บัวสายฟ้าฤทัยปีศาจ
เสียงสงครามดังก้องยังคงปกคลุมไปทั่วฟ้าดิน
แต่แรงผลักดันของฝ่ายอาณาเขตกงเวทสวรรค์พุ่งถึงขีดสุด ภายใต้การกวาดล้าง พวกเขาก็ดูราวกับพยัคฆ์ร้ายกระโจนลงมาจากภูเขา เป็นกองทัพที่ไม่อาจหยุดยั้ง กลับกันทางฝ่ายแดนร้อยสงคราม เมื่อฉิงเทียนกังกับฉิงหลิงพ่ายแพ้ พวกเขาก็เสียขวัญกำลังใจในการต่อสู้ไป กองทัพแตกฉานซ่านเซ็นไปคนละทิศละทาง
ผลของสงครามครั้งนี้ถูกตัดสินแล้ว
มู่เฉินกับจิ่วโยวยืนอยู่กลางอากาศ แต่ไม่ได้ลงมืออะไรอีก ทั้งสองปล่อยให้งานกวาดล้างเป็นหน้าที่ของกองทัพอื่นๆ ส่วนพวกเขาก็นำทัพวิหคโลกันตร์เข้าควบคุมภูเขาเหลยหมัว
นี่คือรางวัลของพวกเขา
กองทัพอื่นก็ไม่ขัดขวางหอวิหคโลกันตร์ในการยึดครอง เพราะพวกเขารู้ว่าจุดประสงค์ของหอวิหคโลกันตร์คือสำนักสายฟ้าปีศาจมาตั้งแต่ต้นและก็เป็นหอวิหคโลกันตร์ที่คว้าชัยชนะมากที่สุดในสงครามครั้งนี้
ผู้ที่มีอำนาจต้องได้ผลประโยชน์ชิ้นใหญ่อยู่แล้ว นี่เป็นสามัญสำนึกที่ทุกคนในทวีปเทียนหลัวต้องรู้
หลังจากเข้ายึดภูเขาเหลยหมัวแล้ว จิ่วโยวก็นำมู่เฉิน ถังปิงและถังโหยวตรงไปที่คลังสมบัติ พูดโดยทั่วไปแล้วสำนักและตระกูลต่างๆ จะรวบรวมสมบัติไว้ที่นี่ ซึ่งเป็นแหล่งเดียวกับทรัพยากรที่มีค่าที่สุดก็คือของเหลวจื้อจุน
ตามคาดคลังสมบัติมีค่ายกลปกป้องอยู่ แต่สิ่งนี้ก็ไม่สามารถหยุดฝีเท้าของจิ่วโยวได้ แค่นางโบกมือวูบหนึ่งก็สามารถทำลายประตูสำริดของคลังสมบัติได้แล้ว
ฮึ่ม!
เมื่อประตูสำริดพังทลายลง คลื่นหลิงบริสุทธิ์สายหนึ่งก็ไหลบ่าออกมาราวกระแสน้ำ ทำให้แม้แต่ชั้นบรรยากาศของสถานที่แห่งนี้ยังหนาแน่นมากขึ้น
จิ่วโยวเดินเข้าไปเป็นคนแรก โดยมีมู่เฉินตามหลังไปติดๆ เมื่อเข้าไปแล้วพวกเขาก็เห็นกระแสธารเป็นประกายระยิบระยับดูราวกับอสรพิษยักษ์ขดตัวอยู่ในคลังสมบัติพร้อมกับคลื่นหลิงบริสุทธิ์ปล่อยออกมาไม่สิ้นสุด
ทั้งหมดนี่เกิดจากของเหลวจื้อจุน
โดยทั่วไปแล้ว ของเหลวจื้อจุนของสำนักหนึ่งจะไม่ถูกบรรจุไว้ในกำไลเจี้ยจื่อที่นำติดตัวได้ แต่จะถูกเก็บไว้ในคลังพร้อมกับค่ายกลพิเศษ เพราะแบบนี้จะสามารถรักษาความบริสุทธิ์ของของเหลวจื้อจุนไว้ได้อย่างสมบูรณ์ และเหตุผลนี้เองที่ทำให้พวกมู่เฉินไม่กลัวว่าของเหลวจื้อจุนในสำนักสายฟ้าปีศาจจะถูกขโมยออกไป
ยิ่งกว่านั้น แม้แต่ฉิงเทียนกังเองก็ไม่คิดว่าพวกเขาจะเป็นฝ่ายแพ้สงครามครั้งนี้ เขาจึงไม่ได้มีมาตรการป้องกันที่จำเป็นไว้
“ดูเหมือนของเหลวจื้อจุนส่วนใหญ่จะเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดีนะ” มู่เฉินยิ้ม ตัดสินจากที่เห็น ต่อให้สำนักสายฟ้าปีศาจดึงของเหลวจื้อจุนไปบางส่วนเนื่องด้วยความระแวง แต่ก็ยังเหลือปริมาณส่วนใหญ่ไว้
ที่อยู่ข้างๆ ถังปิงที่มีสีหน้าเฉยชาอยู่เป็นนิจก็มีใบหน้าแดงก่ำทันทีที่ก้าวเข้าไปในคลังสมบัติ ดวงตาของนางเปลี่ยนเป็นสีแดงเมื่อมองเส้นทางเชี่ยวกรากที่เกิดจากของเหลวจื้อจุน
จิ่วโยวมองท่าทางของถังปิงก็ยิ้มแล้วตบบ่าเบาๆ “เสี่ยวปิงดูสิ ต่อไปเราจะไม่ต้องเจียดใช้อย่างระวังแล้วนะ”
นี่เป็นครั้งแรกที่มู่เฉินเห็นท่าทางหลงใหลเงินตราจากถังปิงที่มักสงบนิ่ง จึงอดพูดแหย่ขึ้นมาไม่ได้ “กองทัพอื่นก็ช่วยเหลือเราเรื่องนี้ไม่น้อย เราควรแบ่งบางส่วนให้พวกเขาบ้างดีไหม?”
“ไม่!” ดวงตาของถังปิงยิงแสงแววเกรี้ยวกราดพลางพูดต่อ “หอวิหคโลกันตร์ทุกวันนี้ใช้จ่ายอย่างกระเหม็ดกระแหม่ เราจะมีส่วนเหลือพอให้พวกเขาได้อย่างไรกัน?! ถ้าเจ้าอยากจะแบ่งให้พวกเขา ทำไมไม่เอาข้าไปแบ่งเลยล่ะ!”
พอได้ยินที่นางพูด มู่เฉินก็อดหัวเราะร่วนไม่ได้ เขารู้สึกว่าถังปิงแบบนี้น่ารักดี
พอเห็นรอยยิ้มหยอก ถังปิงก็ตระหนักได้ว่ากำลังถูกปั่นหัว ทันใดนั้นใบหน้าก็เห่อแดงมองค้อนใส่มู่เฉิน
“ถ้าเจ้ากล้ารังแกเสี่ยวปิงก็ระวังหน่วยรบวิหคโลกันตร์ลุกฮือเอานะ”
จิ่วโยวกลอกตาใส่มู่เฉินพลางคว้าเอวของถังปิงไว้ “แต่เจ้าวางใจเถอะ ต่อให้เขาต้องเฉือนตัวเอง เขาก็ไม่เต็มใจที่จะเฉือนเจ้าหรอก”
“พี่ใหญ่จิ่วโยว!” พอได้ยินคำหยอกเย้าของจิ่วโยว ใบหน้าของถังปิงก็ยิ่งแดงมากขึ้น
มู่เฉินส่งเสียงหัวเราะแห้งๆ สองครั้งไม่กล้าย้ำประเด็นนี้อีก เขาหันควับไปสำรวจคลังสมบัติแก้เก้อ ครู่หนึ่งเขาก็ก้าวไปยังส่วนลึกแล้วหยุดอยู่ที่มุมหนึ่ง สายตามองไปที่แท่นหินตรงมุมนั้น มีกล่องหยกเปล่งประกายหลายกล่องอยู่บนแท่นหิน ซึ่งในกล่องก็คือม้วนคัมภีร์ที่หุ้มด้วยสายฟ้า
มู่เฉินสะบัดแขนเสื้อ คลื่นหลิงกวาดออกลบล้างม่านพลังบนแท่นหิน มือคว้าออกไป ม้วนคัมภีร์ม้วนหนึ่งก็ตกอยู่ในมือ
เขากวาดสายตาบนม้วนคัมภีร์ก็เห็นตัวอักษรสายฟ้าเลือนรางอยู่บนนั้น
วิชากายาสายฟ้าปีศาจ
ม้วนคัมภีร์นี้ก็คือวิชากายาสายฟ้าปีศาจที่ฉิงหลิงฝึก ซึ่งเป็นวิทยายุทธด้านพลังกายที่มีสายฟ้าเป็นองค์ประกอบ
มู่เฉินหลับตาลงขณะศึกษาวิชากายาสายฟ้าปีศาจคร่าวๆ แต่หลังจากนั้นก็ต้องส่ายหน้า เพราะเขาพบว่าแม้จะเป็นวิชาพลังกายเช่นเดียวกัน แต่มันไม่ได้ซับซ้อนเท่ากับวิชากายาเทพสายฟ้าของเขาเลย
ยิ่งกว่านั้นวิชากายาเทพสายฟ้าสามารถชำระร่างกายได้ลึกซึ้งซึ่งวางรากฐานแข็งแกร่งให้เขาศึกษาวิชาชำระพลังกายที่ทรงพลังมากกว่านี้ในอนาคต นี่เป็นจุดที่วิชากายาสายฟ้าปีศาจไม่อาจเทียบได้
มู่เฉินโยนม้วนคัมภีร์ส่งๆ เข้าไปในกำไลเจี้ยจื่อพลางตรวจดูม้วนคัมภีร์อื่นๆ เขาพบว่าพวกมันเป็นวิทยายุทธที่มีสายฟ้าเป็นองค์ประกอบทั้งหมด แต่ไม่มีม้วนไหนสะดุดตาเขาเลย
หลังจากสำรวจอยู่นาน เขาก็ส่ายหน้าอย่างผิดหวัง แต่ขณะที่กำลังจะผละไป สายตาเขาก็ต้องสั่นไหวเบนไปยังแท่นหินข้างๆ บนแท่นหินสีดำมีไม้ไผ่สีเทาชิ้นหนึ่ง บนไม้ไผ่เหมือนมีอักขระสายฟ้าที่มองเห็นได้เลือนราง ทว่าสีของไม้ไผ่เข้มทึบ ทำให้ดูเหมือนไม่มีอะไรพิเศษเลย
แต่จากความรู้สึกที่มี มู่เฉินก็ยังปล่อยพลังดึงดูดจากมือไปยังไม้ไผ่สีเทา จากนั้นก็ใส่คลื่นหลิงเข้าไปเพื่อดึงข้อมูลที่ซ่อนอยู่ออกมา
บัวสายฟ้าฤทัยปีศาจใช้สายฟ้าฤทัยปีศาจดำเป็นวัตถุดิบร่วมกับวิธีการชำระพิเศษ…
ครู่หนึ่งมู่เฉินก็ค่อยๆ ลืมตาที่ปิดสนิทขึ้นด้วยความอัศจรรย์ใจ เพราะเขาตระหนักได้ว่าข้อมูลที่อยู่ในไม้ไผ่นี้ไม่ใช่วิชาธรรมดาเลย แต่เป็นวิธีการชำระวัตถุที่เรียกว่าบัวสายฟ้าฤทัยปีศาจ
บัวสายฟ้าฤทัยปีศาจเป็นอาวุธพบสวรรค์แบบจุดระเบิดได้เพียงครั้งเดียว ยิ่งกว่านั้นยังต้องใช้สายฟ้าฤทัยปีศาจดำเป็นวัตถุในการชำระอีกด้วย แน่นอนว่าเนื่องจากเงื่อนไขการชำระที่ยาก ทำให้พลังอำนาจของมันจึงทรงพลังอย่างยิ่ง มีบันทึกว่าหากมันจุดระเบิดขึ้นละก็ กระทั่งจอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นห้ายังต้องหลบถอยไปก่อนเลยทีเดียว
ยิ่งกว่านั้นนี่เป็นเพียงพลังต่อหนึ่งหน่วย หากสามารถสร้างได้จำนวนมาก และขว้างออกไปทีเดียวหลายสิบหน่วย แม้แต่จอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นห้าก็คงต้องหนีตายเท่านั้น
“ไม่คิดเลยว่าจะมีสมบัติแบบนี้ในสำนักสายฟ้าปีศาจ”
สายตาของมู่เฉินเต็มไปด้วยความประหลาดใจ ถ้าสิ่งที่บันทึกไว้เป็นเรื่องจริง สำนักสายฟ้าปีศาจก็มีอาวุธทรงพลังอยู่ แล้วทำไมพวกเขาถึงไม่ใช้ล่ะ?
กลิ่นหอมสดชื่นโชยมาจากด้านหลังพร้อมกับจิ่วโยวเดินเข้ามา เมื่อนางมาถึงมู่เฉินก็ยื่นชิ้นไม้ไผ่ให้ถามข้อสงสัยที่อยู่ในใจ
“บัวสายฟ้าฤทัยปีศาจเหรอเนี่ย…”
ทว่าจิ่วโยวเหมือนจะเคยได้ยินชื่อของอาวุธร้ายแรงนี้มาก่อน เนื่องจากใบหน้าของนางเปลี่ยนไปเล็กน้อย อึดใจนางก็ขมวดคิ้วน้อย “คงไม่ใช่ว่าฉิงเทียนกังไม่อยากใช้หรอก แต่เพราะพวกมันยังชำระไม่ได้ต่างหาก…”
“ชำระไม่ได้งั้นหรือ?” มู่เฉินอึ้งไป ในภูเขาเหลยหมัวมีหุบเหวเหลยหมัวที่เป็นแหล่งกำเนิดของสายฟ้าโลกปีศาจในใต้ดิน ยิ่งกว่านั้นสายฟ้าโลกปีศาจก็เป็นแหล่งสร้างสายฟ้าฤทัยปีศาจดำอีกด้วย หรือว่าหลายปีที่ผ่านมาสำนักสายฟ้าปีศาจยังหาสายฟ้าฤทัยปีศาจดำไม่พบ?
“อย่าคิดว่าสายฟ้าฤทัยปีศาจดำหาได้ง่ายๆ นะ” จิ่วโยวส่ายหน้าเบาๆ เอ่ยต่อ “สายฟ้าพิเศษเช่นนี้เทียบเท่ากับเพลิงอมตะเลยทีเดียว พลังของมันแข็งแกร่งกว่าแม้กระทั่งเทวอัสนีนิล ดังนั้นก็เป็นไปได้ที่สำนักสายฟ้าปีศาจจะหาไม่เจอ”
มู่เฉินเดาะลิ้น แม้เขาจะรู้ว่าสายฟ้าฤทัยปีศาจดำหายาก แต่ก็ไม่คิดว่าจะหายากเช่นนี้…
“ในเมื่อเรายึดสำนักสายฟ้าปีศาจได้แล้ว ก็มีเวลาพักช่วยหนึ่ง เดี๋ยวเราไปสำรวจหุบเหวเหลยหมัวกัน” จิ่วโยวเอ่ยพลางเลื่อนสายตา
มู่เฉินพยักหน้า นอกจากของเหลวจื้อจุนแล้ว หุบเหวเหลยหมัวภายในสำนักสายฟ้าปีศาจก็คือเหตุผลที่พวกเขาเล็งสำนักสายฟ้าปีศาจไว้
เมื่อทั้งคู่เดินออกมา ถังปิงก็ต้อนรับด้วยใบหน้าสดชื่น ดวงตาอัดแน่นด้วยความตื่นเต้นอย่างปิดไม่มิด ดูเหมือนนางจะพอใจกับผลประโยชน์ครั้งนี้มาก
“พี่ใหญ่จิ่วโยว ที่นี่มีของเหลวจื้อจุนประมาณหนึ่งแสนสามหมื่นหยด อีกทั้งยังมีวิชาเทพและอาวุธพบสวรรค์อีกมากมาย ถ้าเอาไปแปลงเป็นของเหลวจื้อจุนก็น่าจะมีมูลค่าหกหมื่นถึงเจ็ดหมื่นเลยทีเดียว”
ได้ยินที่ถังปิงรายงาน แม้แต่มู่เฉินก็อดเบะปากไม่ได้ รายได้ของหอวิหคโลกันตร์ของเหลวจื้อจุนหนึ่งหมื่นหยดต่อปีเท่านั้น ตอนนี้กลับมีของเหลวจื้อจุนหนึ่งแสนสามหมื่นหยดในคลังสมบัติสำนักสายฟ้าปีศาจ ผลประโยชน์เช่นนี้นับว่าเพียงพอที่จะฟื้นฟูหอวิหคโลกันตร์ขึ้นอย่างรวดเร็วเลยทีเดียว
จิ่วโยวอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา “ช่วยปัญหาเร่งด่วนของเราได้จริงๆ”
ก่อนหน้าหอวิหคโลกันตร์ใช้จ่ายแบบประหยัดขั้นสุด พวกเขาใช้ของเหลวจื้อจุนของมู่เฉินเพื่อให้รอดไปทีละวัน ตอนนี้เมื่อได้รับผลประโยชน์มหาศาล ก็ปลดเปลื้องความยากจนของหอวิหคโลกันตร์ไปในพริบตา
“เรียกคนมาเก็บของพวกนี้ให้หมด ช่วงนี้เราจะหยุดทัพที่นี่” จิ่วโยวเอ่ย
“เจ้าค่ะ!” ถังปิงขานรับเสียงหวาน
เมื่อเห็นท่าทางตอบรับนี่ จิ่วโยวก็ดีดหน้าผากถังปิงเบาๆ จากนั้นก็เดินออกจากคลังสมบัติพร้อมกับมู่เฉินพลางพิจารณาทิศทาง ก่อนจะเข้าไปยังจุดลึกของสำนักสายฟ้าปีศาจ พวกเขาสามารถสัมผัสได้ว่ามีความผันผวนสายฟ้ารุนแรงกำลังปะทุออกมาจากภายใน
ลึกลงเข้าไปในสำนักสายฟ้าปีศาจ
มู่เฉินกับจิ่วโยวปรากฏตัวบนท้องฟ้าพลางก้มมองลงไป นี่เป็นภูเขาลูกหนึ่งที่มีรอยแตกขนาดใหญ่มีขนาดราวพันจั้ง ส่วนลึกนั้นมองไม่เห็นเลยทีเดียว ขณะที่เสียงฟ้าคำรามกึกก้องดังอย่างต่อเนื่องมาจากจุดลึก ทำให้แม้แต่พื้นดินยังสั่นสะเทือน
พลังสายฟ้าประหลาดแผ่ออกมา
ที่นี่ก็คือเป้าหมายของพวกเขา—หุบเหวเหลยหมัว!