หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler – ตอนที่ 1219 ไม่เป็น?

หนึ่งในใต้หล้า 大主宰

บทที่ 1219 ไม่เป็น?

ปากหลุมขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นในแม่น้ำลั่ว

ซึ่งตัดการไหลผ่านของน้ำไป เสื้อผ้าของเสี่ยโส่วขาดรุ่งริ่ง ขณะที่นอนพะงาบในหลุม คลื่นหลิงดิ่งลง เห็นได้ชัดว่าเขาได้รับบาดเจ็บสาหัส

ส่วนเสี่ยถงก็ยังนอนพังพาบอยู่อีกมุมหนึ่งของแม่น้ำ ซึ่งดูน่าสมเพชพอกัน

ขณะนี้หมอกเลือดที่เกิดจากร่างเสี่ยยีก็จางหายไปหมดแล้ว…

ทั้งเมืองเงียบกริบ ทุกคนอ้าปากตาค้างกับฉากนี้ ขณะนี้ไม่ว่าตระกูลเสี่ยเสินหรือตระกูลลั่วเสิน แม้กระทั่งจอมยุทธ์คนอื่นๆ ที่เฝ้าดูการต่อสู้ ทุกคนต่างสูดหายใจเข้าลึกในใจด้วยความหวาดกลัว

นั่นเป็นเพราะความสำเร็จนี้น่ากลัวเกินไปแล้ว

ด้วยตัวคนเดียวมู่เฉินสามารถเอาชนะจอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนสามคน ฆ่าไปคนหนึ่งและบาดเจ็บหนักสองคน!

ยามนี้พวกเขายอมที่จะเชื่อว่ามู่เฉินเป็นระดับตี้จื้อจุนขั้นปลายที่ซ่อนความแข็งแกร่งไว้ แต่ความจริงก็ย่อมโหดร้าย ถ้ามู่เฉินเป็นจอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนขั้นปลายตัวจริง พวกจอมยุทธ์ตระกูลเสี่ยทั้งสามคงไม่กล้าท้าทาย แม้จะให้ความกล้ากับพวกเขาเพิ่มขึ้นก็ตาม…

ดังนั้นความจริงคือมู่เฉินผู้สร้างผลงานชิ้นโบแดงสำเร็จเป็นจอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนขั้นต้นเหมือนกับทั้งสามคนนั่น!

ทุกคนมองไปที่มู่เฉินด้วยดวงตาที่เริ่มฉายแววเคารพยำเกรง

มู่เฉินแสดงสีหน้านิ่งสงบ เขาไม่ได้รู้สึกดีใจมากแม้จะประสบความสำเร็จ ราวกับว่าควรจะเป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว

ถ้าเป็นในอดีตหลายคนอาจรู้สึกว่าเขาอวดเก่ง แต่หลังจากบรรลุผลดังกล่าวทุกคนรู้สึกว่าความสงบของเขาลึกซึ้งและไม่อาจหยั่งรู้ได้

ท่ามกลางความเงียบสงบในทั่วฟ้าดิน แม้แต่จอมยุทธ์ตระกูลลั่วเสินยังมองร่างเงานั้นด้วยความสุขในส่วนลึกของดวงตา

เห็นได้ชัดว่าสถานการณ์นี้เกินความคาดหมายพวกเขาไปมาก

ตอนแรกพวกเขาคิดว่ามู่เฉินจะถูกสังหารโดยจอมยุทธ์ตระกูลเสี่ยเสินทั้งสาม แต่สุดท้ายกลับเป็นตระกูลเสี่ยเสินที่พ่ายแพ้ นี่เป็นแสงความหวังสำหรับพวกเขาที่สิ้นหวังไปก่อนหน้า

บางทีชายหนุ่มที่มีความสัมพันธ์พิเศษกับจักรพรรดินี อาจสามารถกอบกู้ตระกูลลั่วเสินได้จริงๆ

ลั่วซิวและลั่วชิงหยาแลกเปลี่ยนสายตากัน ยามนี้พวกเขาหมดแรงจูงใจในการแข่งขัน พวกเขาหวังอย่างแท้จริงว่ามู่เฉินจะช่วยลั่วหลีพาตระกูลลั่วเสินออกจากสถานการณ์สิ้นหวังนี้ได้

บางทีพวกเขาอาจมีข้อสงสัยก่อนหน้านี้ แต่ในเวลานี้พวกเขาเชื่อว่ามู่เฉินสามารถทำได้…

บนเจดีย์ ลูกกระเดือกของเหล่าผู้อาวุโสตำหนักมู่ก็ขยับขึ้นลงอย่างไม่สามารถควบคุมได้ เมื่อพวกเขามองไปที่เสี่ยถงและเสี่ยโส่วซึ่งบาดเจ็บหนัก

จากนั้นก็มองมู่เฉินอีกครั้งด้วยความเคารพที่มีในระดับเดียวกับมั่นถัวหลัว ขณะนี้พวกเขามั่นใจในความแข็งแกร่งของมู่เฉินแล้ว

นั่นเป็นเพราะพลังที่มู่เฉินแสดงออกมาทำให้พวกเขายำเกรง ยิ่งกว่านั้นมู่เฉินยังอ่อนเยาว์มากซึ่งหมายความว่าเขามีศักยภาพในการเติบโตขึ้นไปอีก

ดังนั้นพวกเขาจึงเชื่อว่าในอนาคต มู่เฉินจะไปได้ไกลกว่ามั่นถัวหลัว ในเวลานั้นตำหนักมู่ก็จะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง เนื่องจากเจ้าตำหนักอย่างมู่เฉิน

และพวกเขาก็สามารถพึ่งพามู่เฉินเพื่อให้ได้ตำแหน่งและทรัพยากรอย่างคาดไม่ถึง

“ประมุขมู่เป็นอัจฉริยะที่ได้รับพรจากสวรรค์มีศักยภาพเหลือล้น ในอนาคตเราทุกคนจะต้องดีใจสำหรับการเลือกนี้” หลิ่วเทียนเต้าถอนหายใจด้วยความเคารพ

ครั้งนี้เขาเรียกมู่เฉินว่าประมุขจากส่วนลึกของหัวใจ

เมื่อคนอื่นๆ เห็นว่าหลิ่วเทียนเต้ายอมแพ้กับความกินแหนงแคลงใจที่มีต่อมู่เฉิน กระทั่งเอ่ยประจบสอพอขึ้น แม้ว่าพวกเขาจะรู้สึกไม่ชอบใจ แต่ถึงจะมีความคิดนี้ในใจพวกเขาก็ยังพยักหน้าเห็นด้วยกับความคิดของหลิ่วเทียนเต้า

พอเห็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นริมฝีปากของมั่นถัวหลัวก็โค้งขึ้น เนื่องจากนางรู้ว่าตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ตาเฒ่าเหล่านี้จะยอมรับมู่เฉินได้อย่างแท้จริง

นั่นหมายความว่าจากนี้พวกเขาจะสละความเย่อหยิ่งและเคารพมู่เฉินในฐานะผู้นำ จนยอมสวามิภักดิ์ทั้งใจกาย…

“เจ้าหนูนี่…”

ภายใต้สายตาตกใจมากมาย ลั่วเทียนเสินก็อึ้งไปขณะมองแม่น้ำลั่วที่มีสภาพวุ่นวายก่อนที่จะหันไปมองมู่เฉินด้วยสายตาซับซ้อน

เขาตกตะลึงมากกับความสำเร็จนี้เช่นกัน

ด้วยขุมพลังที่เหมือนกัน มู่เฉินสามารถสังหารไปคนหนึ่ง อีกสองคนก็บาดเจ็บหนัก ผลลัพธ์ดังกล่าวเพียงพอที่จะทำให้ทุกคนพูดไม่ออก

เกี่ยวกับเรื่องนี้ลั่วเทียนเสินรู้สึกถึงความซับซ้อนที่สุดในหัวใจ เพราะเขาเคยได้เห็นว่ามู่เฉินอ่อนแอและไร้ประโยชน์แค่ไหนเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา

แต่ในเวลานั้นลั่วเทียนเสินก็สามารถบอกได้ถึงความดื้อรั้นและความเพียรที่ชายหนุ่มมี

ตอนนั้นเขารู้สึกได้เลือนรางว่ามู่เฉินน่าจะเติบโตอย่างทรงพลัง…

และเป็นอย่างที่คาดไว้มู่เฉินเติบโตอย่างแกร่งกล้า แต่ที่ทำให้เขาคาดไม่ถึงคือมู่เฉินจะสามารถบรรลุผลได้รวดเร็วเพียงนี้…

เขาใช้เวลาไปเพียงสี่ปี!

ชายหนุ่มที่ไม่แม้แต่จะก้าวเข้าสู่ระดับจื้อจุนในตอนนั้นกลับพุ่งแรงยิ่งกว่าดาวฤกษ์ก้าวเข้าสู่ระดับตี้จื้อจุน นอกจากนี้ยังมีทักษะและความแข็งแกร่งที่ทรงพลังเช่นนี้อีกด้วย!

เมื่อมองไปทางมู่เฉิน แม้แต่คนอย่างลั่วเทียนสินยังผวาหน่อยๆ เขารู้สึกโชคดีที่ไม่ได้ขัดขาหรือรังแกชายหนุ่มคนนี้มากเมื่อตอนที่อ่อนแอ มิฉะนั้นเขาจะถูกวางให้อยู่ในตำแหน่งที่น่าอึดอัดใจ

“ยอมมีเรื่องกับตาแก่ ดีกว่ามีเรื่องกับเด็กหนุ่ม” ลั่วเทียนเสินถอนหายใจด้วยอารมณ์หนักหน่วง

เนื่องจากความสำเร็จของมู่เฉิน จอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนทั้งสามคนของตระกูลสาขาก็หยุดชะงักไปเช่นกัน พวกเขาต่างเห็นความกลัวบนใบหน้าของกันและกัน เมื่อมองดูสภาพของเสี่ยถงและเสี่ยโส่ว

“ฮ่าๆ น่าเกรงขามอะไรอย่างนี้!”

ดวงตาของลั่วเทียนหลงแจ่มใส เขาระเบิดเสียงหัวเราะร่วน “ไม่น่าแปลกใจเลยที่ลั่วหลีรักอย่างมั่นคง สายตาของนางไม่ธรรมดาเหมือนกับพรสวรรค์เลย!”

ในขณะที่พูดก็มองไปที่ผู้อาวุโสทั้งสามพลางเย้ยหยันอย่างเยือกเย็น “ดูเหมือนต้นขาของตระกูลเสี่ยเสินไม่ได้หนาอย่างที่แกคิดไว้นะ”

ทั้งสามคนนั้นแสดงออกด้วยท่าทางน่าเกลียด แต่ก็ยังพูดอย่างไม่ยอมแพ้ “ต่อให้เด็กเหลือขอนั่นจะทรงพลัง แต่ตอนนี้ก็คงถึงขีดสุดแล้ว”

ลั่วเทียนหลงล้อเลียนด้วยรอยยิ้ม ไม่ใส่ใจพวกเขาอีก สายตามองไปที่มู่เฉินด้วยความพอใจอย่างยิ่ง วิธีการของชายหนุ่มถูกใจเขามากเลยทีเดียว

ทุกคนต่างตกตะลึงชื่นชมไปพักหนึ่ง ก่อนที่จะหันมองไปที่เสี่ยหลิงจื่อที่ตอนนี้ใบหน้ามืดมนลงหลายส่วนพร้อมกับรังสีสังหารวาบขึ้นในดวงตาขณะจ้องเขม็งไปที่มู่เฉิน

ร่างกายของเขาสั่นเทิ้ม ทุกคนสามารถจินตนาการได้ถึงความโกรธในใจเขา

“ไอ้ขี้กลาก! ขยะสามชิ้น! ถูกเด็กเหลือขอซัดจนถึงจุดนี้ พลังที่พวกแกฝึกฝนไปอยู่ในร่างสุนัขหมดเลยเรอะ?!”

เสี่ยหลงจื่อขบฟันขณะที่คำราม ความโกรธแค้นถูกระบายไปที่เสี่ยถงและเสี่ยโส่ว ซึ่งทำให้ทั้งสองละอายใจนัก

ทั้งสองคนตัวสั่นสะท้าน พวกเขารู้ว่าคงมีแต่เสียงหัวเราะเยาะเย้ยในอนาคตหากมีข่าวว่าจอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนสามคนพุ่งชนมู่เฉินแต่สุดท้ายกลับล้มเหลว ตายหนึ่งคน บาดเจ็บสองคน

“พวกเจ้าลงมือให้หมดฆ่าไอ้เด็กเหลือขอนั่น!”

สายตาของเสี่ยหลิงจื่อมืดมน เขาไม่เพียงแต่มองไปที่เสี่ยถงและเสี่ยโส่งเท่านั้น ยังหมายรวมไปที่จอมยุทธ์อีกสองคนของตระกูลเสี่ยเสินด้วย

ถึงแม้ใบหน้าจะซีดเซียว เสี่ยถงและเสี่ยโส่วก็ยังตะเกียกตะกายยืนขึ้นอย่างช้าๆ

“และพวกแกด้วย สามคนยังจัดการคนเดียวไม่ได้ หากไม่ต้องการมีชีวิตแล้ว ข้าจะช่วยสนองให้!” เสี่ยหลิงจื่อหันกลับมาอย่างเย็นชาขณะที่มองผู้อาวุโสทั้งสามของตระกูลลั่วเสินสาขา

“ไปจัดการพร้อมกัน หากไอ้เด็กเหลือขอนั่นไม่ตาย วันนี้พวกแกลงนรกแทนแน่!”

เมื่อได้ยินคำพูดนั่น ทั้งสามคนก็เปลี่ยนสีหน้าเป็นไม่น่าดูอย่างยิ่ง พวกเขารู้สึกถึงไอสังหารในสายตาของเสี่ยหลิงจื่อ ทว่าพวกเขาก็ไม่กล้าที่จะลบล้างคำพูดเหล่านั้น ทำได้เพียงขบฟัน ก่อนสองคนจะแยกไปปรากฏข้างๆ เสี่ยถงและเสี่ยโส่ว

จอมยุทธ์อีกสองคนของตระกูลเสี่ยเสินก็มาถึงเช่นกัน ทีนี้ก็มีจอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนขั้นต้นเตรียมประจัญบานกับมู่เฉินถึงหกคน

แม้ว่าเกือบครึ่งหนึ่งของพวกเขาจะได้รับบาดเจ็บ การรวมตัวนี้ก็ยังคงน่ากลัว

โห!

เผชิญหน้ากับวิธีไร้ยางอายของตระกูลเสี่ยเสิน ความวุ่นวายก็เกิดขึ้นในเมืองลั่วเสิน บางขั้วอำนาจที่เฝ้าดูสิ่งนี้ก็ได้แต่สาปแช่ง ตระกูลเสี่ยเสินละทิ้งใบหน้าของพวกเขาอย่างสมบูรณ์แล้ว…

จอมยุทธ์ตระกูลลั่วเสินกัดฟันกรอด แต่ก็ไม่มีอะไรที่พวกเขาสามารถทำได้

“ผู้ชนะคือกฎ หากมัวใส่ใจกับมุมมองของคนอื่น ตระกูลเสี่ยเสินก็จะไม่มีโอกาสลุกขึ้นแล้ว”

ทว่าเสี่ยหลิงจื่อไม่ได้ใส่ใจกับสายตามากมายขณะที่เอ่ยเยาะเย้ย เขามองมู่เฉินอย่างโหดเหี้ยม “ไอ้หนู แกมีไพ่ตายเยอะไม่ใช่เรอะ? มาลองใหม่อีกสิ หากสามารถเอาชนะพวกเขาทั้งหมดตระกูลเสี่ยเสินจะยอมจำนนต่อตระกูลลั่วเสินเลย!”

มู่เฉินยิ้มอ่อน “หมาในเหมือนแกฆ่าให้ตายเลยจะดีกว่า ไม่ต้องมาจำนนอะไรหรอก”

“ดื้อด้าน รนหาที่ตาย!” สายตาของเสี่ยหลิงจื่อเย็นชาลง

มู่เฉินยักไหล่ก่อนที่จะมองไปที่จอมยุทธ์ทั้งหกคนพลางแย้มยิ้ม “แกแน่ใจหรือว่าวันนี้ข้าจะเป็นคนตาย?”

“โอ้?” มุมโค้งเย้ยหยันผุดขึ้นที่มุมปากของเสี่ยหลิงจื่อ “แกสามารถรับมือกับจอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนหกคนได้เชียวรึ?”

มู่เฉินยิ้มด้วยดวงตาที่หรี่ลงขณะมองคนทั้งหกพูดขึ้นว่า “ดูเหมือนแกจะลืมสิ่งที่ข้าพูดไปแล้ว”

เสี่ยหลิงจื่อขมวดคิ้ว เค้นเสียงเย็น “อะไร? แกยังแกล้งทำอยู่เหรอ?”

มู่เฉินหลุบตาลงตอบเสียงแผ่วเบาว่า “ข้าชื่อมู่เฉินเป็นประมุขตำหนักมู่”

เสี่ยหลิงจื่อหัวเราะเสียงเย็นเยือก “ตำหนักมู่อะไร ไม่เคยได้ยินมาก่อน”

มู่เฉินเงยหน้าขึ้นยิ้มกว้าง เมื่อเห็นท่าทางอีกฝ่ายเสี่ยหลิงจื่อก็รู้สึกไม่สบายใจทันที

“ในเมื่อข้าเป็นประมุข แกคิดว่าทั้งสำนักมีข้าคนเดียวรึ?”

“กำลังเสริม แกคิดว่าข้าเรียกไม่เป็นรึไง?”

พูดจบมู่เฉินก็ยกมือขึ้นแล้วกวาดลงเบาๆ

เมื่อมือของเขากวาดลง ทุกคนก็เห็นห้วงมิติบิดเบือนรอบตัวมู่เฉิน ร่างเงาจำนวนหนึ่งที่มาพร้อมกับความผันผวนของพลังงานที่ไร้ขอบเขตก้าวออกมาปรากฏอยู่ด้านหลัง ภายใต้สายตาตื่นตะลึงงันนับไม่ถ้วน

ใบหน้าของเสี่ยหลิงจื่อเปลี่ยนไปรุนแรง เขาหายใจเข้าลึกด้วยความไม่เชื่อ ความกลัวพวยพุ่งจากหัวใจไปยังหัวทำเอาหนังหัวลุกชันเลยทีเดียว…

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

หนึ่งในใต้หล้าจากปลายปากกาของเทียนฉานถูโต้ว กล่าวถึงมู่เฉิน เด็กหนุ่มจากสำนักศึกษาเป่ยหลิง ผู้ที่ได้รับเลือกให้เข้าฝึกในสงครามเทพยุทธ์ซึ่งเต็มไปด้วยเหล่าคนเก่งกาจ ทว่า… อยู่ดีๆ เขากลับถูกขับไล่ออกมาด้วยเหตุผลที่ไม่มีใครล่วงรู้ มู่เฉินพยายามฝึกหนักอีกครั้งเพื่อจะพาตัวเองกลับเข้าไปในเส้นทางแห่งนี้ เขาจำเป็นต้องใช้สิ่งนี้เป็นใบเบิกทางเพื่อเข้าศึกษาที่ภาคเบญจภาคี เพื่อ… ปกป้องหญิงสาวที่ตนรัก และยิ่งกว่านั้นคือเพื่อค้นหาเบาะแสของมารดาที่หายสาบสูญไป ‘มหาพันภพ’ เป็นที่ที่มิติทั้งหลายเชื่อมต่อกันในระบบสุริยจักรวาล สถานที่แห่งนี้มีขั้วอำนาจมากมายอาศัยอยู่ จักรพรรดิที่มาจากพิภพเขตล่างต่างเป็นตำนานที่ผู้อื่นปรารถนาขึ้นไปบนเส้นทางแห่งกฎของโลกไร้ขอบเขตนี้ แคว้นหวู่จิ้งฮั่ว เทพจักรพรรดิอัคคีควบคุมเปลวเพลิงกวาดข้ามสวรรค์ แคว้นหวู เทพจักรพรรดิสงครามผู้ยิ่งใหญ่ที่ทำให้ทั้งสวรรค์และโลกหวาดกลัว ตำหนักซีเทียน จักรพรรดิสัประยุทธ์ที่แข็งแกร่งไม่มีผู้ใดเทียบเท่า ในเนินเขารกร้างทางเหนือ ดินแดนวั้นมู่ของจักรพรรดิอมตะครองเหนือภพ เด็กหนุ่มจากมณฑลเป่ยหลิงออกท่องยุทธภพกับวิหคโลกันตร์คู่ใจ มุ่งหน้าสู่โลกภายนอกที่เต็มไปด้วยสีสัน ใครกันที่จะเป็นผู้กุมชะตากรรมในเส้นทางการเป็นหนึ่ง? ในมหาพันภพที่สงครามนับหมื่นอุบัติ ข้าคือผู้กุมชะตาฟ้าดิน… The Great Thousand World. It is a place where numerous planes intersect, a place where many clans live and a place where a group of lords assemble. The Heavenly Sovereigns appear one by one from the Lower Planes and they will all display a legend that others would desire as they pursue the road of being a ruler in this boundless world. In the Endless Fire Territory that the Flame Emperor controls, thousands of fire blazes through the heavens. Inside the Martial Realm, the power of the Martial Ancestor frightens the heaven and the earth. At the West Heaven Temple, the might of the Emperor of a Hundred Battles is absolute. In the Northern Desolate Hill, a place filled with thousands of graves, the Immortal Owner rules the world. A boy from the Northern Spiritual Realm comes out, riding on a Nine Netherworld Bird, as he charges into the brilliant and diverse world. Just who can rule over their destiny of their path on becoming a Great Ruler? In the Great Thousand World, many strive to become a Great Ruler.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset