หนึ่งในใต้หล้า 大主宰
บทที่ 1316 หลุมไร้ก้น
การต่อสู้ในมิติมังกรดำสิ้นสุดลง
ความเสียหายที่เหลือพิสูจน์ให้เห็นว่าเกิดการต่อสู้เลือดเดือดขึ้นที่นี่
ใบหน้าของมู่เฉินเคร่งขรึมลง เมื่อมองไปในตรงจุดที่ซือเทียนโยวหายไป นี่นับเป็นครั้งแรกที่เขาได้พบกับนักรบจากเผ่าปีศาจต่างมิติ ความแข็งแกร่งที่อีกฝ่ายแสดงออกมาทำให้เขาตกใจอย่างยิ่ง
รัศมีปีศาจไม่เหมือนกับคลื่นหลิง แต่ทั้งเลวร้ายและดุร้าย ถ้าได้รับการปนเปื้อนนี้พลังในร่างก็จะหมดลงอย่างรวดเร็ว
ตอนนี้ในแดนเซิ่งยวนโบราณมีกลุ่มจากขุมกำลังทรงพลังมากมายอยู่แล้ว ยิ่งรวมกับเผ่าปีศาจที่ซ่อนตัวสถานการณ์ก็จะยิ่งยากลำบากมากขึ้น
“มันเป็นสมาชิกจากเผ่าซือหมัว มิน่าล่ะถึงมาตามหาศพราชันปีศาจ” เจียงหลงขมวดคิ้วที่ข้างมู่เฉิน
“เผ่าซือหมัว” มู่เฉินพึมพำ แต่เขาที่ไม่มีข้อมูลเผ่าปีศาจมากนัก จึงไม่คุ้นเคยอะไร
“มีเผ่าสามสิบสองเผ่าเป็นขั้วอำนาจหลักในจักรวรรดิปีศาจต่างมิติ และเผ่าซือหมัวก็เป็นหนึ่งในนั้น”
“เผ่าซือหมัวมีความสามารถในการควบคุมศพและกลั่นพลังงานจากศพ ด้วยศพราชันปีศาจตกอยู่ในมือของซือเทียนโยว เมื่อควบคุมได้ความสามารถในการต่อสู้ของมันเพิ่มสูงขึ้นอย่างแน่นอน” เจียงหลงถอนหายใจ
ม่านตามู่เฉินหดลง ซือเทียนโยวในตอนนี้เป็นคู่ต่อสู้ที่ยากจัดการอยู่แล้ว ถ้าเมื่อไรสามารถควบคุมศพราชันปีศาจได้ก็จะต้องยิ่งน่ากลัวกว่าเดิม
แม้ว่าซากร่างนั้นจะไม่ได้มีพลังเหมือนเมื่อยังมีชีวิตอยู่ แต่ก็สามารถจัดการกับจอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนขั้นเต็มได้โดยไม่มีปัญหา ก็เหมือนที่กับหวู่ทงซึ่งถูกสังหารโดยร่างราชันปีศาจ โดยไม่มีอำนาจที่จะต่อสู้
“ข้าประมาทไป ชายคนนั้นใช้จังหวะที่กองทัพมังกรดำอ่อนแอทำลายผนึกและยึดศพราชันปีศาจไป” เจียงหลงโทษตัวเอง ราชันปีศาจถูกสังหารและผนึกโดยจักรพรรดิมังกรดำตั้งแต่ยังมีชีวิต ตอนนี้ศพถูกนำเอาไปซึ่งจะสร้างความเดือดร้อนมากมาย ทำให้เขารู้สึกผิดต่อเจ้านายคนก่อนอย่างยิ่ง
“แม่ทัพเจียงหลง หากเราพบกับซือเทียนโยวในอนาคต ข้าจะพยายามทุกวิถีทางเพื่อจัดการกับมันและทำลายศพราชันปีศาจ” มู่เฉินเอ่ยสัญญา กองทัพมังกรดำอ่อนกำลังลงเพราะสร้างตรากองทัพ ซือเทียนโยวจึงสบโอกาส เรื่องนี้มู่เฉินก็รู้สึกว่าต้องรับผิดชอบด้วย
แน่นอนว่าเหตุผลอีกประการที่เขาทำเช่นนี้ก็เพื่อเอาชนะใจเหล่านักรบ กองทัพมังกรดำไม่ใช่หุ่นเงาที่เขาสามารถสั่งให้ทำงานได้โดยไม่ต้องกังวล นี่คือนักรบยังมีชีวิตโดยมีเจียงหลงเป็นแม่ทัพ ดังนั้นหากมู่เฉินต้องการควบคุมกองทัพชั้นยอดนี้ เขาจะต้องได้รับการยอมรับจากเหล่านักรบทุกคน
ใบหน้าของเจียงหลงอ่อนโยนลงเมื่อได้ยินคำพูดของมู่เฉิน เหล่านักรบมังกรดำก็มองมู่เฉินด้วยสายตาที่เต็มใจจะยอมรับมากขึ้น
มู่เฉินรู้สึกโล่งใจเมื่อเห็นสถานการณ์นี้ ซือเทียนโยวทรงพลังยิ่งเมื่อรวมกับศพราชันปีศาจก็ลำบากที่จะจัดการ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่ามู่เฉินไร้พลัง
หากพวกเขานำไพ่ตายออกมาก็ยังไม่รู้ว่าใครจะชนะ ดังนั้นเขาจึงไม่ได้โอ้อวดในการทำสัญญานั้น
“ในเมื่อเป็นแบบนี้ ข้าก็ขอขอบคุณจอมทัพมู่ล่วงหน้า” เจียงหลงรู้สึกซาบซึ้งใจต่อมู่เฉินก่อนที่จะมองกองทัพมังกรดำพลางยิ้ม “จอมทัพมู่ถึงเวลาที่เจ้าต้องจัดกองทัพมังกรดำแล้ว”
มู่เฉินพยักหน้าด้วยหัวใจลุกโชน แต่จากนั้นเขาก็รู้สึกลำบาก กองทัพมังกรดำเป็นขุมกำลังมีชีวิต ดังนั้นไม่สามารถเก็บไว้ในกำไลเจี้ยจื่อได้ หรือว่าเขาจะนำกองทัพนี้ไปกับเขาขณะที่เดินทาง?
“ไม่จำเป็นต้องกังวล” เมื่อเห็นสีหน้าของมู่เฉิน เจียงหลงก็รู้ทันทีว่าอีกฝ่ายลำบากเรื่องอะไร เขายิ้มกว้าง “มิติมังกรดำเป็นค่ายพักของพวกเรา นี่เป็นมิติเล็กๆ ที่นายท่านคนก่อนสร้างขึ้นอย่างพิถีพิถัน เจ้าสามารถใช้ทักษะลับเพื่อเปลี่ยนมิติมังกรดำให้เป็นแหวนเพื่อนำติดตัวไป”
เมื่อได้ยินใบหน้าของมู่เฉินเปี่ยมด้วยความยินดี หากเป็นเช่นนั้นก็ไม่ได้หมายความว่าเขาสามารถนำกองทัพนี้ไปกับเขาทุกที่ทุกเวลาเลยหรือ?
“แต่” เสียงเจียงหลงหยุดชะงักด้วยดวงตายิ้มหยี “คลื่นหลิงในมิติมังกรดำบางจางลงมาก ดังนั้นจึงสามารถใช้พักผ่อนได้เท่านั้น เมื่อทุกคนตื่นขึ้นความต้องการคลื่นพลังก็เพิ่มขึ้นตามเช่นกัน”
“ดังนั้นถ้าเราอยู่ในมิติมังกรดำเป็นเวลานาน ภายใต้คลื่นหลิงที่ขาดแคลนก็จะทำให้พลังของเราลดลง”
มู่เฉินอึ้งไปก่อนที่จะถาม “แล้วควรทำอย่างไรกัน?”
ตอนนี้เขายังไม่มีความสามารถในการสร้างมิติเป็นตัวเองและไม่สามารถเชื่อมโยงมิติมังกรดำกับมหาพันภพเพื่อดูดซับคลื่นหลิงได้เอง
เจียงหลงหัวเราะเบาๆ “ดังนั้นเราต้องการของเหลวจื้อจุนจำนวนมากเพื่อใช้ในการเพาะบ่ม”
“ต้องการเท่าไร?” ตอนแรกมู่เฉินก็รู้สึกโล่งใจ แต่เมื่อรับรู้ถึงแสงวิบวับในดวงตาของเจียงหลง เขาก็เอ่ยถามอย่างระมัดระวัง
เจียงหลงยิ้ม “ไม่มากหรอกประมาณแปดร้อยล้านหยดต่อปี”
สายตามู่เฉินมืดดำทันที เขาร้องเสียงลั่น “แปดร้อยล้านหยดต่อปี?!”
กระทั่งเขาที่ใจเย็นยังเกือบด่าสาปแช่ง ของเหลวจื้อจุนแปดร้อยล้านหยดไม่ใช่จำนวนเล็กน้อยเลย ต้องรู้ว่าย้อนกลับไปที่เขตต้าหลัวเทียน รายได้ทั้งหมดของอาณาเขตกงเวทสวรรค์เป็นของเหลวจื้อจุนร้อยล้านหยดต่อปีเท่านั้น ทว่าการเลี้ยงดูกองทัพมังกรดำเพียงอย่างเดียวต้องการถึงแปดร้อยล้านหยด?
นี่มันหลุมไร้ก้นแล้ว!
ตอนนี้เองที่มู่เฉินตระหนักว่าจำนวนทรัพยากรที่ใช้เพื่อรักษากองทัพยอดเยี่ยมเช่นนี้มากมายปานใด
“ของเหลวจื้อจุนปีละแปดร้อยล้านหยดยังดีอยู่มั้ง? นี่ข้าพยายามพูดให้น้อยแล้วนะ” เจียงหลงรู้สึกงุนงงไปเล็กน้อย ในอดีตตอนที่พวกเขาติดตามจักรพรรดิมังกรดำ พวกเขาใช้ของเหลวประมาณพันล้านหยดต่อปี
ริมฝีปากของมู่เฉินกระตุก เขาไม่ใช่จักรพรรดิมังกรดำ แต่เป็นเพียงจอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนขั้นปลายตัวน้อยๆ เขาจะร่ำรวยเหมือนจักรพรรดิมังกรดำได้ยังไง?
แม้ว่าเขาจะมีตำหนักมู่ แต่ก็ยังไม่เพียงพอที่จะเติมเต็มหลุมดำนี้!
เจียงหลงดูเหมือนจะเข้าใจเรื่องนี้อยู่บ้าง ดังนั้นเขาจึงยิ้มเก้อออกมา “ถ้าจอมทัพมู่สามารถหาที่อยู่ข้างนอกได้ เราก็จะสามารถอยู่รอดได้ด้วยการใช้ของเหลวจื้อจุนประมาณห้าร้อยล้านหยดเท่านั้น”
มู่เฉินถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ หากเขาไม่สามารถนำทัพมังกรดำไปกับเขาได้ก็ไม่มีความหมายอะไร เพราะไม่มีใครในตำหนักมู่ที่สามารถควบคุมได้ ดังนั้นในทางปฏิบัติก็เป็นการสูญเสียทรัพยากรมาก
“ข้าจะพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อตอบสนองความต้องการของพวกเจ้าในเรี่องของเหลวจื้อจุน” มู่เฉินพยักหน้า เขาอุตส่าห์ได้รับกองทัพนี้มา ดังนั้นเขาไม่สามารถปล่อยไปได้โดยง่าย ถ้าข่าวรั่วไหลออกไป ไม่รู้ว่าจะมีขั้วอำนาจสูงสุดเท่าไรมาต่อสู้แย่งชิงกัน
เมื่อเทียบกับกองทัพชั้นยอดที่สามารถเผชิญหน้ากับจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุน ของเหลวจื้อจุนหลายร้อยล้านหยดก็ไม่ได้เป็นอะไรมาก
ตามการประเมินของมู่เฉิน ถ้าเขาต้องการที่จะสร้างกองทัพเช่นนั้น ไม่ต้องพูดถึงเวลาแค่เพียงของเหลวจื้อจุนอย่างเดียว ก็ต้องจ่ายออกไปพันล้านแล้ว
“มีของเหลวจื้อจุนร้อยล้านหยดอยู่ที่นี่ พวกเจ้าเอาไปใช้ก่อน”
มู่เฉินสะบัดแขนเสื้อ สายธารก็หลั่งไหลออกมา แสงกำจายออก คลื่นหลิงไร้ขอบเขตเติมเต็มไปทั่วมิติมังกรดำนี้
สายธารเหล่านั้นเกิดจากของเหลวจื้อจุนทั้งสิ้น มู่เฉินอดรู้สึกโชคดีไม่ได้ที่เขาเดิมพันด้วยของเหลวจื้อจุนแปดสิบล้านหยดให้กับตัวเองในทวีปซีเทียน ดังนั้นปริมาณของเหลวจึงมีถึงสองร้อยล้านหยด
ไม่เช่นนั้นเขาคงไม่สามารถนำของเหลวจื้อจุนออกมาแม้แต่ร้อยล้านหยดได้
เมื่อเจียงหลงเห็นของเหลวจื้อจุนก็พยักหน้าด้วยรอยยิ้ม ด้วยปริมาณนี้สามารถสนับสนุนการฝึกฝนกองทัพมังกรดำได้หนึ่งถึงสองเดือน
จากนั้นมู่เฉินตรวจสอบกองทัพ เขาพบว่ามีนักรบประมาณหมื่นห้าพันคน จากที่เจียงหลงพูดกองทัพมังกรดำในจุดสูงสุดมีนักรบสองหมื่นห้าพันคน แต่ก็สูญเสียจำนวนพลไปมากจากการเข้าสู่นิทรารมณ์ยาวเช่นนี้
“ดูท่าหากมีโอกาสในอนาคต สามารถลองเติมเต็มกองทัพได้” มู่เฉินคิดในใจ แต่เงื่อนไขแรกคือเขาต้องมีของเหลวจื้อจุนเพียงพอที่จะสนับสนุน
เพราะตอนนี้แค่สนับสนุนนักรบหมื่นห้าพันคนอย่างเดียวก็ปวดกบาลมากแล้ว หากต้องการเสริมกำลังเพิ่ม ราคาที่ต้องจ่ายก็จะทะยานทะลุเพดาน
“ดูเหมือนตำหนักมู่ต้องขยายตัวแล้ว” มู่เฉินตีหน้าผากตัวเอง แม้ว่าตำหนักมู่จะรวบรวมภูมิภาคทางเหนือของทวีปเทียนหลัวแต่ก็ยังไม่เพียงพอ ดังนั้นหากมู่เฉินต้องการมีเงินทุนเพื่อบรรลุความปรารถนา เขาจะต้องขยายอิทธิพลตำหนักมู่
แต่นั่นหมายความว่าเขาจะต้องต่อสู้กับขั้วอำนาจชั้นนำอื่นๆ ในทวีปเทียนหลัว ทว่าคนอย่างมู่เฉินก็ไม่กลัว ตอนนี้เขาไม่ใช่แค่จอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนขั้นต้นแล้ว เมื่อถึงเวลาที่เขากลับไปยังทวีปเทียนหลัว แม้แต่มั่นถัวหลัวก็ไม่สามารถเอาชนะเขาได้
“หากจอมทัพมู่ต้องการก็สามารถส่งข้อความมายังมิติมังกรดำในครั้งต่อไปได้เลย แต่ด้วยความเชี่ยวชาญตอนนี้ในฐานะจั้นเจิ้นซือ เจ้าสามารถสั่งการนักรบได้สามพันคนเท่านั้น ข้าจะรอวันที่เจ้าสามารถควบคุมกองทัพมังกรดำทั้งหมดได้” เจียงหลงโค้งคำนับขณะที่พูดด้วยน้ำเสียงสุภาพต่อมู่เฉิน
“ข้าก็รอวันนั้นเช่นกัน”
มู่เฉินยิ้มพลางพยักหน้า หลังจากได้รับทักษะลับในการเก็บมิติมังกรดำจากเจียงหลง มู่เฉินก็ไม่อยู่ต่อ ทะยานออกจากมิติมังกรดำทันที
ยามนี้เขายังไม่ลืมว่ามีเม็ดยาจำนวนมากของภูตผีเสื้อโอสถที่ทิ้งไว้ แน่นอนว่ายังมีเม็ดยาเซิ่งหวาที่เขาหมายตาด้วย
หากเขาได้รับมาก็จะสามารถพัฒนาทักษะเทห์สวรรค์ของร่างเทพสุริยะนิรันดร์เข้าสู่ขั้นสองได้ ซึ่งจะเป็นการเพิ่มความแข็งแกร่งของมู่เฉินอย่างมีนัย