โรแลนด์รู้สึกเลือดแข็งตัวเมื่อเห็นพวกเขาจ้องมา เขาสงสัยว่าตัวเองเป็นหนูทดลองหรือเปล่า
โชคดีที่โรแลนด์ยังคงมองเห็นความชื่นชมในสายตาของพวกเขาซึ่งทำให้เขาผ่อนคลายลง
“ก่อนอื่นท่านโรแลนด์โปรดสมัครเข้าร่วมก่อนเถอะครับ” คลาอัสนำโรแลนด์ไปยังเคาน์เตอร์ จากนั้นเขาก็นั่งลงและพูดว่า “โปรดเล่าข้อมูลของท่านด้วยครับ”
“โรแลนด์ มนุษย์” เขาคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนพูดต่อว่า “อายุสิบเจ็ดปี เพศชาย ไม่มีกิจกรรมแปลกๆ สิ่งที่ชื่นชอบคือการอ่านหนังสือ”
ทันใดนั้น ทุกคนก็จ้องมองเขาอย่างประหลาด
สิบเจ็ดปี…คลาอัสลูบใบหน้าของตัวเองและถอนหายใจออกมาอย่างแรง ราวกับผิดหวังอะไรสักอย่าง
“หือ? อายุของฉันมีอะไรผิดปกติงั้นเหรอ?” โรแลนด์ถามออกมา
“ท่านยังเด็กอยู่ ทว่าการพูดและท่าทางการเดินของท่านค่อนข้างเป็นผู้ใหญ่เลยทีเดียว” ชายแก่ค่อยๆกล่าวออกมา “พวกเราคิดว่าท่านน่าจะอายุอย่างน้อยยี่สิบห้าปีพวกเราไม่นึกเลยว่าท่านจะอายุเพียงสิบเจ็ดปีเท่านั้น”
จริงๆแล้วอายุจริงของเขาคือยี่สิบสี่ปี แต่บุตรทองคำทั้งหมดถูกตั้งอายุไว้ที่สิบเจ็ดปี
เขาไม่ได้คิดเลยว่าพวกเขาจะรู้อายุจริงของเขาจากการสังเกต
“พวกนายคิดไม่ผิดหรอก” โรแลนด์คิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนกล่าวออกมา “อายุร่างกายของฉันคือสิบเจ็บปี แต่อายุของจิตใจจริงๆคือยี่สิบสี่ปี”
พวกเขามองหน้ากันแต่ก็ยังคงส่ายหัวออกมาอยู่ดี
โรแลนด์คิดว่าพวกเขาทำตัวแปลกๆ แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา
“โรแลนด์ลืมเรื่องอายุกันเถอะ” คลาอัสยื่นกระดาษบอบบางที่มีลวดลายสีเทาอันเป็นเอกลักษณ์ จากนั้นเขาก็พูดว่า “ตามคำแนะนำของประธานของเรา ท่านจะกลายเป็นรักษาการของพวกเราทันทีที่ท่านเข้าร่วมกับเราและจะมีผลบังคับใช้ทันที”
“รักษาการ?” โรแลนด์คิดว่าตัวเองเป็นคนใจเย็นมาโดยตลอด แต่เขาก็ยังต้องตกใจ “พวกนายให้อำนาจกับฉันขนาดนี้จะดีเหรอ? ฉันยังไม่ได้รับความไว้วางใจจากพวกนายเลยไม่ใช่เหรอ?”
“นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมท่านถึงเป็นเพียงรักษาการเท่านั้น” คลาอัสยืนขึ้นและกล่าวด้วยความชื่นชมว่า “แต่ข้าไม่สงสัยเลยว่าท่านจะกลายเป็นประธานตัวจริงในไม่ช้า ท่านมีอำนาจทั้งหมดของประธานยกเว้นสิทธิในการไล่คนออก ทรัพยากรส่วนใหญ่ในหอคอยเวทมนตร์อยู่ที่ท่าน ห้องสมุดก็เปิดให้บริการเช่นกัน โดยทั่วไปแล้วนักเวทย์ฝึกหัดจะไม่ได้รับอนุญาติให้เข้าห้องสมุด”
ในบรรดาทั้งหมดโรแลนด์สนใจในห้องสมุดที่สุด
หนังสือนั้นถูกลดความสำคัญลงในยุคอินเทอร์เน็ต แต่อย่างไรก็ตามข้อมูลในอินเทอร์เน็ตบางทีก็ไม่น่าเชื่อถือ
เพราะอย่างนั้นหนังสือก็ยังคงมีความสำคัญต่อการเผยแพร่ความรู้ โดยในโลกแห่งเกมที่ไม่มีอินเทอร์เน็ตหรือหนังสือพิมพ์ หนังสือจึงเป็นเพียงช่องทางเดียวในการเก็บความรู้ เหตุผลหนึ่งที่โรแลนด์เข้าร่วมสมาคมสนักเวทย์ก็เพื่อพูดคุยกับนักเวทย์ที่อยู่ในหอคอยและอีกส่วนหนึ่งเพื่อยืมหนังสือเวทย์ในหอคอยเวทย์
เขาไม่คิดเลยว่าหอคอยเวทย์จะมั่งคั่ง จนถึงขั้นมีห้องสมุดอยู่ภายใน
จริงๆแล้วเขาไม่ต้องการดำรงตำแหน่งรักษาการ แต่ตอนนี้เขาเปลี่ยนใจแล้ว
“เอาละ ฉันยอมเป็นรักษาการให้ก็ได้” โรแลนด์รู้ดีว่าโอกาสจะหายไปหากเขาไม่คว้ามันไว้
เมื่อโรแลนด์ยอมรับข้อเสนอนักเวทย์ฝึกหัดทั้งหมดก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นทันที
คลาอัสยิ้มกว้างพร้อมยื่นกระดาษให้กับเขาอีกครั้ง “ข้าจะเรียกท่านว่ารักษาการตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป นี่คือป้ายชื่อของท่านโปรดเก็บไว้ให้ดี
โรแลนด์รับมันไปและมองดูสัญลักษณ์ที่อยู่บนแผ่นป้ายด้วยความลำบากใจ “คือ…ฉันอ่านภาษาของพวกนายไม่ออก”
หึ…ขากรรไกรของเด็กฝึกหัดเวทย์แทบจะกระแทกพื้น
คลาอัสตะโกนออกมาด้วยความตกใจ “แล้วทำไมท่านถึงพูดภาษาของพวกเราได้…เดี๋ยวนะหรือว่าความสามารถทางภาษา!”
นักเวทย์ฝึกหัดต่างตกใจและตื่นเต้น ต่างจากอัลโด้ พวกนักเวทย์ฝึกหัดนั้นไม่ได้สังเกตเห็นบัฟบนตัวโรแลนด์
ความสามารถทางภาษาไม่มีประโยชน์ในการต่อสู้ แต่มันมีความสำคัญสำหรับนักเวทย์ มันเป็นเวทย์ระดับสองมันซับซ้อนพอๆกับเวทย์ระดับสาม
นักเวทย์ที่แท้จริงส่วนใหญ่จะไม่พยายามเรียนรู้ความสามารถทางภาษาจนกว่าพวกเขาจะไปถึงระดับแนวหน้าและมีเพียงนักเวทย์ที่มีความสามารถทางภาษาเท่านั้นที่มีคุณสมบัติเพียงพอที่จะเดินทางไปทั่วโลก
มิฉะนั้นนักเวทย์จะไม่สามารถเข้าใจภาษาและภาษาถิ่นหลายร้อยภาษาที่พูดในประเทศอื่นๆได้ แม้ว่าพวกเขาจะเป็นนักภาษาศาสตร์ที่ดีที่สุดก็ตาม
มีเพียงความสามารถทางภาษาที่ช่วยพวกเขาได้
ดังนั้นแม้ว่านักเวทย์จะไม่มีความสามารถในการต่อสู้ แต่เขาก็จะเป็นแขกที่ได้รับการยกย่องจากทุกกลุ่มและทุกองค์กรตราบเท่าที่เขามีความสามารถทางภาษา
ในจำนวนนักเวทย์ที่มีน้อยอยู่แล้วนั้น นักเวทย์แนวหน้าที่มีความสามารถทางภาษายิ่งน้อยไปกว่านั้นอีก
ความสามารถทางภาษาเป็นเวทย์เกี่ยวกับการคาดเดาและทำนาย
หลังจากใช้ความสามารถทางภาษาแล้วพวกเขาก็จะเข้าใจถึง “ผลลัพธ์” ซึ่งหมายความว่าพวกเขาสามารถรับรู้คำพูดของคนอื่นในภาษาของตนได้
เวทย์ทำนายเป็นเวทย์ที่ยากที่สุดในเวทย์ทั้งเก้าประเภท ซึ่งมันถูกจัดอยู่ในเวทย์มิติ
เวทย์ต่างประเภทกันก็จำเป็นต้องใช้ความสามารถที่แตกต่างกัน ดังนั้นนักเวทย์บางคนจึงไม่สามารถใช้เวทย์จำพวกการทำนายได้
ตอนนี้โรแลนด์แสดงให้เห็นแล้วว่าเขามีความสามารถด้านภาษาซึ่งบ่งบอกว่าเขานั้นเป็นอัจฉริยะ
ด้วยการมีที่ปรึกษาเช่นนี้พวกเขาจะก้าวหน้าได้เร็วขึ้นมาก
เมื่อนึกถึงเรื่องนั้นนักเวทย์ฝึกหัดก็ยิ่งตื่นเต้น
“ท่านโรแลนด์ ข้าจะแนะนำสิทธิพิเศษของรักษาการให้ท่าน” คลาอัสรู้สึกว่าเขาจำเป็นต้องผูกโรแลนด์ไว้กับหอคอยเวทมนตร์แห่งนี้ เขากล่าวว่า “ท่านสามารถแต่งตั้งนักเวทย์ฝึกหัดให้เป็นผู้ช่วยของท่านได้ ซึ่งเขาหรือเธอนั้นจะรับฟังคำสั่งและตอบสนองความต้องการต่างๆของท่าน ส่วนตัวข้าขอแนะนำวิเวียน เธอเป็นผู้หญิงที่เก่งกาจในทุกๆด้าน”
หญิงสาวเพียงหนึ่งเดียวยิ้มออกมาอย่างอายๆ แต่เธอก็ดูมีความสุขและไม่ต้องการปฏิเสธ
สุดยอดเลย!
มีผู้หญิงเข้าหาตั้งแต่ต้น…หากนี่เป็นนิยายบนอินเทอร์เน็ตเหล่าคนอ่านทั้งหลายจะต้องทิ้งนิยายเรื่องนี้อย่างแน่นอน โรแลนด์โบกมือและไอ “ฉันชินกับการทำงานคนเดียวมากกว่า มีอะไรอีกไหม?”
“ท่านสามารถเลือกห้องได้จากสามชั้นบนสุดของหอคอย” คลาอัสพูดออกมา “จริงๆแล้วชั้นที่หนึ่งเป็นชั้นของประธาน แต่เขาไม่ชอบความสูงจึงย้ายออกไปแล้ว”
เยี่ยมไปเลย! ตอนนี้เขาก็มีที่อยู่แล้ว เพราะยังไงเขาก็ไม่สามารถทนอยู่โรงแรมไปได้ตลอดหรอก
คลาอัสคิดอยู่ครู่หนึ่งและพูดว่า “นอกจากนั้นท่านจะได้รับค่าตอบแทนจากการทำงานของท่านเป็นเงินสิบเหรียญทองในทุกๆเดือน”
โรแลนด์ไม่รู้ว่าจะทำตัวอย่างไรดีเมื่อได้ยินเรื่องนี้