หนึ่งฝ่ามือสยบโลกา – บทที่ 694 หมดทางหนี!

ดวงตาทั้งสี่ดวงประกอบไปด้วยหนึ่งดวงตายักษ์และอีกสามดวงตาขนาดเล็กเท่ากำปั้น ลอยอยู่เบื้องหลังหวังเป่าเล่อ ดวงตาทั้งสามที่เกิดใหม่พุ่งตรงจากด้านหลังของชายหนุ่ม มาปรากฏเบื้องหน้าเขา อยู่ตรงกลางระหว่างเจ้าของพลังและลำแสงสีแดง ก่อนจะลืมขึ้นพร้อมกัน!

แต่คราวนี้พลังที่ส่งออกมาจากการลืมขึ้นของดวงตาแตกต่างไปจากทุกที นอกจากมันจะมีพลังทำให้ทุกสิ่งหยุดชะงักอยู่กับที่แล้ว รังสีที่ดวงตาทั้งสามปล่อยออกมายังอาบไปด้วยพลังทำลายล้างมหาศาล ก่อนที่ลำแสงสีแดงจะทันได้ไหลท่วมดวงตาทั้งสาม พวกมันก็ชิงระเบิดเสียก่อน!

คลื่นพลังปราณรุนแรงพุ่งออกจากดวงตาทั้งสาม สร้างแรงต้านที่แม้จะไม่เทียบเท่าการโจมตีจากลำแสงของเรือบินรบเต๋ามรณะ แต่ก็มากพอที่จะทำให้ลำแสงขนาดใหญ่แตกออกเป็นสายได้ ลำแสงสีแดงกระจายออกเป็นเส้นแสงเล็กๆ ที่เจิดจ้าน้อยลง ส่งผลให้พลังงานของมันที่เคยร้ายแรงในตอนแรกทุเลาลงไป

กระนั้นการโจมตีที่อ่อนกำลังลงไปแล้ว ก็ยังทำให้หวังเป่าเล่อต้องถอยร่นไปด้านหลังหลายร้อยเมตร และทำให้อวัยวะภายในของเขาปั่นป่วนอยู่ด้านในเกราะจักรพรรดิ แต่ก็ไม่ถึงขั้นเลือดตกยางออก ทว่าเฟิ่งชิวหรันเป็นฝ่ายที่ได้รับผลกระทบมากกว่า นางยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่จากอาการบาดเจ็บล่าสุด นอกจากนี้ยังถูกกลืนกินวิญญาณและบดบังจิตใจจากกรงขังหมอกแดงก่อนหน้านี้ ลำแสงสีแดงทำให้เฟิ่งชิวหรันเลือดไหลออกจากมุมปาก ขณะพยายามอย่างเต็มที่ที่จะล่าถอยไป ผู้ฝึกตนจากตระกูลไม่รู้สิ้นที่นางต่อสู้ด้วยเมื่อครู่ ถือโอกาสนี้ปล่อยพลังเวทให้ตนรวมเข้าเป็นหนึ่งเดียวกับแสง และหลบหนีไปได้ในที่สุด!

แต่ยังไม่จบเพียงเท่านั้น โยวหรันโกรธเกรี้ยวหนักกับความประมาทของตน และรับไม่ได้กับการสูญเสียกำลังพลสำคัญจำนวนไม่น้อยของตนเอง ความเกลียดชังในตัวหวังเป่าเล่อทวีความรุนแรงขึ้น แตะถึงจุดที่หากไม่สังหารหวังเป่าเล่อเสีย เขาคงไม่มีวันสบายใจ

นั่นเพราะ…ในครั้งนี้เขาเป็นคนเปิดฉากโจมตีเอง แต่ผลลัพธ์กลับกลายเป็นว่าเขาทุ่มหินใส่เท้าตนเอง หากชายชราไม่คิดจะใช้หวังเป่าเล่อและเฟิ่งชิวหรันเป็นเหยื่อเพื่อล่อให้ยานรบของสหพันธรัฐออกมา เขาคงไม่ใช้วิชาหล่อวิญญาณพินาศ และหวังเป่าเล่อก็คงไม่ใช้กระบวนเวทนี้มาแทงข้างหลังเขา จนทำให้เขาต้องพ่ายแพ้อย่างน่าอับอายถึงเพียงนี้

“หวังเป่าเล่อ ข้าต้องฆ่าเจ้าให้ได้!” โยวหรันนั่งอยู่ภายในเรือบินรบเต๋ามรณะบนดาวพุธ ผมเผ้าหลุดลุ่ยไม่เป็นทรง ประกายสีแดงวาวโรจน์ในดวงตา เบื้องหน้าของเขาคือสระน้ำที่มีร่างหนึ่งอยู่ในนั้น!

ร่างนั้นเต็มไปด้วยรอยแตก ราวกับนำชิ้นส่วนหลายชิ้นมาประกอบเข้าด้วยกันเป็นร่างเดียว ร่างนั้นคือสิ่งที่หวังเป่าเล่อระเบิดทิ้งก่อนหน้านี้ หัวใจหลักของพลังแห่งเรือบินรบตระกูลไม่รู้สิ้น ชุดคลุมออกศึกเต๋ามรณะนั่นเอง!

โยวหรันพยายามรวมร่างเข้ากับชุดคลุมขณะที่เดินหน้าซ่อมแซมเรือบินรบ จึงไม่มีโอกาสออกจากตัวเรือไปได้ กระนั้นความต้องการสังหารหวังเป่าเล่อในใจของชายชราก็รุนแรงยิ่งนัก จนแม้จะออกจากเรือไปไม่ได้ แต่ก็ยังปลีกตัวไปจัดการภารกิจนี้ให้เสร็จสิ้นด้วยวิธีอื่น และลำแสงที่เขาส่งออกไปก่อนหน้านี้ก็เป็นหนึ่งในนั้น

ขณะที่หวังเป่าเล่อกำลังต่อสู้กับลำแสงนั้น โยวหรันก็ส่งคำสั่งใหม่ออกไป คำสั่งนั้นส่งตรงไปถึงผู้ฝึกตนจากสำนักวังเต๋าไพศาลที่ซ่อนตัวอยู่ในอวกาศ พร้อมที่จะซุ่มโจมตีเรือบินรบสหพันธรัฐ

ทุกคนกำลังรอคำสั่ง และเร้นกายห่างออกไปจากสมรภูมิรบ จึงไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นที่โลกภายนอก ทันทีที่ได้รับคำสั่ง สีหน้าของบรรดาผู้ฝึกตนจากตระกูลไม่รู้สิ้นในเรือบินรบก็ฉายแววตื่นตระหนกชัดเจน พวกเขารีบกระจายคำสั่งออกไปทันที เรือบินรบเผยตัวตนให้ทุกคนได้เห็นในวินาทีนั้น เบนหางเสือไปยังสนามรบที่หวังเป่าเล่ออยู่ซึ่งอยู่ไม่ไกลออกไปนัก พวกเขากระจายตัวออกเป็นครึ่งวงกลม และพุ่งเข้าใส่สนามรบนั้นทันที!

เพื่อให้แน่ใจว่าหวังเป่าเล่อจะไม่รอดแน่นอน หลังจากส่งคำสั่งสังหารออกไปเรียบร้อยแล้ว โยวหรันก็กัดฟันและกดมือลงบนชุดคลุมที่ขาดรุ่งริ่งหมดสภาพเบื้องหน้าตน ไม่มีใครรู้ว่าเขาใช้กระบวนเวทใด แต่ดวงตาของชุดคลุมที่หลับอยู่ก็พลันลืมขึ้น!

ดวงตาของชุดคลุมวาวโรจน์ด้วยความเกลียดชังหวังเป่าเล่อ และเป็นแววตาเดียวกับโยวหรันไม่ผิดเพี้ยน!

“หวังเป่าเล่อ!” ชุดคลุมเอ่ยปาก มันยกนิ้วชี้ขวาขึ้นด้วยความยากลำบาก เพื่อชี้ไปที่ผิวของสระน้ำ นิ้วนั้นจุ่มลงไปในน้ำเล็กน้อย เรือบินรบที่สร้างมาจากเศษเสี้ยวของเต๋าสวรรค์สั่นสะเทือนในบัดดล พลังงานสีดำกระเพื่อมเป็นระลอก ขณะที่คลื่นพลังปราณกระจายออกสู่ห้วงอวกาศ ความเร็วในการดูดพลังจากต้นกำเนิดดาราของดาวพุธเพิ่มมากขึ้น เรือบินรบกวาดเอาพลังงานทั้งหมดเข้ามาใส่ตน ในตอนนั้นเอง ก้อนพลังงานหนึ่งก็พุ่งออกไปสู่อวกาศ และเล็งเป้าไปที่หวังเป่าเล่อ!

สีหน้าของชายหนุ่มที่เป็นเป้าหมายเปลี่ยนไปทันที ดวงตาปีศาจและเกราะจักรพรรดิไม่ได้รู้สึกถึงความผิดปกติ แต่วิญญาณจุติดวงดาราของหวังเป่าเล่อเปิดดวงตาของมันขึ้นในวินาทีนั้น ความรู้สึกหวาดกลัวภัยอันตรายที่เข้ามาใกล้พวยพุ่งออกจากวิญญาณจุติ ไหลเข้าท่วมทุกประสาทสัมผัสในกายของหวังเป่าเล่อ

“มีบางอย่างไม่ชอบมาพากล!” ความรู้สึกอันตรายที่ทำให้หัวใจเต้นแรงแทบระเบิดเข้าครอบงำชายหนุ่ม ทำให้เขาต้องระเบิดความเร็วในทันที เขาพุ่งหนีออกไปในระยะไกล เฟิ่งชิวหรันไม่ได้รู้สึกถึงอันตรายแม้แต่น้อย แต่เมื่อเห็นแววจริงจังในดวงตาของหวังเป่าเล่อ นางก็ไม่พูดอันใด รีบตามเขาไปทันทีโดยไม่มีข้อกังขา

แต่บริเวณนั้นทั้งหมดตกอยู่ภายใต้การควบคุมของโยวหรันเป็นที่เรียบร้อย ไม่มีที่ใดที่ทั้งสองจะหลบหนีไปได้พ้น เรือบินรบที่ซ่อนอยู่ในความมืดของห้วงอวกาศปรากฏตัวขึ้นตามคำสั่งของโยวหรัน การเรียงตัวเป็นครึ่งวงกลมทำให้ฝูงเรือบินรบกวาดพื้นที่ไปได้มหาศาล ไม่ว่าหวังเป่าเล่อจะหันหน้าไปทิศใด ก็ยังเห็นเรือบินรบของศัตรูอยู่ในวิสัยเสมอ

เรือบินรบนับสิบลำเริ่มจับการเคลื่อนไหวของเขาได้ พวกมันสร้างวงแหวนปราณขึ้นอย่างรวดเร็ว กองทัพผู้ฝึกตนจากสำนักวังเต๋าไพศาลและตระกูลไม่รู้สิ้นที่ซ่อนตัวอยู่ในร่างเปลือกนอก แห่กันออกมาจากเรือบินรบ และพุ่งเข้าใส่หวังเป่าเล่อในทันที

ผู้ฝึกตนตระกูลไม่รู้สิ้นไม่ได้เห็นการต่อสู้ที่น่าเกรงกลัวของหวังเป่าเล่อก่อนหน้านี้ แต่ก็พอเดาได้ด้วยตนเองว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างจากคำสั่งที่ได้รับจากโยวหรัน ส่วนผู้ฝึกตนจากสำนักวังเต๋าไพศาลก็หน้ามืดตามัวด้วยความโลภจากการอยากได้แต้มการรบ ทุกคนต้องการสังหารหวังเป่าเล่อเพื่อรับรางวัลก้อนใหญ่ แต่พวกเขาก็ไม่ได้โง่เขลา หลายคนรู้สึกได้ว่ามีบางสิ่งไม่ชอบมาพากล แค่ดวงตาสีดำขนาดยักษ์ที่ลอยอยู่เบื้องหลังหวังเป่าเล่อก็มากพอที่จะทำให้ใครต่อใครพากันขนหัวลุก

ด้วยเหตุนี้…แม้ทุกคนจะพุ่งเข้าใส่ชายหนุ่มด้วยความเร็วคงที่ แต่ในความเป็นจริงแล้วไม่มีใครอยากเป็นคนแรกที่เปิดฉากโจมตีและตายคาสนามรบ สิ่งที่พวกเขาตั้งใจจะทำคือถ่วงหวังเป่าเล่อเอาไว้ในสนามรบ และควบคุมเขาไม่ให้หนีไปไหนได้ ซึ่งดูเป็นวิธีการปลอดภัยที่จะยังทำให้พวกเขาได้แต้มการรบมาครอบครอง และนับว่าเป็นกลยุทธ์ที่ดีเยี่ยมทีเดียว แต่แน่นอนว่าวิธีนี้ใช้ไม่ได้ผลกับหวังเป่าเล่อ

ชายหนุ่มยังคงถูกความกระวนกระวายใจเกาะกุม ความรู้สึกถึงอันตรายยังก่อตัวอยู่ภายในและกัดกินดวงวิญญาณของเขา แววสังหารในดวงตาทวีความรุนแรงขึ้น อวัยวะภายในกรีดร้อง หากเขาปล่อยให้ตนเองถูกถ่วงอยู่ตรงนี้ เขาย่อมต้องตายโดยไม่มีข้อสงสัยอย่างแน่นอน!

ทางเดียวที่จะรอดไปได้อาจไม่ใช่การหนี แต่ข้า…ต้องสังหารมันให้หมด! ชายหนุ่มเป็นคนเด็ดขาด เมื่อตัดสินใจได้ เขาก็หรี่ตาลงและเปลี่ยนทิศทางของตนเองทันที เบื้องหน้าของเขาคือเรือบินรบจำนวนมากที่กำลังพุ่งเข้าใส่ วงแหวนปราณเจิดจ้า และกองทัพผู้ฝึกตนมากมาย แต่ชายหนุ่มก็ไม่ได้ถอยหนี เขากลับเพิ่มความเร็วของตนเองขึ้นและพุ่งเข้าใส่ศัตรู!

วิชาเกราะจักรพรรดิ!

หวังเป่าเล่อคำรามก้องอยู่ในใจ ชุดเกราะที่สวมใส่อยู่เปลี่ยนรูปร่าง เส้นปราณโลหิตมากมายระเบิดออกมาจากชุดเกราะ และเต้นเร่าอยู่รอบกาย เปลี่ยนชายหนุ่มให้กลายเป็นอสูรร้ายที่น่าพรั่นพรึง!

เขาไม่สนใจพลังแสงที่วงแหวนปราณของเรือบินรบปล่อยออกมา และปล่อยให้มันพุ่งเข้าหาตนเอง ลำแสงเหล่านั้นทำให้พลังปราณรอบกายเขาสั่นไหว แต่พลังงานเหล่านั้นก็ถูกเส้นปราณโลหิตของเขาหยุดเอาไว้ ลำแสงตัดเส้นปราณขาด แต่ก็เข้าไม่ถึงตัวหวังเป่าเล่อ ทันทีที่เส้นปราณถูกทำลาย เส้นปราณโลหิตเส้นใหม่ก็งอกขึ้นมาแทนที่!

ชายหนุ่มดูเหมือนรถศึกที่ไร้เทียมทาน ไร้ซึ่งข้อผิดพลาด และทรงพลังเหลือคณนา!

ดวงตาปีศาจ!

เส้นปราณสีแดงยังคงถูกลำแสงทำลายกลายเป็นเถ้าธุลี ก่อนจะถือกำเนิดขึ้นใหม่อีกครั้ง เบื้องหลังหวังเป่าเล่อ ดวงตาสีดำขนาดใหญ่ยังไม่เปิดออก แต่ดวงจิตเบื้องหลังเปลือกตากำลังเต้นเร่าด้วยความหิวกระหาย มันส่งแรงอาฆาตและความกระหายเลือดเข้าสู่จิตใจของหวังเป่าเล่อ ความต้องการฆ่านั้นรุนแรงมากเสียจนทำให้อวกาศที่รายล้อมดวงตาสีดำบิดเบี้ยวคดงอ

เฟิ่งชิวหรันตัวสั่นเทา หวังเป่าเล่อกลายเป็นคนแปลกหน้าสำหรับนางไปในวินาทีนั้น แต่ผู้ที่กลัวที่สุดจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากผู้ฝึกตนจากสำนักวังเต๋าไพศาลและตระกูลไม่รู้สิ้น ที่เพิ่งเหาะออกมาจากเรือบินรบ หมายหยุดหวังเป่าเล่อและเฟิ่งชิวหรันไม่ให้หนีไปได้

“นั่นมันบ้าอะไรกัน”

“เจ้านั่นคือหวังเป่าเล่อหรือ เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด!”

“หมอนั่นดูแปลกๆ นะ!” ความตื่นตระหนกตกใจเข้าครอบงำจิตใจของผู้ฝึกตนจากสำนักวังเต๋าไพศาล พวกเขาพยายามหนีแต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว หวังเป่าเล่อกระโจนเข้าใส่ ดวงตาสีดำเบื้องหลังลืมขึ้นโดยไม่ทันตั้งตัว!

ดวงตาสีดำไร้ซึ่งตาขาว นัยน์ตาดำสนิทของมันปล่อยความรู้สึกแสนประหลาดออกมา ราวกับว่า…ทุกคนกำลังจ้องเข้าไปยังดวงตามนุษย์จริงๆ อย่างไรอย่างนั้น!

ความรู้สึกนั้นอัดแน่นไปด้วยความชั่วร้าย ความบ้าคลั่ง และความกระหายเลือดเข้มข้น แววตาของมันรุนแรงชัดเจนจนทำให้ทุกสิ่งหยุดการเคลื่อนไหว!

ปรากฏการณ์นี้แพร่กระจายไปทั่วห้วงอวกาศที่พร่างพราวด้วยดวงดาว เหล่าผู้ฝึกตนยืนจ้องหวังเป่าเล่อด้วยสีหน้าเหมือนต้องมนต์ ขณะที่ชายหนุ่มพุ่งเข้าใส่พวกเขา!

สิ่งที่ซ่อนอยู่ใต้ชุดเกราะจักรพรรดิ คือหวังเป่าเล่อที่กำลังมีเลือดไหลออกจากมุมปาก เขาพยายามใช้พลังของดวงตาควบคุมผู้ฝึกตนที่มีจำนวนมากเกินกว่าร่างกายจะรับไหว จนทำให้พลังนี้ย้อนกลับมาทำร้ายตนเอง

เจ็บก็เจ็บ ข้าต้องการดวงตาจำนวนมากมาต่อกรกับภัยที่กำลังมาเยือน! ความต้องการสังหารวาบผ่านดวงตาของชายหนุ่มขณะที่พุ่งเข้าโจมตี!

……………………………

หนึ่งฝ่ามือสยบโลกา

หนึ่งฝ่ามือสยบโลกา

นิยายกำลังภายใน แปลจีน จากนักเขียนขายดีตลอดกาล ‘เอ่อร์เกิน’ กับตัวเอกแปลกใหม่ ไม่มีใครเหมือน! บังอาจดูถูกความหล่อเหลาของข้า จงเรียกข้าว่า ‘บิดา’ แล้วข้าจะไว้ชีวิตเจ้า! ค.ศ. 3029 วิทยาการบนโลกมนุษย์พัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว จนแต่ละประเทศไม่มีเขตพรมแดนกั้นอีกต่อไป โลกได้ผสานรวมกลายเป็นหนึ่งเดียว เริ่มต้นยุคสมัยแห่งสหพันธรัฐ ตอนนั้นเอง กระบี่ยักษ์เล่มหนึ่งตกลงมาจากห้วงอวกาศปักเข้าใจกลางดวงอาทิตย์ แรงกระแทกนั้นทำให้ฝักกระบี่แตกออกเป็นเศษชิ้นส่วนและกระจัดกระจายไปทั่วทั้งจักรวาลรวมถึงบนโลก ก่อให้เกิดแหล่งพลังงานรูปแบบใหม่อันไร้ขีดจำกัดขึ้นบนโลกในบัดดล พลังงานนี้มีชื่อเรียกกันว่า ‘ปราณวิญญาณ’ เมื่อสหพันธรัฐและขุมอำนาจอื่นๆ เริ่มออกรวบรวมเศษชิ้นส่วนต่างๆ พวกเขาก็ได้รู้ถึงเคล็ดวิชาการฝึกตน การหลอมโอสถ การหลอมศิลาวิญญาณ และเคล็ดวิชาพิสดารนานัปการ ตัวอักขระที่จารึกอยู่บนเศษชิ้นส่วนเหล่านั้นล้วนเก่าแก่ยิ่งนัก นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ผู้คนกลับมานิยมใช้ภาษาจีนโบราณกันอีกครั้ง การถือกำเนิดของปราณวิญญาณ ทำให้แหล่งพลังงานรูปแบบเดิมตกยุค และได้เปลี่ยนวิถีชีวิตของมนุษย์โลกไปโดยสิ้นเชิง ไม่เพียงแต่เครือข่ายวิญญาณจะได้รับการคิดค้นขึ้นมา แต่ปราณวิญญาณยังพลิกโฉมอารยธรรมมนุษย์ นำพาโลกเข้าสู่ยุคสมัยแห่งการฝึกตน ซึ่งต่อมารู้จักกันในนามว่ายุคกำเนิดวิญญาณ หวังเป่าเล่อ หนุ่มร่างท้วมผู้ทะเยอทะยาน ใฝ่ฝันจะได้เป็นผู้นำสหพันธรัฐ ด้วยหวังว่าจะไม่มีใครมารังแกเขาได้อีกต่อไป ชายหนุ่มศึกษาอัตชีวประวัติของเจ้าพนักงานสหพันธรัฐจนขึ้นใจ และเมื่อเดินทางเข้ามาศึกษาในสำนักศึกษาเต๋าศักดิ์สิทธิ์ เขาก็ใช้ความรู้เหล่านั้นบวกกับความ ‘หน้าหนาหน้าทน’ ของตัวเอง วางกลยุทธ์อันฉลาดล้ำกำราบศัตรูคนแล้วคนเล่า ใครหน้าไหนก็ไม่อาจมาขัดขวางเส้นทางสู่การเป็นหนึ่งในใต้หล้าของชายอ้วนผู้นี้ได้ …เว้นเสียแต่คำสาปประจำตระกูล ที่บอกไว้ว่าหวังเป่าเล่อจะต้องตายหากเขาไม่ผอมลงก่อนอายุสามสิบปี!! ในเมื่อบรรพบุรุษร่างจ้ำม่ำมายืนรอให้เขาไปอยู่ด้วยขนาดนี้ ชายหนุ่มจึงต้องทั้งฝึกตนและลดน้ำหนักไปพร้อมๆ กัน!

Options

not work with dark mode
Reset