให้ถูกก็คือ หวังเป่าเล่อและตู้กูหลินไม่จำเป็นต้องสนใจกฏ เพราะทั้งสองมีกฏเป็นของตนเอง!

นั่นก็คือ…มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่จะเหลือรอดไปได้!

ถึงกระนั้นก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะกล้าโยนกุญแจทิ้งไปง่ายๆ เหมือนหวังเป่าเล่อ การกระทำเช่นนั้นส่งผลให้เข้าดูองอาจมากขึ้นไปอีก เพราะเป็นการบอกชัดเจนว่าจะไม่มีการถอยหลังกลับ!

บรรดาผู้ชมที่รายล้อมอยู่หยุดหายใจไป เหล่าศิษย์ที่อยู่นอกสนามรบก็มีสภาพไม่ต่าง แม้หวังเป่าเล่อจะเป็นผู้ฝึกตนจากสหพันธรัฐ แต่ก็ได้รับความเคารพจากใครหลายคนเลยทีเดียว!

“ใจกล้าจริงๆ…ข้าได้ประเมินหวังเป่าเล่อต่ำไป!”

“ถ้ามีโอกาส ไม่ว่าหวังเป่าเล่อจะชนะหรือแพ้ ข้าก็อยากเป็นเพื่อนกับเขา!”

ทัศนคติของผู้คนมากมายที่มีต่อหวังเป่าเล่อพลันเปลี่ยนไป ตู้กูหลินเองก็รู้สึกยกย่องการกระทำของชายหนุ่ม

เขาหัวเราะเสียงดังก่อนจะยกมือขึ้นโบก ส่งกุญแจทั้งหมดที่ได้มาลงหุบเหวไปราวกับเป็นของไร้ค่า ไม่แม้จะเหลียวตามองตาม เหลือกุญแจอยู่บนยอดเขาแค่เพียงหนึ่งดอก ชายหนุ่มชี้มือขวาไปที่กุญแจดอกนั้น ส่งมันลอยไปหยุดส่องสว่างอยู่บนก้อนหินระหว่างสองยอดเขา!

ผู้ชนะจะได้ครอบครองกุญแจดอกนี้ไป!

พลังที่แผ่ออกจากร่างตู้กูหลินทวีคูณขึ้นหลังโยนกุญแจไป เหล่าศิษย์ผู้ไร้กุญแจรอบๆ ต่างตื่นตะลึงกับการกระทำของทั้งคู่จนหยุดหายใจไปชั่วขณะ พวกเขารู้สึกว่าตนเองช่างไร้ค่าเมื่อได้มาอยู่ต่อนหน้าชายทั้งสอง

“พวกเขาเป็นยอดฝีมือที่แท้จริง!” ใครคนหนึ่งพูดพึมพำขึ้น กลุ่มคนรอบๆ ต่างเห็นพ้องกับประโยคดังกล่าว

พวกเขาสัมผัสได้ถึงความแกร่งกล้าจากชายทั้งสองและเข้าใจได้ว่าทำไมทั้งคู่จึงทำเช่นนั้น

ศึกครั้งนี้จะจบลงด้วยการเคลื่อนย้ายรอบต่อไป จะต้องตัดสินผู้แพ้ผู้ชนะก่อนการเคลื่อนย้าย มิเช่นนั้นทั้งคู่จะถูกกำจัดออกจากการทดสอบ!

ไม่มีใครกล้าไปหยิบเอากุญแจใต้หุบเขาเพราะถือเป็นเรื่องเปล่าประโยชน์ แม้จะมีกฏว่าไว้ แต่คนทั้งสำนักต่างจับตาดูทุกสิ่งอยู่ หากมีใครใช้โอกาสนี้ถีบตัวเองขึ้นไปเป็นสามอันดับต้น อนาคตเบื้องหน้าคงจะเป็นไปอย่างลำบากแน่นอน!

เหล่าผู้ฝึกตนที่เข้ารับการทดสอบคุ้นหน้าคุ้นตากันดี จึงไม่ค่อยมีใครกล้าเสีย ส่วนพวกที่เหลือรอดอยู่ล้วนฉลาดกันแทบทั้งนั้น

ทุกคนต่างพยายามหักห้ามความโลภและจัดการกับความคิดของตนเองแม้จะรู้สึกเสียดาย!

ผู้ชนะการทดสอบจะต้องเป็นหวังเป่าเล่อหรือตู้กูหลิน ผู้ที่ชนะในศึกครั้งนี้จะได้มีสิทธิ์หยิบเอากุญแจที่ส่องประกายเหนือก้อนหินไป คนผู้นั้นจะได้เฝ้าดูอีกคนถูกเคลื่อนย้ายออกไปและกลายเป็นที่หนึ่งในทันที!

“หวังเป่าเล่อ อย่าทำให้ข้าผิดหวัง!” ตู้กูหลินแผดเสียงขึ้นหลังจากโยนกุญแจทิ้งไป แววตาส่องประกายความกระหายพร้อมต่อสู้ เขาก้าวเหยียบอากาศ พุ่งทะยานไปทางหวังเป่าเล่อ ก่อนจะยกมือขึ้นคว้า ปลาในทั้งเก้าในทะเลโลหิตเบื้องหลังกระโจนพ้นน้ำในทันใด!

ปลาในเก้าตัวในทะเลโลหิตกลายร่างเป็นมังกรเก้าเศียรพันรอบแขนขวาเสริมพลังให้ตู้กูหลิน!

เขาพุ่งตัวไปหาหวังเป่าเล่อเหมือนตอนที่ประมือกับสวีหมิงและลู่หยุน!

จวบจนปัจจุบัน ในสำนักวังเต๋าไพศาล ชายหนุ่มยังไม่เคยเจอใครที่ทำให้ตนต้องปล่อยคาถาที่สองเลยสักคน ความคาดหวังที่เก็บงำมาตลอดจึงส่งผ่านมาถึงหวังเป่าเล่อ ตอนนี้ตู้กูหลินแทบไม่ได้สนใจเรื่องใบต้นไฮยาซิน เขาสนแค่เพียงร่วมศึกนี้อย่างเต็มที่และใช้ชัยชนะครั้งนี้ในการประกาศศักดาของตนเอง!

ความคิดในหัว ความปราถนาอยากสู้รบ และความตั้งมั่น ส่งให้ตู้กูหลินปลดปล่อยพลังแกร่งกล้าจนทะเลโลหิตเบื้องหลังสั่นไหว ก่อนจะกระโจนเข้าไปต่อยหวังเป่าเล่อ!

หมัดที่ปล่อยออกไปทำให้ฟ้าดินสั่นคลอนจนเกิดหลุมดำ สั่นสะเทือนขึ้นไปถึงสรวงสวรรค์ มังกรเก้าเศียรร้องคำรามขณะแผ่พลังปราณกังวาลออกมาจากภายใน!

มันพุ่งทะยานตรงไปข้างหน้าราวกับหอกที่ไม่มีวันแตกพัง!

“เข้ามาเลย!” ความปราถนาอยากต่อสู้ฉายวาบขึ้นในสายตาของหวังเป่าเล่อ เส้นสายฟ้ามากมายร่ายรำไปมาในเขตอัสนี น้ำเสียงของหวังเป่าเล่อเปี่ยมไปด้วยพลังมากล้นและเด็ดขาดกว่าครั้งไหนๆ ชายหนุ่มก้าวออกไปทันทีที่พูดจบ!

พลังจากช่วงเอวพวยพุ่งขึ้นมารวมอยู่ที่มือขวา พลังปราณปะทุเต็มขั้น แก่นในอัสนี แก่นในแห่งความมืด และแก่นในแห่งหัวใจตื่นขึ้นพร้อมกัน เสริมพลังให้กับกำปั้นของชายหนุ่ม!

ระเบิดกำเนิดดวงดารา!

เสริมพลังจากปราณกังวาลสองเท่า!

ฟ้าดินสั่นไหว ลมพัดปั่นป่วน เมฆหมอกฉีกขาด หลุมดำถูกบดขยี้ หวังเป่าเล่อในตอนนี้เป็นดั่งหอกอันไร้เทียมทาน หมัดของเขาเปรียบเหมือนกับปลายหอกแหลมคมที่กำลังพุ่งไปทางตู้กูหลิน!

ทั้งสองที่อยู่บนยอดเขาอยู่ห่างกันไม่ถึงสามร้อยเมตร เมื่อออกพุ่งทะยานปรากฏภาพเป็นเหมืองดังหอกแหลมเข้าปะทะกัน!

ฟ้าดินสั่นไหว ส่งรอบบริเวณสั่นสะเทือนตาม!

นี่คือการเข้าสู้กันของทะเลโลหิตและเขตอัสนี!

นี่คือการเข้าปะทะกันของยอดเขาโลหิตและยอดเขาอัสนี!

นี่คือ…ศึกตัดสินหาผู้เป็นหนึ่งในบรรดาศิษย์สำนักวังเต๋าไพศาล!

หนึ่งฝ่ามือสยบโลกา

หนึ่งฝ่ามือสยบโลกา

นิยายกำลังภายใน แปลจีน จากนักเขียนขายดีตลอดกาล ‘เอ่อร์เกิน’ กับตัวเอกแปลกใหม่ ไม่มีใครเหมือน! บังอาจดูถูกความหล่อเหลาของข้า จงเรียกข้าว่า ‘บิดา’ แล้วข้าจะไว้ชีวิตเจ้า! ค.ศ. 3029 วิทยาการบนโลกมนุษย์พัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว จนแต่ละประเทศไม่มีเขตพรมแดนกั้นอีกต่อไป โลกได้ผสานรวมกลายเป็นหนึ่งเดียว เริ่มต้นยุคสมัยแห่งสหพันธรัฐ ตอนนั้นเอง กระบี่ยักษ์เล่มหนึ่งตกลงมาจากห้วงอวกาศปักเข้าใจกลางดวงอาทิตย์ แรงกระแทกนั้นทำให้ฝักกระบี่แตกออกเป็นเศษชิ้นส่วนและกระจัดกระจายไปทั่วทั้งจักรวาลรวมถึงบนโลก ก่อให้เกิดแหล่งพลังงานรูปแบบใหม่อันไร้ขีดจำกัดขึ้นบนโลกในบัดดล พลังงานนี้มีชื่อเรียกกันว่า ‘ปราณวิญญาณ’ เมื่อสหพันธรัฐและขุมอำนาจอื่นๆ เริ่มออกรวบรวมเศษชิ้นส่วนต่างๆ พวกเขาก็ได้รู้ถึงเคล็ดวิชาการฝึกตน การหลอมโอสถ การหลอมศิลาวิญญาณ และเคล็ดวิชาพิสดารนานัปการ ตัวอักขระที่จารึกอยู่บนเศษชิ้นส่วนเหล่านั้นล้วนเก่าแก่ยิ่งนัก นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ผู้คนกลับมานิยมใช้ภาษาจีนโบราณกันอีกครั้ง การถือกำเนิดของปราณวิญญาณ ทำให้แหล่งพลังงานรูปแบบเดิมตกยุค และได้เปลี่ยนวิถีชีวิตของมนุษย์โลกไปโดยสิ้นเชิง ไม่เพียงแต่เครือข่ายวิญญาณจะได้รับการคิดค้นขึ้นมา แต่ปราณวิญญาณยังพลิกโฉมอารยธรรมมนุษย์ นำพาโลกเข้าสู่ยุคสมัยแห่งการฝึกตน ซึ่งต่อมารู้จักกันในนามว่ายุคกำเนิดวิญญาณ หวังเป่าเล่อ หนุ่มร่างท้วมผู้ทะเยอทะยาน ใฝ่ฝันจะได้เป็นผู้นำสหพันธรัฐ ด้วยหวังว่าจะไม่มีใครมารังแกเขาได้อีกต่อไป ชายหนุ่มศึกษาอัตชีวประวัติของเจ้าพนักงานสหพันธรัฐจนขึ้นใจ และเมื่อเดินทางเข้ามาศึกษาในสำนักศึกษาเต๋าศักดิ์สิทธิ์ เขาก็ใช้ความรู้เหล่านั้นบวกกับความ ‘หน้าหนาหน้าทน’ ของตัวเอง วางกลยุทธ์อันฉลาดล้ำกำราบศัตรูคนแล้วคนเล่า ใครหน้าไหนก็ไม่อาจมาขัดขวางเส้นทางสู่การเป็นหนึ่งในใต้หล้าของชายอ้วนผู้นี้ได้ …เว้นเสียแต่คำสาปประจำตระกูล ที่บอกไว้ว่าหวังเป่าเล่อจะต้องตายหากเขาไม่ผอมลงก่อนอายุสามสิบปี!! ในเมื่อบรรพบุรุษร่างจ้ำม่ำมายืนรอให้เขาไปอยู่ด้วยขนาดนี้ ชายหนุ่มจึงต้องทั้งฝึกตนและลดน้ำหนักไปพร้อมๆ กัน!

Options

not work with dark mode
Reset