หนึ่งฝ่ามือสยบโลกา – บทที่ 710 หลอมดาวศุกร์!

“หวังเป่าเล่อ พวกเราเปิดใช้งานระเบิดต้านทานวิญญาณบนดาวศุกร์แล้ว พร้อมจะจุดชนวนทุกเมื่อ จงพยายามล่อให้ศิษย์แห่งเต๋าโยวหรันปล่อยพลังของเรือบินรบเต๋ามรณะออกมา เพราะเขาจะต้องเพ่งสมาธิทั้งหมดไปควบคุมมัน และไม่อาจต้านพลังทำลายตนเองของดาวศุกร์ได้!” ขณะที่หวังเป่าเล่อกำลังจ้องตากับศิษย์แห่งเต๋าโยวหรันอยู่นั้น เสียงเกรี้ยวกราดของหลี่ซิงเหวินก็ดังขึ้นในหูเขาจากวงแหวนปราณระบบสุริยะ

หวังเป่าเล่อหรี่ตาลง ก่อนจะยกมือขวาขึ้นชี้หน้าศิษย์แห่งเต๋าโยวหรัน ทันใดนั้น นัยน์ตาของราชาเผ่าพันธุ์อมตะราตรีก็ลุกโชนด้วยเปลวไฟแดงก่ำ ก่อนที่เขาจะส่งเสียงร้องลั่นและพุ่งตัวไปข้างหน้าตรงไปหาศิษย์แห่งเต๋าโยวหรัน โซ่ที่ล่ามเขาเอาไว้ตึงแน่น ดวงจันทร์แทบจะดึงรั้งเขาเอาไว้ไม่อยู่

มีแสงสว่างจ้าส่องออกมาจากดวงจันทร์ ก่อนที่วัตถุเวทของดวงจันทร์จะเริ่มทำงานอย่างสมบูรณ์ มันไม่ได้โจมตีเปะปะไปทั่วอย่างเมื่อครู่ หากแต่สับเปลี่ยนเป้าหมายไปยังตำแหน่งเดียวแทน แสงสีแดงนับแสนเส้นเล็งไปยังเป้าหมายเดียว ก่อนจะยิงใส่ศิษย์แห่งเต๋าโยวหรันพร้อมๆ กัน

นัยน์ตาของชายชราส่องประกาย ก่อนที่จะประกบมือเข้าหากันเพื่อสร้างผนึกฝ่ามือท่วงท่าต่างๆ  ลำแสงสีดำและขาวพวยพุ่งออกมาจากฝ่ามือเขา ก่อนจะผสานกันกลายเป็นแสงสีเทาที่พุ่งเข้าสกัดแสงสีแดงและกำปั้นของราชาเผ่าพันธุ์อมตะราตรีพร้อมกัน

เสียงกัมปนาทดังสนั่นจักรวาล หวังเป่าเล่อเรียกร่างอวตารออกมา และส่งมันออกไประเบิดตัวเองทันที!

สีหน้าของศิษย์แห่งเต๋าโยวหรันเปลี่ยนไปทันที  ชายชราบินถลาถอยกลับท่ามกลางเสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหว เขาเป็นบุรุษเดียวที่กำลังประมืออย่างขันแข็งอยู่กับทั้งพลังรบของปราการดวงจันทร์ ราชาแห่งเผ่าพันธุ์อมตะราตรี และร่างอวตารของหวังเป่าเล่อที่ระเบิดตัวเอง

ชายชราดูไม่เต็มใจที่จะนำเรือบินรบมรณะเข้ามาร่วมต่อสู้ด้วย ขณะที่กำลังล่าถอยนั้น แขนทั้งหกก็ขยับอย่างว่องไวเป็นผนึกฝ่ามือท่วงท่าต่างๆ ดอกไม้กลีบสีขาวที่มีใจกลางสีดำปรากฏขึ้นข้างกาย ก่อนจะผลิบาน แล้วโปรยกลีบดอกออกไปในจักรวาล กลีบดอกสีขาวนวลเหล่านั้นล่องลอยไปปกคลุมร่างของราชาแห่งเผ่าพันธุ์อมตะราตรีเอาไว้

ราชาแห่งเผ่าพันธุ์อมตะราตรีคำราม ก่อนจะกวัดแกว่งแขนอย่างรุนแรง ชุดเกราะของเขาแยกออกจากตัวก่อนจะหลุดเป็นชิ้นๆ หวังเป่าเล่อกระโจนขึ้นไปและฟันอาวุธเวทลงมาอย่างเด็ดขาด ดวงจันทร์สั่นสะท้าน บรรดาผู้ฝึกตนบนดวงจันทร์ต่างก็ส่งพลังออกไปเต็มที่ กระทั่งต้นกำเนิดดาราภายในปราการดวงจันทร์ก็ยังหมุนวนรุนแรง กระแสของลำแสงสีแดงแปรเปลี่ยนเป็นมือสีแดงขนาดยักษ์ที่พุ่งทะลุกลีบดอกสีขาวและเอื้อมไปคว้าศิษย์แห่งเต๋าโยวหรันเอาไว้

คลื่นพลังงานกระจายไปทั่วจักรวาลอีกครั้ง ราชาแห่งเผ่าพันธุ์อมตะราตรีตัวสั่น เลือดซึมออกมาจากปากของหวังเป่าเล่อ พลังประสานของทั้งคู่ขจัดกลีบดอกไม้ไปได้ ก่อนจะผสานพลังกันพุ่งเข้าใส่ศิษย์แห่งเต๋าโยวหรันอีกครา

ประกายเด็ดขาดสว่างวาบขึ้นในดวงตาของโยวหรัน ชายชรายกแขนขวาขึ้นชี้ไปยังเรือบินรบเต๋ามรณะ น้ำเสียงแหบพร่าแผดสนั่นดังลั่นจักรวาล

“ผนึก!”

แผ่นวงแหวนทั้งสามบนเรือบินรบเต๋ามรณะปลดปล่อยแสงสีฟ้าออกมาทันทีที่คำสั่งนั้นดังขึ้น ทะเลแสงที่เย็นเยียบระเบิดทะลักออกมา แช่แข็งทุกสิ่งที่มันสัมผัส!

ทะเลแสงสีฟ้าไหลบ่าออกมาจากเรือบินรบในพริบตา เมื่อเห็นเช่นนั้น นัยน์ตาของหวังเป่าเล่อก็มีแสงจางสะท้อนอยู่ ชายหนุ่มดูเหมือนกำลังครุ่นคิดและวิตกกังวลไปพร้อมๆ กัน ก่อนจะล่าถอยอย่างไม่รอช้าด้วยความเร็วสูงสุด แต่ก็สายเกินไป ดวงจันทร์ทั้งดวง ราชาแห่งเผ่าพันธุ์อมตะราตรี และหวังเป่าเล่อถูกทะเลแสงไหลเข้าท่วมทันที ก่อนจะถูกแช่แข็งเอาไว้!

ภาพนั้นทำเอาผู้ฝึกตนทั้งจากสำนักวังเต๋าไพศาลและสหพันธรัฐผงะด้วยความตกตะลึง นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกเขาได้เห็นพลังของเรือบินรบเต๋ามรณะ การทำลายดาวพุธไม่สัมฤทธิ์ผลเพราะเรือบินรบเต๋ามรณะได้ใช้การโจมตีที่คล้ายกันนี้หยุดพลังของระเบิดต้านทานวิญญาณเอาไว้ มันแช่แข็งดาวพุธทั้งดวงและกลบพลังของระเบิดต้านทานวิญญาณไปเสียสิ้น ทำให้ภารกิจทำลายดาวพุธล้มเหลวโดยสิ้นเชิง!

การโจมตีเช่นเดิมกลับมาอีกครั้ง ทว่าเป้าหมายของมันไม่ใช่ดาวเคราะห์อีกต่อไป แต่เป็นราชาแห่งเผ่าพันธุ์อมตะราตรี ปราการดวงจันทร์…และหวังเป่าเล่อ!

ใบหน้าของเจ้าเยี่ยเหมิงซีดเผือด ร่างกายสั่นสะท้าน กงเต๋าเองก็ตัวสั่น แต่เป็นเพราะความโกรธและจิตวิญญาณการต่อสู้ในกายที่แผดเผาขึ้นอย่างรุนแรง ขณะที่มิตรสหายคนอื่นๆ ของหวังเป่าเล่อต่างก็ทั้งตกใจและกังวลด้วยกันทั้งสิ้น

หลี่ซิงเหวินและต้วนมู่ฉีกัดกรามแน่น พวกเขาเฝ้ารอโอกาสนี้มานาน หลี่ซิงเหวินเปิดวงแหวนปราณระบบสุริยะเพื่อเคลื่อนย้ายผู้ฝึกตนสหพันธรัฐออกให้พ้นรัศมี ขณะที่ต้วนมู่ฉีก็เปิดใช้งานระบบทำลายตัวเองของดาวศุกร์ทันที!

พวกเขาไม่ได้ทำการบุ่มบ่ามหรือบ้าบิ่นแม้แต่น้อย ทั้งคู่กังวลว่าครั้งนี้อาจจะเป็นกับดักของศัตรู แต่…หากพลาดโอกาสนี้ไป โชคชะตาของดาวศุกร์อาจจะเป็นเช่นเดียวกับดาวพุธก็เป็นได้ เป็นเหตุให้…พวกเขาตัดสินใจลองเดิมพัน แม้ว่าจะติดกับก็ตามที!

โชคไม่ดี…ที่พวกเขาแพ้การเดิมพัน!

ในขณะที่กลไกทำลายตัวเองของดาวศุกร์กำลังทำงาน และระเบิดต้านทานวิญญาณที่ฝังลึกอยู่ภายในกำลังจะระเบิดออกมา ศิษย์แห่งเต๋าโยวหรันก็ระเบิดเสียงหัวเราะ ก่อนจะยกมือขวาขึ้นแล้วกำหมัดแน่น!

แสงที่ส่องออกมาจากเรือบินรบเต๋ามรณะแปรเปลี่ยนจากสีฟ้าเป็นสีดำในบัดดล ทะเลสีดำทะมึนกว้างไกลกว่าทะเลสีฟ้าถูกปลดปล่อยออกมาจนท่วมจักรวาล กระแสทะเลสีดำสนิทไหลบ่าผ่านผู้ฝึกตนสำนักวังเต๋าไพศาลและสหพันธรัฐทุกคน ผ่านแนวป้องกันต่างๆ ไปปรากฏอยู่ตรงดาวศุกร์พอดิบพอดี ก่อนจะแปรสภาพเป็นผนึกขนาดมโหฬารที่คลุมดาวศุกร์ทั้งดวงเอาไว้ และหล่นลงไปทับอย่างรุนแรง!

ดาวศุกร์สั่นสะเทือนอย่างหนัก ระเบิดต้านทานวิญญาณถูกแรงกดดันมหาศาลจากผนึกสะกดเอาไว้จนหยุดระเบิดกลางคัน!

ต้วนมู่ฉีตัวสั่นเทา แววบ้าคลั่งปรากฏขึ้นบนดวงตาของชายชรา ก่อนที่ทั้งเขาและหลี่ซิงเหวินจะสร้างผนึกฝ่ามือร่วมกันเพื่อเปิดใช้ไพ่ตายใบสุดท้ายของดาวศุกร์!

ลึกลงไปภายใต้พื้นผิวของดาวศุกร์ มีคุกที่สร้างขึ้นมาตั้งแต่ช่วงแรกเริ่มยุคกำเนิดวิญญาณ มันเป็นสถานที่คุมขังนักโทษที่กระทำผิดมหันต์ตั้งแต่เริ่มต้นยุค หญิงชราจากสำนักรุ่งสางจักรพิภพก็เป็นหนึ่งในนั้น และมีอสูรจำนวนหนึ่งจากบนโลกถูกคุมขังอยู่ที่นี่ด้วย!

อสูรส่วนมากอยู่ในขั้นกำเนิดแก่นในและไม่ได้เป็นอันตรายเท่าใดนัก แต่ต้วนมู่ฉีได้ส่งคำสั่งลับให้เจ้าผินฟาง บิดาของเจ้าเยี่ยเหมิง ให้ปรับแต่งระเบิดต้านทานวิญญาณที่สามารถซุกซ่อนเอาไว้ในกายของนักโทษเหล่านี้ได้ ระเบิดต้านทานวิญญาณเหล่านี้มีต้นกำเนิดดาราเป็นแก่น ดังนั้นแรงระเบิดก็จะรุนแรงเทียบเท่ากับการจู่โจมจากผู้ฝึกตนขั้นจุติวิญญาณเลยทีเดียว มีวงแหวนปราณถูกหลอมขึ้นมารายล้อมนักโทษเหล่านี้ด้วย โดยที่เมื่อนักโทษร้อยคนมารวมตัวกันก็จะได้วงแหวนปราณขนาดย่อมขึ้นมา และเมื่อวงแหวนปราณขนาดย่อมมารวมตัวกันก็จะเป็นวงแหวนปราณขนาดใหญ่ยักษ์!

วงแหวนปราณนี้…เชื่อมต่อโดยตรงกับต้นกำเนิดดาราของดาวศุกร์ ดังนั้นการระเบิดตัวเองของบรรดานักโทษจะก่อให้เกิดปฏิกิริยาลูกโซ่ที่จะทำลายต้นกำเนิดดาราและทำให้ดาวศุกร์ล่มสลาย!

นี่คือแผนการรบสองชั้นที่สหพันธรัฐได้เตรียมเอาไว้!

เมื่อวงแหวนปราณถูกเปิดใช้งาน นักโทษไร้สติทุกคนในเรือนจำแห่งดาวศุกร์ก็ตัวสั่นอย่างรุนแรง มีลำแสงส่องสว่างออกมาจากกายของพวกเขาทุกคน ก่อตัวเป็นคลื่นพลังทำลายล้างที่จะส่งผลต่อต้นกำเนิดดารา จากนั้นดาวศุกร์ก็จะสั่นสะท้านราวกับว่าจะระเบิดขึ้นอีกคราหนึ่งกระนั้น!

“นี่หรือไพ่ตายของพวกเจ้า!” ศิษย์แห่งเต๋าโยวหรันหัวเราะอยู่ในลำคอ ก่อนจะยกมือขวาขึ้นสร้างผนึกฝ่ามือท่วงท่าต่างๆแล้วชี้ออกไป ผนึกสีดำสนิทที่ปกคลุมอยู่เหนือดาวศุกร์ปล่อยเปลวเพลิงสีดำออกมาทันที เปลวเพลิงนั้นแผดเผาโชติช่วง ก่อนจะกระจายตัวออกห้อมล้อมดาวศุกร์เอาไว้ราวกับเป็นสายลมคลั่ง ดาวศุกร์ทั้งดวงถูกห้อมล้อมด้วยเปลวไฟซึ่งกลายเป็นผนึกชั้นที่สอง กดทับจนไพ่ตายของสหพันธรัฐล้มไม่เป็นท่า ขณะที่เปลวไฟเผาไหม้ มันก็เริ่มหลอมดาวศุกร์ทั้งดวงไปด้วย!

แนวป้องกันที่สามบนดาวศุกร์พังครืนลงมาในพริบตา พร้อมๆ กับแนวป้องกันที่สองที่กำลังละลายลงไปอย่างรวดเร็ว!

โทสะไหลเวียนอยู่ในกายของต้วนมู่ฉีขณะที่ชายชราอาเจียนเอาเลือดออกมากองใหญ่ นัยน์ตาของเขาแดงก่ำ ความขมขื่นกัดกินอยู่ในใจ หลี่ซิงเหวินเองก็อยู่ในสภาพคล้ายกัน เขาตัวโงนเงน ใบหน้าซีดขาว ผู้ฝึกตนของสหพันธรัฐคนอื่นๆ ต่างก็นิ่งเงียบกันไปหมด!

“หากข้าไม่คิดใช้พวกเจ้าระเบิดดาวศุกร์ เพื่อที่ว่าต้นกำเนิดดาราของมันจะได้เผยออกมาให้ข้าเก็บสะสมได้ง่ายๆ ข้าคงจะหลอมพวกเจ้าทุกคนไปเสียนานแล้ว” ศิษย์แห่งเต๋าโยวหรันเอ่ยพร้อมรอยยิ้ม เป้าหมายของเขาไม่ใช่เพียงการทำลายดาวศุกร์ หากแต่ต้องการหลอกล่อให้สหพันธรัฐปลุกต้นกำเนิดดาราให้ตื่นขึ้น มันไม่เพียงจะทำให้การหลอมของเขาสมบูรณ์เท่านั้น แต่ต้นกำเนิดดารายังเป็นแหล่งพลังงานอันยิ่งใหญ่ที่จะช่วยซ่อมแซมเรือบินรบเต๋ามรณะที่ชายชราผสานรวมกายของตนเองเข้าไปได้อย่างดีอีกด้วย

โยวหรันแสร้งทำเป็นหลังพิงฝา จนต้องนำเรือบินรบเต๋ามรณะมาช่วยรับมือกับทั้งหวังเป่าเล่อ ปราการดวงจันทร์ และราชาแห่งเผ่าพันธุ์อมตะราตรี แต่ความจริงมันเป็นกับดัก เป้าหมายที่แท้จริงคือการล่อให้สหพันธรัฐระเบิดดาวศุกร์นั่นเอง

“หวังเป่าเล่อ ข้าอยากให้เจ้ามองดูดาวเคราะห์ที่เจ้าพยายามจะรักษาเอาไว้ถูกกลืนกินเข้าไปอย่างช้าๆ และกลายมาเป็นสารอาหารให้เรือบินรบของข้า” ศิษย์แห่งเต๋าโยวหรันเงยหน้าขึ้นมองฟ้าก่อนจะระเบิดเสียงหัวเราะออกมาดังสนั่น สายตาของเขาจับจ้องไปยังหวังเป่าเล่อ ผู้ซึ่งยังติดอยู่ในน้ำแข็งบนไหล่ของราชาแห่งเผ่าพันธุ์อมตะราตรี

หวังเป่าเล่อถูกแช่แข็งนิ่งอยู่กับที่แต่ยังไม่ตาย ไม่มีใครรู้ว่าชายหนุ่มคิดสิ่งใดอยู่ แต่ศิษย์แห่งเต๋าโยวหรันมองเห็นความวิตกกังวลในสายตาของชายหนุ่มได้ชัดเจน

“มาเริ่มงานเลี้ยงกันเถิด!” ศิษย์แห่งเต๋าโยวหรันกล่าวอย่างลิงโลดใจเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายทำได้เพียงมองดูด้วยสายตากลัดกลุ้ม ชายชราหัวเราะออกมาอีก ก่อนจะโบกมืออีกครั้ง ทะเลเพลิงที่ล้อมรอบดาวศุกร์อยู่ก็ทะลุผ่านแนวป้องกันที่สองเข้าไปได้ วงแหวนปราณป้องกันเริ่มแตกร้าว ศิษย์สำนักวังเต๋าไพศาลทุกคนนิ่งงันไปเพราะพลังอันยิ่งใหญ่ที่พวกเขากำลังประสบ แต่ความโลภก็เข้าเกาะกุมจิตใจ หลังจากที่รู้ว่าเปลวไฟสีดำทำอันตรายพวกเขาไม่ได้ ต่างก็รีบรุดผ่านเปลวไฟและเริ่มต่อสู้อีกครั้ง

ระบบทำลายตัวเองล้มเหลว และแนวป้องกันของดาวศุกร์กำลังจะล่มสลาย ดูเหมือนว่าจะไม่มีวิธีใดที่ช่วยหลีกหนีความพ่ายแพ้ได้อีก ต้วนมู่ฉีหัวเราะอย่างขมขื่น เขากำลังจะออกคำสั่งให้สละดาวศุกร์และสั่งกองทัพให้ถอนกำลังไปยังดาวอังคารโดยใช้วงแหวนปราณระบบสุริยะ และพวกเขาจะไปจัดตั้งกองกำลังกันที่นั่นแทน

ตอนนั้นเองที่หวังเป่าเล่อ ผู้ซึ่งติดอยู่ในน้ำแข็งบนไหล่ของราชาแห่งเผ่าพันธุ์อมตะราตรี จ้องลึกเข้าไปในดวงตาของศิษย์แห่งเต๋าโยวหรัน เปลวไฟสีดำปะทุขึ้นมาจากร่างของชายหนุ่ม แม้จะดูคล้ายกันกับเปลวไฟสีดำที่โยวหรันใช้หลอมดาวศุกร์อยู่ในขณะนี้ แต่แก่นของมันกลับต่างกันอย่างสิ้นเชิง เปลวไฟนั้นผ่านทะลุน้ำแข็งออกมา และทำให้น้ำแข็งละลายอย่างรวดเร็ว เสียงของหวังเป่าเล่อระเบิดสนั่นขึ้นก้องจักรวาล

“แปลว่าตอนนี้เจ้าเองก็ไม่มีไพ่ตายใดๆ เก็บเอาไว้อีกแล้วสินะ”

…………………………..

หนึ่งฝ่ามือสยบโลกา

หนึ่งฝ่ามือสยบโลกา

นิยายกำลังภายใน แปลจีน จากนักเขียนขายดีตลอดกาล ‘เอ่อร์เกิน’ กับตัวเอกแปลกใหม่ ไม่มีใครเหมือน! บังอาจดูถูกความหล่อเหลาของข้า จงเรียกข้าว่า ‘บิดา’ แล้วข้าจะไว้ชีวิตเจ้า! ค.ศ. 3029 วิทยาการบนโลกมนุษย์พัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว จนแต่ละประเทศไม่มีเขตพรมแดนกั้นอีกต่อไป โลกได้ผสานรวมกลายเป็นหนึ่งเดียว เริ่มต้นยุคสมัยแห่งสหพันธรัฐ ตอนนั้นเอง กระบี่ยักษ์เล่มหนึ่งตกลงมาจากห้วงอวกาศปักเข้าใจกลางดวงอาทิตย์ แรงกระแทกนั้นทำให้ฝักกระบี่แตกออกเป็นเศษชิ้นส่วนและกระจัดกระจายไปทั่วทั้งจักรวาลรวมถึงบนโลก ก่อให้เกิดแหล่งพลังงานรูปแบบใหม่อันไร้ขีดจำกัดขึ้นบนโลกในบัดดล พลังงานนี้มีชื่อเรียกกันว่า ‘ปราณวิญญาณ’ เมื่อสหพันธรัฐและขุมอำนาจอื่นๆ เริ่มออกรวบรวมเศษชิ้นส่วนต่างๆ พวกเขาก็ได้รู้ถึงเคล็ดวิชาการฝึกตน การหลอมโอสถ การหลอมศิลาวิญญาณ และเคล็ดวิชาพิสดารนานัปการ ตัวอักขระที่จารึกอยู่บนเศษชิ้นส่วนเหล่านั้นล้วนเก่าแก่ยิ่งนัก นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ผู้คนกลับมานิยมใช้ภาษาจีนโบราณกันอีกครั้ง การถือกำเนิดของปราณวิญญาณ ทำให้แหล่งพลังงานรูปแบบเดิมตกยุค และได้เปลี่ยนวิถีชีวิตของมนุษย์โลกไปโดยสิ้นเชิง ไม่เพียงแต่เครือข่ายวิญญาณจะได้รับการคิดค้นขึ้นมา แต่ปราณวิญญาณยังพลิกโฉมอารยธรรมมนุษย์ นำพาโลกเข้าสู่ยุคสมัยแห่งการฝึกตน ซึ่งต่อมารู้จักกันในนามว่ายุคกำเนิดวิญญาณ หวังเป่าเล่อ หนุ่มร่างท้วมผู้ทะเยอทะยาน ใฝ่ฝันจะได้เป็นผู้นำสหพันธรัฐ ด้วยหวังว่าจะไม่มีใครมารังแกเขาได้อีกต่อไป ชายหนุ่มศึกษาอัตชีวประวัติของเจ้าพนักงานสหพันธรัฐจนขึ้นใจ และเมื่อเดินทางเข้ามาศึกษาในสำนักศึกษาเต๋าศักดิ์สิทธิ์ เขาก็ใช้ความรู้เหล่านั้นบวกกับความ ‘หน้าหนาหน้าทน’ ของตัวเอง วางกลยุทธ์อันฉลาดล้ำกำราบศัตรูคนแล้วคนเล่า ใครหน้าไหนก็ไม่อาจมาขัดขวางเส้นทางสู่การเป็นหนึ่งในใต้หล้าของชายอ้วนผู้นี้ได้ …เว้นเสียแต่คำสาปประจำตระกูล ที่บอกไว้ว่าหวังเป่าเล่อจะต้องตายหากเขาไม่ผอมลงก่อนอายุสามสิบปี!! ในเมื่อบรรพบุรุษร่างจ้ำม่ำมายืนรอให้เขาไปอยู่ด้วยขนาดนี้ ชายหนุ่มจึงต้องทั้งฝึกตนและลดน้ำหนักไปพร้อมๆ กัน!

Options

not work with dark mode
Reset