การกระทำของขันทีหลี่ทำให้ทุกคนอ้าปากค้าง ในยามนั้นทุกคนต่างกำลังคุกเข่า ไม่มีผู้ใดคาดคิดว่าสถานการณ์จะเปลี่ยนแปลงกะทันหันเช่นนี้
ต้าเป่าถูกจับตัวไปทั้งที่อยู่ข้างอวี้สื่อต้าฟู อวี้สื่อต้าฟูกล่าวโทษตนเองอย่างยิ่ง เหตุใดเขาถึงช้าไปก้าวเดียว ทำให้ฝ่าบาทน้อยตกไปเป็นตัวประกัน?
นี่จะโทษอวี้สื่อต้าฟูก็ไม่ได้ เขาเป็นเพียงขุนนางฝ่ายบุ๋นเท่านั้น ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ คนธรรมดาไม่สามารถตอบสนองได้รวดเร็วไปกว่าเขา
ที่น่าโมโหที่สุดคือขันทีถ่อยผู้นี้ เรื่องต่อสู้ในราชสำนักมีอยู่ไม่ขาด การขับไล่บุตรก็เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่ไม่ว่าอย่างไร เด็กไร้เดียงสาก็ไม่ควรเข้าไปเกี่ยวข้อง
นอกจากนี้เขายังเป็นเด็กที่น่ารักอย่างที่สุด
เมื่อต้าเป่าถูกแย่งกระดาษแผ่นเล็กอันเป็นที่รักไป เขาเสียใจจนร้องไห้ แต่ยามถูกคนชั่วจับตัวไปจริงๆ กลับสงบเยือกเย็นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
เขาไม่ร้องไห้โวยวายและไม่ขยับไปมา อยู่ในอ้อมแขนของขันทีหลี่อย่างเชื่อฟัง
มิฉะนั้นจะเรียกว่าเป็นเชื้อพระวงศ์ได้อย่างไร ความสงบนี้ไม่ใช่สิ่งที่เด็กธรรมดาจะมีได้อย่างแน่นอน
ปฏิกิริยาของต้าเป่าทำให้ขุนนางหลายคนทอดถอนใจด้วยความโล่งอก แต่ในขณะเดียวกันพวกเขาก็ยิ่งเกลียดขันทีไร้ยางอายผู้นี้!
ลงมือกับเด็กตัวเล็กๆ เช่นนี้ได้ จิตสำนึกคงถูกสุนัขกินไปแล้วกระมัง!
ขันทีหลี่เป็นคนของฮองเฮา การกระทำของเขา ทำให้ฮองเฮาถูกเหล่าขุนนางก่นด่าไปด้วย หากบอกว่ามีเพียงสามมหาเสนาบดีสูงสุดที่สงสัยในตัวฮองเฮา เช่นนั้นยามนี้ ทุกคนก็เชื่อในการกระทำชั่วร้ายของฮองเฮาโดยไร้ข้อสงสัยไปแล้ว
สมรู้ร่วมคิดกับขุนนางชั่วช้า ก่อความวุ่นวายในราชสำนัก มีเรื่องอื้อฉาวในวังหลวง การกระทำถึงขั้นนี้ ในความคิดของเขาเป็นเรื่องไม่อาจเกิดขึ้นกับผู้ที่อยู่ในฐานะฮองเฮา ยามนี้กระทั่งหลักฐานก็ไม่ต้องการแล้ว พวกเขาเชื่อจนไม่อาจเชื่อไปมากกว่านี้!
ฮองเฮาถูกขันทีหลี่ทำลายจนป่นปี้ นางไม่มีทางคิดจะใช้ต้าเป่าเพื่อหลบหนี ในใจนางยังอยากเป็นฮองเฮาที่ดีต่อไป ฮองเฮาที่ดี จะลักพาตัวเด็กต่อหน้าคนมากมายได้อย่างไร?
ฮองเฮาขมวดคิ้ว หันมองขันทีหลี่ “หลี่อวี้! วางคนลง!”
ขันทีหลี่กล่าวด้วยใบหน้าที่จริงจัง “ฮองเฮา! ปล่อยไม่ได้พ่ะย่ะค่ะ! หากปล่อยท่านก็ต้องตาย! พวกเขาจะนำตัวท่านไปขังคุก ยามนี้ฝ่าบาททรงประชวร ไม่สามารถจัดการราชกิจได้ หากท่านตกอยู่ในมือของตี้จีองค์โต ท่านคิดว่าตนเองจะยังมีชีวิตอยู่หรือ?”
หัวใจของฮองเฮากระตุกวูบ
ไม่ผิด หากนางล้มลง ขุนนางเหล่านี้จะต้องหันไปอยู่ฝ่ายตี้จีองค์โตเป็นแน่ จากสิ่งที่นางทำกับตี้จีองค์โต นางไม่เหลือทางรอดอีกแล้ว
ยังมีเยี่ยนเอ๋อร์ และบุตรของนางอีกสองคน
เยี่ยนเอ๋อร์แย่งเยี่ยนอ๋องมา เยี่ยนอ๋องเป็นครอบครัวฝั่งเขยของตี้จีองค์โต ด้วยความสัมพันธ์นี้จึงยากที่จะรับประกันได้ว่าตี้จีองค์โตจะไม่แก้แค้นแทนเยี่ยนอ๋อง ถึงเวลานั้นก็จะไม่สามารถปกป้องเยี่ยนเอ๋อร์และบุตรของนางไว้ได้อีกแล้ว
สีหน้าฮองเฮาเริ่มยุ่งเหยิง
“ฮองเฮา! ท่านอย่าดื้อดึงไม่ยอมรับผิด!” อวี้สื่อต้าฟูเอ่ยปากห้ามปราม
ดวงตาฮองเฮาสั่นไหว ร่องรอยของความลังเลปรากฏขึ้นอีกครั้ง “ขันทีหลี่…”
ขันทีหลี่กัดฟันพูด “ฮองเฮา! ความผิดพลาดมากมายที่เกิดขึ้นในวันนี้เป็นความผิดของข้า! ไม่เกี่ยวข้องกับท่าน! ข้าทนไม่ได้ที่จะเห็นท่านได้รับความอยุติธรรม! ถึงได้คิดแผนชั่วช้า รอให้ถึงเวลาที่เหมาะสม ฮองเฮามีหลักฐานใหม่ พิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตนเอง ต่อให้ข้าตายก็ไม่เสียใจ!”
โอ๊ยๆ ฟังวาจาเลี่ยนเช่นนี้ ขันทีหวังอยากอาเจียน เรื่องที่ไม่สามารถแก้ไขได้ เขาก็ยังสามารถปั้นน้ำเป็นตัว ความสามารถเช่นนี้เกิดขึ้นมาได้อย่างไร!
ในที่สุดฮองเฮาก็ถูกขันทีหลี่เกลี้ยกล่อม
นางเลิกต่อต้าน
ขันทีหลี่ข่มขู่ “พวกเจ้าถอยออกไป! เตรียมรถม้า ไม่มีผู้ใดได้รับอนุญาตให้ตามมา! อย่าได้คิดลอบจู่โจมข้า เล็บของข้ามียาพิษซ่อนอยู่ หากข้าไปข่วนองค์ประมุขน้อยเข้าโดยไม่ได้ตั้งใจ พวกเจ้าคงได้เสียใจน่าดู!”
ทหารองครักษ์ที่วางแผนจะจู่โจมเขาไม่กล้าที่จะเคลื่อนไหว
พวกเขาไม่สามารถเอาชีวิตขององค์ประมุขน้อยไปเดิมพันได้
องค์ประมุขน้อยเป็นทายาทอันเป็นที่รักยิ่งขององค์ประมุข ครั้งหนึ่งองค์ประมุขพาเขาไปที่ราชสำนัก นั่งบัลลังก์มังกร ทั้งยังให้ตราหยกแผ่นดิน หากพวกเขาทำให้ฝ่าบาทน้อยประสบกับภัยพิบัติที่อันตรายถึงชีวิต ผลที่ตามมาคงเลวร้ายไม่อาจคาดคิด
ทหารรักษาพระองค์ถอยออกไปด้านข้าง และเตรียมรถม้าให้ขันทีหลี่กับฮองเฮา
“ช้าก่อน หากอีกเดี๋ยวหลีเอ๋อร์มาที่นี่จะทำอย่างไร?” ฮองเฮาคว้าข้อมือขันทีหลี่
ขันทีหลี่กล่าวว่า “ยามนี้องค์ชายน้อยยังไม่มา เดาว่าเขาคงมาไม่ได้แล้ว ยิ่งไปกว่านั้นตำหนักจินหลวนมีการเคลื่อนไหวใหญ่เพียงนี้ องค์ชายน้อยคงได้รับข่าวในไม่ช้า เขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ฮองเฮาอย่าห่วงไปเลย รีบขึ้นรถม้าเถิด”
ฮองเฮาพยักหน้าอย่างตกใจไม่คลายตระหนก
หลังจากนั้นไม่นาน นางก็จับมือของขันทีหลี่อีกครั้ง “เยี่ยนเอ๋อร์…”
ขันทีหลี่กล่าวเสียงต่ำ “ข้าจะหาวิธีช่วยตี้จีองค์เล็กออกมา ฮองเฮาขึ้นรถม้าก่อนเถอะ”
ฮองเฮาสูดหายใจระงับความตื่นตระหนกแล้วเข้าไปในรถม้า
ทหารรักษาพระองค์และเหล่าขุนนางตามไปห่างๆ เตรียมพร้อมช่วยฝ่าบาทน้อยตลอดเวลา
ขันทีหลี่คว้าต้าเป่าและพูดอย่างดุดัน “พวกเจ้าทั้งหมดถอยออกไปสิบจั้ง ไม่เช่นนั้นหากข้าตกใจมือกระตุก ข่วนฝ่าบาทน้อยก็อย่าโทษข้าแล้วกัน!”
ขันทีหวังรีบโบกมือ “ถอยๆๆๆ! ถอยออกไป!”
ทุกคนถอยห่างออกไปสิบจั้ง แม้แต่องครักษ์เฝ้าประตูก็ไม่ยกเว้น
สารถีรถม้าเป็นคนที่เชื่อถือได้ของตำหนักจงกง
ขันทีหลี่กล่าวว่า “อย่าไล่ตามมา รอจนกว่าข้าจะพาฮองเฮาไปยังที่ที่ปลอดภัย ข้าจะส่งฝ่าบาทน้อยกลับมาอย่างปลอดภัย”
ขันทีหวังพูดในใจ เชื่อเจ้าก็บ้าแล้ว!
แต่ช่วงเวลาสำคัญเช่นนี้จะทำให้คนคลั่งเกิดโทสะไม่ได้
สายตาของเขาบอกขันทีหวังว่า เขาบ้าไปแล้ว เขาไม่มีทางสนใจความเป็นความตายของต้าเป่า ถ้าเขาไม่สามารถออกไปได้อย่างปลอดภัย เขาก็จะดึงต้าเป่าไปตายด้วยกัน
ชีวิตของต้าเป่ามีค่ากว่าเขามาก
ทุกคนทำได้เพียงจ้องมองขันทีหลี่ขึ้นรถม้าโดยมีต้าเป่าอยู่ในอ้อมแขน
ในขณะที่ครึ่งร่างส่วนใหญ่ของเขาก้าวเข้าไปในรถม้า จู่ๆ ลูกธนูก็พุ่งแหวกอากาศเกิดเป็นเสียงฟู่จากทางด้านข้าง ขนอ่อนของขันทีหลี่ลุกชัน แต่ไม่ทันตอบสนอง ลูกธนูก็เจาะเข้าที่ลำคอของเขา
ทุกคนต่างสะดุ้ง
ขันทีหวังตกใจกลัว “ฝ่า ฝ่าบาทน้อย!!!”
ร่างผอมบางควบม้าเข้ามา ใช้ปลายเท้ากระโดดขึ้นรถม้า คว้าต้าเป่าไว้ในอ้อมแขนก่อนที่ขันทีหลี่จะล้มลงกับพื้น
ฉากนี้น่าตื่นเต้นหวาดเสียว ทุกคนต่างตกใจผุดเหงื่อเย็น ขันทีหลี่ล้มลง พวกเขาคิดว่าฝ่าบาทน้อยจะตกลงมาพร้อมกับเขา แบบนั้นต่อให้ไม่ถูกยิงก็ต้องล้มจนบาดเจ็บ
โชคดีที่มีคนรับไว้
ช้าก่อน คนผู้นี้…
ขันทีหวังมองเห็นใบหน้าของฝ่ายตรงข้ามอย่างชัดเจน คำว่าโชคดีไม่สามารถออกมาได้
จู่ๆ ก็ยิงธนูใส่ขันทีหลี่ และแย่งตัวต้าเป่า หากไม่ใช่หนานกงเยี่ยน จะเป็นผู้ใด?
หนานกงเยี่ยนในชุดจิ้นจวง[1] ท่าทางห้าวหาญ แต่หลังจากป่วยหนัก ไม่เพียงแต่ซูบผอมลง ใบหน้ายังซีดลงอย่างไม่อาจบรรยาย
อย่างไรก็ตามความซีดเซียวนี้เผยให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและเย็นชาที่ไม่มีใครเคยเห็นมาก่อน
หนานกงเยี่ยนไม่ได้ใช้ศิลปะการต่อสู้มาหลายปีแล้ว ขันทีหวังก็เกือบลืมไปว่านางเคยเรียนศิลปะการต่อสู้กับเหล่าแม่ทัพ แต่ศิลปะการต่อสู้ของนางไม่ได้แข็งแกร่งมากนัก
ขันทีหวังลอบกัดฟัน เร็วไม่ตื่นช้าไม่ตื่น มาตื่นในช่วงเวลาสำคัญเช่นนี้ อย่างไรก็ไม่มีทางมาเพื่อช่วยฝ่าบาทน้อย
หนานกงเยี่ยนอุ้มต้าเป่าไว้ในมือข้างหนึ่ง ยืนอยู่บนรถม้า มือข้างหนึ่งถือกระดาษข้อความ โยนใส่มือทหารรักษาพระองค์ผู้หนึ่ง “นี่คือจดหมายท้าประลองของข้า กลับไปบอกพี่สาวของข้า ว่าหากต้องการเด็กคืน อีกสามวัน พบกันที่แท่นบูชา!”
“นี่!” ขันทีหวังกำลังจะหยุดนาง แต่นางกลับใช้แส้ตีม้าควบออกไปราวกับสายลม
ขันทีหวังกระทืบเท้า “มัวทำอะไรอยู่? ยังไม่รีบตามไปอีก!”
ทหารรักษาพระองค์รีบไล่ตามออกนอกประตูวัง แต่พวกเขาถูกขันทีหลี่ข่มขู่จนอยู่ห่างไกลเกินไป ตามอย่างไรก็ตามไม่ทัน
…………………………………..
[1] ชุดจิ้นจวง เป็นชุดจีนโบราณที่เน้นความคล่องตัว เมื่อสวมแล้วชุดจะไม่ลากพื้น
Related