ไม่ว่าจะยังไงก็ตามแต่การให้ผู้หญิงขับรถกระบะนั้นมันดูแปลกๆ
มีกลิ่นน้ำมันเบนซินอยู่ภายในรถ แต่ค่อยๆกลิ่นก็หายไปเหลือเพียงกลิ่นดอกหอมหมื่นลี้จาง ๆ รอบ ๆ โรแลนด์
นี่ทำให้การนั่งรถของโรแลนด์ค่อนข้างสบายเป็นพิเศษ
รถกระบะนั้นขับค่อนข้างช้า โรแลนด์มองไปทางซีฉาและพบว่าเธอดูกังวลเลยทีเดียว
เป็นเพราะว่าปกติเธอไม่ค่อยขับรถงั้นเหรอ?
นั่นก็เป็นเรื่องที่พอเข้าใจได้อยู่
ผู้หญิงขับรถนั้นไม่ได้มีอยู่บนท้องถนนมากนัก ไม่แปลกใจที่เธอจะดูกังวล เอ๊ะ…หมายความว่าฉันอยู่ในอันตรายสินะ
ในตอนนั้นเองกลายเป็นโรแลนด์เองที่เครียดแทน เขามองไปที่ซีฉาและพบว่าใบหน้าของเธอขาวๆของเธอนั้นมีสีแดงระเรื่อๆอยู่
นั่นเป็นเพราะเธอกังวลงั้นเหรอ?
โรแลนด์มองมาที่ตัวเองด้วยสัญชาตญาณจากนั้นก็รีบคาดเข็มขัดอย่างรวดเร็ว เขาจับไปที่ด้ามจับบนรถที่อยู่ด้านขวามือของเขาอย่างแน่นหนา
โชคดีว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นเหมือนกับที่เขากลัว ซีฉาขับรถค่อนข้างช้าทว่าก็มั่นคง
ทั้งสองไม่มีใครพูดอะไรออกมา ครึ่งชั่วโมงต่อมา รถก็หยุดลงที่หน้าร้านค้า
โรแลนด์ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกทันทีที่เขาลงมาจากรถและเท้าของเขานั้นติดพื้น
มันเป็นร้านขายอุปกรณ์กีฬาที่ตั้งชื่อแบบย้อนยุคไว้ว่า ดาวสีแดงอุปกรณ์กีฬา
มีชายชรานั่งสูบบารากู่อยู่บนเก้าอี้โยกบริเวณหน้าร้าน เขาน่าจะอายุเก้าสิบกว่าปีได้
เมื่อได้ยินเสียงดังขึ้นชายชราผมหงอกก็เงยหน้าขึ้นมาและเหล่ตามองมาทางซีฉาและโรแลนด์ที่พึ่งลงจากรถกระบะ
“ลุงหยู หนูมาเพื่อขอซื้อเชือกและแผ่นไม้ไผ่หนาๆหน่อยค่ะ” ซีฉาเดินเข้าไปหาชายชราพร้อมพูดด้วยน้ำเสียงที่ต่างออกไปจากปกติ น้ำเสียงเธอในตอนนี้นั้นดูอ่อนโยนมาก
ชายชราวางท่อบารากุสีเหลืองในมือลง เขามองไปทางซีฉาครู่หนึ่งก่อนยิ้มขึ้นมา “เป็นครั้งแรกที่ลุงเห็นหลานใส่กระโปรงแบบนี้ น่ารักดีนะ”
จากนั้นสายตาของเขาก็หันมามองทางโรแลนด์ “นี่แฟนหลานงั้นเหรอ?”
ใบหูของซีฉาเปลี่ยนไปเป็นสีแดงระเรื่อ ทว่าเธอก็พูดด้วยท่าทีที่นิ่งสงบว่า “ไม่ใช่ค่ะ เขาเป็นคนที่มาสมัครเรียนใหม่ เขามาที่นี่เพื่อช่วยหนูขนของเฉยๆ”
ชายชราที่ถูกเรียกว่าลุงหยูนั้นลุกขึ้นยืน ใบหน้าที่เหี่ยวย่นของเขานั้นดูมีความสุขมากทุกครั้งที่เขายิ้มออกมา “นี่เป็นครั้งแรกเลยนะที่หลานมีผู้ชายมาช่วยแบบนี้ แบบนี้แหละดีแล้ว ผู้หญิงน่ะควรดูแลตัวเองให้ดีมากๆ ดังนั้นอย่าฝืนและทำทุกอย่างด้วยตัวเอง”
“ไม่หรอกค่ะ พี่ชายของหนูก็มาช่วยอยู่บ่อยๆ” ซีฉามองไปที่โรแลนด์ และเมื่อเห็นว่าเขาไม่ได้มีปฏิกิริยาอะไรมากนัก เธอก็โล่งใจไปเล็กน้อย จากนั้นเธอก็หันไปบอกชายชราว่า “ถ้าอย่างนั้นลุงหยูคะ เดี๋ยวหนูขอของที่สั่งเลยนะคะพอดีเดี๋ยวหนูมีธุระที่ต้องไปทำต่ออีก”
“ได้เลยตามลุงมาเลย” ชายชราพูดด้วยรอยยิ้มที่ดูเหมือนจะเข้าใจ จากนั้นเขาก็นำมือไปไขว้ไว้ด้านหลัง
เมื่อทั้งสามคนกำลังจะเข้าไปในร้านเสียง ก็มีเสียงดังชัดและเสียงราวกับมีอะไรพังก็ดังขึ้นมาจากทางด้านหลังไม่ไกลจากพวกเขา จากนั้นก็มีรถสีขาวคันเล็กๆจอดอยู่ตรงหน้าร้านค้าจากนั้นก็มีหญิงสาวที่ดูมั่นใจเดินออกมาจากภายในรถ
เมื่อโรแลนด์เห็นเธอคนนี้ เขาก็ตกใจไปครู่หนึ่ง
เขาจำผู้หญิงคนนี้ได้ ประธานจินประธานสโมสรมวย
เขาหรี่ตาลงเล็กน้อย และรู้สึกกระอักกระอ่วนออกมาในเวลาเดียวกัน
หลังจากที่จินเหวินเหวินเดินออกมาจากรถแล้ว เธอเองก็เห็นโรแลนด์เช่นกัน สายตามองมาทางเขาด้วยท่าทีที่ตกใจเล็กน้อย จากนั้นเธอก็ยิ้มออกมา
ไม่ว่าจะหาตัวยังไงก็ไม่พบ ทว่ากลับมาเจอกันอย่างง่ายๆ
เมื่อไม่นานมานี้ จินเหวินเหวินได้พยายามค้นหาโรแลนด์อยู่หลายครั้ง ทว่าเธอก็ไม่พบเบาะแสอะไรเลย เธอไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าจะเจอกับเขาในที่แบบนี้
ซีฉาเองก็มองไปที่จินเหวินเหวินเช่นกัน และท่าทางของเธอก็ดูไม่ค่อยพอใจในทันที
โรแลนด์แอบเห็นสิ่งนี้จากหางตาของเขา เขารู้สึกแปลกใจเล็กน้อย
แม้ว่าจินเหวินเหวินนั้นจะงดงาม ทว่าท่าทางของเธอก็ดูสง่าราวกับผู้ชายเมื่อเธอเดิน เธอเดินเข้ามาหาพวกเขาทั้งคู่พร้อมพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ฉันไม่คิดเลยว่าจะได้เจอคนรู้จักถึงสองคนในที่แบบนี้”
คนรู้จักทั้งสองคน? ซีฉามองไปทางโรแลนด์ด้วยท่าทางมึนงง
โรแลนด์พยักหน้า “มันก็ผ่านมาสักพักแล้วหลังจากครั้งสุดท้ายทีเราได้เจอกันนะ ประธานจิน”
เกี่ยวกับผู้หญิงคนนี้เขาไม่ได้รู้สึกมีความประทับใจหรือชื่นชอบเธอ แน่นอนว่าเขาก็ไม่ได้มีอคติเกี่ยวกับตัวเธอเช่นกัน
“ทำไมช่วงนี้คุณไม่ไปฝึกบ้างเลยล่ะ?” จินเหวินเหวินมองโรแลนด์ด้วยท่าทีสงสัย แต่ในดวงตาของเธอนั้นมีประกายราวกับว่าต้องการสอบสวนเขาถึงเรื่องนี้
หญิงสาวนั้นน่าจะเป็นคนที่มีนิสัยดุดันพอตัว น้ำเสียงของเธอนั้นราวกับว่าเป็นการออกคำสั่ง เธอดูเหมือนทั้งตั้งใจทำและไม่ตั้งใจทำมัน
เมื่อได้ยินดังนี้ โรแลนด์ก็รู้สึกอึดอัดเล็กน้อย จากนั้นเขาก็ตอบกลับอย่างช้าๆว่า “เพราะพวกคุณไม่มีอะไรจะสอนฉันแล้วนี่ ใช่ไหมล่ะ?”
น้ำเสียงของเขานั้นดูสุภาพ ทว่าคำพูดแบบสุภาพของเขานั้นก็ตอบคำถามได้ตรงประเด็นเลยทีเดียว จินเหวินเหวินขมวดคิ้วเล็กน้อย เธอไม่ค่อยชินที่ผู้ชายในวัยใกล้กันพูดกับเธอแบบนี้
ในอีกด้านหนึ่ง ซีฉาก็พบโอกาสที่จะพูดแทรกขึ้นมา “พวกคุณรู้จักกันด้วยเหรอ?”
โรแลนด์พยักหน้า “อ่าหะ ก่อนหน้านี้ฉันเคยเรียนต่อยมวยที่สโมสรมวยของประธานจินอยู่สักพักหนึ่ง”
“โอ้” จู่ๆซีฉาก็นึกอะไรขึ้นมาได้ “หมายความว่านายเรียนเทคนิคการต่อยมวยมาจากพวกเขาสินะ นายเรียนได้ค่อนข้างเยี่ยมเลยทีเดียว กระทั่งพี่ชายฉันยังบอกเลยว่าเขาคงสู้นายไม่ได้หากเป็นการต่อสู้มือเปล่า ดูเหมือนว่าประธานจินจะสอนเป็นอย่างดีเลยทีเดียว”
ในตอนนั้นเองซีฉาก็ทำสิ่งที่เธอไม่ค่อยได้ทำนักก็คือการยิ้มออกมา ทว่ามันกลับดูปลอมมาก
ในฐานะหนึ่งในสโมสร “ด้านการออกกำลัง” ของเมืองนี้ ซีฉานั้นรู้จักจินเหวินเหวิน และจินเหวินเหวินเองก็รู้เช่นกันว่าเทคนิคเหมียวเต๋าของตระกูลฉีนั้นเยี่ยมยอดขนาดไหน
ในตอนนี้โรแลนด์รู้สึกได้ว่าบรรยากาศมันแปลกไปเล็กน้อย
จินเหวินเหวินพิจารณาท่าทางและสีหน้าของซีฉาอยู่พักหนึ่งก่อนที่จะกวาดสายตาไปมาระหว่างโรแลนด์และซีฉา สุดท้ายเธอก็ยิ้มออกมาอย่างพอใจ “ใช่แล้วฉันสอบเขาเกือบจะทุกทักษะที่มีค่ามากที่สุดของฉัน ทว่าสุดท้ายแล้วเขาก็หนีไปหลังจากเรียนรู้พวกมันทั้งหมดแล้ว คุณไม่คิดว่าเขาขาดความรับผิดชอบงั้นเหรอ?”
ใบหน้าของซีฉาเริ่มบูดบึ้งขึ้นมา
โรแลนด์นั้นไม่ค่อยเข้าใจการต่อสู้กันระหว่างผู้หญิง แม้ว่าเขาจะเป็นนักวิทยาศาสตร์ไร้อารมณ์ ทว่าเขาก็ไม่ใช่พวกที่มี EQ ต่ำ และเขาก็พอจะอ่านบรรยากาศออก เขารีบพูดออกไปในทันทีว่า “ประธานจินคุณพูดดูคลุมเครือนะ คุณพูดแบบนี้กับผู้ชายทุกคนเลยรึเปล่า?”
ซีฉาสะดุ้งเล็กน้อยสีหน้าของเธอไม่เย็นชาและเฉยเมยอีกต่อไป
ในทางกลับกันจินเหวินเหวินขมวดคิ้วขึ้นอีกครั้งแถมหนักกว่าครั้งก่อนอีกด้วย
คำพูดแค่คำสองคำของเขาทำลายบรรยากาศแปลกๆจนหมด จากนั้นเขาก็ตั้งจุดยืนของตัวเองว่าอยู่ข้างเดียวกับซีฉา
“ฉันก็แค่ล้อเล่นเท่านั้น คุณจริงจังเกินไปแล้ว” สีฉานั้นแกล้งทำเป็นทำอะไรไม่ถูก
“พวกเราไม่ได้สนิทกันถึงขนาดที่จะเล่นมุขใส่กัน” โรแลนด์ตอบอย่างเฉยเมย
ผู้หญิงคนนี้นั้นหมายตาแคปซูลเสมือนจริงในบ้านของเขาอยู่ และท่าทางของเธอก็ไม่ได้สุภาพเลยแม้แต่น้อย ดังนั้นเขาไม่จำเป็นต้องแสร้งทำเป็นสุภาพกับเธอ
จากนั้นเขาหันมามองทางซีฉา “ไปเอาของกันเถอะ ฉันจำเป็นต้องไปทำอย่างอื่นอีก”
“ได้เลย!” มุมปากของซีฉายกขึ้นเล็กน้อย
ในขณะเดียวกันลุงหยูที่ยืนอยู่ด้านข้างก็ยิ้มกว้างจนถึงหู รอยยิ้มของเขายิ่งทำให้ใบหน้าที่เหี่ยวย่นของเขาดูเหี่ยวย่นขึ้นไปอีก
ก่อนที่ลุงหยูจะเดินเข้าไปในร้านเขาหันมามองดูโรแลนด์ด้วยท่าทางที่ ‘ผู้ชายทุกคนเข้าใจ’ ซึ่งดูเหมือนจะเป็นคำชม
โรแลนด์รู้สึกงุนงงเกี่ยวกับสิ่งนี้ เขารู้สึกเหมือนว่าลุงหยูนั้นต้องการจะบอกใบ้อะไรเขาสักอย่าง แต่เขานั้นไม่เข้าใจว่ามันคืออะไร
จากทางด้านนอกนั้น จินเหวินเหวินมองดูพวกเขาทำงานของพวกเขา
โรแลนด์และซีฉานั้นต่างไม่ได้สนใจเธอ พวกเขาเริ่มขนถุงหลายถุงที่ใส่แผ่นไม้ไผ่อย่างหนาเอาไว้ จากนั้นก็นำมันไว้ที่ท้ายกระบะ ก่อนจะขับรถออกไป
จินเหวินเหวินหยิบบุหรี่ขนาดเล็กออกมาและใช้ไฟแช็กจุดบุหรี่พร้อมพูดกับชายชราว่า “ลุงหยู ฉันมาที่นี่เพื่อขอซื้อทิงเจอร์สำหรับแก้ฟกช้ำและเพิ่มการไหลเวียนเลือดหน่อย
จินเหวินเหวินหยิบบุหรี่ขนาดเล็กออกมาใช้พัฟและพูดกับชายชราว่า “ลุงผู้อาวุโสหยูฉันมาที่นี่เพื่อซื้อทิงเจอร์สำหรับฟกช้ำและเพื่อให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น”