ตอนที่ 244 ไม่มีวันรักพระองค์อีก
พระองค์ใช้เวลาสามปีในการค้นหายานี้ แต่กู้ชิงเฉิงกลับทูลว่า คนที่นางรักคือพระองค์ คนที่กู้ชิงเฉิงจะลืมก็คือพระองค์
ทำไมจึงเป็นเช่นนี้ พระองค์เพียงแต่ไม่อยากสูญเสียกู้ชิงเฉิงไป
กู้ชิงเฉิงลุกขึ้นจากพื้น ยืนแทบไม่ติด พยายามทำให้ตัวเองยืนให้มั่น “หม่อมฉันทูลลาเพคะ”
เฟิ่งอวิ๋นหล่างทรงได้สติรีบจับข้อมือกู้ชิงเฉิงไว้ ทรงกอดกู้ชิงเฉิงแนบพระอุระไว้แน่นอีกครั้ง พระสุรเสียงเสียพระทัย “ชิงเฉิง ขอโทษ เราผิดไปแล้ว ขอโทษ…”
“นี่คงเป็นวาสนาระหว่างหม่อมฉันกับฝ่าบาท เป็นลิขิตฟ้า หวังว่าฝ่าบาทคงไม่บังคับ ระหว่างเราคงต้องเป็นเช่นนี้!”
เฟิ่งอวิ๋นหล่างทรงกอดกู้ชิงเฉิงไว้แน่น “แม้จะลืม เรากับเจ้ายังเริ่มต้นใหม่ได้ ชิงเฉิง เรามาเริ่มต้นกันใหม่”
กู้ชิงเฉิงสั่นหัว “หม่อมฉันไม่มีวันรักฝ่าบาทอีก โปรดทรงปล่อยพระหัตถ์เถอะ”
เฟิ่งอวิ๋นหล่างทรงมีความคิดอย่างเดียว ไม่ว่าอย่างไรพระองค์จะเริ่มต้นใหม่กับกู้ชิงเฉิง พระองค์จะชดเชยให้กู้ชิงเฉิงอย่างดี ในที่สุดพระองค์ก็ทรงเข้าพระทัยแล้วว่าทำไมกู้ชิงเฉิงจึงไม่ยอมกลับมาหาพระองค์ เพราะพระองค์ไม่ได้เชื่อใจกู้ชิงเฉิงอย่างแท้จริง
พระองค์ไม่ทราบว่าทำไมเมื่อสามปีก่อนพระองค์จึงทรงมั่นใจว่ากู้ชิงเฉิงกับจางเฉิงลักลอบมีความสัมพันธ์กัน ทรงคิดว่ากู้ชิงเฉิงมีจางเฉิงอยู่ในใจ ทั้งสองคบหากันโดยอาศัยการตรวจโรคเป็นข้ออ้าง
เวลานั้นพระองค์ทรงต้องการสังหารจางเฉิง พระองค์ทรงคิดอย่างนี้
หากจางเฉิงตาย กู้ชิงเฉิงยอมรับผิด พระองค์จะไม่ทรงถือสาเรื่องนี้ ถือว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น นึกไม่ถึงว่ากู้ชิงเฉิงไม่ยอมรับผิด และยังไม่ยอมเข้าเฝ้า ยังโทษพระองค์ที่บีบคั้นจางเฉิงจนฆ่าตัวตาย
สามปีมานี้ เมื่อเห็นกู้ชิงเฉิงดึงดันอย่างนี้ พระองค์ทรงคิดว่า จะปล่อยให้กู้ชิงเฉิงเป็นอย่างนี้ตลอดไป
แต่ก็ไม่สามารถทำได้ ไม่ว่ากู้ชิงเฉิงทำอะไร ในพระทัยของพระองค์ยังคงรักกู้ชิงเฉิง ยังคงปรารถนาที่จะให้นางหวนกลับมาอยู่ข้างกาย ทำให้พระองค์ทรงลดพระองค์เบื้องหน้ากู้ชิงเฉิง
คนที่ผิดก็คือพระองค์เอง พระองค์ผิดมาตลอด
กู้ชิงเฉิงเองก็ปวดร้าวใจ นางยึดความทรงจำระหว่างนางกับพระองค์ไว้ ไม่ยอมปล่อยเฟิ่งอวิ๋นหล่าง เวลานี้ในที่สุดก็ปล่อยได้แล้ว นี่คงเป็นลิขิตฟ้า นางกับเฟิ่งอวิ๋นหล่างมาถึงขั้นนี้แล้ว
เฟิ่งอวิ๋นหล่างไม่ปรารถนาที่จะปล่อยนางไป กู้ชิงเฉิงเองก็ไม่รู้จะทำอย่างไรกับเฟิ่งอวิ๋นหล่าง ได้แต่รอคอยให้เฟิ่งอวิ๋นหล่างค่อยๆ เลือนหายไปจากความทรงจำของนาง ถ้าไม่เหลือเยื่อใย นางคงอยู่ในวังอย่างสบายใจขึ้น กลางคืนไม่กระสับกระส่ายนอนไม่หลับ
นางไม่เสียดายที่ได้รักเฟิ่งอวิ๋นหล่าง แต่หากมีโอกาส นางไม่มีวันรักเฟิ่งอวิ๋นหล่างอีก ยินดีใช้ชีวิตอย่างไร้ความรักความชัง
…..
กู้หลียวนไปหาหลี่ซั่ว แต่หลี่ซั่วไม่ไว้หน้าเขา กู้หลียวนจึงบอกเรื่องนี้ให้ซูจิ่วซือรู้
เกี่ยวกับหลี่ซั่ว ซูจิ่วซือเคยสืบถามมาแล้ว รู้ว่าหลี่ซั่วเป็นคนตรงไปตรงมา ไม่รู้จักยืดหยุ่น เป็นคนประเภทที่ดึงดัน
ซูจิ่วซือจึงต้องไปหาหลี่ซั่วด้วยตัวเอง เฟิ่งอวิ๋นหล่างให้เวลานางเพียงสามวัน นางไม่กล้าเสียเวลาเปล่า หากนานไปวันหนึ่ง ซูเหิงก็ได้รับความทรมานมากขึ้น คืนนั้นนางเปลี่ยนชุดเป็นผู้ชาย ไปเยี่ยมคารวะที่จวนสกุลหลี่
หลี่ซั่วนึกไม่ถึงว่าซูจิ่วซือจะมาหาถึงจวน แต่ยังคงพูดด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด “คุณหนูซู เรื่องน้องชายของคุณหนู ข้าช่วยอะไรไม่ได้ เชิญคุณหนูซูกลับไปเถอะ เขาจะตายหรือรอดล้วนขึ้นอยู่กับชะตากรรม”
ซูจิ่วซือยิ้มเจื่อนๆ “ผู้บัญชาการหลี่เข้าใจผิด วันนี้ข้าไม่ได้มาคุยเรื่องซูเหิง แต่มาคุยกับผู้บัญชาการหลี่เรื่องพระสนมโหรว”
พอได้ยินซูจิ่วซือพูดถึงพระสนมโหรว ดวงตาของหลี่ซั่วก็ฉายแววผิดปกติแวบหนึ่ง แล้วกลับเป็นปกติอย่างรวดเร็ว
เขาถามอย่างเป็นการเป็นงาน “คุณหนูซูเข้ามาในจวนผู้ชายยามค่ำคืน ไม่เหมาะอยู่แล้ว ยังมาพูดกับข้าเรื่องพระสนมโหรว ไม่รู้ว่าคุณหนูซูต้องการอะไร พูดเหลวไหลเรื่องพระสนมโหรวได้หรือ”
——
ตอนที่ 245 ความลับไม่มีในโลก
ซูจิ่วซือยังคงไม่ใส่ใจ ยิ้มน้อยๆ “ผู้บัญชาการหลี่ทำไมเครียดอย่างนี้ ข้าไม่ได้หมายถึงอย่างอื่น เพียงแต่เสียดายแทนผู้บัญชาการหลี่
พระสนมโหรวอยู่วังในเร้นลับ ชาตินี้ต้องเป็นผู้หญิงของฝ่าบาท ผู้บัญชาการหลี่ปรารถนาในตัวผู้หญิงของฝ่าบาท ไม่รู้ว่าถ้าฝ่าบาททรงรู้เข้าจะจัดการผู้บัญชาการหลี่กับพระสนมโหรวอย่างไร”
หลี่ซั่วไม่รู้ว่าซูจิ่วซือรู้เรื่องนี้มาจากไหน ทุกครั้งที่เขาไปพบพระสนมโหรวจะระมัดระวังไม่ทิ้งร่องรอย เปลี่ยนชุดเป็นทหารยาม แม้แต่ชื่อก็ไม่ได้ใช้ชื่อจริง
สถานที่พบกันก็เร้นลับขนาดนั้น ซูจิ่วซือเป็นเพียงคุณหนูตระกูลใหญ่ แม้เข้าออกวังหลวงเป็นประจำ แต่ก็จำกัดเวลา นางจะรู้เรื่องนี้ได้อย่างไร ใครเป็นคนบอกนาง เมื่อนางรู้อย่างนี้แล้ว พระสนมโหรวจะเป็นอันตรายหรือไม่
แต่ครั้งนี้ ไม่ว่าอย่างไรเขาต้องไม่ยอมรับ พอคิดได้อย่างนี้ หลี่ซั่วก็ทำหน้าบึ้ง “องค์หญิงโปรดระวังคำพูดการกระทำ ไม่รู้ว่าองค์หญิงจะพูดอะไรอีก หากขืนพูดเหลวไหล อย่าหาว่าข้าไม่เกรงใจ”
“ถ้าไม่มีหลักฐาน ข้าย่อมไม่กล้าพูดออกมาแน่ ข้าจะพูดอะไรผู้บัญชาการหลี่ย่อมรู้ดี ความลับไม่มีในโลก แม้เจ้าจะปลอมชื่อเป็นหลี่เถี่ย แต่ก็ปิดไม่อยู่ ผู้บัญชาการหลี่ยังคิดว่าข้าพูดไม่ชัดเจนหรือ”
หลี่ซั่วกำหมัดในแขนเสื้อแน่น ดวงตาฉายแววอำมหิต ชักกระบี่ที่ติดตัวออกมา จ่อที่อกของซูจิ่วซือทันที
ซูจิ่วซือยังคงสงบ เหลือบตาขึ้น แววตาเย็นชา ราวกับว่าเบื้องหน้านางเป็นเพียงพัดกระดาษ
จื่อหลานซึ่งเฝ้าดูอยู่ไม่ไกลตึงเครียดมาก หัวใจแทบจะกระโดดออกมาที่คอ แต่นางไม่กล้าร้องออกมา กลัวว่าจะทำให้หลี่ซั่วตกใจ ทำให้คุณหนูของนางยิ่งลำบาก
“ผู้บัญชาการหลี่คิดให้ดี ถ้าแทงข้า เรื่องระหว่างเจ้ากับพระสนมโหรวก็จะไปถึงฝ่าบาทอย่างรวดเร็ว อย่างมากเราสามคนก็ตายด้วยกัน ผู้บัญชาการหลี่ยอมตัดใจให้พระสนมโหรวตายหรือ”
ซูจิ่วซือพูดน้ำเสียงไม่เร็วไม่ช้า ย้อนถาม
เมื่อครู่หลี่ซั่วทำลงไปด้วยความกลัว เขารู้ว่าตนไม่อาจฆ่าซูจิ่วซือ ถ้านางกล้ามาหาเขาตามลำพัง คงมีการตระเตรียมไว้แล้ว
ถ้าสังหารนางจริง เรื่องนี้กระจายออกไป เขาคงตายแน่ เขาไม่กลัวตาย แต่กลัวว่าจะเกิดเรื่องขึ้นกับพระสนมโหรว ไม่ว่าอย่างไร เขาต้องปกป้องพระสนมโหรว
หลี่ซั่วรู้ว่าซูจิ่วซือมีจุดหมาย จึงลดกระบี่ เก็บเข้าฝักไว้ที่เอว ถามด้วยสีหน้าเครียด “องค์หญิงต้องการอะไร”
“ข้าต้องการอะไร ผู้บัญชาการหลี่ยังไม่รู้อีกหรือ”
“ข้าเป็นเพียงผู้บัญชาการกองทหารราชองครักษ์ ช่วยคุณชายซูไม่ได้”
“ผู้บัญชาการหลี่ไม่อาจทำให้ซูเหิงพ้นโทษ แต่ทำให้เขาพ้นจากการถูกทรมาน ถ้าผู้บัญชาการหลี่ช่วยเรื่องนี้ ข้าจะไม่พูดถึงเรื่องนั้นเด็ดขาด ไม่เช่นนั้น เราก็ต้องตายด้วยกัน”
ก่อนหน้านี้กู้หลียวนเคยมาหาหลี่ซั่ว แต่หลี่ซั่วไม่อยากยุ่งเกี่ยว เขาดูถูกกู้หลียวนที่ไม่ทำการทำงานมาตลอด จึงปฏิเสธเด็ดขาด ไม่ไว้หน้ากู้หลียวน เวลานี้ซูจิ่วซือมาหาเขาด้วยตัวเอง และยังพูดถึงพระสนมโหรว แม้ไม่อยากช่วยแต่จำเป็นต้องช่วย
ซูจิ่วซือกุมความลับสำคัญไว้ในมือ เป็นภัยคุกคามอย่างมาก เขาต้องบอกให้พระสนมโหรวรู้ เพื่อหาทางกำจัดซูจิ่วซือ ไม่เช่นนั้นเขาคงไม่วางใจ
“องค์หญิงวางใจ ข้าจะไปหาใต้เท้าฟาง”
“รบกวนผู้บัญชาการหลี่ ข้ารอฟังข่าวดีจากผู้บัญชาการหลี่ ฟ้ามืดแล้ว ข้าขอลา”