หนึ่งฝ่ามือสยบโลกา – บทที่ 968 หนึ่งการอนุญาต!!

ดวงตาของหวังเป่าเล่อทอประกายประหลาด หลังจากเขาพึมพำแล้วพลันสายตาก็ส่องประกายเจิดจ้า หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง เขาก็เอ่ยปาก

“ให้ปณิธานแห่งเต๋าสาบานข้านี้เป็นพยาน ข้าอนุญาตให้พวกเจ้าทั้งเก้าดาราหลอมเป็นหนึ่ง กลายเป็นดาวเคราะห์เต๋าสูงสุด”

คำพูดนี้เมื่อกล่าวออกไป ดวงดาวทั้งเก้าพลันเปล่งแสงรุนแรงเจิดจ้า แสงดารากระพริบระยับสว่างทั้งฟากฟ้า ทั้งนภามีแสงอัสนีแผ่ออกทั้งผืนพร้อมกับเสียงแห่งสายฟ้าดังคำรามไม่หยุดไปทั่วนครดาวตก นอกจากนี้ยังมีลมพายุคลั่งพัดโหมข้ามแดนดิน ลมพายุนี้กลับไม่ได้ทำอันตรายสิ่งมีชีวิตและพืชพรรณใดๆ ราวกับว่าจุดประสงค์ที่มันปรากฏตัวก็เพื่อตอบรับปณิธานอันยิ่งใหญ่ของหวังเป่าเล่อ และตอบสนองคำขอแห่งมวลดาราทั้งเก้านี้!

ก็เป็นเช่นนี้ แม้ปณิธานแห่งเต๋าสาบานจะนำพาปรากฎการณ์พิเศษมา ทว่ามันก็ยังไม่เพียงพอ เพราะหวังเป่าเล่อในยามนี้อ่อนแอ ทั้งด้านพลังฝึกปรือและโชควาสนา หากอยากให้เกิดปรากฏการณ์สั่นคลอนดวงดาราทั้งจักรพิภพดาราไม่รู้สิ้นนี้ และขีดเขียนกฎแห่งจักรวาลเรื่องใหม่ เกรงว่าจะยังทำไม่ได้ ดังนั้นแล้วจึงไม่ต้องไปพูดถึงเรื่องอนุญาตให้ดาวทั้งเก้าหลอมรวมเป็นดาวเคราะห์เต๋าด้วยซ้ำ นอกเสียแต่ว่า…ท่านผู้เยี่ยมยุทธ์ทั้งหลายในตอนนี้จะยินยอมมาเป็นพยานและให้ความยินยอมกับพวกมันก่อน!

ยิ่งเป็นสักขีพยานที่แข็งแกร่งมากเท่าใด ก็จะยิ่งทำให้ปณิธานแห่งเต๋าสาบานของหวังเป่าเล่อก่อผลกระทบต่อกฎจักรวาลได้มากขึ้น และหากได้รับพลังเสริมในขอบข่ายวิถีเต๋า ไม่ว่าจะเป็นระดับใด…ก็จะเป็นโอกาสและวิธีการเดียวในการเลื่อนระดับจากดาวเคราะห์พิเศษเป็นดาวเคราะห์เต๋าของพวกมัน!

ต้องได้รับความยินยอมมากเพียงพอ คือกฎหนึ่งเดียวของการก่อกำเนิดนี้!

ดังนั้นแล้วในยามนี้เอง จักรพรรดิแห่งนครดาวตกที่ยืนอยู่ในรั้ววังพลันมีประกายตาเร้นลับวาบผ่าน เขาเอ่ยปากด้วยน้ำเสียงดังก้องทั่วฟ้า

“อนุญาต!”

ด้วยพลังฝึกปรือแห่งตัวจักรพรรดิเอง และอำนาจบารมีแห่งเขา เมื่อคำพูดนี้สะท้อนออกไป ก็หมายถึงการที่เขายินยอมรับผลที่ตามมา ยินยอมเป็นพยานให้แก่ปณิธานแห่งเต๋าของหวังเป่าเล่อ และยิ่งยินยอมเป็นผู้อนุญาตให้ดาราทั้งเก้าหลอมรวมเป็นหนึ่ง!

ดังนั้นแล้วหลังจากคำพูดนี้ถ่ายทอดออกไป ฟ้าดินสั่นคลอนรุนแรงกว่าเก่า ร่างกายของจักรพรรดิพลันสั่นสะท้านทันทีแบกรับรับผลสะท้อนที่ตามมา แต่สิ่งนี้กลับทำให้ทางหวังเป่าเล่อเหมือนได้รับพลังเสริม พลังแห่งปณิธานเต๋าสาบานของเขาระเบิดพร่างในพริบตา ส่งผลให้เหล่าดาวเคราะห์บรรพกาลทั้งเก้าในยามนี้ หลังจากส่องแสงสุดกำลังที่พวกมันมีแล้ว แสงทั้งหลายบนร่างของพวกมันต่างเริ่มแสดงสภาวะหลอมรวมกันในขั้นต้นแล้ว!

การเลื่อนระดับในครั้งนี้ คือการหลอมรวมอันเท่าเทียม หากว่าล้มเหลว สำหรับพวกมันแต่ละดวง ผลสะท้อนกลับนั้นอาจรุนแรงสุดขีด แม้ไม่ถึงกับสิ้นดาวแต่ก็หมดโอกาสในการเลื่อนระดับเป็นดาวเคราะห์เต๋า!

แต่เห็นได้ชัดว่าในยามนี้…อาศัยเพียงแค่การยอมรับจากจักรพรรดิดาวตกนั้นไม่เพียงพอให้พวกมันยกระดับ นี่ย่อมไม่พอแน่นอน เพราะว่าพวกมันคือดวงดาวเก้าดวง ไม่ใช่เพียงดวงหนึ่ง ดังนั้นการยอมรับและการเลื่อนระดับของพวกมันนั้น ยิ่งยากขึ้นกว่าของดาวดวงอื่นๆ อาจจะกล่าวได้ว่าความยากในการเลื่อนระดับนี้ ยกระดับไปถึงขั้นที่ยากจะจินตนาการได้เลย!

ในเวลานี้เอง ท่ามกลางริ้วลอยกระเพื่อมบนฟากฟ้า กระดาษรูปมนุษย์บนลานทั้งหมด แล้วยังมีเหล่าผู้ฝึกตนนครดาวตกที่อยู่รอบนอก ก็พร้อมใจกันเอ่ยด้วยเสียงลมหายใจกระชั้น

“อนุญาต!”

ฟ้าดินพลันหมุนเปลี่ยนฉับพลัน เสียงดังกังวานหยุดชะงัก คราวนี้แสงแห่งดวงดาวทั้งเก้าพลันรุนแรงขึ้น ปรากฎการณ์หลอมรวมของดวงดาวเริ่มเห็นเด่นชัดกว่าเก่า ในเวลาเดียวกัน กลางทะเลกระดาษสีดำ ต้นตระกูลแห่งกระดาษรูปมนุษย์ซึ่งกำลังนั่งขัดสมาธิอยู่พลันลืมตาขึ้น หลังจากที่มองทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในนครดาวตก เขาก็ถอนหายใจคราหนึ่ง ก่อนจะค่อยๆ เอ่ยปาก

“อนุญาต!”

หลังคำพูดนี้เอ่ยออกไป เสียงของเขาก็ประสานรวมกับเสียงของผู้ฝึกตนทั้งหมดในนครดาวตก ในพริบตาที่เสียงดังสะท้อน ความหมายแห่งคำว่า “อนุญาต” ที่ออกมานี้ไม่ใช่เพียงแค่เจตนาของหมู่ผู้ฝึกตนแต่อย่างเดียว แต่…ยังเจือด้วยเสียงแห่งโชคของอาณาจักรดาวตกเองด้วย!

นี่คือการใช้โชคแห่งนครดาวตกมาเป็นสักขีพยาน!

เมื่อมีแรงหนุนจากโชคแห่งอาณาจักรแล้ว ท่ามกลางเสียงฟ้าดินโห่ก้อง รอบด้านหวังเป่าเล่อก็มีลมพายุก่อเกิด ปรากฏการณ์นี้กลับทวีความรุนแรง พลังแห่งปณิธานแห่งเต๋าสาบานเพิ่มขึ้นไม่หยุด แสงแห่งดวงดาวทั้งเก้าอันเจิดจรัสเองก็เริ่มหลอมรวมกันได้มากขึ้น แต่ว่ามันยังคงไม่พอเหมือนเดิม!

ฉากที่เกิดขึ้นนี้ยังไม่สิ้นสุด นอกเหนือจากโชคเสริมแห่งอาณาจักรดาวตกแล้ว ยังมีปณิธานแห่งดาวดวงนี้ ภายหลังจากเสียงแห่งโชคของอาณาจักรดังสะท้อนขึ้น เจตจำนงแห่งโลกใบนี้ก็แปรผันส่งเสียงบ้าง และสิ่งที่ปรากฎออกมาก็คือจิตวิญญาณแห่งสรรพชีวิตทั้งมวล!

“อนุญาต!”

ในพริบตานี้เอง คลื่นพลังอันยิ่งใหญ่ที่ไม่เคยพบมาก่อนในนครดาวตกก็บังเกิดขึ้น หากมองจากมุมมองสูงลงมา ก็จะเห็นว่าคลื่นพลังนี้รายล้อมอยู่รอบตัวหวังเป่าเล่อ ทำให้พายุคลั่งรอบกายของเขาตอนนี้รุนแรงราวกับสามารถกวาดทั้งแดนดินนี้ได้หมด!

ในเวลานี้เอง มหาสมุทรแสงดาราทั้งเก้าก็ขยายตัวมากขึ้น ยามนี้บรรดาแสงทั้งหมดหลอมตัวเป็นลักษณ์เดียวแล้ว ในขณะเดียวกัน ร่างดาราของพวกมันก็ค่อยๆ เคลื่อนเข้าใกล้กัน คล้ายกำลังจะเกิดปรากฏการณ์ดาราคราสหลอมรวม!

นี่คือการหลอมรวมจากคำอนุญาตทั้งมวลในจักรพิภพดาวตก ในส่วนของดาวเคราะห์เต๋าที่อยู่ในร่างแม่สาวกระพรวนนั้น แต่ก่อนมันก็เลื่อนระดับได้เพราะได้รับคำอนุญาต แต่ว่าในสถานการณ์เดียวกันนี้…เหมือนกับว่าคำอนุญาตทั้งหลายเหล่านี้ ยังคงไม่เพียงพอที่จะให้ดวงดาวทั้งเก้าดวงหลอมเป็นหนึ่งได้ ทำให้ความเร็วในการหลอมของพวกมัน ค่อยๆ ช้าลง และสุดท้ายถึงกับยังคงไม่พออยู่นั่นเอง

เห็นชัดว่าดาวเคราะห์เต๋าที่เกิดจากการเลื่อนระดับหลอมรวมของดวงดาวทั้งเก้าดวงนั้น หากทำสำเร็จได้จริง ความสามารถของมันคงจะเหนือกว่าดาวเคราะห์เต๋ากระดาษนัก!

ระดับไม่เหมือนกัน ดังนั้นย่อมมีเงื่อนไขแตกต่างกันด้วย!

หัวใจผู้คนปั่นป่วน หวังเป่าเล่อเองก็หอบหายใจกระชั้น ทุกสิ่งตรงนี้…ยังไม่จบลง เพราะว่าพยานผู้รับรู้นั้น ยังคงเหลือผู้เยี่ยมยุทธ์ท่านอื่นๆ อยู่อีก!

ในเวลานี้เองนอกนครดาวตก ในเขตของดาราจักรไม่สิ้นสุด ท่ามกลางวังน้ำวนขนาดยักษ์แห่งหนึ่ง เฉินชิงจื่อซึ่งกำลังโอบล้อมฆ่าฟันกองกำลังกบฏแห่งจักรพรรดิสวรรค์เดือนแยกอย่างโหดเหี้ยมอยู่นั้น เขากวาดกระบี่ยาวในมือสังหารเหล่าเซียนดาราไม่รู้สิ้นจำนวนมาก ระหว่างนี้ลมก็พัดเส้นผมสีดำของเขาให้ลอยขึ้น เขาพลันแหงนหน้า นัยน์ตาเจิดจรัสคู่นั้นมองลึกเข้าไปสุดกู่ เขม็งมองท้องฟ้าราตรีที่มืดมิดแล้วส่งจิตสัมผัสอยู่นานครู่หนึ่ง ก่อนจะเผยรอยยิ้ม

“อนุญาต!”

ในฐานะผู้ที่ต่อกรกับจักรพรรดิสวรรค์ได้ และกระทั่งฆ่าผู้ฝึกตนมากฝีมือของอีกฝ่ายได้ เขาย่อมมีสิทธิ์ในการสร้างผลกระทบต่อกฎจักรวาลและสร้างผลกระทบอย่างรุนแรงมากด้วย โชควาสนาของเขาอยู่ในขั้นที่สะเทือนฟ้าดิน เช่นนี้แล้วการอนุญาตจากเขาจึงมีค่าเหนือสิ่งใด!

ดังนั้นเมื่อคำพูดนี้ประกาศออกไป ก็เหมือนน้ำมันที่ราดลงกองเพลิง ในพริบตานั้นเอง ราวกับฝูงพายุคลั่งรอบตัวหวังเป่าเล่อจะหลุดพ้นข้อจำกัดบางสิ่ง พวกมันพัดกระจายไปสู่พื้นที่นอกพิภพ พูดไปแล้วลมพายุนี้ก็มิใช่สิ่งที่ใครๆ จะมองเห็นได้ ผู้ที่สัมผัสได้มีเฉพาะหวังเป่าเล่อและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเท่านั้น!

หวังเป่าเล่อเองเหมือนจะได้ยินเสียงของเฉินชิงจื่อดังมาจากความมืดมิด ท่ามกลางหัวใจที่เต้นกระหน่ำนั้น เขามองดูดาวเคราะห์ทั้งเก้า ในพริบตาพลังของพวกมันก็กลับมาอีกครั้ง และเริ่มหลอมรวมร่างจริงของมันอย่างรวดเร็ว

ขณะนี้ การหลอมรวมดำเนินไปได้ประมาณสามส่วนแล้ว ทำให้ท้องฟ้ามีเสียงก้อง หมู่ดาราทอแสงจรัส เหมือนมีกฎเกณฑ์มากมายกำลังเปลี่ยนแปลงไปเพราะดาวบรรพกาลทั้งเก้าดวงนี้!

และในระหว่างที่พวกมันกำลังหลอมรวมอยู่ข้างกายหวังเป่าเล่อ พริบตาที่ลมพายุพัดกระหน่ำออกนอกจักรพิภพดาวตก กลับมีเสียงชราคุ้นหูเสียงหนึ่งดังอยู่ข้างหูของเขา

“อนุญาต!” ในเขตจักรพิภพดาราไม่รู้สิ้น จักรพิภพศักดิ์สิทธิ์แห่งเต๋าฝั่งซ้าย สถานที่พิเศษอันเป็นเอกเทศที่ถูกจัดแยกออกมาแห่งหนึ่ง เพลิงพวยพุ่งทั่วทุกพื้นที่ ปรมาจารย์แห่งไฟแหงนหน้าขึ้นมองฟ้า ใช้น้ำเสียงชราหนักแน่นยืนยันปณิธานแห่งเต๋าของหวังเป่าเล่อ และนี่คืออีกหนึ่งแรงเสริมซึ่งทำให้พายุพัดโหมหนักกว่าเก่า คำรับเป็นสักขีพยานของเขาและเฉินชิงจื่อ ก่อให้เกิดผลกระทบครั้งใหญ่แก่กฎจักรวาลแห่งเขตพิภพดาราไม่รู้สิ้น ทำให้ในยามนี้ พายุคลั่งรอบตัวหวังเป่าเล่อ เหมือนปรากฎร่องรอยกฎแห่งจักรวาล วับแวมเสมือนหนึ่งซ่อนตัวเสมือนหนึ่งเผยร่าง!

เมื่อกฎแห่งจักรพิภพเหล่านี้ปรากฏ ก็เป็นสัญญาณแรกสำหรับเหล่าดาวทั้งเก้าที่กำลังหลอมรวมกันอยู่นั้น แม้ว่าในยามแรกแสงนั้นก็สว่างเจิดจ้ามากพออยู่แล้ว แต่ในพริบตาที่พวกมันหลอมรวมกันได้ ก็คล้ายกับว่าแสงจะส่องรุนแรงกว่าเดิมสามถึงห้าเท่า!

แต่ต่อให้เป็นเช่นนี้ พวกมันก็ยังรู้สึกว่าแรงหนุนนั้นไม่เพียงพอ การอนุญาตนี้ยังมีไม่มากพอ…นอกจากจะแสดงให้เห็นถึงระดับความยากในการเป็นดาวเคราะห์เต๋าของพวกมันแล้ว ยังแสดงถึงอีกเรื่อง…ซึ่งก็คือ…ดาวเคราะห์เต๋าที่พวกมันกำลังจะก่อกำเนิด เกรงว่าจะมีพลังขั้นสูงสุด อีกทั้งยามเมื่อกฎของพวกมันหลอมรวมออกมาจนเป็นอัตลักษณ์แห่งกฎเพียงหนึ่งเดียวได้ เกรงว่าพวกมันจะยิ่งน่าหวาดหวั่นกว่าเก่าอีก!

ครั้นเห็นว่าตอนปลายพลังเริ่มแผ่ว อีกทั้งแสงแห่งดาวเคราะห์ทั้งเก้าค่อยๆ หม่นลงเรื่อยๆ หวังเป่าเล่อก็จมกับความเงียบ แต่ในพริบตาถัดมาดวงตาของเขาก็ฉายแววไม่ยินยอม เขาสูดลมหายใจกระชั้นเข้า จิตใต้สำนึกของเขานั้น กำลังท่อง…คัมภีร์เต๋า!

“เปรียบศิลาจารึกวีรชน…”

“เส้นทางแห่งเต๋าสยบฟ้า…”

“ต่างเริ่มต้นด้วยการข้ามผ่านด่านเคราะห์มากล้น…”

“จิตมุ่งมั่นที่จะสลัดทิ้งจากหุบเหว…”

“ทุ่มเทเกียรติยศทุกสิ่งบนเส้นทางฝึกปรือ…”

เมื่อมีคัมภีร์เต๋านี้มาเสริม ฟ้าดินพลันแปรผลัน ดวงดาวสั่นสะท้าน เขตดาราจักรบังเกิดเสียงก้อง

พลังสายหนึ่งแล่นมาจากนอกแดน เจตจำนงปรากฏจากฟากฟ้าดาราห่างไกล สิ่งที่รุดมาถึงในพริบตานี้ถึงกับเป็น…พลังบ่มเพาะศักดิ์สิทธิ์จากนอกอาณาเขต

นอกอาณาเขตดาราไม่สิ้นสุด สถานที่ซึ่งตั้งอยู่ลึกเข้าไปจนไม่มีใครรู้จัก ในความว่างเปล่าแห่งหนึ่ง บัดนี้ปรากฏดวงตาคู่หนึ่งค่อยๆ ลืมขึ้น ยามนี้มองไม่เห็นเค้าหน้าชัด เพียงเห็นแต่ศีรษะสีขาวโพลน ซึ่งเหมือนกับธาราดาราในจักรวาล หลังจากที่ดวงตาทั้งสองถูกเปิดแล้ว เขาเงียบไปอยู่ครู่ ก่อนจะเอ่ยนิ่งๆ

“อนุญาต!”

เมื่อกล่าวคำพูดนี้ถูกกล่าวออกไป ก็เปรียบได้กับเสียงแห่งกฎ ราวกับว่านี่คือกฎแห่งจักรวาล ราวกับว่าคำพูดนี้คืออาณัติ และราวกับเขาได้ประสาทพรให้ด้วยตนเอง!

คำพูดนี้เมื่อมาถึงข้างหูของหวังเป่าเล่อ ขุมปณิธานแห่งเต๋าสาบานของเขาก็พลันระเบิดพลังในระดับขั้นที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน โดยไม่ครั้นคร้ามต่อกฎแห่งจักรวาลใดๆ พริบตานั้นพลันก่อกำเนิดเป็นกฎใหม่ ขณะเดียวกันดาวเคราะห์บรรพกาลทั้งเก้าดวงเบื้องหน้าเขาก็สั่นเทารุนแรงสุดขีด พวกมันกำลังบ่มเพาะอย่างตื่นเต้น ร่างกายของพวกมันที่ตอนแรกหลอมรวมกันได้ห้าส่วนแล้ว ในพริบตานั้น…ถึงกับกลายเป็นสิบส่วนในทันที!

หลังจากระเบิดแสงสีที่มีอำนาจกลบฟ้า ท่ามกลางแสงที่เหล่าดาราเร่งขึ้นเพื่อทำการคำนับ ดาวเคราะห์บรรพกาลทั้งเก้าหลอมรวมกันเป็นหนึ่ง กลายเป็นวัตถุทรงกลมสีสว่างที่เรืองแสงเก้าแฉก มันลอยอยู่เบื้องหน้าหวังเป่าเล่อ ท่าทางเหมือนน้อมศิโรราบ จากนั้นก็ลอยเข้าสู่ฝ่ามือของเขา!

นี่ก็คือ…ดาวเคราะห์เต๋าอมตะ!

ในยามนี้ ทุกชีวิตของจักรวรรดิดาวตก ล้วนคำนับให้มัน!

ในยามนี้ เหล่ามวลดารานอกจักรพิภพทั้งมวล ล้วนแต่สั่นสะท้าน!

ในยามนี้ ในอาณาเขตมากมายไม่รู้จบของจักรพิภพดาราไม่รู้สิ้น กฎแห่งจักรวาลผันเปลี่ยน ต้องเริ่มวางกระดานใหม่!

เพราะว่าในยามนี้…ใต้หล้านั้นมีกฎแห่งเต๋าดวงใหม่ก่อกำเนิด และเป็นกฎอันเป็นอัตลักษณ์หนึ่งเดียวของดาวดวงนี้ และเป็นกฎของ…หวังเป่าเล่อผู้เดียวเท่านั้น!

หนึ่งฝ่ามือสยบโลกา

หนึ่งฝ่ามือสยบโลกา

นิยายกำลังภายใน แปลจีน จากนักเขียนขายดีตลอดกาล ‘เอ่อร์เกิน’ กับตัวเอกแปลกใหม่ ไม่มีใครเหมือน! บังอาจดูถูกความหล่อเหลาของข้า จงเรียกข้าว่า ‘บิดา’ แล้วข้าจะไว้ชีวิตเจ้า! ค.ศ. 3029 วิทยาการบนโลกมนุษย์พัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว จนแต่ละประเทศไม่มีเขตพรมแดนกั้นอีกต่อไป โลกได้ผสานรวมกลายเป็นหนึ่งเดียว เริ่มต้นยุคสมัยแห่งสหพันธรัฐ ตอนนั้นเอง กระบี่ยักษ์เล่มหนึ่งตกลงมาจากห้วงอวกาศปักเข้าใจกลางดวงอาทิตย์ แรงกระแทกนั้นทำให้ฝักกระบี่แตกออกเป็นเศษชิ้นส่วนและกระจัดกระจายไปทั่วทั้งจักรวาลรวมถึงบนโลก ก่อให้เกิดแหล่งพลังงานรูปแบบใหม่อันไร้ขีดจำกัดขึ้นบนโลกในบัดดล พลังงานนี้มีชื่อเรียกกันว่า ‘ปราณวิญญาณ’ เมื่อสหพันธรัฐและขุมอำนาจอื่นๆ เริ่มออกรวบรวมเศษชิ้นส่วนต่างๆ พวกเขาก็ได้รู้ถึงเคล็ดวิชาการฝึกตน การหลอมโอสถ การหลอมศิลาวิญญาณ และเคล็ดวิชาพิสดารนานัปการ ตัวอักขระที่จารึกอยู่บนเศษชิ้นส่วนเหล่านั้นล้วนเก่าแก่ยิ่งนัก นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ผู้คนกลับมานิยมใช้ภาษาจีนโบราณกันอีกครั้ง การถือกำเนิดของปราณวิญญาณ ทำให้แหล่งพลังงานรูปแบบเดิมตกยุค และได้เปลี่ยนวิถีชีวิตของมนุษย์โลกไปโดยสิ้นเชิง ไม่เพียงแต่เครือข่ายวิญญาณจะได้รับการคิดค้นขึ้นมา แต่ปราณวิญญาณยังพลิกโฉมอารยธรรมมนุษย์ นำพาโลกเข้าสู่ยุคสมัยแห่งการฝึกตน ซึ่งต่อมารู้จักกันในนามว่ายุคกำเนิดวิญญาณ หวังเป่าเล่อ หนุ่มร่างท้วมผู้ทะเยอทะยาน ใฝ่ฝันจะได้เป็นผู้นำสหพันธรัฐ ด้วยหวังว่าจะไม่มีใครมารังแกเขาได้อีกต่อไป ชายหนุ่มศึกษาอัตชีวประวัติของเจ้าพนักงานสหพันธรัฐจนขึ้นใจ และเมื่อเดินทางเข้ามาศึกษาในสำนักศึกษาเต๋าศักดิ์สิทธิ์ เขาก็ใช้ความรู้เหล่านั้นบวกกับความ ‘หน้าหนาหน้าทน’ ของตัวเอง วางกลยุทธ์อันฉลาดล้ำกำราบศัตรูคนแล้วคนเล่า ใครหน้าไหนก็ไม่อาจมาขัดขวางเส้นทางสู่การเป็นหนึ่งในใต้หล้าของชายอ้วนผู้นี้ได้ …เว้นเสียแต่คำสาปประจำตระกูล ที่บอกไว้ว่าหวังเป่าเล่อจะต้องตายหากเขาไม่ผอมลงก่อนอายุสามสิบปี!! ในเมื่อบรรพบุรุษร่างจ้ำม่ำมายืนรอให้เขาไปอยู่ด้วยขนาดนี้ ชายหนุ่มจึงต้องทั้งฝึกตนและลดน้ำหนักไปพร้อมๆ กัน!

Options

not work with dark mode
Reset