หนึ่งฝ่ามือสยบโลกา – บทที่ 852 ชี้ทางให้คนเป็น

สำหรับหวังเป่าเล่อแล้ว โอกาสนี้หาได้ยากยิ่งจนไม่มีสิ่งใดเหมือน เพียงแค่พลังปราณที่เพิ่มมากขึ้นก็เรียกได้ว่าคุ้มที่สุดแล้ว แม้ก่อนหน้านั้นเขาจะได้รับโอกาสมากมาย แต่ส่วนใหญ่ก็เพียงเพิ่มพูนพลังของเขาให้มากขึ้นเท่านั้น แต่ในเวลานี้ ทุกสิ่งทุกอย่างที่ชายหนุ่มสั่งสมมาได้ระเบิดออกมา จนกลายเป็นพลังปราณมหาศาลที่พุ่งขึ้นเสียดฟ้า!

หวังเป่าเล่อรู้สึกได้ว่าหลังจากที่กินผีแก่เข้าไป ในวิญญาณของเขาก็ดูราวกับมีมหาสมุทรกว้างใหญ่ สิ่งที่เขาต้องทำมากที่สุดในตอนนี้คือการปล่อยมหาสมุทรนี้ให้ไหลทะลักออกมา และเปลี่ยนมันให้กลายเป็นพลังปราณของเขา!

แต่ในเวลาเดียวกันนั้นหวังเป่าเล่อก็รู้สึกได้ว่ามหาสมุทรนี้ไม่ได้ถูกผนึกอยู่ในวิญญาณของเขาอย่างแน่นหนาเหมือนที่คิดไว้ แต่ดูราวกับว่ากำลังค่อยๆ กระจายตัวออกไปเสียอย่างนั้น!

พลังปราณที่กำลังกระจายตัวออกไปนั้นทำให้ดวงตาของหวังเป่าเล่อเป็นประกายวาบ ในฐานะบุตรแห่งความมืดเขารู้ได้ว่าการกระจายตัวออกไปเช่นนี้ไม่ใช่วิชาของสำนักแห่งความมืด นั่นเพราะสำนักแห่งความมืดมีหน้าที่นำทางวิญญาณ และให้ความสำคัญเรื่องการนำวิญญาณที่บริสุทธิ์ที่สุดกลับเข้าสู่วังวนของการเวียนว่ายตายเกิด ส่วนพลังปราณและพลังวิญญาณนั้นจะกลับสู่สวรรค์และผืนดิน กลายเป็นวัฏจักรที่ไม่รู้จบ

แต่มหาสมุทรในวิญญาณของเขาไม่ได้กระจายกลับคืนสู่สวรรค์และผืนดิน แต่กลับไหลไปยังสถานที่หนึ่ง หวังเป่าเล่ออธิบายความรู้สึกนี้ไม่ถูก แต่จิตสำนึกความเป็นบุตรแห่งความมืดบอกว่าสิ่งที่เขาคิดนั้นมีความเป็นไปได้มากทีเดียว

บ้าอะไรกันนี่ ความรู้สึกนี้ทำให้หวังเป่าเล่อตกใจเล็กน้อย เขาอดไม่ได้ที่จะนึกถึงตระกูลไม่รู้สิ้น แล้วความคิดหนึ่งก็ผุดขึ้นในใจ

หรือว่า…มันจะเป็นวิธีอะไรนั่นที่ตระกูลไม่รู้สิ้นใช้เพื่ออยู่เหนือมายาชีวิตและความตาย แก่นหลักของกระบวนเวทนี้ก็คือการดูดซับพลังจากจักรพิภพเต๋าทั้งหมดเข้าไปในร่างกายตนอย่างช้าๆ สำนักแห่งความมืดชี้ทางให้คนตาย ส่วนตระกูลไม่รู้สิ้นก็ชี้ทางให้คนเป็น

ชายหนุ่มไม่รู้ว่าตนเองเดาถูกหรือไม่ แต่มีอย่างหนึ่งที่มั่นใจมาก…คือเขาจะไม่ปล่อยโอกาสที่อุตส่าห์เพียรพยายามหามาได้นี้ให้สูญเปล่าเป็นอันขาด

หวังเป่าเล่อเปลี่ยนวิญญาณของตนเองให้กลายเป็นที่ที่ให้มหาสมุทรสามารถไหลเข้ามาได้โดยไม่ลังเล ชายหนุ่มเปิดประตูให้น้ำทะเลในวิญญาณของตนไหลเชี่ยวออกมาเช่นกัน

ขณะที่พลังปราณของเขากำลังระเบิดออกมานั้น ชายหนุ่มรู้สึกได้ถึงพลังจากร่างสารัตถะที่พุ่งขึ้นจากระดับแสร้งอมตะ ดวงวิญญาณของเขาสั่นไหว ร่างพาลสะท้าน เหมือนต้นกล้าที่แทงหน่อออกจากผืนดินอย่างไม่หยุดยั้ง หวังเป่าเล่อบรรลุปราณขั้นถัดไปด้วยพลังรุนแรงราวกับจะทำลายล้างได้ทั้งขุนเขาและสูบน้ำทะเลให้เหือดแห้ง

ระดับพลังปราณของชายหนุ่มพุ่งทะยานขึ้นจากขั้นแสร้งอมตะของขั้นเชื่อมวิญญาณชั้นสมบูรณ์ ไปเป็น…ขั้นจิตวิญญาณอมตะชั้นต้น!

ขั้นจิตวิญญาณอมตะนี้จะเปลี่ยนวิญญาณของผู้ฝึกตนให้กลายเป็นดวงวิญญาณเทพ ร่างกายปราศจากซึ่งมลทินใดๆ พลังปราณที่ไหลวนอยู่ในร่างจะปล่อยกลิ่นอายตามธรรมชาติให้หลั่งไหลสู่บรรยากาศโดยรอบ กระบวนการนี้ทำให้ผู้ฝึกตนเปลี่ยนไปทั้งภายนอกและภายใน ก่อกำเนิดเป็นพลังที่คล้ายสนามพลังเนื่องด้วยดวงวิญญาณที่เปลี่ยนสภาพไป พลังนี้มักแผ่ขยายไปในรัศมีสามร้อยเมตร เปลี่ยนทั่วทั้งบริเวณให้กลายเป็นอาณาเขตของตนในทันที

ผู้ใดที่หลงเข้ามาอยู่ในอาณาเขตนี้และมีพลังปราณน้อยกว่า จะถูกสยบเอาไว้ในทันทีโดยธรรมชาติ นอกเสียจากว่าจะใช้วิธีพิเศษหรือสมบัติเวทในการเอาตัวรอด

แต่พัฒนาการยังไม่หมดเพียงเท่านี้ ตอนที่หวังเป่าเล่อกินวิญญาณผีแก่เข้าไปนั้น เขาไม่ได้กลืนกินเพียงวิญญาณชายชรา แต่ยังกินพลังปราณของดวงวิญญาณนับล้านดวง รวมถึงวิญญาณมังกรทั้งสิบสองตนที่เคยเป็นจักรพรรดิทั้งสิบสองในอดีตชาติเข้าไปด้วย

มหาสมุทรในดวงวิญญาณของเขาก่อตัวขึ้นจากสรรพสิ่งยิ่งใหญ่

หลังจากที่หยุดไปสักพัก หวังเป่าเล่อก็เปิดประตูในดวงวิญญาณขึ้นอีกครั้งเพื่อปล่อยท้องทะเลภายในให้ไหลหลากออกมาอีกรอบ

พลังปราณของเขาพุ่งขึ้นสูงเสียดฟ้าอีกคราในตอนที่ชายหนุ่มบรรลุจากปราณขั้นเชื่อมวิญญาณสู่ขั้นจิตวิญญาณอมตะ ร่างกายของเขาส่งเสียงดังสนั่นหวั่นไหว สวรรค์เบื้องบนสุสานหลวงดังสะเทือน ก่อนจะเปลี่ยนสภาพไปเป็นลมหมุนยักษ์ พลังปราณของหวังเป่าเล่อทรงอำนาจจนทำให้ทั้งโลกสั่นไหว และพุ่งทะยานขึ้นอีกครั้งหนึ่ง!

ขั้นปราณของหวังเป่าเล่อพุ่งจากขั้นจิตวิญญาณอมตะชั้นต้นไปสู่จุดสูงสุดของชั้น และแตะชั้นต้นขั้นสมบูรณ์ในที่สุด ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นอย่างง่ายดายราวกับไม่มีอุปสรรคใดจะเข้ามาขวางกั้นอำนาจของมหาสมุทรได้ ทุกสิ่งทุกอย่างมีอันต้องล่มสลายไปหมดสิ้นเมื่อเผชิญกับพลังอำนาจล้นหลามนี้!

ปรากฏการณ์นี้ทำให้หวังเป่าเล่อข้ามกระบวนการหลอมขั้นปราณให้เสถียรอย่างผู้ฝึกตนปกติไปได้หลายสิบปีเลยทีเดียว

ความรู้สึกนี้… เหมือนกับที่ข้าต้องการทุกอย่าง! ชายหนุ่มตื่นเต้นเป็นอันมาก หลังจากที่สะกดมหาสมุทรในดวงวิญญาณตนเอาไว้ได้ชั่วคราว เขาก็กัดฟันและปล่อยมันอีกครั้ง!

ทันทีที่ทำเช่นนั้น พลังปราณของเขาก็ทะยานขึ้นอีกด้วยกำลังรุนแรง ราวกับเป็นการรวบรวมพลังทั้งหมดที่ตนเองมีให้ระเบิดออกมา จนข้ามผ่านขั้นจิตวิญญาณอมตะชั้นต้นไปสู่…ขั้นจิตวิญญาณอมตะชั้นกลางในที่สุด!

ร่างของชายหนุ่มสั่นสะท้านทันทีที่บรรลุขั้นปราณอีกครั้ง เขากู่ร้องออกมาเสียงดังก้อง ร่างทั้งร่างเนืองไปด้วยเสียงสะเทือนปริแตกราวกับว่าภายในกายกำลังส่งแรงสะเทือนออกสู่โลกภายนอกอย่างไรอย่างนั้น ความปั่นป่วนภายในนั้นมากกว่าครั้งแรกมากถึงสิบเท่าเลยทีเดียว

รอยปริแตกภายในกายนี้ทำให้หวังเป่าเล่อไม่มีทางเลือกอื่นนอกเสียจากต้องยับยั้งมหาสมุทรในวิญญาณเอาไว้ก่อน ประตูภายในดวงวิญญาณของเขาปิดลงอีกครา ในเวลาเดียวกันนั้น ลมหมุนบนท้องฟ้าก็ระเบิดอีกครั้งด้วยความรุนแรงยิ่งกว่าเดิม พื้นดินสั่นไหว รังสีเข้มข้นน่ากลัวพลุ่งพล่านออกจากกาย!

ข้าน่าจะ…ไปต่อได้! หวังเป่าเล่อไม่ได้ลืมตาขึ้น แต่มั่นใจมากว่าตนเองกำลังเดินทางมาถึงจุดหัวเลี้ยวหัวต่อในที่สุด เขาจะดันพลังตนเองขึ้นไปได้ถึงระดับไหนนั้นขึ้นอยู่กับวินาทีนี้แล้ว แน่นอนว่า…ทั้งหมดอยู่ที่ว่าร่างกายของเขารับได้ขนาดไหนด้วย!

นั่นเพราะแม้พลังปราณของเขาจะเพิ่มขึ้นจริง แต่ร่างสารัตถะของเขาก็มาถึงขีดจำกัดเสียแล้ว รอยแตกและแรงสะเทือนก่อนหน้านี้ทำให้ร่างกายของเขาเจ็บปวดเหลือทน ราวกับวิญญาณกำลังจะดับสลายทุกครั้งที่มีเสียงเหล่านี้ดังออกมาจากกาย

แต่คนอย่างหวังเป่าเล่อไม่สนใจความเจ็บปวดเช่นนี้อยู่แล้ว!

เขาเป็นชายที่โหดเหี้ยมจับใจกับตนเอง ในตอนนั้นเอง ชายหนุ่มเปิดประตูในดวงวิญญาณออกอีกครั้งโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย ส่งให้มหาสมุทรในดวงวิญญาณทะลักออกมาอย่างรุนแรง ไหลบ่าเข้าในร่างและส่งพลังปราณให้พุ่งขึ้นเสียดฟ้าอีกครา

เสียงสั่นสะเทือนดังออกมาจากวิญญาณของเขาอีกรอบ รอยแตกในร่างกายทวีความรุนแรงขึ้นอีก พลังปราณยังคงพุ่งขึ้นสูงไม่หยุดจากขั้นจิตวิญญาณอมตะชั้นกลางเข้าไปใกล้จุดสูงสุด แต่ร่างกายกลับจะยอมแพ้เอาดื้อๆ เสียแล้ว

หากมีคนมายืนอยู่ตรงหน้าเขาในตอนนี้จะเห็นได้ทันทีว่าร่างสารัตถะของชายหนุ่มเต็มไปด้วยรอยแยกมากมายนับไม่ถ้วน ราวกับแจกันกระเบื้องเคลือบแตกร้าวที่ถูกติดกาวเอาไว้ให้คงรูปร่างอยู่ได้ หากไปโดนแม้เพียงปลายนิ้ว ก็คงแตกสลายกลายเป็นเสี่ยงๆ ในพริบตา

นั่นเพราะหวังเป่าเล่อเพิ่มพลังปราณของตนเองปริมาณมากภายในระยะเวลาอันสั้นเกินไป จึงทำให้ร่างสารัตถะของเขาไม่มีเวลาปรับตัวให้เข้ากับพลังใหม่ ราวกับถูกบังคับป้อนอาหารจนแทบจะระเบิดออกมา แม้ขั้นปราณใหม่ของเขาจะเพิ่มขึ้นอย่างน่ากลัว แต่ก็ยังเต็มไปด้วยอันตรายน่าสะพรึงเช่นกัน!

เรื่องราวทั้งหมดนี้เกิดขึ้นก็เพราะว่าหวังเป่าเล่อโลภมากอยากเก่งทางลัด และยังไม่เคยมีความเมตตาต่อตนเองแม้แต่น้อยนิด หากเขาเพิ่มพลังปราณให้อยู่เพียงขั้นจิตวิญญาณอมตะชั้นต้น ร่างสารัตถะของเขาคงไม่ตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ แต่หากว่าเขา…ค่อยๆ ดูดซับพลังเข้าไปอย่างช้าๆ ก็จะต้องใช้เวลานานเกินไป สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ ชายหนุ่มเกรงว่ายิ่งเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ โอกาสที่เขาจะซึมซับพลังเข้าไปก็จะหายไปตามพลังปราณที่ค่อยๆ สลายไปด้วย

ทางเดียวที่จะยับยั้งเหตุการณ์นั้นได้ก็คือ เขาต้องดูดซับพลังทั้งหมดเข้าร่างและเปลี่ยนมันให้กลายมาเป็นพลังปราณของตน หวังเป่าเล่อหลับตานิ่ง คิดคำนวณสะระตะอยู่ในใจ ก่อนกัดฟันท่องบทสวดแห่งเต๋าในใจ!

ชายหนุ่มปลุกอำนาจของเปลวเพลิงดารานิรันดร์และฝ่ามือดาวพระเคราะห์ในเปลวเพลิงนั้นให้ตกใส่ร่างของจนเพื่อบีบอัดไม่ให้ร่างแหลกเหลวหายไป!

ข้าไม่เชื่อหรอก! หวังเป่าเล่อกัดฟัน พลังปราณพลันระเบิดออกมาอีกครั้ง ร่างของชายหนุ่มสั่นสะท้านราวกับกำลังจะระเบิดจริงๆ แต่ทันใดนั้นเปลวเพลิงดารานิรันดร์ก็พุ่งเข้าห่อหุ้มร่างของเขาเอาไว้ ฝ่ามือดาวพระเคราะห์เคลื่อนตัวออกมาลอยเหนือร่างเพื่อสะกดมันเอาไว้

ทั้งหมดทำให้ร่างของหวังเป่าเล่อที่กำลังจะดับสลายกลับมาเสถียรอีกครั้ง จากนั้น…พลังปราณของเขาก็ระเบิดออกมาอย่างรวดเร็วด้วยมหาสมุทรที่ไหลทะลัก และพุ่งขึ้นไปหยุดที่ขั้นจิตวิญญาณอมตะชั้นนกลางขั้นสมบูรณ์ในที่สุด!

ในตอนนี้เหลือมหาสมุทรพลังปราณอยู่อีกร้อยละ 20 เท่านั้นในดวงวิญญาณของหวังเป่าเล่อ หลังจากที่คิดอยู่เป็รระยะเวลาสั้นๆ ความบ้าคลั่งก็เข้าครอบงำแววตาของชายหนุ่ม เขาปล่อยมหาสมุทรที่เหลือร้อยละ 20 นี้ให้ระเบิดออกมาในทันที

บรรลุขั้น! ชายหนุ่มกรีดก้องในใจ พลังจากบทสวดแห่งเต๋ากลับมาอีกครั้ง ไหลบ่าเข้าครอบงำโลกทั้งใบ รวมทั้งพุ่งใส่ร่างของเขาจนทำให้มันกลับมาเสถียรทั้งที่ยังสั่นสะท้าน จากนั้น…มหาสมุทรพลังอีกร้อยละ 20 ก็ทะลักเข้าร่าง ส่งให้พลังปราณพุ่งขึ้นอีกครั้ง!

เสียงระเบิดดังสะท้อนออกมาจากร่างของหวังเป่าเล่อเหมือนสายฟ้าจากสวรรค์ เสียงนั้นก้องไปทั่วโลกา พลังปราณพุ่งขึ้นสู่ขีดจำกัดด้วยความบ้าคลั่ง ทะลุทะยานผ่านขั้นจิตวิญญาณชั้นกลางขั้นสมบูรณ์ไปในที่สุด!

ก้าวขึ้นไปสู่…ขั้นจิตวิญญาณอมตะชั้นปลาย!

ผลที่เกิดตามมาก็คือร่างที่สั่นเทิ้ม ความเจ็บปวดมหาศาลเข้าครอบงำราวร่างกายและวิญญาณกำลังถูกฉีกออกจากกันจนทำให้ชายหนุ่มกรีดร้องเสียงหลง พลังปราณของหวังเป่าเล่อหมุนวนปั่นป่วนบ้าคลั่ง ดวงเนตรปีศาจพลันปรากฏขึ้นที่เบื้องหลัง เกราะมหาจักรพรรดิโผล่ขึ้นห่อหุ้มร่างกาย ขณะที่เขายังคงพยายามบรรลุปราณ พลังทั้งสองก็ผนึกกำลังกับเปลวเพลิงดารานิรันดร์ ฝ่ามือดาวพระเคราะห์ และบทสวดแห่งเต๋า เพื่อกดร่างของเขาไว้ด้วยพลังทั้งหมดที่มี เพื่อซื้อเวลาให้เขาบังคับปราณให้เสถียรและซ่อมแซมร่างกายของตนให้ได้

ข้าต้องทนต่อ ห่าเอ๊ย นี่คือโอกาสที่ดีที่สุดในชีวิตของหวังเป่าเล่อคนนี้แล้ว! จะไม่มีใครหน้าไหนพรากมันไปจากข้าได้เป็นอันขาด!

ในขณะเดียวกันนั้น ที่ใต้ดินของดาวเอกแห่งอารยธรรมดวงเนตรสวรรค์ ในโลงศพที่ร่างจริงของหวังเป่าเล่อนอนหลับตาอยู่ กายหลักของชายหนุ่มก็เริ่มสั่นสะท้านเช่นกัน กระแสพลังปราณขั้นจิตวิญญาณอมตะทะยานปั่นป่วน ขณะที่พลังนั้นกำลังพุ่งขึ้นสู่ชั้นปลาย หน้ากากลึกลับก็ทอแสงสว่างเรืองรอง เสียงแผ่วเบาของแม่นางน้อยดังลอดออกมา

“ไอ้หวังเป่าเล่อนี่…โลภมากเหลือเกิน หมอนี่มันรุนแรงกับตนเองมากไปแล้ว ถึงกับยอมเสียงตายเพื่อแลกกับการพัฒนาขั้นปราณเชียว!”

“ก็ได้ ข้าจะช่วยหมอนี่ก็แล้วกัน แต่หมอนี่คงทำไม่สำเร็จหรอก ร่างอวตารต้องทนไม่ได้และแหลกสลายไปแน่ ซึ่งแปลว่าทั้งหมดจะสูญเปล่า ไม่มีใครทำเรื่องเช่นนี้ได้หรอก ต่อให้เป็นหมอนี่ก็เถอะ ไม่มีทางเลยที่เขาจะทำสำเร็จ!” แม่นางน้อยกระแอมกระไอขณะพูดประโยคเดิมๆ ที่นางเคยเอ่ยมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง

…………………………

หนึ่งฝ่ามือสยบโลกา

หนึ่งฝ่ามือสยบโลกา

นิยายกำลังภายใน แปลจีน จากนักเขียนขายดีตลอดกาล ‘เอ่อร์เกิน’ กับตัวเอกแปลกใหม่ ไม่มีใครเหมือน! บังอาจดูถูกความหล่อเหลาของข้า จงเรียกข้าว่า ‘บิดา’ แล้วข้าจะไว้ชีวิตเจ้า! ค.ศ. 3029 วิทยาการบนโลกมนุษย์พัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว จนแต่ละประเทศไม่มีเขตพรมแดนกั้นอีกต่อไป โลกได้ผสานรวมกลายเป็นหนึ่งเดียว เริ่มต้นยุคสมัยแห่งสหพันธรัฐ ตอนนั้นเอง กระบี่ยักษ์เล่มหนึ่งตกลงมาจากห้วงอวกาศปักเข้าใจกลางดวงอาทิตย์ แรงกระแทกนั้นทำให้ฝักกระบี่แตกออกเป็นเศษชิ้นส่วนและกระจัดกระจายไปทั่วทั้งจักรวาลรวมถึงบนโลก ก่อให้เกิดแหล่งพลังงานรูปแบบใหม่อันไร้ขีดจำกัดขึ้นบนโลกในบัดดล พลังงานนี้มีชื่อเรียกกันว่า ‘ปราณวิญญาณ’ เมื่อสหพันธรัฐและขุมอำนาจอื่นๆ เริ่มออกรวบรวมเศษชิ้นส่วนต่างๆ พวกเขาก็ได้รู้ถึงเคล็ดวิชาการฝึกตน การหลอมโอสถ การหลอมศิลาวิญญาณ และเคล็ดวิชาพิสดารนานัปการ ตัวอักขระที่จารึกอยู่บนเศษชิ้นส่วนเหล่านั้นล้วนเก่าแก่ยิ่งนัก นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ผู้คนกลับมานิยมใช้ภาษาจีนโบราณกันอีกครั้ง การถือกำเนิดของปราณวิญญาณ ทำให้แหล่งพลังงานรูปแบบเดิมตกยุค และได้เปลี่ยนวิถีชีวิตของมนุษย์โลกไปโดยสิ้นเชิง ไม่เพียงแต่เครือข่ายวิญญาณจะได้รับการคิดค้นขึ้นมา แต่ปราณวิญญาณยังพลิกโฉมอารยธรรมมนุษย์ นำพาโลกเข้าสู่ยุคสมัยแห่งการฝึกตน ซึ่งต่อมารู้จักกันในนามว่ายุคกำเนิดวิญญาณ หวังเป่าเล่อ หนุ่มร่างท้วมผู้ทะเยอทะยาน ใฝ่ฝันจะได้เป็นผู้นำสหพันธรัฐ ด้วยหวังว่าจะไม่มีใครมารังแกเขาได้อีกต่อไป ชายหนุ่มศึกษาอัตชีวประวัติของเจ้าพนักงานสหพันธรัฐจนขึ้นใจ และเมื่อเดินทางเข้ามาศึกษาในสำนักศึกษาเต๋าศักดิ์สิทธิ์ เขาก็ใช้ความรู้เหล่านั้นบวกกับความ ‘หน้าหนาหน้าทน’ ของตัวเอง วางกลยุทธ์อันฉลาดล้ำกำราบศัตรูคนแล้วคนเล่า ใครหน้าไหนก็ไม่อาจมาขัดขวางเส้นทางสู่การเป็นหนึ่งในใต้หล้าของชายอ้วนผู้นี้ได้ …เว้นเสียแต่คำสาปประจำตระกูล ที่บอกไว้ว่าหวังเป่าเล่อจะต้องตายหากเขาไม่ผอมลงก่อนอายุสามสิบปี!! ในเมื่อบรรพบุรุษร่างจ้ำม่ำมายืนรอให้เขาไปอยู่ด้วยขนาดนี้ ชายหนุ่มจึงต้องทั้งฝึกตนและลดน้ำหนักไปพร้อมๆ กัน!

Options

not work with dark mode
Reset