หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler – ตอนที่ 1091 ประมูล

หนึ่งในใต้หล้า 大主宰

บทที่ 1091 ประมูล

เช้าวันถัดมา

ในเมืองซีกำลังเดือดพล่านจากการรวมตัวของจอมยุทธ์ชั้นนำรุ่นใหม่ที่มาเมื่อวานนี้และข่าวเกี่ยวกับป้ายวังสวรรค์บรรพกาลที่ขยายออกไปไกล ซึ่งดึงดูดความสนใจผู้คนเป็นจำนวนมาก

จอมยุทธ์ทุกคนที่มารวมตัวกันในเมืองซีก็เพื่อวังสวรรค์บรรพกาล ตอนนี้มิติในดินแดนสุดขอบตะวันตกปั่นป่วน คนทั่วไปไม่กล้าเข้าไปบุ่มบ่าม ดังนั้นจึงต่างรอโอกาส ทว่าจู่ๆ ก็มีข่าวป้ายหลุดออกมา ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่จะดึงดูความสนใจผู้คน

แม้ว่าทุกคนจะรู้ว่าป้ายลึกลับนั้นเป็นที่จับตามองของเหล่าขั้วอำนาจทรงพลังแล้ว ตามปกติไม่มีทางที่พวกเขาจะลงสู้ราคาแย่งชิงไหว แต่ใครๆ ก็ต่างมุ่งหวังที่จะให้มันตกอยู่ในมือจากโชคชะตา ซึ่งนั่นจะเป็นโอกาสที่ดีและในอนาคตพวกเขาอาจจะสามารถใช้สิ่งนี้เพื่อก้าวขึ้นเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงในทวีปเทียนหลัว จนเรียกลมสั่งฟ้าได้

ดังนั้นเมื่อเช้าวันที่สองมาถึง เสียงจำนวนนับไม่ถ้วนก็ปกคลุมทั่วท้องฟ้า ร่างแสงจำนวนมากมุ่งหน้าไปยังพื้นที่ส่วนกลาง

มีโรงประมูลขนาดใหญ่อยู่ใจกลางเมือง ทว่าที่นั่นก็ร้างมาเป็นเวลาหลายปี แต่วันนี้กลับถูกเปิดใช้ใหม่ ความคึกคักนั้นไม่ได้ด้อยไปกว่าโรงประมูลใหญ่ๆ ในทวีปเทียนหลัวเลย

พื้นที่การประมูลส่วนใหญ่เป็นเก๋งจีน ซึ่งถูกแบ่งออกเป็นสามชั้น ชั้นล่างสุดเป็นที่นั่งระดับธรรมดา ขณะที่คุณภาพจะเพิ่มขึ้นในชั้นที่สูงขึ้นไป การตกแต่งหรูหราสามารถมองการประมูลทั้งหมดได้

ตอนนี้กลุ่มของมู่เฉินเข้ามานั่งในพื้นที่ชั้นสามของโรงประมูลแล้ว เขาปัดเบาะที่ทำจากขนของเสือดาวไฟน้ำแข็งเบาๆ เมื่อนั่งบนนั้นก็ราวกับจะจมลงไป ให้ความรู้สึกสบายอย่างยิ่ง

พวกนี้เป็นสิ่งที่ถานชิวเตรียมมา ซึ่งทำให้มู่เฉินอดถอนหายใจในใจไม่ได้ มีผู้ติดตามอยู่ใกล้ชิดนี่ดีจริงๆ ถ้าเขามาคนเดียวจะคิดได้รอบคอบเช่นนี้ได้อย่างไร

“ใครเป็นผู้จัดประมูล? กลุ่มเมื่อวานนี้เหรอ?” มู่เฉินถามอย่างสนใจ หากการประมูลครั้งนี้จัดขึ้นโดยคนที่กล่าวอ้างเมื่อวาน พวกเขาจะต้องระมัดระวังตัวมากขึ้น

เมื่อได้ยินคำถามผู้เฒ่าไป๋ก็ตอบทันที “การประมูลจะจัดขึ้นโดยกลุ่มท้องถิ่น แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้ทรงพลัง แต่ก็ไม่ได้อยู่ใต้อาณัติใคร ฮ่าๆ ไม่มีใครยอมให้คู่ต่อสู้เป็นเจ้าภาพประมูลเพื่อป้องกันตัวเองจากการถูกหลอกลวง ดังนั้นพวกเขาจึงแนะนำให้กลุ่มท้องถิ่นจัดการประมูลแทน”

มู่เฉินพยักหน้าเบาๆ

ขณะที่มู่เฉินกำลังพูดคุยกับผู้เฒ่าไป๋ บรรยากาศในโรงประมูลก็ถูกยกระดับขึ้นทันที มู่เฉินเบนสายตาก็มองเห็นคนหลายกลุ่มเดินเข้ามา

กลุ่มคนพวกนี้ไม่ธรรมดา ด้านหน้าสุดร่างสี่คนเดินนำช้าๆ ซึ่งพวกเขาก็คือเซี่ยหง มู่ซัน เจียงหลิงและชิ้งหย่า…

พวกเขาล้วนถูกจัดอยู่ในทำเนียบจอมยุทธ์ชั้นนำรุ่นใหม่ ดังนั้นการปรากฏตัวของพวกเขาจึงทำให้เกิดเสียงอุทานดังก้อง

“ฮ่าๆ แคว้นเซี่ยต้องการป้ายนี้ หากพวกเจ้ายอมถอยเพื่อประโยชน์แคว้นเซี่ยของข้า ข้าจะจดจำพระคุณนี้ไม่ลืม” เซี่ยหงจ้องมองฝูงชนในโรงประมูล จากนั้นก็หันหลังกลับมายิ้มให้อีกสามคน

ทว่ามู่ซันกลับยิ้มเมื่อได้ยินคำพูดนั่น “ข้าให้ของเหลวจื้อจุนแก่เจ้าห้าล้านหยดเป็นการส่วนตัว แล้วเจ้าก็อย่ามาแย่งกับพวกเราเลย สำนักมังกรซ่อนของข้าไม่ลืมบุญคุณอย่างแน่นอน”

เขาไม่ได้ปกปิดคำเยาะเย้ยในคำพูด แม้ว่าแคว้นเซี่ยจะเป็นเจ้าเขตตะวันออก แต่ก็อยู่ห่างจากสำนักมังกรซ่อนของเขาไปหลายสิบล้านลี้ ดังนั้นเขาจึงไม่กลัวอีกฝ่ายแม้แต่น้อย

ชิ้งหย่าป้องปากหัวเราะเบาๆ นางมองทั้งสองข่มใส่กัน ขณะที่พวกเขาสู้กันในศึกน้ำลาย เจียงหลิงก็ไม่ได้แสดงออกใดๆ เขายืนกอดกระบี่ยาวไว้ ท่าทางราวกับว่าเขาไม่ได้ยินเสียงกระทบกระเทียบของเซี่ยหงกับมู่ซัน

เซี่ยหงยิ้มด้วยดวงตาหรี่แคบลงขณะมองมู่ซัน “ในเมื่อเป็นแบบนั้นข้าก็หวังว่าประมุขน้อยมู่ซันจะนำของเหลวจื้อจุนมาเพียงพอนะ”

พูดจบเขาก็ขี้เกียจสนใจมู่ซันอีก เบนสายตาไปยังชิ้งหย่าที่งดงาม ยิ้มเอ่ยขึ้น “แม่นางชิ้งหย่า สนใจไปนั่งชมการประมูลครั้งนี้กับข้าไหม?”

“คิกๆ พวกเราต่างเป็นคู่ต่อสู้กัน คงจะทำให้อึดอัดใจกันซะเปล่าถ้านั่งด้วยกันนะ” ชิ้งหย่าหัวเราะเบาๆ ปฏิเสธคำเชิญของเซี่ยหงก่อนที่จะเดินขึ้นชั้นบนอย่างสง่างาม

เซี่ยหงไม่ได้ใส่ใจเรื่องการปฏิเสธ เขาเงยหน้าขึ้นมองร่างสะคราญโฉมของชิ้งหย่าด้วยดวงตาร้อนแรง ก่อนจะฉายทำท่าทางปกติเดินตามหลังนางไป

เมื่อเดินไปได้สักครึ่งทางเซี่ยหงก็รู้สึกว่าชิ้งหย่าหยุดฝีเท้าลง นางเงยหน้าขึ้นมองไปที่มุมหนึ่งแววประหลาดใจก็วาบผ่านนัยน์ตา

กวาดตามองตามนาง ดวงตาเขาก็หรี่ลงเพราะเขาเห็นมู่เฉินและจิ่วโยวที่ได้พบกันเมื่อวานนี้

“ทำไม? แม่นางชิ้งหย่ารู้จักพวกเขาหรือ?” เซี่ยหงถามเสียงต่ำ ด้วยข้อมูลมหาศาลของตึกฟ้าเหว นางน่าจะมีข้อมูลเกี่ยวกับคนแปลกหน้าเหล่านั้นดี

ชิ้งหย่าหยุดชั่วครู่ก่อนที่จะยิ้ม “ถ้าข้าเดาไม่ผิดพวกเขาน่าจะมาจากอาณาเขตกงเวทสวรรค์ ว่ากันว่าช่วงนี้มีสองคนขึ้นดำรงตำแหน่งจอมพลใหม่ จอมพลมู่และจอมพลจิ่วโยว ข้าว่าน่าจะเป็นทั้งสองนี่แหละ”

“ภูมิภาคทางเหนือ? อาณาเขตกงเวทสวรรค์? พวกเขาประเมินความสามารถของตนเองมากเกินไปแล้ว” เซี่ยหงอึ้งไปจากนั้นรอยยิ้มเย้ยหยันก็ผุดที่มุมปาก ภูมิภาคทางเหนือถูกมองว่าเป็นสถานที่ห่างไกลของทวีปเทียนหลัว มิหนำซ้ำที่นั่นยังเต็มไปด้วยความขัดแย้งโดยไม่มีเจ้าเขตแท้จริงแบบแคว้นเซี่ย สำหรับอาณาเขตกงเวทสวรรค์ชื่อเสียงก็ไม่สลักสำคัญอะไรเลย

ตอนแรกเขาคิดว่าไอ้บ้านั่นต้องมีภูมิหลังที่ทรงพลังโดยดูจากท่าทางไม่แสดงความเคารพใดๆ ต่อเขา แต่ท้ายที่สุดกลับกลายเป็นว่าแค่มาจากอาณาเขตกงเวทสวรรค์เล็กๆ เท่านั้น

ชิ้งหย่าเหลือบเห็นรอยยิ้มเย้ยหยันที่มุมปากของเซี่ยหง สายตานางกะพริบวูบหนึ่ง ดูเหมือนว่าเซี่ยหงจะมีปัญหากับจอมพลคนใหม่ทั้งสองเสียแล้ว

แต่ชัดว่าเซี่ยหงยังไม่รู้ว่าแม้จะยังไม่มีเจ้าเขตเหนือ แต่อาณาเขตกงเวทสวรรค์ก็มีความโดดเด่นมากกว่าจากขั้วอำนาจชั้นสุงสุดอื่นๆ ที่นั่น แม้ว่ารากฐานของอาณาเขตกงเวทสวรรค์อาจยังอ่อนแอกว่าแคว้นเซี่ย แต่ประมุขอาณาเขตกงเวทสวรรค์ก็บรรลุขุมพลังตี้จื้อจุนขั้นปลายแล้ว ไม่ได้ด้อยกว่าฮ่องเต้แคว้นเซี่ยเลย

ถ้าเซี่ยหงทำอะไรกับจอมพลทั้งสอง ประมุขอาณาเขตกงเวทสวรรค์คงไม่ยอมให้เรื่องนี้จบง่ายอย่างแน่นอน ในเวลานั้นแม้แต่ฮ่องเต้เซี่ยก็คงต้องปวดหัวหนักน่าดูเลยมั้ง?

แบบนี้ก็ดี…ให้แคว้นเซี่ยมีศัตรูเพิ่มขึ้นอีก

ความคิดนี้วาบผ่านในใจ ชิ้งหย่าก็เดินไปยังเก๋งจีนอีกมุมหนึ่ง เซี่ยหง มู่ซันและคนอื่นๆ ก็นั่งลงบนที่ที่จัดให้โดยมีคนมาคอยบริการ

มู่เฉินให้ความสนใจกับคนกลุ่มนี้ตลอด ดังนั้นจึงเห็นการสนทนาระหว่างเซี่ยหงและชิ้งหย่าและเห็นรอยยิ้มเยาะเย้ยที่มุมปากของเซี่ยหง เมื่อคิดไตร่ตรองก็เหมือนเข้าใจอะไรบางอย่าง

“ดูเหมือนว่าเราจะถูกประเมินต่ำไปนะ” มู่เฉินยิ้ม เอ่ยขึ้น

“ที่นี่ไม่ใช่ภูมิภาคทางเหนือ ไม่มีใครรู้จักเจ้าหรอก” จิ่วโยวล้อเลียน

“ข้าจะมีชื่อเสียงอะไรได้…” มู่เฉินส่ายหัวอย่างไม่ช่วยไม่ได้ เขาหยุดไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า “แต่ถ้าใครคิดว่าข้าเป็นคนยอมคน กลัวว่ามือจะโดนหักแทนน่ะสิ”

แม้จะเป็นการพูดสบายๆ แต่ก็มีความภาคภูมิใจแฝงอยู่ เขาเดินมาทีละก้าว…ละก้าวตลอดหลายปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่ที่เขาออกจากสำนักศึกษาเป่ยชางเพิ่งเริ่มชำระร่างเทพสุริยะ จนกระทั่งบรรลุขุมพลังระดับนี้ เขาพบคู่ต่อสู้มากมาย แต่ท้ายที่สุดเขาก็เป็นคนสุดท้ายที่ยังยืนอยู่

ดังนั้นเขาจึงมั่นใจว่าตนเองสามารถเผชิญหน้ากับคนรุ่นเดียวกันได้

ถ้าเซี่ยหงประพฤติตัวดีๆ ก็ช่างไป แต่ถ้าเขามีความคิดพิเรนทร์ มู่เฉินก็ไม่ใส่ใจที่จะให้เซี่ยหงรู้ว่าราคาจากความอหังการของตัวเองต้องจ่ายมากเท่าไร

พูดจบมู่เฉินก็หันหน้ากลับเห็นว่าจิ่วโยวจ้องมองเขาเงียบๆ จึงยกมือแตะหน้าตัวเองด้วยความสงสัย “มีอะไรเหรอ?”

จิ่วโยวอึ้งไปกับร่องรอยความคมชัดที่มู่เฉินปล่อยออกมา ก่อนที่นางจะถอนหายใจ มู่เฉินไม่ได้เป็นน้องชายที่ยังไม่โตอีกแล้ว ความมั่นใจของเขาก้าวข้ามอดีตมาไกล

หลายปีผ่านมาเขาเติบโตอย่างแท้จริง

“ตึ้ง!”

ขณะที่จิ่วโยวยังอยู่ในภวังค์ เสียงระฆังก็ดังขึ้นในโถงซึ่งปกคลุมไปด้วยความโกลาหลที่มาจากด้านล่าง ทุกคนค่อยๆ เงียบเสียงลง ความร้อนแรงเพิ่มในดวงตาเมื่อจ้องมองไปยังแท่นยกสูง ซึ่งมีชายวัยกลางคนเดินขึ้นไปบนแท่น

“ข้าชื่อหานเฟยจากสำนักตะวันตกเย็นเยือกและเป็นพิธีกรของการประมูลครั้งนี้…”

เมื่อเสร็จสิ้นคำพูดเขาก็โบกมือ หญิงสาวหลายคนก็เดินออกมาพร้อมกับถาดเงินในมือ

ถาดเงินถูกห่อหุ้มด้วยม่านพลังขัดขวางความผันผวนของพลังงานภายใน

สายตานับไม่ถ้วนจ้องไปบนถาดเงิน ไอร้อนแรงวูบไหวในดวงตา

หานเฟยยิ้มเมื่อเห็นภาพนี้

“ในเมื่อทุกคนไม่คิดรออีกต่อไป ข้าขอประกาศเริ่มการประมูล ณ บัดนี้”

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

หนึ่งในใต้หล้าจากปลายปากกาของเทียนฉานถูโต้ว กล่าวถึงมู่เฉิน เด็กหนุ่มจากสำนักศึกษาเป่ยหลิง ผู้ที่ได้รับเลือกให้เข้าฝึกในสงครามเทพยุทธ์ซึ่งเต็มไปด้วยเหล่าคนเก่งกาจ ทว่า… อยู่ดีๆ เขากลับถูกขับไล่ออกมาด้วยเหตุผลที่ไม่มีใครล่วงรู้ มู่เฉินพยายามฝึกหนักอีกครั้งเพื่อจะพาตัวเองกลับเข้าไปในเส้นทางแห่งนี้ เขาจำเป็นต้องใช้สิ่งนี้เป็นใบเบิกทางเพื่อเข้าศึกษาที่ภาคเบญจภาคี เพื่อ… ปกป้องหญิงสาวที่ตนรัก และยิ่งกว่านั้นคือเพื่อค้นหาเบาะแสของมารดาที่หายสาบสูญไป ‘มหาพันภพ’ เป็นที่ที่มิติทั้งหลายเชื่อมต่อกันในระบบสุริยจักรวาล สถานที่แห่งนี้มีขั้วอำนาจมากมายอาศัยอยู่ จักรพรรดิที่มาจากพิภพเขตล่างต่างเป็นตำนานที่ผู้อื่นปรารถนาขึ้นไปบนเส้นทางแห่งกฎของโลกไร้ขอบเขตนี้ แคว้นหวู่จิ้งฮั่ว เทพจักรพรรดิอัคคีควบคุมเปลวเพลิงกวาดข้ามสวรรค์ แคว้นหวู เทพจักรพรรดิสงครามผู้ยิ่งใหญ่ที่ทำให้ทั้งสวรรค์และโลกหวาดกลัว ตำหนักซีเทียน จักรพรรดิสัประยุทธ์ที่แข็งแกร่งไม่มีผู้ใดเทียบเท่า ในเนินเขารกร้างทางเหนือ ดินแดนวั้นมู่ของจักรพรรดิอมตะครองเหนือภพ เด็กหนุ่มจากมณฑลเป่ยหลิงออกท่องยุทธภพกับวิหคโลกันตร์คู่ใจ มุ่งหน้าสู่โลกภายนอกที่เต็มไปด้วยสีสัน ใครกันที่จะเป็นผู้กุมชะตากรรมในเส้นทางการเป็นหนึ่ง? ในมหาพันภพที่สงครามนับหมื่นอุบัติ ข้าคือผู้กุมชะตาฟ้าดิน… The Great Thousand World. It is a place where numerous planes intersect, a place where many clans live and a place where a group of lords assemble. The Heavenly Sovereigns appear one by one from the Lower Planes and they will all display a legend that others would desire as they pursue the road of being a ruler in this boundless world. In the Endless Fire Territory that the Flame Emperor controls, thousands of fire blazes through the heavens. Inside the Martial Realm, the power of the Martial Ancestor frightens the heaven and the earth. At the West Heaven Temple, the might of the Emperor of a Hundred Battles is absolute. In the Northern Desolate Hill, a place filled with thousands of graves, the Immortal Owner rules the world. A boy from the Northern Spiritual Realm comes out, riding on a Nine Netherworld Bird, as he charges into the brilliant and diverse world. Just who can rule over their destiny of their path on becoming a Great Ruler? In the Great Thousand World, many strive to become a Great Ruler.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset