หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2] – บทที่ 98 กำหนดงานแต่งงาน

บทที่ 98 กำหนดงานแต่งงาน

Ink Stone_Romance

สวี่ส้าวเคยปักใจเชื่อว่าหลังจากกำจัดเยี่ยนจิ่วเฉาได้ เด็กน้อยทั้งสามจะได้รับมรดกทั้งหมดจากบิดา เหยียนหรูอวี้ที่เป็น ‘มารดาผู้ให้กำเนิด’ ก็จะกลายเป็นนายหญิงของจวนคุณชายและเมืองเยี่ยนไปโดยปริยาย ทว่าในความเป็นจริง แผนการนี้ยังมีความเสี่ยงและช่องโหว่อยู่มาก หญิงที่ไม่มีกระทั่งเทือกเถาเหล่ากอกับราชพงศาวลีจะไม่มีวันได้รับการยอมรับในเชื้อสายเยี่ยนอ๋อง แม้สวี่ส้าวจะลอบสังหารเยี่ยนจิ่วเฉาได้สำเร็จ ทว่าเหยียนหรูอวี้ก็ไม่อาจเป็น ‘พระชายาเยี่ยน’ ผู้ผ่านชีวิตโชกโชนได้อย่างมีหน้ามีตา
…………
มือที่กำลังปลดเข็มขัดเยี่ยนจิ่วเฉาของอวี๋หวั่นหยุดชะงัก
เธอเก็บกลั้นความรุ่มร้อนในจิตใจไว้สองครั้ง เธอคิดถึงความเป็นไปได้ต่างๆ นับไม่ถ้วน แต่เธอไม่เคยรู้เลยว่าเยี่ยนจิ่วเฉามีแผนการเช่นนี้อยู่ในใจ
เธอคิดว่าที่เยี่ยนจิ่วเฉาไม่อยากแตะต้องเธอ เพราะไม่ต้องการทำให้เธอเดือดร้อน แต่มาวันหนึ่ง กลับได้ยินเยี่ยนจิ่วเฉาพูดกับเธอว่า “ข้ากำลังจะตาย ข้าไม่อาจทำให้เจ้าเดือดร้อนในชีวิตที่เหลือ เจ้าต้องรีบหาผู้ชายดีๆ แล้วไม่ต้องห่วงข้าอีก เจ้าเป็นหญิงอ่อนแอ ไม่สามารถถือครองทรัพย์สมบัติมากมายเช่นนั้นได้ ข้าเตรียมเงินไว้ให้เจ้าแล้ว มันเพียงพอสำหรับเจ้าที่จะใช้อีกไปหลายชั่วอายุคน เจ้า…เจ้าจงจากไปให้ไกล…และลืมข้าเสียเถิด…”
เมื่อมาถึงตอนนี้ เขาไม่สนเรื่องเหล่านั้นอีกต่อไปแล้ว
เขาไม่อยากให้อวี๋หวั่นมีชีวิตไปวันๆ เขาต้องการให้เธอยืนได้อย่างองอาจท่ามกลางฝูงชน เขาให้เธอเหยียบบนไหล่ของเขา
เธอมีชีวิตอยู่ได้ ไม่ใช่เพราะเธอยอมแพ้มามาก แต่เพราะเธอมีมากพอแล้ว คนเหล่านั้นไม่ได้ปล่อยเธอไปเพราะเห็นอกเห็นใจ แต่เป็นเพราะพวกเขาหวาดกลัว จึงไม่กล้าทำอะไรกับเธอ
“สมกับเป็นเยี่ยนจิ่วเฉาจริงๆ…”
หลังจากรู้ความในใจของเขา อวี๋หวั่นก็ไม่ได้ประหลาดใจ อย่างไรเสีย แม้ว่าเขาจะดึงมือเธอให้ไปซ่อนตัวที่ไกลๆ และหาผู้ชายที่ดีแต่งงานด้วยจริง เธอเกรงว่าคงต้องทำให้เขาผิดหวัง
นั่นไม่ใช่ความรัก แต่เป็นการดูถูก
“เยี่ยนจิ่วเฉาหนอเยี่ยนจิ่วเฉา…” ในใจอวี๋หวั่นคิดเป็นร้อยเป็นพันครั้ง “ข้าสัญญาว่าจะแต่งงานกับท่านแล้ว ท่านยังไม่ยอมอีกหรือ? รีบถอนพิษก่อนได้หรือไม่?”
“เจ้าอย่า…ได้คิด…”
ทันทีที่สิ้นเสียง เยี่ยนจิ่วเฉาก็สลบไป
อวี๋หวั่นกอดเขาไว้ในอ้อมแขน และหันศีรษะเขาไปมา เธอทาบมือลงบนหน้าอกของเขา พร้อมกับเลิกคิ้วแล้วเอ่ยว่า “ท่านบอกว่าอย่าได้คิดใช่หรือไม่? ยามนี้หากอยากจะทำเช่นไรกับท่าน ข้าก็ทำได้ ปลดเปลื้องเสื้อผ้าอาภรณ์ของท่าน ท่านขัดขืนได้หรือ?”
เอ่ยจบ อวี๋หวั่นก็ลูบหน้าอกของเขาแรงๆ สองครั้ง ราวกับว่าต้องการเพิ่มน้ำหนักให้คำพูดของตัวเอง
จากนั้นอวี๋หวั่นก็ถอนหายใจ “ข้าแพ้ท่านแล้ว”
อวี๋หวั่นยกปลายนิ้วของเธอขึ้น บาดแผลที่ให้ปรมาจารย์พิษปล่อยเลือดออกมาหายสนิทจนมองไม่เห็นอีกแล้ว เธอคลับคล้ายคลับคลาว่าเลือดของเธอสามารถหล่อเลี้ยงหนอนพิษได้ แต่ไม่รู้ว่าจะมีประโยชน์กับอาการป่วยของเขาหรือไม่ หากเธอไม่ระวังทำให้เขาตายเพราะพิษจะทำอย่างไร?
“เยี่ยนจิ่วเฉา วิธีนี้อันตรายสักหน่อย ท่านแน่ใจว่าจะลองทำหรือไม่?”
เยี่ยนจิ่วเฉาย่อมตอบกลับเธอไม่ได้
ในที่สุดอวี๋หวั่นก็ตัดสินใจลองดู
โชคดีที่วิธีนี้ได้ผล ชีพจรของเยี่ยนจิ่วเฉาไม่อ่อนแรงเหมือนก่อนหน้า ทว่าวิธีนี้ต้านพิษไว้ได้เพียงชั่วคราวเท่านั้น ไม่สามารถรักษาให้หาย
“ให้ผ่านช่วงนี้ไปได้ก่อนแล้วกัน” อวี๋หวั่นบีบใบหน้าของเขาเบาๆ
…………
เมื่อตกดึก อิ่งลิ่วก็พาเยี่ยนจิ่วเฉากลับไปยังจวน
เยี่ยนจิ่วเฉาตื่นขึ้นมาระหว่างการเดินทางและก็หลับไปอีกครั้งในไม่ช้า เมื่อหลู่เซียวเหยาเห็นว่าเขานอนราบกลับมา จึงคิดว่าภารกิจล้มเหลว เขากลัวมากจนสลบไปทันที
อิ่งลิ่วเข้ามาในห้องและกระซิบเอ่ยอะไรบางอย่างกับอิ่งสือซัน อิ่งสือซันรับดาบมาอย่างเย็นชา พลางเอ่ยกับคนสองสามคนที่กำลังตัวสั่นงันงก “พวกเจ้าไปได้แล้ว”
พวกเขาถึงกับผงะ
หลู่เซียวเหยาที่หมดสติกลับลุกขึ้นนั่ง ดวงตาเล็กๆ ของเขาเบิกกว้าง “ไปได้แล้วหรือ? ท่านพูดจริงหรือล้อเล่น?”
อิ่งสือซันกล่าวด้วยเสียงแผ่วเบา “หรือเจ้าต้องการทิ้งชีวิตของตัวเองไว้ที่นี่?”
“ไม่ๆๆๆ! พวกเราจะไปเดี๋ยวนี้! ไปแล้ว!” หลู่เซียวเหยาลากสหายของเขา ล้มลุกคลุกคลานออกจากจวนคุณชายไป
เช้ามืดในวันรุ่งขึ้น ลุงวั่นตื่นขึ้นและออกไปจับห่านป่าเป็นๆ มาคู่หนึ่ง พร้อมกับออกไปรับแม่นางตู้หงที่หอซิ่ว เพื่อเดินทางไปขออวี๋หวั่นแต่งงานที่หมู่บ้านเหลียนฮวาพร้อมกัน
ลุงวั่นคิดว่ายิ่งงานแต่งงานเร็วเท่าไรก็ยิ่งดี ด้วยเหตุนี้ เวลาจึงเร่งรีบ แม่นางตู้หงแนะนำว่าทำทุกอย่างให้เรียบง่าย “…ครอบครัวใหญ่แต่งงานกัน สามหนังสือหกพิธีการ[1]จบแล้ว แต่นี่ผ่านไปหนึ่งปีครึ่งแล้ว ข้าคิดว่าทั้งสองคุ้นเคยกันดี อีกทั้งยังมีบุตรด้วยกันแล้ว แค่ฝ่ายหญิงตอบตกลงรับการทาบทาม และทั้งสองฝ่ายตกลงปลงใจก็พอ วันนี้กำหนดวันแต่งงาน แล้ววันหน้าก็แต่งงานเลย!”
ลุงวั่นสีหน้าเคร่งเครียด “คุณชายบอกว่า ขาดไม่ได้แม้แต่ขั้นตอนเดียว”
แม่นางตู้หงผู้เห็นคนอวดความรักอย่างไม่ทันตั้งตัว “…”
วันนี้ผู้ใหญ่ฝ่ายชายให้แม่สื่อไปทาบทาม หรือที่เรียกกันว่าทำหน้าที่เป็นแม่สื่อ
คราวนี้ อวี๋หวั่นกลับรออยู่ในห้องของเธอแต่โดยดี และปล่อยให้ป้าสะใภ้ใหญ่กับนางเจียงอยู่ต้อนรับลุงวั่นกับแม่นางตู้หง
อวี๋หวั่นไม่ได้ปฏิเสธ จึงตกลงรับการทาบทาม
“ขอถามวันเวลาเกิดของแม่นางอวี๋” แม่นางตู้หงกล่าวด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ทว่าในใจกลับตำหนิเยี่ยนจิ่วเฉาเป็นร้อยๆ ครั้ง เวลาตกฟากของวันเดือนปีและเวลาเกิดของบรรพบุรุษสิบแปดรุ่นของนาง ท่านก็สืบมาหมดแล้ว ยังต้องใช้วันเกิดของแม่นางอวี๋อีกหรือ? ถามอีกหรือ? ถามอีกหรือ?!
ป้าสะใภ้ใหญ่บอกวันเวลาเกิดของอวี๋หวั่น
แม่นางตู้หงก็บรรจงเขียนลงในใบบันทึกวันเดือนปีเกิดของคู่หมั้นอย่างสละสลวย หลังจากนั้นก็ควรจะหาคนมาผูกดวงชะตา เพื่อดูว่าดวงชะตาของอวี๋หวั่นและเยี่ยนจิ่วเฉาขัดแย้งกันหรือไม่ หากไม่มีวี่แววว่าขัดแย้งกัน การแต่งงานครั้งนี้ก็ถือว่าประสบความสำเร็จ
แม่นางตู้หงและลุงวั่นกลับไปที่จวนคุณชายพร้อมกับใบบันทึกวันเดือนปีเกิดของอวี๋หวั่น
เขตก่อสร้างกำลังแล้วเสร็จ อวี๋เฟิงกำลังทำการตรวจตราขั้นสุดท้าย หลังจากทำงานมาตลอดทั้งเช้า เขาได้รู้จากปากเถี่ยตั้นน้อยว่าจวนคุณชายมาทาบทามสู่ขอแล้ว เขาถูกปฏิเสธไปครั้งหนึ่ง ผ่านไปไม่นานก็กลับมาขออีกครั้งแล้วหรือ?
“ท่านพี่ของข้ายอมตกลงแล้ว!” เถี่ยตั้นน้อยกอดอก “ข้าจะมีพี่เขยแล้ว!”
เมื่ออวี๋เฟิงเดินไปที่บ้านของอวี๋หวั่น ลุงวั่นและแม่นางตู้หงก็ออกไปแล้ว ป้าสะใภ้ใหญ่กับนางเจียงก็ไปทำงานที่บ้านหลังเก่า อวี๋เซ่าชิงยังไม่กลับจากภูเขา ส่วนอวี๋หวั่นก็นั่งยองๆ ถอนขนห่านป่าอยู่ในสวนหลังบ้าน
ขมับของอวี๋เฟิงเต้นตุบๆ “อาหวั่น! เจ้ากำลังทำอันใด?”
“ถอนขน” อวี๋หวั่น กล่าว
“เจ้า…เจ้าถอนขนห่านป่าได้อย่างไร?”
“หากไม่ถอนขน แล้วจะกินอย่างไร?”
……กิน?!
อวี๋เฟิงแทบหยุดหายใจ “นี่ นี่ นี่…นี่เป็นของขวัญการรับการทาบทามจากจวนคุณชายนะ”
ในต้าโจว มีของขวัญที่เป็นมงคลมากมายสำหรับการรับการทาบทาม และของขวัญที่เลิศล้ำที่สุดก็คือห่านป่า แค่ห่านป่าธรรมดาก็หายากแล้ว ห่านป่าตัวอวบอ้วนเช่นนี้ แม้จุดตะเกียงหาก็ยังยากพบ แต่น้องสาวของเขา กลับจะเอามันมากิน?
อวี๋หวั่นกล่าว “ข้ารู้ว่ามันเป็นของขวัญ”
มุมปากของอวี๋เฟิงกระตุก “เช่นนั้นเจ้าก็ยังจะกินหรือ?”
อวี๋หวั่นเลิกคิ้วแล้วเอ่ยว่า “เขาส่งมา มิใช่ให้เรากินหรือ?”
ไก่ เป็ด ปลา เนื้อที่ได้เป็นของขวัญปีใหม่ก็กินได้หมด ห่านป่าที่เป็นของขวัญรับการทาบทามก็ต้องกินได้เช่นกัน!
อวี๋เฟิง: เอ่อ…กล่าวเช่นนี้ก็ดูจะไม่ผิด…
ไม่ใช่สิ! ข้าไม่เคยได้ยินว่ามีใครกินของขวัญรับการทาบทามมาก่อน!
ในตอนเย็น ห่านป่าตุ๋นหอมสองจานถูกนำขึ้นบนโต๊ะอาหารค่ำของสกุลอวี๋
“ห่านตัวใหญ่อร่อยไหม?” อวี๋หวั่นถามเหล่าเด็กน้อย
เด็กน้อยทั้งสามผงกหัว
อร่อย อร่อย ต่อไปให้ท่านพ่อส่งห่านป่ามาให้กินอีกสองตัว!
ข่าวที่เยี่ยนจิ่วเฉาไปสู่ขอที่หมู่บ้านเหลียนฮวาแพร่ไปถึงเมืองหลวงอย่างรวดเร็ว ที่วังหลวงก็ได้รับข่าวนี้เช่นกัน ในตอนเย็นขันทีวังรับคำสั่งให้มาที่จวนคุณชาย
ผู้มาต้อนรับคือลุงวั่น
ลุงวั่นพาขันทีวังไปที่โถงบุปผา และต้มใบชาจากทะเลสาบซีหูชั้นหนึ่งให้เขา พร้อมกับเอ่ยจริงครึ่งเท็จครึ่ง “ขันทีวังรับราชโองการให้มาที่นี่ ตามหลักแล้ว คุณชายควรมาต้อนรับด้วยตนเอง ทว่าคุณชายไม่สบาย มิอาจมาต้อนรับได้ หวังว่าขันทีวังจะอภัยให้”
ไม่สบายเป็นเรื่องจริง ไม่อาจมารับได้เป็นเรื่องเท็จ กล่าวตามตรง เยี่ยนจิ่วเฉาไม่ยินดีจะพบคนของฮ่องเต้
ขันทีวังอยู่ในวังมานานแล้ว สามารถอยู่ในตำแหน่งอย่างในตอนนี้ได้ มีหรือจะดูไม่ออก? หากเป็นคนอื่น คงถูกลงโทษในความผิดฐานขัดราชโองการ ทว่าฮ่องเต้ทรงโปรดปรานเยี่ยนจิ่วเฉา และไม่มีทางลงโทษเขาด้วยเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้
ขันทีวังเอ่ยด้วยสีหน้าเห็นอกเห็นใจ “คุณชายไม่สบายก็พักผ่อนเถิด วันนี้ที่ข้ามาไม่ได้มีเรื่องใหญ่อันใด เพียงแค่ได้ยินว่าคุณชายไปสู่ขอสตรีนางหนึ่งแล้ว ไม่ทราบว่าเป็นผู้ใดหรือ?”
ลุงวั่นไม่เชื่อว่าฮ่องเต้จะไม่รู้ว่าเยี่ยนจิ่วเฉาไปสู่ขอใครอย่างสิ้นเชิง กลัวก็แต่ ฮ่องเต้จะรู้บรรพบุรุษสิบแปดรุ่นของอวี๋หวั่น ทว่าฮ่องเต้ก็ยังส่งคนมาถาม คงจะกำลังไว้หน้าจวนคุณชายอยู่
ลุงวั่นยิ้มอย่างใจเย็น “เป็นแม่นางสกุลอวี๋ มารดาของนางมาจากเมืองหวั่น บิดาของนางชื่ออวี๋เซ่าชิง ในครอบครัวมีลุงใหญ่ ซึ่งเป็นพ่อครัวเทพที่ชนะการแข่งขันปรุงอาหารระดับเทพ นางได้รับฉายาแม่ครัวมือหนึ่งทั่วหล้า อีกทั้งมีน้าที่ไปแต่งงานอยู่แดนไกล ครอบครัวของอีกฝ่ายก็ไร้มลทิน”
จวนคุณชายของพวกเขาได้ตรวจสอบมาก่อนแล้ว ไม่ว่าจะดีหรือร้าย คุณชายก็ไม่ได้รังเกียจ
ขันทีวังยิ้มและกล่าวว่า “เป็นคนอื่นข้าไม่ขัด ทว่าอวี๋เซ่าชิง…มีคดีติดตัว หากคุณชายจะแต่งงานกับบุตรสาวอาชญากร ดูจะเป็นการไม่เหมาะสมกระมัง?”
ลุงวั่นใช้สี่ตำลึงปาดพันชั่ง[2] “ทว่าคดีความยังไม่ถูกตัดสินมิใช่หรือ? จะเรียกว่าเป็นบุตรสาวของอาชญากรได้อย่างไร? นอกจากนี้ จะผิดหรือไม่ ไม่ใช่เพียงคำกล่าวเดียวของฝ่าบาทหรือ? ในคราแรก ฮ่องเต้ยังสามารถพลิกคดีของสกุลเหยียนได้ ก็ควรจะพลิกคดีของอวี๋เซ่าชิงได้เช่นกัน”
ขันทีวังสะอึกในใจ เป็นไม้ใกล้ฝั่งแล้ว ยังกล้าตีฝีปากเช่นนี้!
ขันทีวังเอ่ยต่อ “สกุลเหยียนเป็นผู้บริสุทธิ์ที่ถูกใส่ความ”
ลุงวั่นยิ้มตอบ “อวี๋เซ่าชิงก็เป็นผู้บริสุทธิ์และถูกใส่ความเช่นกัน”
“ใช่หรือ?”
“แน่นอนสิ” ลุงวั่นหัวเราะ “เพราะความดีความชอบทางทหาร เหยียนฉงหมิงจึงได้เป็นท่านโหว ทว่าความชอบทางทหารนั้นเป็นของอวี๋เซ่าชิง ซึ่งหมายความว่าตำแหน่งโหวที่แท้จริงนั้นคืออวี๋เซ่าชิง เช่นนั้น แม่นางอวี๋ก็จะเป็นบุตรสาวของจวนท่านโหว สถานะเช่นนี้ คงไม่เป็นการทำให้คุณชายเสียศักดิ์ศรีแล้วกระมัง”
……………………………………
[1] สามหนังสือหกพิธีการ ได้แก่ หนังสือตกลงการหมั้น หนังสือตกลงการแต่งงาน และหนังสือส่งตัวเจ้าสาว ส่วนหกพิธีการเป็นขั้นตอนการปฏิบัติที่เริ่มตั้งแต่การหมั้นกระทั่งถึงพิธีแต่งงาน ได้แก่ สู่ขอ ขอวันเดือนปีเกิด เสี่ยงทาย มอบสินสอด ขอฤกษ์ รับเจ้าสาว
[2] สี่ตำลึงปาดพันชั่ง 四两拨千斤 คือการใช้แรงเพียงเล็กน้อยแต่สามารถเอาชนะแรงที่มากกว่าได้

หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม

หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม

เธอคือหมอ(รักษาสัตว์)เทวดาคนแรกของอาณาจักร เริ่มจากข้ามมิติมาอยู่ในร่างของเด็กสาวชาวบ้านผู้แสนยากจน ทางซ้ายมีท่านแม่ที่ป่วยกระเสาะกระแสะ ทางขวาก็มีน้องชายตัวน้อยคอยให้ป้อนข้าว ที่แย่ไปกว่านั้นคือ เธอถูกผู้ชายเฮงซวยยกเลิกการแต่งงาน… ให้ตายเถอะ! เสือไม่โอ้อวดพลังก็จริง แต่เห็นเธอเป็น HelloKitty หรืออย่างไร ถึงมารังแกกันแบบนี้?! สั่งสอนผู้ชายเฮงซวย รักษาอาการป่วยของท่านแม่ เลี้ยงดูน้องชายที่ผอมแห้งแรงน้อย บุกเบิกที่นารกร้าง ปลููกพืชบนที่ดินว่างเปล่า นั่งดูความอุดมสมบูรณ์ แล้วก็ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข วันเวลาอันแสนสุขค่อยๆ ผ่านไป… วันหนึ่งก็ได้ยินว่าเทพแห่งความตายผู้น่าสะพรึงกลัวจะมาเยือนถึงหน้าบ้าน บังคับขู่เข็ญให้เธอแต่งงานด้วย? ถึงเธอจะชอบผู้ชายหน้าตาดีก็เถอะ แต่ได้ยินว่าท่านอ๋องผู้นี้… “ท่านอ๋อง พวกเราไม่ได้สนิทกันเสียหน่อย!” หญิงสาวพูดด้วยสีหน้าจริงจัง “เหอะๆ” ท่านอ๋องยกยิ้มมุมปากอย่างมีเลศนัย แล้วคว้าเด็กน้อยตัวอ้วนจ้ำม่ำสามคนออกมาจากด้านหลัง “เรียกแม่สิ” เธอล่ะอยากจะเป็นลม…

Options

not work with dark mode
Reset