หนึ่งฝ่ามือสยบโลกา – บทที่ 461 เปลี่ยนความฝันให้เป็นความจริง!

บทที่ 461 เปลี่ยนความฝันให้เป็นความจริง!

สำนักแห่งความมืดที่มีมาแต่โบราณกาลพรั่งพร้อมด้วยเคล็ดเวทและกระบวนเวททรงพลังมากมาย และนิมิตมืดก็เป็นหนึ่งในนั้น!

การใช้ต้นกำเนิดแห่งเต๋าภายในกายของผู้ใช้เวทในการสร้างดินแดนแห่งความฝันเพื่อบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ  เพื่อจะถ่ายทอดเคล็ดเวทและข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับสำนักให้ รวมถึงจัดสรรสภาพแวดล้อมให้หวังเป่าเล่อบรรลุขั้นปราณได้สำเร็จ ทั้งหมดนั้นใช้พลังปราณมืดในการสรรค์สร้าง… โดยปราณมืดนั้นมาจากต้นกำเนิดแห่งเต๋าภายในกายหมิงคุนจื่อทั้งสิ้น!

ด้วยเหตุนี้… แม้หวังเป่าเล่อจะบรรลุขั้นปราณในความฝัน เมื่อเขากลับสู่โลกแห่งความเป็นจริง พลังปราณมืดจำนวนมากจะสะสมอยู่ภายในวิญญาณของเขาเพื่อส่งให้เขาบรรลุขั้นปราณในชีวิตจริงได้ จึงเป็นเหตุว่าเมื่อชายหนุ่มตื่นขึ้น เปลวไฟสีดำภายในกายเขาก็เพิ่มจำนวนขึ้นเป็นแปดสิบเอ็ดดวงโดยอัตโนมัติ และเริ่มซ้อนทับกันเป็นชั้นๆ ก่อนอัดแน่นรวมกันเป็นแก่นใน!

การบรรลุปราณในโลกแห่งความจริงนี้ เป็นปรากฏการณ์เดียกับตอนที่หวังเป่าเล่อบรรลุปราณในโลกแห่งความฝัน พลังปราณในกายของชายหนุ่มพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ พลังนั้นระเบิดออกจากภายในกาย ทันทีที่แก่นในแห่งความมืดก่อตัวเป็นรูปเป็นร่างเรียบร้อย!

พลังปราณมืดจำนวนมากระเบิดออกไปทุกทิศทางหลังจากที่แก่นในแห่งความมืดปรากฏขึ้น ราวกับเป็นมหาสมุทรกว้างใหญ่ที่ไหลบ่าเข้าท่วมเส้นปราณทั่วร่างของหวังเป่าเล่อ เสียงปะทุดังก้องขึ้นทุกครั้งที่กระแสพลังงานไหลเข้าภายในกายเขา เส้นปราณของหวังเป่าเล่อพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็วจนน่าสะพรึงกลัว!

พลังที่แก่กล้ายิ่งกว่าตอนที่เขาสัมผัสได้ในความฝันก่อตัวขึ้นรุนแรงภายในกาย เสียงระเบิดดังก้องเหมือนสายฟ้าฟาดสะท้อนไปทั่วความมืดมิดรอบกาย หวังเป่าเล่อตัวสั่นไม่หยุด ขณะที่เสียงปะทุดังถี่ราวกับเสียงฟ้าร้อง ความเปลี่ยนแปลงของร่างกายอันเนื่องมาจากการบรรลุขั้นปราณก่อตัวเด่นชัดขึ้นทั่วร่างของเขา ปราณมืดพวยพุ่งออกจากร่างที่กำลังนั่งขัดสมาธิอยู่บนเรือ จนทำให้เกิดภาพที่น่าพรั่นพรึง

ปราณมืดยังคงแผ่ขยายไปทั่วบรรยากาศ และเริ่มเผาไหม้เปลี่ยนสภาพไปเป็นไฟเย็นที่กระจายไปทั่วบริเวณ น้ำวนอุบัติขึ้นโดยมีหวังเป่าเล่ออยู่ที่ตาพายุ น้ำวนเกรี้ยวกราดนั้นคำรามก่อนหมุนวนรุนแรง เส้นผมของชายหนุ่มพัดไสวแม้ไร้ลม หวังเป่าเล่อดูเหมือนเทพเจ้าแห่งความตายที่ปรากฏกายขึ้นพร้อมภัยพิบัติไม่มีผิด!

ร่างอ้วนกลมของเขาผ่ายผอมลงเล็กน้อย ก่อนเริ่มปล่อยอำนาจออกมาจางๆ รังสีอำนาจและกระแสพลังงานที่ระเบิดออกจากกายล้ำหน้าพลังขั้นรากฐานตั้งมั่นไป เขารู้ว่าตนเอง… ไม่ได้เป็นผู้ฝึกตนขั้นรากฐานตั้งมั่นอีกต่อไปแล้ว หากแต่เป็น… ผู้ฝึกตนขั้นกำเนิดแก่นใน!

หวังเป่าเล่อไม่จำเป็นต้องตรวจสอบอย่างละเอียด เขารู้สึกว่าภายในจุดตันเถียน เหนือดอกบัวสีเขียวที่ผสานรวมเป็นหนึ่งเดียวกับเมล็ดแห่งการดูดกลืน มีดอกไม้ตูมดอกใหม่… กำเนิดขึ้น!

ดอกไม้ตูมนี้ปรากฏขึ้นในเวลาเดียวกันกับที่แก่นในแห่งความมืดก่อเป็นรูปร่าง และเบ่งบานกลายเป็นดอกบัวทันที กลีบของมันเริ่มร่วงโรย จนทำให้ปราณมืดปริมาณมหาศาลพวยพุ่งออกมา เมื่อกลับดอกร่วงหล่นและปลิวหายไป ตรงกลางดอกปรากฏเป็น…

ดอกบัว

ดอกบัวสีเขียวดอกหลักมีฝักเพียงฝักเดียวเท่านั้น ฝักบัวสร้างเม็ดบัวได้ และยังปล่อยพลังปราณอ่อนๆ ออกมาด้วย แต่บัดนี้… ดอกบัวดอกที่สองปรากฏขึ้นเป็นที่เรียบร้อย ดอกบัวดอกนี้หน้าตาไม่เหมือนดอกบัวดอกแรก มันมีสีดำและปล่อยปราณมืดออกมา ทั้งยังเรืองแสงประหลาดด้วย หากเพ่งมองใกล้ๆ … จะเห็นว่าดอกบัวดอกนี้มีแก่นในแห่งความมืดของหวังเป่าเล่อฝังอยู่!

แก่นในแห่งความมืดในดอกบัวดอกที่สองส่งพลังรุนแรงเจิดจ้าเหมือนดวงอาทิตย์ออกมาพลังนั้นยิ่งใหญ่กว่าดอกบัวดอกแรกมากนัก!

ราวกับว่าเป็นดอกบัวที่มีคุณภาพต่างกัน!

การเปลี่ยนแปลงอันแสนแปลกประหลาดภายในกายของหวังเป่าเล่อยังไม่หยุดเพียงเท่านั้น ชายหนุ่มรู้สึกได้ว่าดอกบัวดอกที่สามกำลังจะงอกออกมาข้างๆ ดอกบัวดอกที่สอง!

ดอกบัวดอกที่สามนี้อัดแน่นด้วยสายฟ้ามากมาย แต่ดูเหมือนจะยังขาดอาหารบำรุงไปบ้างจึงยังไม่เบ่งบาน แต่ชายหนุ่มรู้ว่าเมื่อใดที่ดอกบัวดอกที่สามบาน ในกายของชายหนุ่มจะมีดอกบัวทั้งหมดถึงสามดอกด้วยกัน!

ดอกหนึ่งคือแก่นในแห่งความมืด อีกดอกหนึ่งคือ… แก่นในแห่งอัสนี หากเป็นเช่นนั้น ดอกบัวสีเขียวนี่คือสิ่งใดกันแน่นะ… ความคิดของหวังเป่าเล่อยังคงไม่แจ่มชัดนัก คำถามมากมายผุดขึ้นในใจตามสัญชาตญาณ หลังจากที่ชายหนุ่มพิจารณาดูว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง

แต่เขาก็ไม่ได้จมอยู่กับความคิดนี้นานนัก เมื่อจิตของเขาตื่นขึ้นเต็มที่ เรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นในนิมิตมืดก็พรั่งพรูเข้ามาในสมอง ชายหนุ่มตัวสั่นเทา ลมหายใจสะดุด

นิมิตมืด… สำนักแห่งความมืด! หวังเป่าเล่อก้มหน้า ความรู้สึกซับซ้อนมากมายหมุนวนอย่างบ้าคลั่งในจิตใจ เมื่อคิดได้ว่าตนเองได้รับรู้เหตุการณ์การล่มสลายของสำนักแห่งความมืดกับตาตนเองก่อนที่จะจากนิมิตมืดมา สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเหมือนเวลานับอนันต์ที่บีบอัดเหลือเพียงเสี้ยววินาทีเดียว จากนั้นก็ผ่านพ้นไป หวังเป่าเล่อไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นต่อจากนั้น เนื่องจากไม่มีข้อมูลมากพอ ชายหนุ่มนั่งเงียบอยู่บนเรือน้อย จากนั้นก็หยิบหน้ากากนิลออกมาโดยไม่ลังเล!

“แม่นางน้อย..” หวังเป่าเล่อกระซิบเข้าไปในหน้ากากด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อย

“เจ้าบอกข้าเรื่องวิชาแห่งศาสตร์มืดและสำนักแห่งความมืดได้หรือไม่…” หวังเล่อพูดเสียงต่ำ หน้ากากนิลกะพริบแสง หลังจากเวลาผ่านไปสักพัก เสียงของแม่นางน้อยก็สะท้อนขึ้นมาในใจเขา

“หลังจากที่เจ้าหลับใหล ดวงจิตของเจ้าก็หายไป…”

“ข้ากลับไปที่สำนักแห่งความมืด…” หวังเป่าเล่อพึมพำ สิ่งที่เขาพูดทำให้แม่นางน้อยเงียบไป เวลาผ่านไปอีกพักใหญ่ เสียงของแม่นางน้อยที่เจือความเหนื่อยอ่อนก็ก้องอยู่ในจิตของหวังเป่าเล่อ

“บันทึกทางประวัติศาสตร์ของสำนักแห่งความมืดของเราขาดหายไปหลังจากที่สำนักล่มสลาย จึงทำให้ชนรุ่นหลังทำได้เพียงคาดเดาถึงสิ่งที่เกิดขึ้นต่อจากนั้น จากหลักฐานที่หลงเหลืออยู่ ดูเหมือนว่าการล่มสลายของสำนัก… จะเกี่ยวข้องกับตระกูลไม่รู้สิ้น!”

“ข้าไม่ใช่สายตรงของสำนักแห่งความมืด ข้าไม่รู้หรอกว่าจริงๆ แล้วเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แต่จากหลักฐานอันน้อยนิดที่เหลืออยู่ บ่งชี้ว่าการล่มสลายของสำนักแห่งความมืดเกิดขึ้นเพราะมีหนอนบ่อนไส้ในสำนัก…” ถึงตอนนี้เสียงของแม่นางน้อยก็ขาดหายไป นางพูดช้าลงเรื่อยๆ ราวกับกำลังพยายามย้อนนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตไกลแสนไกล หรือไม่ก็กำลังคิดอยู่ว่าจะเล่าต่อไปอย่างไรดี

แต่ก่อนที่แม่นางน้อยจะนึกออกว่าเกิดอะไรขึ้นต่อจากนั้น หวังเป่าเล่อก็เงยหน้าขึ้นมาโดยฉับพลัน ลมหายใจแทบหยุดนิ่ง

“ข้าว่าแล้วเชียว! ข้าเข้าใจแล้วแม่นางน้อย! ตระกูลไม่รู้สิ้นควบคุมอำนาจแห่งชีวิต ส่วนสำนักแห่งความมืดควบคุมอำนาจแห่งการเวียนว่ายตายเกิด และท่องไปทั่วจักรวาลเพื่อตามหาดวงวิญญาณตามเจตจำนงของเต๋าสวรรค์ มหาสงครามระหว่างอำนาจเต๋าแห่งชีวิตและเต๋าแห่งความตาย จบลงที่ความพ่ายแพ้และการล่มสลายของสำนักแห่งความมืด อาจารย์ข้าถึงได้พูดออกมาว่า… เต๋าสวรรค์ถึงจุดจบ… ส่วนคนทรยศนั้น ข้าไม่รู้ว่าท่านผู้อาวุโสสูงสุดคนอื่นๆ ปกครองศิษย์ของตนอย่างไร แต่หากคนทรยศอยู่ภายใต้การปกครองของอาจารย์ข้าแล้วละก็ คนทรยศนั้น… จะต้องเป็น… ศิษย์พี่ของข้าอย่างแน่นอน”

“หา?” แม่นางน้อยตัวแข็งทื่อ หากนางปรากฏกายอยู่ต่อหน้าหวังเป่าเล่อ สีหน้าของนางคงแสดงชัดว่างุนงงอย่างที่สุด หลังจากนั้นสักพักนางก็กระแอมกระไอออกมา แต่ก็ไม่ได้พูดสิ่งใดต่อ

หวังเป่าเล่อยังคงพึมพำกับตัวเอง เขารวมเรื่องราวที่ได้ยินจากแม่นางน้อยเข้ากับเรื่องที่ตนได้พบเจอมา ภาพเหตุการณ์ที่น่าจะเกิดขึ้นก่อตัวขึ้นในใจเขาทีละน้อย ผ่านไปครู่ใหญ่ชายหนุ่มก็สูดหายใจเข้าลึก ก่อนจะฝังความคิดนั้นลงก้นบึ้งของจิตใจ หวังเป่าเล่อลุกขึ้นยืนมองไปยังความมืดมิดที่รายล้อมอยู่ เขาโค้งคำนับต่ำท่ามกลางความเงียบงัน

ชายหนุ่มยืดตัวขึ้นตรงพลางหลับตานิ่ง ผ่านไปครู่หนึ่ง หวังเป่าเล่อก็เปิดเปลือกตาขึ้นอีกครั้ง พร้อมไอเย็นเยือกที่แผ่ซ่านในดวงตา

วิญญาณวุธ… ผู้ฝึกตนจากนอกโลก! หวังเป่าเล่อหรี่ตา เขาก้มหน้าลงมองเรือที่ฝ่าเท้าของตน แก่นในแห่งความมืดในกายสั่นเทา พลังปราณมืดระเบิดออกจากทุกอณูของร่างกาย พลังนั้นสะพัดออกมาเป็นคลื่นขณะเจ้าของปราณตะโกนก้อง!

“วิญญาณแห่งเรือ!”

เสียงของหวังเป่าเล่อเต็มเปี่ยมด้วยพลังอำนาจจากแก่นในแห่งความมืดที่หวังเป่าเล่อได้มาครองระหว่างอยู่ในนิมิตมืด… พลังนั้นเปี่ยมล้นด้วยอำนาจของสำนักแห่งความมืด… เป็นพลังที่ทำให้ผู้ถือครองเดินทางทั่วไปในจักรวาล เพื่อปกครองดวงวิญญาณนับล้านดวงที่ว่ายวนเวียนอยู่ในจักรวาลแห่งนี้!

เสียงของชายหนุ่มสะท้อนอยู่ในความมืดมิดไร้ขอบเขต พลังของปราณมืดจากตัวหวังเป่าเล่อซอกซอนไปทุกซอกทุกมุมของความมืดนี้ สายฟ้าและพายุหมุนก่อนตัวขึ้นตรงหน้าชายหนุ่มพร้อมเสียงคำรามกึกก้อง เงาร่างทะมึนของชายผู้หนึ่งปรากฏขึ้นอย่างรวดเร็ว ภายในไม่กี่ลมหายใจ ชายร่างหนาก็มายืนอยู่ตรงหน้าหวังเป่าเล่อ!

หวังเป่าเล่อรู้จักชายผู้นี้เป็นอย่างดี เขาคือวิญญาณชายหื่นที่หวังเป่าเล่อชำระบาปให้ในดินแดนแห่งความฝัน!

ดวงตาของชายตรงหน้าหลับสนิท ยิ่งรูปร่างชัดเจนเท่าไหร่ ยิ่งเห็นว่าร่างกายของเขาขาดแหว่งไปเป็นบางส่วน พลังวิญญาณของเขาอ่อนแรงมาก พลังที่ปล่อยออกมาจากร่างทำให้หวังเป่าเล่อรู้ว่าผู้ที่ร้องเรียกเขาให้เข้ามาที่นี่ คือดวงวิญญาณของชายผู้นี้นี่เอง!

ท่านอาจารย์บอกว่าผู้ที่ร้องเรียกข้าคือท่าน แต่ก็ไม่ใช่ท่าน บางทีคงหมายถึงเช่นนี้กระมัง… ท่านอาจารย์ร้องเรียกหาข้าผ่านวิญญาณดวงนี้ หวังเป่าเล่อจ้องวิญญาณของชายร่างใหญ่ตรงหน้าพลางครุ่นคิด ดวงตาของเขาอ่อนลง แต่เขาก็ต้องทำสิ่งที่ตนเองควรทำ หวังเป่าเล่อสร้างผนึกฝ่ามือปลุกพลังของแก่นในแห่งความมืดภายในกาย ผนึกแห่งความมืดอันหนึ่งที่หมิงคุณจื่อมอบให้เขาในนิมิตมืดหายไปทันที ผนึกนั้นปรากฏขึ้นเบื้องหน้าหวังเป่าเล่อ ก่อนพุ่งตรงเข้าไปที่ชายร่างใหญ่ตรงหน้า มันทะลวงเข้าไปในหน้าผากของชายผู้นั้น ก่อนผสานเข้ากับดวงวิญญาณของเขา แทนที่ความทรงจำเดิมของชายหื่น… ด้วยความทรงจำที่หมิงคุนจื่อสร้างให้ในนิมิตมืด!

กระบวนการนี้ทำให้วิญญาณแห่งเรือเป็นของหวังเป่าเล่ออย่างแท้จริง!

ทุกสิ่งในความฝันของเขากลายมาเป็นความจริง!

ชายร่างหนาตัวสั่นสะท้าน ก่อนลืมตาขึ้นในทันที ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความรุนแรงร้อนรุ่มเมื่อมองมายังหวังเป่าเล่อ และทันใดนั้นเขาก็ก้มหน้าลงทำมือคารวะ โค้งตัวคำนับต่ำ

“ขอคารวะ นายท่าน!”

หนึ่งฝ่ามือสยบโลกา

หนึ่งฝ่ามือสยบโลกา

นิยายกำลังภายใน แปลจีน จากนักเขียนขายดีตลอดกาล ‘เอ่อร์เกิน’ กับตัวเอกแปลกใหม่ ไม่มีใครเหมือน! บังอาจดูถูกความหล่อเหลาของข้า จงเรียกข้าว่า ‘บิดา’ แล้วข้าจะไว้ชีวิตเจ้า! ค.ศ. 3029 วิทยาการบนโลกมนุษย์พัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว จนแต่ละประเทศไม่มีเขตพรมแดนกั้นอีกต่อไป โลกได้ผสานรวมกลายเป็นหนึ่งเดียว เริ่มต้นยุคสมัยแห่งสหพันธรัฐ ตอนนั้นเอง กระบี่ยักษ์เล่มหนึ่งตกลงมาจากห้วงอวกาศปักเข้าใจกลางดวงอาทิตย์ แรงกระแทกนั้นทำให้ฝักกระบี่แตกออกเป็นเศษชิ้นส่วนและกระจัดกระจายไปทั่วทั้งจักรวาลรวมถึงบนโลก ก่อให้เกิดแหล่งพลังงานรูปแบบใหม่อันไร้ขีดจำกัดขึ้นบนโลกในบัดดล พลังงานนี้มีชื่อเรียกกันว่า ‘ปราณวิญญาณ’ เมื่อสหพันธรัฐและขุมอำนาจอื่นๆ เริ่มออกรวบรวมเศษชิ้นส่วนต่างๆ พวกเขาก็ได้รู้ถึงเคล็ดวิชาการฝึกตน การหลอมโอสถ การหลอมศิลาวิญญาณ และเคล็ดวิชาพิสดารนานัปการ ตัวอักขระที่จารึกอยู่บนเศษชิ้นส่วนเหล่านั้นล้วนเก่าแก่ยิ่งนัก นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ผู้คนกลับมานิยมใช้ภาษาจีนโบราณกันอีกครั้ง การถือกำเนิดของปราณวิญญาณ ทำให้แหล่งพลังงานรูปแบบเดิมตกยุค และได้เปลี่ยนวิถีชีวิตของมนุษย์โลกไปโดยสิ้นเชิง ไม่เพียงแต่เครือข่ายวิญญาณจะได้รับการคิดค้นขึ้นมา แต่ปราณวิญญาณยังพลิกโฉมอารยธรรมมนุษย์ นำพาโลกเข้าสู่ยุคสมัยแห่งการฝึกตน ซึ่งต่อมารู้จักกันในนามว่ายุคกำเนิดวิญญาณ หวังเป่าเล่อ หนุ่มร่างท้วมผู้ทะเยอทะยาน ใฝ่ฝันจะได้เป็นผู้นำสหพันธรัฐ ด้วยหวังว่าจะไม่มีใครมารังแกเขาได้อีกต่อไป ชายหนุ่มศึกษาอัตชีวประวัติของเจ้าพนักงานสหพันธรัฐจนขึ้นใจ และเมื่อเดินทางเข้ามาศึกษาในสำนักศึกษาเต๋าศักดิ์สิทธิ์ เขาก็ใช้ความรู้เหล่านั้นบวกกับความ ‘หน้าหนาหน้าทน’ ของตัวเอง วางกลยุทธ์อันฉลาดล้ำกำราบศัตรูคนแล้วคนเล่า ใครหน้าไหนก็ไม่อาจมาขัดขวางเส้นทางสู่การเป็นหนึ่งในใต้หล้าของชายอ้วนผู้นี้ได้ …เว้นเสียแต่คำสาปประจำตระกูล ที่บอกไว้ว่าหวังเป่าเล่อจะต้องตายหากเขาไม่ผอมลงก่อนอายุสามสิบปี!! ในเมื่อบรรพบุรุษร่างจ้ำม่ำมายืนรอให้เขาไปอยู่ด้วยขนาดนี้ ชายหนุ่มจึงต้องทั้งฝึกตนและลดน้ำหนักไปพร้อมๆ กัน!

Options

not work with dark mode
Reset