หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler – ตอนที่ 1319 ตลาด

หนึ่งในใต้หล้า 大主宰

 

บทที่ 1319 ตลาด

 

ฟิ้ว!

รัศมีโบราณกระจายไปทั่วบริเวณ ความเงียบที่ดูเหมือนจะเป็นชั่วนิรันดร์ก็หยุดชะงักลง ร่างเงาหลายร่างพุ่งทะลุขอบฟ้า ทะยานไปยังส่วนลึกด้วยความเร็วที่น่าอัศจรรย์

ขณะที่เดินทาง โครงสร้างเมืองใหญ่ก็เริ่มมองเห็นได้จากระยะไกล ดูราวกับสัตว์อสูรร้ายตัวใหญ่ที่กำลังคืบคลานอยู่บนพื้น

“เรากำลังจะถึงแล้ว!”

เวินชิงเฉวียนดีใจเมื่อเห็นภาพเมือง

หลังจากการเดินทางมาสองวันเต็ม ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงที่หมาย

มู่เฉินและคนอื่นๆ ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกโล่งใจ เพราะไม่ง่ายที่จะเดินทางในแดนเซิ่งยวนโบราณนี้ ภัยพิบัติที่แม้แต่จอมยุทธ์ตี้จื้อจุนยังหวาดกลัวเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ สองวันที่ผ่านมาพวกเขาก็เห็นภัยพิบัติอย่างน้อยห้าประเภท ซึ่งภัยสายฟ้าทำลายล้างที่เป็นหนึ่งในนั้นเกือบทำให้กลุ่มพวกเขาต้องสูญเสียกำลังพล

แต่โชคดีที่พวกเขามาถึงที่หมายจนได้

เมื่อพวกมู่เฉินเข้าไปใกล้เมืองมากขึ้นก็รู้สึกได้ว่ามีกลุ่มอื่นพุ่งผ่านขอบฟ้าจากทิศทางอื่นมุ่งหน้าไปยังเมืองเช่นกัน

มู่เฉินยังรู้สึกถึงความผันผวนของคลื่นหลิงจำนวนมากในเมืองอีกด้วย

“มีหลายกลุ่มมารวมตัวกันที่นี่จริงๆ” มู่เฉินหรี่ตา จากการประเมินกลุ่มเจ็ดถึงแปดส่วนที่เข้ามาในแดนเซิ่งยวนโบราณล้วนน่าจะมาที่จุดรวมตัวนี้

ดังนั้นจึงบอกได้ว่าในจุดรวมตัวนี้วุ่นวายเพียงใด

“ระวังด้วยนะ”

มองเมืองที่ใกล้เข้าไปทุกขณะ มู่เฉินก็เอ่ยเตือนทุกคน

คนอื่นๆ พยักหน้า กลุ่มที่สามารถทำภารกิจในแดนเซิ่งยวนได้ไม่ใช่ธรรมดา ถ้าเกิดการกระทบกระทั่งกันก็สร้างปัญหาน่าดู

ทุกคนพุ่งทะลุขอบฟ้าก่อนที่จะพลิ้วลงไปที่หน้าประตูเมือง เนื่องจากพวกเขารู้สึกถึงความผันผวนของคลื่นหลิงทรงพลังบริเวณท้องฟ้าเหนือเมืองเมื่อเข้าใกล้ ความผันผวนนี้ทรงพลังอย่างยิ่ง

หากพุ่งเข้าใส่อย่างไม่ระวัง อาจทำให้เกิดการโจมตีของพลังงานก็เป็นได้

“นี่เป็นค่ายกลที่เสียหาย ระดับสูงมากเลยทีเดียว คงไม่อ่อนแอไปกว่าที่เมืองเซิ่งยวน” หลิงซีจ้องมองความผันผวนวุ่นวายบนท้องฟ้าก็อุทานออกมาเบาๆ

มู่เฉินพยักหน้า แม้ว่าค่ายกลนี้จะได้รับความเสียหาย แต่เขาก็ยังรู้สึกถูกคุกคาม แต่เขาไม่แปลกใจเนื่องจากนี่เป็นหนึ่งในสนามรบโบราณระหว่างมหาพันภพกับเผ่าปีศาจต่างมิติ ดังนั้นจึงเป็นปกติที่จะเห็นค่ายกลในระดับนี้

“ไปกันเถอะ”

มีหลายกลุ่มทะยานลงบริเวณประตูเมืองอย่างต่อเนื่อง จากนั้นก็ตั้งระวังขณะเข้าไปในตัวเมือง ส่วนมู่เฉินก็โบกมือแล้วเข้าไปภายใน
novel-lucky
เมื่อก้าวเข้ามาในเมือง อาคารพังพินาศก็ฉายเต็มสองลูกตา ทว่าแม้จะเป็นเช่นนั้นก็ยังรู้สึกว่าครั้งหนึ่งที่นี่เคยรุ่งโรจน์ขนาดไหน

เมืองนี้เต็มไปด้วยอาคารสูงหลายแห่ง ลือกันว่าในสมัยโบราณจอมยุทธ์ชั้นยอดนิยมสร้างเจดีย์เพื่อฝึกฝนสำหรับตนเอง ดังนั้นเจดีย์ทุกองค์จึงเป็นตัวแทนของจอมยุทธ์ที่ยิ่งใหญ่

เมืองที่พังพินาศกลับมาคึกคักจากการมาถึงของผู้คนหลายกลุ่ม เสียงโกลาหลดังทั่วบริเวณ

“มีตลาดอยู่ในเมืองนี้ ซึ่งมีหลายกลุ่มจะนำของมาขาย บางทีก็เป็นสมบัติแต่ก็อาจเป็นขยะได้ด้วย ทว่าโดยรวมก็ควรค่าแก่การไปชม”

เวินชิงเฉวียนรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับจุดรวมตัวนี้มาก่อน ดังนั้นนางจึงชี้ไปที่ส่วนลึกของเมืองและยิ้มพราว

หัวใจมู่เฉินสั่นไหว แดนเซิ่งยวนโบราณใหญ่โตมาก มีจอมยุทธ์ชั้นยอดมากมายที่ละสังขารไว้ที่นี่ ดังนั้นจึงมีสมบัติมากมาย บางคนโชคดีได้พบ แต่อาจมีสายตาไม่เฉียบแหลมในการพิจารณาสิ่งของเหล่านั้น ดังนั้นหากเจอของดีในตลาดก็ถือว่าได้สวรรค์ประทานพร

“เรื่องข้อมูลให้เป็นหน้าที่ของพวกข้า ตระกูลเวินมีแหล่งข่าวมากมาย สำหรับพวกเจ้าลองไปเดินชมที่ตลาดก่อนได้” เวินชิงเฉวียนกล่าว

“ตกลง”

มู่เฉินพยักหน้า นั่นเป็นแหล่งข้อมูลของตระกูลเวินจึงไม่เหมาะที่พวกเขาจะตามไป

“งั้นเดี๋ยวเจอกัน”

เวินชิงเฉวียนโบกมือ ก่อนมุ่งหน้าไปอีกทางหนึ่งพร้อมกับพวกเวินจื่อหยู่ มองอีกฝ่ายที่ออกไป มู่เฉินก็หันหลังกลับนำลั่วหลี หลิงซีและหลงเซี่ยงเข้าไปในตลาด

ผ่านไปตามถนนที่จอแจไปข้างหน้าก็มองเห็นลานขนาดใหญ่ที่ได้รับความนิยม มีผู้คนเดินไปมาอยู่จำนวนมาก

ความนิยมนี้ไม่อาจเทียบได้กับโลกภายนอก แต่ในแดนเซิ่งยวนโบราณก็มีเพียงสถานที่แห่งนี้เท่านั้นที่ได้รับความนิยมสูงสุด

เห็นได้ชัดว่านี่ต้องเป็นตลาดที่เวินชิงเฉวียนบอก

พวกมู่เฉินแลกเปลี่ยนสายตากัน ความสนใจวูบวาบในนัยน์ตา ก่อนที่จะเดินเข้าไปภายใน ลานแห่งนี้ปูด้วยหินขนาดใหญ่ มีร่างนั่งอยู่บนหินเหล่านั้นพร้อมกับแสดงสินค้าที่เบื้องหน้า

สิ่งของทั้งหมดนั้นมีกลิ่นอายโบราณ มองเห็นรอยกะดำกะด่างจากร่องรอยของอายุ

มู่เฉินหยุดที่หน้าหินก้อนใหญ่หนึ่ง กวาดตามองวัตถุที่วางเต็มอยู่เบื้องหน้า บางชิ้นที่เป็นอาวุธมหสวรรค์ก็เปล่งคลื่นหลิงจางๆ อยู่

มู่เฉินหยิบกระบี่สีดำขึ้นมา ตัวกระบี่มีรอยแตก ใบมีดหม่นแสง แต่พลังงานที่เปล่งออกมาบางครั้งทำให้ดูไม่ธรรมดา

“ฮี่ๆ สหายสนใจกระบี่นี่รึ? กระบี่นี้ถูกสร้างโดยเหล็กเย็นเก้าอเวจีกับหินอุกกาบาต มันทนทานอย่างยิ่ง ในจุดสูงสุดก็เป็นอาวุธที่มีค่าสูงกว่าอาวุธมหสวรรค์ขั้นสูงซะอีก อาจมีความเป็นไปได้ที่จะเป็นอาวุธมหสวรรค์ขั้นยอดเยี่ยมที่เคยเป็นของจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุน” ชายชุดเทายืนอยู่ด้านหลังแผงขายของยิ้มตาหยี

ในมหาพันภพมีอาวุธที่เหนือกว่าอาวุธมหสวรรค์ขั้นสูงก็คือขั้นเยอดเยี่ยม

แต่อาวุธมหสวรรค์ขั้นยอดเยี่ยมหายากและทรงพลัง แม้แต่จอมยุทธ์เทียนจื้อจุนบางคนก็ยังไม่มีในครอบครอง จากการประเมินของเขากระบี่ของจักรพรรดิฟ้าก็น่าจะเป็นอาวุธมหสวรรค์ขั้นยอดเยี่ยม ในจุดสูงสุดก็น่าจะอยู่ในอันดับต้นๆ เลยทีเดียว

มู่เฉินยิ้มขณะถือกระบี่ยาวสีดำถามว่า “นี่ราคาเท่าไร?”

“ราคาลดสุดๆ แล้วอยู่ที่ของเหลวจื้อจุนห้าสิบล้านหยด” ชายชุดเทาพูดขึ้น

มู่เฉินยิ้มแล้วโยนกระบี่กลับไปก่อนที่จะหันออกไป เขาไม่คิดจะพูดกับผู้ขาย กระบี่ยาวสีดำนั่นอาจเป็นสิ่งประดิษฐ์โบราณ แต่ไม่ว่าครั้งหนึ่งจะทรงพลังแค่ไหนก็เสียหายไปแล้ว กลายเป็นขยะที่สึกกร่อนตามกาลเวลา
novel-lucky
เมื่อชายชุดเทาเห็นมู่เฉินออกไปโดยไม่สนใจ เขาก็สาปส่ง

กลุ่มมู่เฉินเดินผ่านร้านรวงในตลาด พวกเขาได้เห็นสมบัติโบราณหลายอย่าง แต่ส่วนใหญ่เป็นของไร้ประโยชน์

ทว่าส่วนมากจะเป็นขยะ แต่อย่างน้อยบนแผงขายของแผงหนึ่งมู่เฉินก็รู้สึกถึงวัตถุสองชิ้นที่ไม่ธรรมดา จากการประเมินทั้งสองน่าจะเป็นสมบัติของจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุน ซึ่งเจ้าของคนก่อนของมันไม่ได้อ่อนแอเลย

นี่เป็นไม้ยาวและพลองที่น่าจะเป็นอาวุธมหสวรรค์ขั้นยอดเยี่ยม ก่อนที่จะได้รับความเสียหาย

แม้ว่าทั้งสองรายการจะไม่ธรรมดา แต่มู่เฉินก็ไม่มีความตั้งใจที่จะซื้อ นั่นเพราะมีคนจำนวนมากสนใจ มิหนำซ้ำพวกเขายังร่ำรวย ในเวลาเพียงไม่กี่นาทีราคาก็ถูกปั่นไปถึงพันล้านหยด ซึ่งมู่เฉินไม่มีกำลังทรัพย์ในการซื้ออาวุธที่เสียหาย

วัตถุเช่นนั้นต่อให้ได้มาก็ต้องใช้ทรัพยากรจำนวนมากในการฟื้นฟู

ดังนั้นทั้งกลุ่มจึงไม่ได้ซื้ออะไรและไม่เห็นอะไรที่พึงพอใจ ซึ่งทำให้พวกเขาอดเสียดายไม่ได้

มู่เฉินกวาดสายตาก็พบว่ากำลังจะถึงท้ายตลาดแล้ว ขณะที่ตั้งใจจะกลับไปรวมกลุ่มกับเวินชิงเฉวียน เขาก็หยุดชะงักเมื่อเดินผ่านแผงหินขนาดใหญ่

แววตาของเขาสั่นไหวก่อนจะหยุดฝีเท้าลง สายตาเขาจ้องอยู่บนก้อนหินใหญ่ที่มีแผงขายของเล็กๆ ที่แสดงวัตถุอยู่หลายชิ้นที่มีกลิ่นอายโบราณ คลื่นหลิงหม่นแสง

สายตาของมู่เฉินกวาดผ่าน ก่อนที่จะหยุดบนแผ่นทองแดงที่เปรอะเปื้อนไปด้วยโคลน เขาหยิบมันขึ้นมาเช็ดโคลนออก ก่อนที่ความมันวาวจะปรากฏให้เห็น

นี่เหมือนจะเป็นแผ่นทองแดงที่แตกหัก ทว่าแผ่นทองแดงนี่ถูกขัดจนมันวาวมาก สามารถมองเห็นอักขระโบราณสะท้อนถึงต้นกำเนิดโบราณของวัตถุนี้

มู่เฉินมองไปที่แผ่นทองแดง แม้ว่าสายตาจะสงบแต่หัวใจเต้นไม่เป็นส่ำ เนื่องจากเขารู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนจากเจดีย์ในร่างกายเมื่อเดินผ่าน

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขาถือแผ่นทองแดงนี้ไว้ในมือ เจดีย์ในร่างกายก็ยิ่งสั่นรุนแรง ถ้าไม่ใช่เขาพยายามระงับเอาไว้ละก็ เขาอาจสูญเสียการควบคุมเจดีย์ไปแล้ว

เห็นได้ชัดว่าวัตถุนี้จะต้องเชื่อมโยงกับเผ่าฝูถูแน่

แววตาของมู่เฉินสั่นไหว ขณะที่เอ่ยถามชายวัยกลางคนร่างผอม “นี่ราคาเท่าไร?”

ชายวัยกลางคนมองมาที่มู่เฉินตอบอย่างนิ่งเฉย “แปดสิบล้าน”

มู่เฉินเลิกคิ้วขึ้นเมื่อได้ยิน “ไม่แพงไปหน่อยเหรอ?”

ชายวัยกลางคนยิ้ม “สหายแม้ว่าข้าจะไม่รู้ว่าวัตถุนี้คืออะไร แต่ข้ารู้ว่าต่อให้ข้าโจมตีด้วยพลังทั้งหมดที่มี ก็ไม่สามารถสร้างความเสียหายได้แม้แต่น้อย ซึ่งนี่บอกได้วัตถุนี้ไม่ธรรมดา อีกอย่างดีที่ข้าไม่รู้ว่ามันใช้งานยังไง ไม่งั้นเจ้าคิดว่าข้าจะเอาออกมาขายเรอะ?”

มู่เฉินพูดไม่ออก คนที่สามารถเข้ามาในแดนเซิ่งยวนโบราณได้ไม่ใช่พวกธรรมดาเลยจริงๆ ชายคนนี้ก็ดูเหมือนจะมีสายตาพอสมควร

ดังนั้นมู่เฉินจึงไม่พูดมากความ โบกแขนเสื้อ ขวดหยกขวดหนึ่งก็บินไปหาชายวัยกลางคน ขณะที่เขาถือแผ่นทองแดงไว้ “งั้นข้าซื้อ”

ทว่าทันใดมือข้างหนึ่งก็ยื่นออกมาจากด้านหลังทะลุผ่านมิติคว้ามาที่แผ่นทองแดงในมือมู่เฉิน

ขณะเดียวกันเสียงไม่แยแสก็ดังก้อง

“ข้าเอาสิ่งนี้”

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

หนึ่งในใต้หล้าจากปลายปากกาของเทียนฉานถูโต้ว กล่าวถึงมู่เฉิน เด็กหนุ่มจากสำนักศึกษาเป่ยหลิง ผู้ที่ได้รับเลือกให้เข้าฝึกในสงครามเทพยุทธ์ซึ่งเต็มไปด้วยเหล่าคนเก่งกาจ ทว่า… อยู่ดีๆ เขากลับถูกขับไล่ออกมาด้วยเหตุผลที่ไม่มีใครล่วงรู้ มู่เฉินพยายามฝึกหนักอีกครั้งเพื่อจะพาตัวเองกลับเข้าไปในเส้นทางแห่งนี้ เขาจำเป็นต้องใช้สิ่งนี้เป็นใบเบิกทางเพื่อเข้าศึกษาที่ภาคเบญจภาคี เพื่อ… ปกป้องหญิงสาวที่ตนรัก และยิ่งกว่านั้นคือเพื่อค้นหาเบาะแสของมารดาที่หายสาบสูญไป ‘มหาพันภพ’ เป็นที่ที่มิติทั้งหลายเชื่อมต่อกันในระบบสุริยจักรวาล สถานที่แห่งนี้มีขั้วอำนาจมากมายอาศัยอยู่ จักรพรรดิที่มาจากพิภพเขตล่างต่างเป็นตำนานที่ผู้อื่นปรารถนาขึ้นไปบนเส้นทางแห่งกฎของโลกไร้ขอบเขตนี้ แคว้นหวู่จิ้งฮั่ว เทพจักรพรรดิอัคคีควบคุมเปลวเพลิงกวาดข้ามสวรรค์ แคว้นหวู เทพจักรพรรดิสงครามผู้ยิ่งใหญ่ที่ทำให้ทั้งสวรรค์และโลกหวาดกลัว ตำหนักซีเทียน จักรพรรดิสัประยุทธ์ที่แข็งแกร่งไม่มีผู้ใดเทียบเท่า ในเนินเขารกร้างทางเหนือ ดินแดนวั้นมู่ของจักรพรรดิอมตะครองเหนือภพ เด็กหนุ่มจากมณฑลเป่ยหลิงออกท่องยุทธภพกับวิหคโลกันตร์คู่ใจ มุ่งหน้าสู่โลกภายนอกที่เต็มไปด้วยสีสัน ใครกันที่จะเป็นผู้กุมชะตากรรมในเส้นทางการเป็นหนึ่ง? ในมหาพันภพที่สงครามนับหมื่นอุบัติ ข้าคือผู้กุมชะตาฟ้าดิน… The Great Thousand World. It is a place where numerous planes intersect, a place where many clans live and a place where a group of lords assemble. The Heavenly Sovereigns appear one by one from the Lower Planes and they will all display a legend that others would desire as they pursue the road of being a ruler in this boundless world. In the Endless Fire Territory that the Flame Emperor controls, thousands of fire blazes through the heavens. Inside the Martial Realm, the power of the Martial Ancestor frightens the heaven and the earth. At the West Heaven Temple, the might of the Emperor of a Hundred Battles is absolute. In the Northern Desolate Hill, a place filled with thousands of graves, the Immortal Owner rules the world. A boy from the Northern Spiritual Realm comes out, riding on a Nine Netherworld Bird, as he charges into the brilliant and diverse world. Just who can rule over their destiny of their path on becoming a Great Ruler? In the Great Thousand World, many strive to become a Great Ruler.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset