หนึ่งฝ่ามือสยบโลกา – บทที่ 851 วิชาต้มสวรรค์!

เวลาเดินหน้าผ่านไปอย่างช้าๆ … ความพยายามสิงร่างดำเนินมาอย่างเนิ่นนาน แม้กระทั่งหวังเป่าเล่อยังเริ่มรู้สึกเหนื่อยอ่อน นั่นเพราะชายหนุ่มปล่อยเปลวไฟสีดำออกมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งยังต้องทำให้เมล็ดดูดกลืนและฝักกระบี่ก่อตัวเป็นรูปร่าง และยังต้องทำให้พวกมันสั่นเหมือนกำลังต่อสู้กับอะไรอยู่ตลอดเวลาเพื่อข่มขวัญศัตรู ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องใช้พลังงานเป็นอย่างมาก

นอกจากนี้การที่เขาต้องดูดกลืนวิญญาณของผีแก่ และกัดมันทุกครั้งก็เหนื่อยมากเช่นกัน

สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ แม้หวังเป่าเล่อจะเลิกต้านทานวิชาของผีแก่ และหันมาสนใจเรื่องการดูดพลังแทน การต้องทำทั้งหมดในคราวเดียวกันก็ยังหนักหนามากอยู่ดี นั่นเพราะเจ้าผีแก่นี่ปล่อยเคล็ดวิชาสิงร่างมากมายอย่างไม่หยุดหย่อน

จะทำอย่างไรได้เล่า ก็ข้าเป็นคนใจดีนี่นะ เพื่อเป็นการเคารพผู้สูงอายุ ข้าจะปล่อยให้หมอนี่พยายามต่อไปก็แล้วกัน หวังเป่าเล่อถอนใจ ไม่ได้พยายามปกปิดความพอใจในผลงานตนเองแม้แต่น้อย แต่ก็ยังคงมีสีหน้าสิ้นหวังด้วยเช่นกัน ขณะที่ยังคงเดินหน้ากลืนกินวิญญาณของผีแก่ต่อไป

ตอนนี้เศษส่วนวิญญาณกว่าร้อยละ 70 ของผีแก่เข้าไปอยู่ในกายของหวังเป่าเล่อเรียบร้อย ชายหนุ่มเองเริ่มรู้สึกได้ว่าตนเองเปลี่ยนไป เขามั่นใจว่าเมื่อกระบวนการสิงสู่เสร็จสิ้นลงและเขาลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง พลังปราณของเขาจะก้าวผ่านขั้นเชื่อมวิญญาณไปอยู่ที่ขั้นจิตวิญญาณอมตะอย่างแน่นอน

แล้วก็ไม่ใช่ขั้นจิตวิญญาณอมตะชั้นต้นเสียด้วย มีความเป็นไปได้มากว่า…เขาจะกลายเป็นผู้ฝึกตนขั้นจิตวิญญาณอมตะชั้นกลางในทันที หรืออาจเป็นไปได้ด้วยซ้ำ…ที่เขาจะได้พลังปราณขั้นปลายมาครอบครอง

ก็ได้ ข้าจะยอมเหนื่อยเพื่อพลังปราณขั้นจิตวิญญาณอมตะก็แล้วกัน หวังเป่าเล่อถอนใจและกระโจนตัวไปข้างหน้าอีกครั้งเพื่อกินวิญญาณด้วยท่าทีดุร้าย แต่คราวนี้ผีแก่ที่ยังคงมุ่งมั่นปล่อยวิชาใส่เขากลับระเบิดเสียงคำราม ส่วนที่เหลืออยู่ของวิญญาณผีแก่กระจายออกมา เขาไม่ได้มุ่งมั่นพยายามต่อ หากแต่…เปลี่ยนใจหลบหนีแทน!

เห็นได้ชัดว่าผีแก่ตกใจเป็นอย่างมากกับความแปลกประหลาดที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ จนตัดสินใจได้ว่าจะล้มเลิกความพยายามและจากไปเสีย ทว่า…นี่เป็นร่างสารัตถะของหวังเป่าเล่อ จึงทำให้ผีแก่ไม่สามารถเข้าๆ ออกๆ ได้ตามใจชอบ

ตัวผีแก่เองใช้ประโยชน์จากหวังเป่าเล่อในการฝึกวิชาดวงเนตรปีศาจ และได้สร้างสายสัมพันธ์บางอย่างกับตัวตนของชายหนุ่มเอาไว้จนทำให้มีโอกาสสิงสู่เจ้าของร่าง แต่สายสัมพันธ์ที่เขาสร้างขึ้นมานั้นก็เป็นประโยชน์แก่ตัวหวังเป่าเล่อเองเช่นกัน ชายหนุ่มรั้งผีแก่ที่กำลังพยายามหลบหนีเอาไว้ไม่ให้ออกไปจากร่างของเขาได้!

วิชาดวงเนตรปีศาจ! วิญญาณของหวังเป่าเล่อสั่นสะท้าน กลายสภาพไปเป็นดวงตาสีดำยักษ์ และพลันสร้างผนึกขึ้นมาทันทีเพื่อสกัดผีแก่เอาไว้ไม่ให้จากสภาพการสิงร่างไปไหนได้ ผีแก่พลันกรีดร้องขึ้นด้วยความเจ็บปวด

“สหายเต๋าหวัง ข้าผิดไปแล้ว ได้โปรดเถิด ข้ายินดีทำให้เจ้าทุกอย่าง ข้าผิดเอง…”

“เรียกข้าว่าบิดาสิ แล้วข้าจะลองคิดดูใหม่!”

“ท่านบิดา ข้าผิดเองขอรับ ข้าทำเรื่องชั่วร้ายเอามากๆ โปรดปล่อยข้าไปเถิด!”

“เอาละ ข้าคิดได้แล้ว ต่อให้เจ้าเรียกข้าว่าบิดาก็ไม่มีประโยชน์อยู่ดี ไอ้ลูกชายเอ๋ย ไม่มีวันเสียละ!”

“ไอ้หวังเป่าเล่อ เจ้าหลอกบังคับให้ข้าทำรึ!”

“ใช่ ข้าหลอกเจ้า แล้วมันจะทำไม!” หวังเป่าเล่อฮึดฮัดก่อนกระโจนเข้าไปกัดผีแก่อีกครั้ง

“อ๊ากกกกกก!” วิญญาณชายชราเริ่มคลั่งขึ้นมาทันที ก่อนปล่อยวิชาของตนเองออกมาอย่างบ้าดีเดือด

“ทักษะรากฐานเก้าเป็นหนึ่ง…”

“เคล็ดเวทดวงเนตรปีศาจสวรรค์…”

“กระบวนเวทหนึ่งจิต…”

เขาปล่อยกระบวนเวทออกมาถึงสิบประบวนเวทในคราวเดียว แต่ท้ายที่สุดแล้ว…ก็ยังไม่เป็นผล เขาเสียชิ้นส่วนวิญญาณไปแล้วกว่าร้อยละ 80 จากการดูดกลืนของหวังเป่าเล่อ จนตอนนี้เหลือเพียงศีรษะที่ลอยเท้งเต้งเท่านั้น ดวงตาของผีแก่หม่นหมองด้วยความสิ้นหวังและความสับสน

วิญญาณชายชราดูเหมือนจะยอมแพ้ไปเรียบร้อยแล้ว แต่แม้ร่างกายจะเหน็ดเหนื่อยเกินทานทน ก็ยังมีสิ่งหนึ่งที่กลายมาเป็นความหมกมุ่นที่ก่อตัวขึ้นในจิตใจของเขา… เหตุผลที่ว่าทำไมเหตุการณ์มันถึงกลายเป็นเช่นนี้ไปได้ และเหตุใดเขาจึงทำไม่สำเร็จ…

“หวังเป่าเล่อ ข้าจะบอกความลับแก่เจ้าแลกกับคำตอบ บอกข้าที ทำไมข้าถึงสิงร่างเจ้าไม่ได้…” ท้ายที่สุดผีแก่ก็มองหน้าหวังเป่าเล่อด้วยสายตาว่างเปล่าและพึมพำออกมา

“ความลับอะไร เจ้าจะบอกข้าเช่นนั้นรึ” หวังเป่าเล่อที่กำลังเตรียมตัวกินวิญญาณชายชราเข้าไปทั้งตัวในคราวเดียวถามขึ้นมา

“วิชาดวงเนตรสวรรค์ไม่ใช่กระบวนเวทดั้งเดิมของข้า แต่แท้จริงแล้วมีต้นกำเนิดมาจากสถานที่ลึกลับเช่นเดียวกันกับรูปปั้นข้างนอก สถานที่นั้นมีนามว่า…สุสานดวงดารา เป็นสถานที่ในตำนานแห่งจักรภพเต๋าไม่รู้สิ้น มิติลึกลับที่ตระกูลผู้ทรงอำนาจและสำนักยิ่งใหญ่มากมายยอมพลีกายถวายชีวิตเพื่อให้ได้เข้าไป ข้ารู้วิธีแทรกซึมเข้าไปในที่แห่งนั้นอย่างลับๆ ในช่วงเวลาที่ผู้อื่นกำลังทำพิธีเพื่อเข้าไปในสุสานดวงดารา!”

“อย่าเสียเวลาตรวจจิตข้าเลย ข้าได้จัดการผนึกความลับนี้เอาไว้เรียบร้อยด้วยอุปสรรคมากมาย ทันทีที่มีคนพยายามตรวจจิตข้า ที่ที่เก็บความลับนั้นไว้จะพังทลายลงมาทันที เอาละ ทีนี้บอกข้ามาเสียว่าเหตุใดข้าจึงสิงร่างเจ้าไม่ได้” เมื่อพูดมาถึงตรงนี้ วิญญาณชายชราก็มองหน้าหวังเป่าเล่อด้วยความคาดหวัง

แม้เขาจะบอกว่าตนเองยอมแลกความลับกับคำตอบ แต่ความจริงแล้วผีแก่เพียงแต่ต้องการใช้ข้อมูลนั้นเป็นเหยื่อล่อเพื่อรักษาชีวิตตนเองเท่านั้น เขามีแผนการอื่นอยู่ลึกๆ ในใจ แม้ครั้งนี้จะพังไม่เป็นท่า ก็ไม่ได้แปลว่าครั้งหน้าที่ลองจะไม่สำเร็จผล ตราบใดที่หวังเป่าเล่อยังลังเลโอนอ่อน เขาก็มีช่องทางเสมอ

วิญญาณผีแก่เชื่อว่าตราบใดที่หวังเป่าเล่อลังเล เขาก็ยังมีโอกาสรอดตายได้ ส่วนความลับที่เพิ่งบอกไปนั้น… ก็ไม่ใช่เรื่องที่เขาจะบอกหวังเป่าเล่อไม่ได้แต่อย่างใด เนื่องจากการเข้าดินแดนลึกลับนั้นมีสองวิธีด้วยกัน คือวิธีที่ถูกต้องและวิธีพิเศษ วิญญาณชายชราได้ถ่ายทอดวิธีการเข้าดินแดนลึกลับแบบถูกต้องให้ทายาทในตระกูลไปเรียบร้อยแล้วก่อนที่ตนเองจะตายเมื่อหลายปีก่อน ส่วนวิธีพิเศษในการเข้าสุสานดวงดารานั้น เขาตั้งใจจะเก็บเอาไว้ใช้สร้างความลำบากให้ผู้คน แต่ก็ไม่มีโอกาสได้ใช้ กลับมาชิงเสียชีวิตไปเสียก่อน

ตอนนี้วิญญาณผีแก่ต้องการจะทำให้ชีวิตหวังเป่าเล่อตกอยู่ในความทุกข์ยาก ตราบใดที่หวังเป่าเล่อยังคงมีจิตใจไม่มั่นคงและอุตริไปทำตามที่เขาบอก ก็ยังมีความเป็นไปได้ที่จะยึดร่างชายหนุ่มได้เสมอ!

“น่าสนใจดี” หวังเป่าเล่อหรี่ตามองจักรพรรดิแก่ตรงหน้าก่อนหัวเราะออกมา

“เหตุผลที่เจ้าล้มเหลวน่ะรึ ข้าบอกเจ้าได้อยู่แล้ว เจ้าโง่ ร่างของข้าที่เจ้าเห็นอยู่ในตอนนี้เป็นเพียงร่างอวตารเท่านั้น เจ้าพยายามสุดตัวที่จะสิงร่างอวตารของข้า ไม่คิดว่ามันตลกรึ ก่อนหน้านี้ข้ายังแอบหวังให้เจ้าทำสำเร็จด้วยซ้ำ หากเจ้าทำได้เจ้าก็จะได้กลายเป็นร่างอวตารอีกตัวของข้าอย่างไรเล่า” หวังเป่าเล่อกระแอมกระไอก่อนบอกความจริง

คำตอบของเขาเปรียบเสมือนสายฟ้าที่ฟาดลงมายังใจกลางดวงจิตของผีแก่ ก่อนหน้านี้เขาเดาคำตอบเอาไว้มากมายแต่ไม่ได้คาดคิดเลยว่าจะเป็นเพราะเหตุนี้ ดวงวิญญาณของชายชราสั่นสะท้านจนแทบจะระเบิดอย่างควบคุมไม่อยู่

“เป็นไปไม่ได้!” ผีแก่คำรามก้อง ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นกลายเป็นเพียงเรื่องปาหี่ เขาเตรียมการมาอย่างยาวนาน คิดทุกอย่างมาเป็นอย่างดี ทั้งยังใช้เคล็ดวิชาและกลเม็ดสกปรกมากมายเพื่อทำให้แผนสำเร็จ แต่สุดท้ายแล้วตนเองกลับกำลังพยายามจะสิงร่างอวตารไปได้เสียนี่

เขารับรู้ได้ทันทีโดยสัญชาตญาณว่ามีบางสิ่งผิดปกติ นั่นเพราะหากหวังเป่าเล่อเป็นร่างอวตารจริง ก็ไม่มีทางเป็นไปได้ที่เขาจะไม่สังเกตเห็น นอกเสียจากว่า…

มีคนใช้เคล็ดวิชาต้มสวรรค์มาบดบังสัมผัสสวรรค์ของข้า ทั้งยังปลูกภาพมายาเอาไว้ในหัวข้า! ความคิดนี้ผุดขึ้นมาในศีรษะของผีแก่อย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย นี่คือคำอธิบายเดียวที่เขาคิดได้ วิญญาณชายชรารู้สึกขมขื่น บ้าคลั่ง และขุ่นเคืองเป็นอย่างมาก เขากำลังจะอ้าปากพูดอีกครั้ง แต่ในวินาทีต่อมา… วิญญาณของหวังเป่าเล่อก็กระโจนเข้ามาหา

หมอนี่มันไม่ได้อยากรู้… อันตรายใหญ่หลวงเบื้องหน้าทำให้ชายชรากรีดร้องออกมา แต่ดวงวิญญาณส่วนที่เหลืออยู่ก็ถูกหวังเป่าเล่อกลืนกินเข้าไปเสียหมดสิ้นโดยไม่เหลือแม้แต่ซาก ชายหนุ่มไม่ได้รอให้ผีแก่พูดให้จบแม้แต่น้อย

ก่อนหน้านี้เขาตายมาครั้งหนึ่งแล้ว มีเพียงร่างวิญญาณเท่านั้นที่หลงเหลืออยู่ หากเขาถูกคนอื่นฆ่าตายอีกครั้ง ก็อาจจะกลับมามีชีวิตในฐานะวิญญาณได้อีกด้วยอำนาจของผนึก เนื่องจากพาตนเองมาอยู่ในมิตินพภูมิเรียบร้อย ทว่า… ผู้ที่ตายด้วยน้ำมือของศิษย์จากสำนักแห่งความมืดจะไม่มีโอกาสได้กลับมาอีก ตอนที่หวังเป่าเล่อกลืนกินวิญญาณชายชราเข้าไป ชายหนุ่มก็พูดประโยคนี้ออกมา!

“เมื่อสวรรค์และพื้นพิภพแยกจากกัน กงล้อแห่งโชคชะตาหยุดนิ่ง!”

ทันทีที่สิ้นคำ เสียงเหมือนมีบางสิ่งถูกทำลายก็ดังออกจากวิญญาณของหวังเป่าเล่อ

กายาวิญญาณของจักรพรรดิองค์แรกแห่งอารยธรรมดวงเนตรสวรรค์ถูกทำลายหมดสิ้นไปในวินาทีนั้น!

แน่นอนอยู่แล้วว่าข้าอยากรู้ แต่ถึงอย่างไรการจะทิ้งศัตรูให้มีชีวิตรอดต่อไปก็ไม่เป็นประโยชน์กับตัวข้า ยิ่งไปกว่านั้น…อารยธรรมครามทองคำมันไม่ได้โง่ เจ้าไม่ใช่คนเดียวที่รู้เรื่องนี้อย่างแน่นอน! หวังเป่าเล่อหรี่ตา เขาอนุมานได้จากคำพูดของผีแก่และพอเดาได้ว่า เหตุใดอารยธรรมครามทองคำถึงต้องร่วมมือกับอารยธรรมดวงเนตรสวรรค์ที่อ่อนแอกว่า หากอารยธรรมดวงเนตรสวรรค์ไม่ได้มีความลับเกี่ยวกับสุสานดวงดาราปิดบังไว้ ชายหนุ่มก็คิดว่าแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่เรื่องนี้จะเกิดขึ้น

ส่วนเซี่ยไห่หยางนั้น…หมอนั่นอาจจะกินเข้าไปสักสาม แล้วก็ยอมให้ข้าไปท้าคนที่หมอนั่นลงทุนเอาไว้นานแล้ว เพราะว่ามีแผนการบางอย่างเกี่ยวกับสุสานดวงดาราอยู่ในหัว!

ขณะที่ความคิดมากมายผ่านเข้ามาในศีรษะ หวังเป่าเล่อก็รู้สึกได้ถึงพลังของกายาวิญญาณและความปั่นป่วนภายในกายที่ใกล้จะระเบิดอยู่รอมร่อ จึงพลันจำเรื่องการสิงร่างที่เกิดขึ้นก่อนหน้านั้นได้ ชายหนุ่มมั่นใจเกือบเต็มร้อยว่าศิษย์พี่เฉินชิงของเขา…เป็นผู้ที่ช่วยเหลือเขาไว้ในเหตุการณ์ก่อนหน้านี้และทิ้งโอกาสงามเช่นนี้ไว้ให้

ศิษย์พี่ ท่านอยู่ที่ไหนกันนะ… หวังเป่าเล่อถอนหายใจ ชายหนุ่มปล่อยวิญญาณของตนเองให้กระจายคลุมร่างด้วยความรู้สึกขอบคุณและคิดถึงที่อยู่ในใจ ทันทีที่เขากลับมาควบคุมร่างตนเองได้อีกครั้ง พลังปราณก็พุ่งสูงเสียดฟ้า!

 …………………….

หนึ่งฝ่ามือสยบโลกา

หนึ่งฝ่ามือสยบโลกา

นิยายกำลังภายใน แปลจีน จากนักเขียนขายดีตลอดกาล ‘เอ่อร์เกิน’ กับตัวเอกแปลกใหม่ ไม่มีใครเหมือน! บังอาจดูถูกความหล่อเหลาของข้า จงเรียกข้าว่า ‘บิดา’ แล้วข้าจะไว้ชีวิตเจ้า! ค.ศ. 3029 วิทยาการบนโลกมนุษย์พัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว จนแต่ละประเทศไม่มีเขตพรมแดนกั้นอีกต่อไป โลกได้ผสานรวมกลายเป็นหนึ่งเดียว เริ่มต้นยุคสมัยแห่งสหพันธรัฐ ตอนนั้นเอง กระบี่ยักษ์เล่มหนึ่งตกลงมาจากห้วงอวกาศปักเข้าใจกลางดวงอาทิตย์ แรงกระแทกนั้นทำให้ฝักกระบี่แตกออกเป็นเศษชิ้นส่วนและกระจัดกระจายไปทั่วทั้งจักรวาลรวมถึงบนโลก ก่อให้เกิดแหล่งพลังงานรูปแบบใหม่อันไร้ขีดจำกัดขึ้นบนโลกในบัดดล พลังงานนี้มีชื่อเรียกกันว่า ‘ปราณวิญญาณ’ เมื่อสหพันธรัฐและขุมอำนาจอื่นๆ เริ่มออกรวบรวมเศษชิ้นส่วนต่างๆ พวกเขาก็ได้รู้ถึงเคล็ดวิชาการฝึกตน การหลอมโอสถ การหลอมศิลาวิญญาณ และเคล็ดวิชาพิสดารนานัปการ ตัวอักขระที่จารึกอยู่บนเศษชิ้นส่วนเหล่านั้นล้วนเก่าแก่ยิ่งนัก นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ผู้คนกลับมานิยมใช้ภาษาจีนโบราณกันอีกครั้ง การถือกำเนิดของปราณวิญญาณ ทำให้แหล่งพลังงานรูปแบบเดิมตกยุค และได้เปลี่ยนวิถีชีวิตของมนุษย์โลกไปโดยสิ้นเชิง ไม่เพียงแต่เครือข่ายวิญญาณจะได้รับการคิดค้นขึ้นมา แต่ปราณวิญญาณยังพลิกโฉมอารยธรรมมนุษย์ นำพาโลกเข้าสู่ยุคสมัยแห่งการฝึกตน ซึ่งต่อมารู้จักกันในนามว่ายุคกำเนิดวิญญาณ หวังเป่าเล่อ หนุ่มร่างท้วมผู้ทะเยอทะยาน ใฝ่ฝันจะได้เป็นผู้นำสหพันธรัฐ ด้วยหวังว่าจะไม่มีใครมารังแกเขาได้อีกต่อไป ชายหนุ่มศึกษาอัตชีวประวัติของเจ้าพนักงานสหพันธรัฐจนขึ้นใจ และเมื่อเดินทางเข้ามาศึกษาในสำนักศึกษาเต๋าศักดิ์สิทธิ์ เขาก็ใช้ความรู้เหล่านั้นบวกกับความ ‘หน้าหนาหน้าทน’ ของตัวเอง วางกลยุทธ์อันฉลาดล้ำกำราบศัตรูคนแล้วคนเล่า ใครหน้าไหนก็ไม่อาจมาขัดขวางเส้นทางสู่การเป็นหนึ่งในใต้หล้าของชายอ้วนผู้นี้ได้ …เว้นเสียแต่คำสาปประจำตระกูล ที่บอกไว้ว่าหวังเป่าเล่อจะต้องตายหากเขาไม่ผอมลงก่อนอายุสามสิบปี!! ในเมื่อบรรพบุรุษร่างจ้ำม่ำมายืนรอให้เขาไปอยู่ด้วยขนาดนี้ ชายหนุ่มจึงต้องทั้งฝึกตนและลดน้ำหนักไปพร้อมๆ กัน!

Options

not work with dark mode
Reset