หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler – ตอนที่ 1090 ป้าย

หนึ่งในใต้หล้า 大主宰

บทที่ 1090 ป้าย

ในเมืองที่พลุกพล่าน

สายตาของมู่เฉินและเซี่ยหงปะทะกันพร้อมกับไอหนาวเหน็บ ความผันผวนของคลื่นหลิงกระเพื่อมรอบตัว แต่สุดท้ายพวกเขาก็ดึงพลังงานกลับคืนมา

ความคมชัดในสายตาของเซี่ยหงค่อยๆ หดกลับ ก่อนที่จะส่งรอยยิ้มบางจางให้มู่เฉิน ทว่ารอยยิ้มนั้นไม่มีความอบอุ่นสักนิด

มู่เฉินตอบด้วยรอยยิ้ม สีหน้านิ่งสงบ

“เฮ้ ดูเหมือนวังสวรรค์บรรพกาลจะดึงดูดผู้คนทุกประเภท” เมื่อเซี่ยหงเห็นทาทางที่สงบนิ่งของมู่เฉิน ดวงตาเขาก็หรี่แคบลงพลางพึมพำกับตัวเอง เขารู้สึกได้ถึงพลังของมู่เฉินที่อยู่ในระยะเกือบจะบรรลุระดับจื้อจุนขั้นเก้า ทว่าชายคนนี้กลับไม่แสดงความนับถือต่อเขา ซึ่งทำให้เขาไม่พอใจมาก

ทว่าแม้จะไม่พอใจ แต่เซี่ยหงก็เป็นคนที่มีไหวพริบ ดังนั้นจึงไม่แสดงท่าทีอะไร เพราะจากพลังของมู่เฉินและจิ่วโยวน่าจะมีภูมิหลังที่แข็งแกร่ง หากเขาเคลื่อนไหวโดยประมาทไม่ตรวจสอบ ก็มีความเป็นไปได้ที่จะดึงดูดปัญหาให้กับตนเอง

ด้วยเหตุนี้สายตาของเขาจึงกะพริบเบาๆ ก่อนที่จะถอนออกมา วางแผนจะให้คนไปตรวจสอบภูมิหลังของทั้งสอง หากพวกเขาไม่มีพื้นหลังใดๆ บางทีเขาอาจจะลงมือได้ หญิงสาวชุดดำทรงพลังและมีบุคลิกที่ยอดเยี่ยมซึ่งเหนือกว่าหญิงสาวทั้งหมดของเขา หากเขาสามารถมีหญิงสาวแบบนี้ในตำหนักสักคนเพื่อพาขึ้นเตียง เขาจะสามารถเพิ่มความแข็งแกร่งขึ้นอีกแน่นอน

พอแค่คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ รอยยิ้มก็เผยบนมุมปาก ก่อนที่จะมองไปที่มู่เฉินและจิ่วโยวจากนั้นก็สะบัดแขนเสื้อ สิงโตสายฟ้าปลดปล่อยเสียงคำรามกลายเป็นประกายสายฟ้ามุ่งไปยังทิศทางหนึ่งของเมือง

“สายตาของเจ้านั่นน่าเกลียดเกินทน” เมื่อเห็นว่าเซี่ยหงไปแล้ว จิ่วโยวก็พูดขึ้นมาพร้อมกับขมวดคิ้ว แม้ว่าเซี่ยหงจะปกปิดความคิดเอาไว้ลึกซึ้ง แต่นางก็สามารถสัมผัสความคิดสกปรกด้วยประสาทสัมผัสเฉียบแหลมของตนเอง

ถ้าไม่ใช่เพราะเซี่ยหงมีภูมิหลังทรงพลังละก็ นางคงไม่ยอมปล่อยเขาไปแน่

มู่เฉินพยักหน้าเบาๆ “ระวังเขาให้มากเถอะ แต่หากเขาวางแผนบางอย่างจริงๆ ต่อให้เป็นองค์ชายแคว้นเซี่ยก็ต้องจ่ายราคาโหดหิน”

แม้ว่ารากฐานของแคว้นเซี่ยจะหยั่งลึกและทรงพลัง แต่ถ้าเซี่ยหงคิดร้ายกับจิ่วโยวจริงๆ มู่เฉินก็ไม่สนใจรายละเอียดพวกนี้เท่าไร หลายปีที่ผ่านมาคนที่ไม่พอใจเขาเคยมีน้อยด้วยเหรอ? เพิ่มแคว้นเซี่ยเข้าไปอีกสักหน่อยก็ไม่เห็นเป็นไร

มู่เฉินและจิ่วโยวหันไปพูดคุยกันเรื่องอื่น แต่ไม่นานความผันผวนของคลื่นหลิงที่รุนแรงก็ดังกระหึ่มมาจากขอบฟ้าที่ห่างไกลอีกครั้ง ผู้คนจำนวนมากก็เห็นร่างแสงหลายร่างพุ่งเข้ามา

ร่างเงาเหล่านั้นเปล่งคลื่นหลิงที่ทรงพลังและไร้ขีดจำกัด การมาถึงของพวกเขาทำให้เกิดความโกลาหลในเมือง

“นั่นคือประมุขน้อยแห่งสำนักมังกรซ่อน—มู่ซัน ว่ากันว่าเขาถูกจัดอยู่ในอันดับยี่สิบกว่าของทำเนียบด้วย”

เมื่อได้ยินเสียงเหล่านั้น มู่เฉินก็เบนสายตาไป มองเห็นมังกรขนาดใหญ่ขดตัวพันรอบพร้อมกับคำราม มังกรตัวนี้แปลกตา ถึงแม้จะมีสายเลือดของเผ่ามังกรก็ไม่ถือว่าบริสุทธิ์ ทว่าหากมีโอกาสมากพอก็อาจจะวิวัฒนาการกลายเป็นเทพอสูรของแท้ได้

ชายคนหนึ่งยืนอยู่บนหัวของมังกร เสื้อผ้าโบกสะบัดไปตามสายลม คลื่นหลิงที่ส่งออกไปทำให้มิติรอบตัวสั่นไหว

ชายคนนั้นขี่มังกรโดยไม่หยุดเข้าไปในเมืองซี

“ยังมีเจียงหลิงสำนักกระบี่แดนสรวง ว่ากันว่าเขาปิดตัวฝึกฝนในสุสานกระบี่ของสำนักและประสบความสำเร็จในก้าวเข้าสู่ระดับจื้อจุนขั้นเก้า”

หลังจากมู่ซันผ่านไป กระบี่เล่มหนึ่งก็ทะยานมาพร้อมกับชายคนหนึ่งที่ยืนอยู่บนนั้น เขาพุ่งทะลุท้องฟ้าด้วยรัศมีคมกริบเข้าไปในเมืองซี

“จุ๊ๆ แม้แต่แม่นางชิ้งหย่าแห่งตึกฟ้าเหวก็มาด้วย ตึกฟ้าเหวเป็นแหล่งซื้อขายข้อมูล ซึ่งข้อมูลที่พวกเขามีคงดีที่สุด กระทั่งนางยังมา ดูท่าจะมีเรื่องใหญ่เกิดขึ้นในเมืองซีแห่งนี้แล้ว”

จอมยุทธ์ที่เข้ามาตอนนี้เป็นหญิงสาวชุดสีแดง นางมีรูปลักษณ์ที่สูงส่งและร้อนแรง ทุกการแสดงออกดูทรงเสน่ห์นัก

นอกจากนี้คลื่นหลิงของนางยังถูกดึงกลับเข้าไปในร่างกาย ชัดเจนว่านางมีสมบัติซ่อนความผันผวนของพลังงานเอาไว้ เพื่อไม่ให้คนอื่นสามารถตรวจจับขุมพลังของนางได้ ซึ่งทำให้นางดูไม่อาจหยั่งรู้ยิ่งนัก

ฟิ้ว! ฟิ้ว!

เสียงบินหวือดังกึกก้องอยู่บนท้องฟ้า ผู้คนจำนวนมากมาถึงโดยไม่ขาดบุคคลที่โด่งดังในทวีปเทียนหลัว ทำเอาเมืองซีเดือดพล่านไปเลย

ทิวทัศน์นี้กินเวลาประมาณหนึ่งชั่วโมงก่อนที่จะสงบลง แต่ลับหลังกลับเกิดการเคลื่อนไหวมากขึ้น เนื่องจากมีจอมยุทธ์มากมายมารวมตัวกันในเมืองซี ดูเหมือนว่ามีอะไรบางอย่างกำลังจะเกิดขึ้นแล้ว

ในโรงเตี๊ยมมู่เฉินและจิ่วโยวมองท้องฟ้าที่ค่อยๆ สงบลงพลางฟังเสียงอุทานที่ดังขึ้นรอบๆ ท่าทางก็ตึงเกร็งขึ้น จอมยุทธ์รุ่นใหม่จำนวนมากรวมกันที่เมืองซีมากขนาดนี้ ดูท่าจะต้องมีเรื่องใหญ่เกิดขึ้นแน่แล้ว

เพราะตอนนี้ทุกขั้วอำนาจในทวีปเทียนหลัวก็เล็งมาที่ดินแดนนี้ เนื่องจากความไม่มีเสถียรภาพของมิติจึงทำให้กระทั่งจอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนยังไม่กล้าเข้าไป ดังนั้นพวกเขาจึงส่งจอมยุทธ์รุ่นใหม่ชั้นนำเข้ามาเพื่อรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับวังสวรรค์บรรพกาล

“ดูเหมือนเรามาถูกที่แล้ว…” จิ่วโยวมองไปที่มู่เฉินแล้วยิ้ม แม้ว่านางจะไม่ทราบเหตุผลที่แน่ชัดที่คนเหล่านี้มารวมตัวกัน แต่ต้องเกี่ยวข้องกับวังสวรรค์บรรพกาลแน่

“มารอข้อมูลของผู้เฒ่าไป๋กันเถอะ” มู่เฉินพยักหน้าขณะนี้โรงเตี๊ยมคึกคักไปด้วยเสียงคน พวกเขาต่างรู้สึกงงงวย เห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่รู้ข้อมูลที่ละเอียดกว่านี้

การรอของพวกเขากินเวลาไม่นาน ประมาณสองชั่วโมงผู้เฒ่าไป๋และถานชิวก็กลับมา

“ฮ่าๆ นายท่านสังเกตเห็นพวกหนุ่มสาวที่รวมตัวกันในเมืองซีแล้วใช่ไหม?” ผู้เฒ่าไป๋หัวเราะเบาๆ

มู่เฉินพยักหน้าถามว่า “ทั้งสองคนได้รับข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้มาไหม?”

ถานชิวยิ้ม “เราพบอะไรบางอย่าง ลือกันว่ามีกลุ่มเสี่ยงเข้าไปในมิติแตกสลาย หลังจากต้องจ่ายด้วยจำนวนสมาชิกครึ่งหนึ่ง พวกเขาก็ตะเกียกตะกายกลับมาที่นี่ได้ในวันนี้”

“พวกเขาเก็บเกี่ยวอะไรได้เหรอ?” สายตาของมู่เฉินขยับ ไม่มีใครสนใจเกี่ยวกับการบาดเจ็บล้มตายหรอก แต่ถ้ากลุ่มนั้นไม่ได้มีการเก็บเกี่ยวที่ดีละก็ คงไม่มีใครเดินทางมาที่นี่เลย

ถานชิวพยักหน้า “พวกเขาได้รับบางสิ่งที่แปลกประหลาดมา ว่ากันว่าเมื่อพวกเขารับของชิ้นนั้น ทำให้เกิดลมพายุพลังหลิงขึ้นในวังสวรรค์บรรพกาล สมาชิกสิบกว่าคนกลายเป็นกองเลือดทันที ดังนั้นของนั่นน่าจะมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อวังสวรรค์บรรพกาล”

“มันคืออะไร?” มู่เฉินเอ่ยถาม

“ดูเหมือนว่าจะเป็นป้ายชิ้นหนึ่ง” ผู่เฒ่าไป๋ตอบ

“ป้าย?” มู่เฉินและจิ่วโยวแลกเปลี่ยนสายตากัน สายตาเคร่งเครียดลงหลายส่วน ในซากโบราณ วัตถุประเภทป้ายเป็นสิ่งที่น่าสนใจที่สุด เนื่องจากไม่มีใครรู้ว่ามันจะเป็นกุญแจไขอะไรได้ บางทีอาจทำให้ได้รับโอกาสยิ่งใหญ่จนแซงหน้าผู้อื่นไปได้

“นอกจากนี้ป้ายนั้นดูเหมือนจะถูกสลักด้วยคำโบราณว่า ‘สอง’…” ถานชิวเอ่ยเพิ่ม

“สอง?” หัวใจของมู่เฉินเต้นไม่เป็นส่ำ มั่นถัวหลัวเคยบอกเขาว่ามีจอมพลห้าคนในวังสวรรค์บรรพกาลและคนที่พวกเขาพบในสงครามล่าก็คือจอมพลสี่ หรือว่าป้ายนั่นจะเกี่ยวข้องกับจอมพลสองกัน?

มู่เฉินมองไปที่จิ่วโยว นางก็พยักหน้ากลับมา ทั้งคู่ต่างคิดในสิ่งเดียวกัน

“จอมยุทธ์พวกนั้นมาที่นี่เพื่อสิ่งนั้นแน่” มู่เฉินเอ่ยอย่างช้าๆ

“ป้ายชิ้นนั้นจะแย่งชิงกันยังไง?” จิ่วโยวถาม แม้ว่าพวกเขาจะไม่ทราบว่าจะใช้ป้ายได้อย่างไร แต่ก็เป็นการดีที่สุดที่จะได้รับ หากเป็นเช่นนั้นพวกเขาจะได้รับประโยชน์เมื่อเข้าสู่วังสวรรค์บรรพกาล

“ฮ่าๆ จะยังไงอีกล่ะ? ตอนนี้มีจอมยุทธ์รุ่นใหม่มากมายมารวมตัวกันที่นี่ซึ่งต่างมีภูมิหลังที่แข็งแกร่ง จะให้ต่อสู้แย่งกันก็ไม่ได้หรอกมั้ง? หากเป็นเช่นนั้นอาจทำให้เป็นประโยชน์กับคนนอกซะอีก พวกเขาไม่ใช่คนโง่”

ผู้เฒ่าไป๋ยิ้ม “ดังนั้นจึงใช้วิธีที่สามัญที่สุด…การประมูล ผู้เสนอราคาสูงสุดจะได้รับไป”

มู่เฉินพยักหน้า ในสถานการณ์เช่นนี้ที่ทุกคนระแวงซึ่งกันและกัน ก็คงต้องใช้วิธียุติธรรมทางเดียว แต่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งถ้ามีการต่อสู้แอบแฝงเกี่ยวกับการเป็นเจ้าของป้ายนั่น

“นายท่านคิดว่าเราควรทำอย่างไร?” ถานชิวถามเบาๆ

มู่เฉินและจิ่วโยวแลกเปลี่ยนสายตากันพลางยิ้ม “จะมีอะไรอีก? ในเมื่อพบของดีเราก็ไม่ควรเพิกเฉย พรุ่งนี้เราจะเข้าร่วมการประมูลด้วย ถ้าได้รับมาจะเป็นการดีสุด”

ไม่เช่นนั้นหากป้ายวังสวรรค์บรรพกาลตกอยู่ในมือของคนอื่น อาจจะมีใครบางคนไม่พอใจและวางแผนแย่งมา ตอนนั้นพวกเขาก็ดูว่ามีโอกาสคว้าหรือไม่

ผู้เฒ่าไป๋ ถานชิวและผู้บัญชาการสือพยักหน้าแสดงให้เห็นว่าไม่คัดค้านอะไร

มู่เฉินพยักหน้าเบาๆ ก่อนลุกขึ้นพร้อมกับจิ่วโยวเดินออกจากโรงเตี๊ยม เขาเงยหน้าขึ้นมองที่ใจกลางเมืองซี บริเวณนั้นเมฆพายุกำลังก่อตัว ดูราวกับว่าไม่นานจะมีพายุมา

มู่เฉินมองไปที่ทิศนั้น จากนั้นก็ก้าวออกไปด้วยรอยยิ้ม

พรุ่งนี้ให้ข้าได้สัมผัสกับพลังอันยิ่งใหญ่ของเหล่าจอมยุทธ์รุ่นใหม่หน่อยนะ…หวังว่าจะไม่ทำให้ข้าผิดหวังล่ะ

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

หนึ่งในใต้หล้าจากปลายปากกาของเทียนฉานถูโต้ว กล่าวถึงมู่เฉิน เด็กหนุ่มจากสำนักศึกษาเป่ยหลิง ผู้ที่ได้รับเลือกให้เข้าฝึกในสงครามเทพยุทธ์ซึ่งเต็มไปด้วยเหล่าคนเก่งกาจ ทว่า… อยู่ดีๆ เขากลับถูกขับไล่ออกมาด้วยเหตุผลที่ไม่มีใครล่วงรู้ มู่เฉินพยายามฝึกหนักอีกครั้งเพื่อจะพาตัวเองกลับเข้าไปในเส้นทางแห่งนี้ เขาจำเป็นต้องใช้สิ่งนี้เป็นใบเบิกทางเพื่อเข้าศึกษาที่ภาคเบญจภาคี เพื่อ… ปกป้องหญิงสาวที่ตนรัก และยิ่งกว่านั้นคือเพื่อค้นหาเบาะแสของมารดาที่หายสาบสูญไป ‘มหาพันภพ’ เป็นที่ที่มิติทั้งหลายเชื่อมต่อกันในระบบสุริยจักรวาล สถานที่แห่งนี้มีขั้วอำนาจมากมายอาศัยอยู่ จักรพรรดิที่มาจากพิภพเขตล่างต่างเป็นตำนานที่ผู้อื่นปรารถนาขึ้นไปบนเส้นทางแห่งกฎของโลกไร้ขอบเขตนี้ แคว้นหวู่จิ้งฮั่ว เทพจักรพรรดิอัคคีควบคุมเปลวเพลิงกวาดข้ามสวรรค์ แคว้นหวู เทพจักรพรรดิสงครามผู้ยิ่งใหญ่ที่ทำให้ทั้งสวรรค์และโลกหวาดกลัว ตำหนักซีเทียน จักรพรรดิสัประยุทธ์ที่แข็งแกร่งไม่มีผู้ใดเทียบเท่า ในเนินเขารกร้างทางเหนือ ดินแดนวั้นมู่ของจักรพรรดิอมตะครองเหนือภพ เด็กหนุ่มจากมณฑลเป่ยหลิงออกท่องยุทธภพกับวิหคโลกันตร์คู่ใจ มุ่งหน้าสู่โลกภายนอกที่เต็มไปด้วยสีสัน ใครกันที่จะเป็นผู้กุมชะตากรรมในเส้นทางการเป็นหนึ่ง? ในมหาพันภพที่สงครามนับหมื่นอุบัติ ข้าคือผู้กุมชะตาฟ้าดิน… The Great Thousand World. It is a place where numerous planes intersect, a place where many clans live and a place where a group of lords assemble. The Heavenly Sovereigns appear one by one from the Lower Planes and they will all display a legend that others would desire as they pursue the road of being a ruler in this boundless world. In the Endless Fire Territory that the Flame Emperor controls, thousands of fire blazes through the heavens. Inside the Martial Realm, the power of the Martial Ancestor frightens the heaven and the earth. At the West Heaven Temple, the might of the Emperor of a Hundred Battles is absolute. In the Northern Desolate Hill, a place filled with thousands of graves, the Immortal Owner rules the world. A boy from the Northern Spiritual Realm comes out, riding on a Nine Netherworld Bird, as he charges into the brilliant and diverse world. Just who can rule over their destiny of their path on becoming a Great Ruler? In the Great Thousand World, many strive to become a Great Ruler.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset