หนึ่งฝ่ามือสยบโลกา – บทที่ 445 ข้าจะฆ่าไอ้จั่วอี้เซียน!

บทที่ 445 ข้าจะฆ่าไอ้จั่วอี้เซียน!

ถูกเผง! เป็นไปตามที่นางบอก!

แม่นางน้อยบอกว่าเดี๋ยวชายหนุ่มก็ได้รู้ ไม่ทันจะได้หายใจให้โล่งท้องก็ได้รู้ทันที เรื่องนี้พิสูจน์ให้เห็นว่าวัตถุเวทแห่งความมืดเป็นของนางจริง!

แม่นางน้อยน่าจะรู้ว่าพวกผู้บุกรุกกำลังไล่ตามมา แต่นางน่าจะส่งพวกเขาไปที่อื่น พอข้าถาม นางเลยส่งพวกนั้นกลับมา เป็นเหตุให้พวกนั้นอยู่ในสภาพสะบักสะบอม! ต้องเป็นเช่นนั้นแน่! ยิ่งคิดก็ยิ่งตื่นเต้น หวังเป่าเล่อตัดสินใจทันทีว่าจากนี้เป็นต้นไปจะคอยเอาอกเอาใจแม่นางน้อยเป็นอย่างดี

หวังเป่าเล่อเริ่มใจชื้นขึ้น เลิกคิดหนี เขายืนอยู่บนเกาะกระดูก จ้องเขม็งไปทางผู้ฝึกตนขั้นจุติวิญญาณทั้งสาม ชายหนุ่มยกมือขวาขึ้นชี้เหล่าผู้บุกรุก

“จบกันแค่นี้แหละ!” หวังเป่าเล่อเอ่ยขึ้นเสียงเรียบ รังสีที่บรรยายไม่ได้แผ่พุ่งออกมาจากกายหลังจากพูดจบ ราวกับว่าโลกใบนี้ตอบสนองต่อคำพูดเขา ผืนดิน ฟากฟ้า ดวงดาราส่องประกายเจิดจ้า ขณะที่เกลียวคลื่นในมหาสมุทรวิญญาณร้องคำรามพร้อมกับก่อตัวเป็นคลื่นสูง บรรยากาศรอบกายดูน่าครั่นคร้ามยิ่งนัก

ผู้บุกรุกทั้งสามที่ตั้งใจจะโจมตีเริ่มระแวงขึ้นมาเมื่อเห็นชายหนุ่มมีท่าทีเปลี่ยนไป พวกเขาระมัดระวังตัวมากยิ่งขึ้น

ขณะที่หวังเป่าเล่อกำลังฮึกเหิม แม่นางน้อยก็ตื่นตะลึงอีกครั้ง นางไม่คิดว่าคนทั้งสามจะโผล่มาทันทีหลังจากที่นางพูดจบ…ภาพตรงหน้าทำให้นางรู้สึกผิดขึ้นมา หญิงสาวเริ่มสังหรณ์ใจแปลกๆ จึงแสร้งทำตัวอ่อนแอในทันใด

“กายาวิญญาณของข้าอ่อนแรงลง หวังเป่าเล่อ เจ้าต้องจัดการที่เหลือเอง ข้า…ข้า…” เสียงของแม่นางน้อยเบาลงเรื่อยๆ ราวกับว่านางกำลังจะหลับลึกอีกครั้ง

“หา?” หวังเป่าเล่ออึ้งไป เขารีบเอ่ยปากเรียกแม่นางน้อย แต่ไม่ว่าจะเรียกกี่ครั้ง นางก็ไม่ตอบ หวังเป่าเล่อตัวแข็งทื่อ รู้สึกเขินอายขึ้นมาจนอยากจะกรีดร้องอยู่ในใจ

ดวงตาของผู้ฝึกตนขั้นจุติวิญญาณบนฟากฟ้าฉายแสงวาบ ชายหน้าเหลี่ยมเปิดฉากโจมตีเป็นคนแรก เส้นสีแดงบนหน้าผากของเขาส่องแสง จากนั้นก็มีลำแสงสีแดงยิงตรงมายังเกาะกระดูกที่หวังเป่าเล่อยืนอยู่

ก่อนที่ลำแสงสีแดงจะทันได้ถึงที่หมาย มหาสมุทรวิญญาณก็ปั่นป่วนหนัก ดวงวิญญาณนับไม่ถ้วนส่งเสียงร้องโหยหวนขณะพุ่งทะยานขึ้นไปหาชายทั้งสามบนฟ้า

มองจากไกลๆ จะเห็นเหมือนว่ามหาสมุทรวิญญาณได้ตื่นขึ้น พวยพุ่งขึ้นสู่ฟากฟ้า สาดซัดฟ้าดินจนสั่นสะเทือน วิญญาณหลายดวงลอยขึ้นไปบนฟ้า หลายดวงพุ่งเข้าหาหวังเป่าเล่อราวกับอยากจะฉีกกระชากเขาเป็นชิ้นๆ และกลืนกินเข้าไปเป็นๆ

ภาพเบื้องหน้าทำให้ผู้ฝึกตนบนฟ้าตื่นตกใจ พวกเขารีบตั้งผนึกฝ่ามือป้องกันไม่ให้วิญญาณแห่งท้องทะเลพุ่งเข้ามาหา หวังเป่าเล่อที่อยู่บนเกาะกระดูกก็ตกใจไม่แพ้กัน เขาไม่มีทางให้หลบหนี โดนปิดกั้นจากทุกทิศ จะหลบหรือถอยก็ทำไม่ได้ ได้แต่ยืนมองวิญญาณนับไม่ถ้วนพุ่งเข้ามาหา แต่ไม่ว่าจะเรียกแม่นางน้อยอย่างไร นางก็ไม่ตอบ หวังเป่าเล่อจึงกัดฟันแน่น ร้องคำรามปลุกวิชาแห่งศาสตร์มืด เปลวไฟสีดำพลันปรากฏขึ้นในดวงตา!

ไอเย็นแผ่กระจายออกมารอบตัว เข้าแช่แข็งวิญญาณที่เคลื่อนผ่าน สั่นสะท้านฟากฟ้าและผืนดิน ดวงวิญญาณรอบๆ ดูจะตื่นตกใจ มันรีบถอยห่างไม่กล้าเข้าไปใกล้อีก

แสงประหลาดฉายวาบในดวงตาของชายหนุ่ม ผู้ฝึกตนสามคนบนฟ้าแทบไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่ได้เห็น ทุกอย่างดูแปลกประหลาดเกินไป พวกเขาเดือดจัด หวังเป่าเล่ออยู่เพียงแค่ขั้นรากฐานตั้งมั่นแต่กลับสามารถขัดขวางพวกเขาด้วยเล่ห์เหลี่ยมต่างๆ ได้อยู่พักใหญ่ ความจริงนี้ทำให้ทั้งสามรู้สึกเสียหน้า

“ไม่ต้องจับเป็นแล้ว ฆ่ามันแล้วเอาศพไปขาย!”

ชายทั้งสามได้ข้อสรุป จิตสังหารพลันปะทุขึ้น ขณะที่ทั้งสามกำลังจะกำจัดวิญญาณรอบๆ ออกไปให้พ้นทางและเข้าสังหารชายหนุ่ม หวังเป่าเล่อก็สั่นกระตุก เขาได้ยินเสียงเพรียกอีกครั้ง!

ครั้งนี้มาจากเบื้องล่างมหาสมุทรวิญญาณ เสียงนั้นดังชัดกว่าสองครั้งที่ผ่านมา เหมือนกับว่ามาพูดอยู่ข้างหู เขาได้ยินเสียงชัดกระจ่าง

“บุตรแห่งความมืด…บุตรแห่งความมืด…”

หวังเป่าเล่อหายใจถี่รัวเมื่อได้ยินเสียง มหาสมุทรวิญญาณตื่นขึ้นอีกครั้ง ก่อนจะแหวกออกก่อเกิดเป็นเส้นทางตรงกลาง!

เส้นทางที่ปรากฏขึ้นลากยาวจากเกาะกระดูกที่หวังเป่าเล่อยืนอยู่ตรงลึกเข้าไปในพื้นที่ปริศนาเบื้องล่างมหาสมุทรวิญญาณ!

การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวทำให้เหล่าผู้บุกรุกบนฟ้าตื่นตกใจ พวกเขาจ้องไปทางหวังเป่าเล่อ แสงประหลาดฉายวาบขึ้นในดวงตา ชายตรงหน้าทำให้พวกเขาประหลาดใจมาหลายครั้ง แต่ครั้งนี้นั้นน่าตื่นตะลึงกว่าครั้งใดๆ

“อย่าให้เจ้านั่นเข้าไปเด็ดขาด!” ทั้งสามตื่นตระหนก พลังปราณปะทุขึ้นรุนแรง ชายหน้าตะขาบปล่อยตะขาบออกจากใบหน้า มันขยายใหญ่ขึ้นในชั่วพริบตา มีขนาดยาวประมาณสามสิบเมตร ดูน่าสะพรึงกลัวยิ่งนัก ตะขาบร้องคำรามขึ้นขณะพุ่งตรงไปยังมหาสมุทรวิญญาณ กำจัดวิญญาณที่ขวางอยู่ เปิดทางให้ทั้งสามพุ่งออกไปได้

ชายหน้าเหลี่ยมปล่อยวิชาสังหารด้วยเช่นกัน เขาประสานมือตั้งผนึกฝ่ามือท่าต่างๆ สร้างกระทิงไฟขึ้นเบื้องหลัง มันร้องคำรามลั่นฟ้า ก้าวผ่านห้วงมายามาปรากฏตัว มันพุ่งไปข้างหน้าอย่างบ้าคลั่งพร้อมกีบเท้าที่ลุกเป็นไฟ

ผู้ฝึกตนคนสุดท้ายร่ายดวงตาขึ้นมาเบื้องหลัง ภายในนั้นเหมือนจะมีอเวจีไร้ขอบเขตอยู่ มองเพียงแวบเดียวก็ทำให้กลัวจนจับจิต

หวังเป่าเล่อมองพลังปราณแกร่งกล้าที่พวยพุ่งออกมาจากผู้ฝึกตนทั้งสามคน แม้แต่มหาสมุทรวิญญาณก็ดูจะพ่ายแพ้ไป เมื่อเห็นว่าทั้งสามน่าจะฝ่าวิญญาณแห่งท้องทะเลออกมาได้ทุกเมื่อ หวังเป่าเล่อก็กัดฟันแน่น หายใจถี่รัว ก้าวเท้าเข้าไปในเส้นทางที่มหาสมุทรวิญญาณสร้างให้ มุ่งหน้าลึกเข้าไปในมหาสมุทร

“บ้าจริง!” หัวหน้ากลุ่มผู้บุกรุกที่เพิ่งปล่อยตะขาบออกจากใบหน้ารู้ว่าหวังเป่าเล่อซ่อนความลับบางอย่างเอาไว้ เขาไม่ยอมปล่อยให้ชายหนุ่มหลบหนีไปได้ จึงกัดฟันแน่น ตั้งผนึกฝ่ามือระเบิดนิ้วนางของตัวเอง!

ตัวตนคล้ายกิ้งก่าน่าสะพรึงกลัวสิบสองตัวปรากฏขึ้นหลังการระเบิดพร้อมส่งเสียงคำรามลั่น หัวหน้ากลุ่มผู้บุกรุกข่มความแค้นไว้ในใจก่อนจะประกาศกร้าว

“ข้าจะฆ่าไอ้จั่วอี้เซียนนี่!”

พูดจบ ฝูงกิ้งก่าก็ร้องคำรามพร้อมพุ่งไปยังมหาสมุทรวิญญาณ วิญญาณใดที่เข้ามาขวางโดนกำจัดทิ้งหมด พวกมันรีบตามหวังเป่าเล่อไปไม่ลดละ

กิ้งก่าแต่ละตัวมีพลังเทียบเท่าผู้ฝึกตนขั้นรากฐานตั้งมั่นชั้นสมบูรณ์ หลายๆ ตัวเกือบจะบรรลุขั้นกำเนิดแก่นในแล้วด้วยซ้ำ!

จั่วอี้เซียน ข้าจะให้เจ้าชดใช้อย่างสาสม! ชายหน้าตะขาบกัดฟันกรอด เขาอุตส่าห์บากบั่นรวบรวมเหล่ากิ้งก่ามาไว้ในนิ้วนาง อสูรเหล่านี้เป็นอสูรหายากที่ใช้ต่อกรกับวิญญาณคลุ้มคลั่ง เขาใช้เคล็ดเวทลับเลี้ยงดูพวกมันมานานเกินสามสิบปีกว่าพวกมันจะมีพลังระดับนี้ ชายหน้าตะขาบตั้งใจจะเลี้ยงดูพวกมันไปอีกสักสิบปีจนทั้งหมดบรรลุขั้นกำเนิดแก่นใน ความพยายามทั้งหมดก็จะส่งผลทันทีเมื่อเหล่ากิ้งก่ากลายเป็นของมูลค่าสูง

กิ้งก่าแต่ละตัวสามารถจำแลงกายเป็นเขาได้ ทำให้เขามีตัวตายตัวแทนไว้ใช้งาน!

แต่เพื่อจะจับหวังเป่าเล่อ เขาต้องล้มเลิกแผนนี้ไป ความพยายามทั้งหมดสูญเปล่า ต้องเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่อีกครั้ง

ผลลัพธ์จากการพยายามของเขานั้นยอดเยี่ยมมาก ขณะที่ทั้งสามพยายามต่อกรกับทะเลวิญญาณ ฝูงกิ้งก่าก็พุ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว พวกมันพุ่งชนทำลายวิญญาณมากมายที่ขวางทางตามหวังเป่าเล่อเข้าไปในเส้นทางเล็กๆ

พวกมันมีรูปลักษณ์แปลกประหลาด ดูไร้น้ำหนัก เป็นตัวตนระหว่างความเป็นจริงและภาพมายา ด้านความเร็วก็เหนือชั้นกว่าผู้ฝึกตนขั้นรากฐานตั้งมั่นอยู่มาก พวกมันทิ้งร่างเงาไว้เบื้องหลังขณะพุ่งทะยานไปอย่างรวดเร็ว ใครได้มาเห็นคงจะดูไม่ออกว่ามีกิ้งก่าเพียงสิบสองตัว เพราะโดนร่างเงาของพวกมันหลอกจนดูเหมือนมีเป็นหมื่นๆ ตัว!

พวกมันพุ่งผ่าอากาศราวกับกำลังเคลื่อนย้ายชั่วพริบตา หวังเป่าเล่อมีสีหน้าเคร่งเครียดเมื่อเห็นสิ่งที่ตามไล่ล่ามา เขาไม่รู้ว่าหนทางเบื้องหน้าจะอีกไกลเท่าใด แต่รู้ว่าต้องทำอะไรบางอย่างเพื่อหยุดเหล่ากิ้งก่า ไม่เช่นนั้นพวกมันจะตามมาทันแน่

เวรเอ๊ย…ทุ่มเททุกสิ่งอย่างเพื่อที่จะรังแกข้าอย่างนั้นหรือ ถึงข้าจะสู้ผู้ฝึกตนขั้นจุติวิญญาณไม่ได้ แต่คิดหรือว่าไอ้สัตว์เลื้อยคลานพวกนี้จะหยุดข้าได้ ดวงตาของชายหนุ่มดูดุดัน ทนรับสิ่งต่างๆ ไม่ไหวอีกต่อไป เขายกมือขวาขึ้นโบก เรียกโทรโข่งสีแดงมาปรากฏในมือ พลังที่แผ่พุ่งออกมาบ่งบอกชัดเจนว่าของชิ้นนี้คืออาวุธเวท

“ไสหัวไป!”

หนึ่งฝ่ามือสยบโลกา

หนึ่งฝ่ามือสยบโลกา

นิยายกำลังภายใน แปลจีน จากนักเขียนขายดีตลอดกาล ‘เอ่อร์เกิน’ กับตัวเอกแปลกใหม่ ไม่มีใครเหมือน! บังอาจดูถูกความหล่อเหลาของข้า จงเรียกข้าว่า ‘บิดา’ แล้วข้าจะไว้ชีวิตเจ้า! ค.ศ. 3029 วิทยาการบนโลกมนุษย์พัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว จนแต่ละประเทศไม่มีเขตพรมแดนกั้นอีกต่อไป โลกได้ผสานรวมกลายเป็นหนึ่งเดียว เริ่มต้นยุคสมัยแห่งสหพันธรัฐ ตอนนั้นเอง กระบี่ยักษ์เล่มหนึ่งตกลงมาจากห้วงอวกาศปักเข้าใจกลางดวงอาทิตย์ แรงกระแทกนั้นทำให้ฝักกระบี่แตกออกเป็นเศษชิ้นส่วนและกระจัดกระจายไปทั่วทั้งจักรวาลรวมถึงบนโลก ก่อให้เกิดแหล่งพลังงานรูปแบบใหม่อันไร้ขีดจำกัดขึ้นบนโลกในบัดดล พลังงานนี้มีชื่อเรียกกันว่า ‘ปราณวิญญาณ’ เมื่อสหพันธรัฐและขุมอำนาจอื่นๆ เริ่มออกรวบรวมเศษชิ้นส่วนต่างๆ พวกเขาก็ได้รู้ถึงเคล็ดวิชาการฝึกตน การหลอมโอสถ การหลอมศิลาวิญญาณ และเคล็ดวิชาพิสดารนานัปการ ตัวอักขระที่จารึกอยู่บนเศษชิ้นส่วนเหล่านั้นล้วนเก่าแก่ยิ่งนัก นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ผู้คนกลับมานิยมใช้ภาษาจีนโบราณกันอีกครั้ง การถือกำเนิดของปราณวิญญาณ ทำให้แหล่งพลังงานรูปแบบเดิมตกยุค และได้เปลี่ยนวิถีชีวิตของมนุษย์โลกไปโดยสิ้นเชิง ไม่เพียงแต่เครือข่ายวิญญาณจะได้รับการคิดค้นขึ้นมา แต่ปราณวิญญาณยังพลิกโฉมอารยธรรมมนุษย์ นำพาโลกเข้าสู่ยุคสมัยแห่งการฝึกตน ซึ่งต่อมารู้จักกันในนามว่ายุคกำเนิดวิญญาณ หวังเป่าเล่อ หนุ่มร่างท้วมผู้ทะเยอทะยาน ใฝ่ฝันจะได้เป็นผู้นำสหพันธรัฐ ด้วยหวังว่าจะไม่มีใครมารังแกเขาได้อีกต่อไป ชายหนุ่มศึกษาอัตชีวประวัติของเจ้าพนักงานสหพันธรัฐจนขึ้นใจ และเมื่อเดินทางเข้ามาศึกษาในสำนักศึกษาเต๋าศักดิ์สิทธิ์ เขาก็ใช้ความรู้เหล่านั้นบวกกับความ ‘หน้าหนาหน้าทน’ ของตัวเอง วางกลยุทธ์อันฉลาดล้ำกำราบศัตรูคนแล้วคนเล่า ใครหน้าไหนก็ไม่อาจมาขัดขวางเส้นทางสู่การเป็นหนึ่งในใต้หล้าของชายอ้วนผู้นี้ได้ …เว้นเสียแต่คำสาปประจำตระกูล ที่บอกไว้ว่าหวังเป่าเล่อจะต้องตายหากเขาไม่ผอมลงก่อนอายุสามสิบปี!! ในเมื่อบรรพบุรุษร่างจ้ำม่ำมายืนรอให้เขาไปอยู่ด้วยขนาดนี้ ชายหนุ่มจึงต้องทั้งฝึกตนและลดน้ำหนักไปพร้อมๆ กัน!

Options

not work with dark mode
Reset