ตอนที่ 302 อย่าให้พัวพันถึงพี่
“องค์หญิง บ่าวอยู่รอข้างนอก องค์หญิงคุยเร็วหน่อย”
เพ่ยเอ๋อร์ยืนอยู่ข้างหลังซูจิ่วซือ พูดด้วยน้ำเสียงนอบน้อม
ซูจิ่วซือพยักหน้าให้เพ่ยเอ๋อร์ “รบกวนหน่อยนะแม่นาง”
เพ่ยเอ๋อร์พาหญิงผู้คุมออกไป
ซูจิ่วซือเดินมาที่นอกซี่กรงเหล็ก ยังไม่ทันพูด ซูเหลียงอินซึ่งเดิมนั่งอยู่ที่พื้นก็รีบลุกขึ้นมา จับซี่ลูกกรงไว้ ร้องเสียงสะอื้น “พี่”
พอร้องเรียกเสร็จ ซูเหลียงอินก็ตาแดง หลายวันในคุกนางสงบเป็นพิเศษ เวลานี้พอเห็นซูจิ่วซือกลับกลั้นไม่อยู่
ซูจิ่วซือจับมือซูเหลียงอินไว้ “อย่าร้องไห้ เหลียงอิน เรามีเวลาไม่มาก บอกข้าเกิดอะไรขึ้น”
ซูเหลียงอินสูดน้ำมูก “คืนวันที่เจ็ดเดือนเจ็ดข้ากับกุ้ยเฟยไปลอยกระทง ข้านั่งอยู่ที่ข้างกอหญ้า ห่างจากกุ้ยเฟยไม่มาก ตอนที่กำลังจะลอยกระทงก็เห็นฮองเฮาตีกุ้ยเฟยสลบไป และยังจะฆ่ากุ้ยเฟยด้วย
ตอนที่ข้ากับฮองเฮาตบตีกัน ข้าหยิบก้อนหินได้จึงเอาทุบหัวฮองเฮา ฮองเฮาก็สิ้นลม
ข้าไม่ได้คิดว่าจะฆ่าฮองเฮา ไม่ได้นึกเลยว่าจะทุบแม่นขนาดนี้ ทำให้ฮองเฮาตายพอดี
พี่ ข้าโชคร้าย พี่ไม่ต้องใส่ใจข้า ข้ารู้ว่าคราวนี้ข้าต้องตายแน่ ก่อนตายได้เห็นหน้าพี่ ข้าก็พอใจแล้ว ข้าจะไปตอบแทนบุญคุณแม่ที่ปรโลก พี่กับพี่รองอยู่ให้มีความสุข ไม่ต้องใส่ใจข้า”
ซูจิ่วซือเดิมทีคิดว่าเรื่องนี้มีคนใส่ร้ายซูเหลียงอิน นึกไม่ถึงว่าซูเหลียงอินจะฆ่ากู้เฝิ่นไต้จริงๆ น้ำเสียงของซูเหลียงอินฟังออกว่ามีความกลัว จึงพูดปลอบใจเบาๆ “เหลียงอิน ไม่ใช่ความผิดของเจ้า กู้เฝิ่นไต้สมควรตายอยู่แล้ว”
“แต่นางเป็นฮองเฮา พี่ ฟังข้านะ ไม่ต้องช่วยข้า เรื่องนี้องค์หญิงสามจับตาดูอยู่ ข้าไม่อาจปฏิเสธได้ ข้าเป็นคนฆ่าฮองเฮาเอง ข้าปฏิเสธไม่ได้ พี่อย่าใส่ใจเรื่องของข้า อย่าให้พัวพันถึงพี่ทั้งสอง”
ซูจิ่วซือยื่นมือข้าหนึ่งไปลูบหัวซูเหลียงอิน “เด็กโง่ เจ้าไม่เป็นไรแน่ พี่รับรอง”
“พี่…”
ซูเหลียงอินยังอยากจะพูดต่อ ข้างนอกมีเสียงเพ่ยเอ๋อร์ดังขึ้น “องค์หญิง ไปได้แล้ว”
“เหลียงอิน อย่าคิดเหลวไหล เจ้าไม่เป็นไรแน่ รอฟังข่าวจากข้า”
พูดจบซูจิ่วซือก็เรียกจื่อหลาน จื่อหลานจึงต้องร่ำลาจื่อซู แล้วตามซูจิ่วซือออกไป
พอซูจิ่วซือไปแล้ว ซูเหลียงอินก็นั่งลงกับพื้นเหมือนเดิม จื่อซูพูดปลอบอยู่ข้างๆ “คุณหนู อย่าวิตกไปเลย คุณหนูใหญ่บอกว่ามีวิธี ก็ต้องมีวิธีแน่”
ซูเหลียงอินส่ายหน้า “เวลานี้คนที่พอจะทูลขออภัยโทษต่อฝ่าบาทได้ก็มีแต่กุ้ยเฟย ที่เราสองคนไม่ถูกลงทัณฑ์ ต้องเป็นเพราะกุ้ยเฟยทูลขอร้องฝ่าบาท แต่เรื่องออกจากคุกเป็นไปไม่ได้
กุ้ยเฟยช่วยเราไม่ได้ แล้วพี่สาวจะช่วยได้หรือ พี่เป็นเพียงองค์หญิง ข้ามีความผิดถึงขั้นประหาร ถ้าพี่ช่วยข้า ก็ต้องพัวพันถึงตัวเอง พี่ทำอะไรให้ข้ามามากเหลือเกิน ข้าจะไม่ให้พี่พลอยเดือดร้อนเด็ดขาด”
จื่อซูไม่เข้าใจความหมายของซูเหลียงอิน ถามต่อ “คุณหนูคิดว่าจะทำอย่างไร”
ซูเหลียงอินกลับยิ้ม “ในเมื่อต้องตาย ก็ขอตายเอง”
จื่อซูตะลึง “คุณหนู อย่าทำอย่างนี้”
“ตอนที่เพิ่งฆ่าฮองเฮา ข้ากลัวและสับสนมาก หลายวันในคุกวังหลวง ข้ากลับสงบลง เหมือนที่พี่พูดไว้ ฮองเฮาสมควรตาย
ข้าฆ่านางตายข้าไม่เสียใจ แต่ข้าเองก็หนีไม่พ้นเคราะห์กรรม
จื่อซู ขอโทษ พลอยทำให้เจ้าเดือดร้อนไปด้วย เดิมทีเรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับเจ้า ข้าไม่อยากพัวพันไปถึงพี่ด้วย ทำให้พี่พลอยเป็นห่วงข้า ตายไปก็ไม่ต้องกลัวอะไรอีก จะได้ไปอยู่กับท่านแม่ จะได้ไปพบคนใกล้ชิดอีกคนหนึ่ง”
——
ตอนที่ 303 มีป้ายเว้นโทษประหาร
จื่อซูสั่นหัวอย่างแรง “ชีวิตของบ่าวเป็นของคุณหนูอยู่แล้ว จะบอกว่าทำให้ข้าเดือดร้อนได้อย่างไร บ่าวตายไม่เป็นไร แต่บ่าวเป็นห่วงคุณหนู
คุณหนูยังไม่ได้ทำพิธีเกล้าผม ฮองเฮาเป็นคนลงมือก่อน องค์หญิงเป็นคนฉลาด ไม่แน่องค์หญิงอาจจะมีวิธีช่วยคุณหนูออกไป คุณหนู อย่าทำอะไรโง่ๆ เด็ดขาด”
จื่อซูคุกเข่าลงกับพื้นขอร้องซูเหลียงอิน แต่ซูเหลียงอินตัดสินใจเด็ดเดี่ยวแล้ว ในเมื่อจะตาย ทำไมต้องดึงซูจิ่วซือเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย ได้เห็นหน้าซูจิ่วซือ ก็พอใจแล้ว
พอออกจากคุกวังหลวง ซูจิ่วซือไปที่วังจื่อจิงกง อยากปรึกษากับกู้ชิงเฉิงเกี่ยวกับเรื่องของซูเหลียงอิน
พอเห็นซูจิ่วซือ กู้ชิงเฉิงก็แสดงความละอายใจ “จิ่วซือ ขออภัย ข้าไม่ได้ดูแลเหลียงอินให้ดี เรื่องนี้ข้าทูลฝ่าบาทแล้ว ได้แต่ช่วยให้เหลียงอินไม่ถูกทรมานในคุกวังหลวง แต่ไม่อาจช่วยให้ออกมาได้
เรื่องนี้องค์หญิงสามจ้องดูอยู่ และกระจายข่าวออกไปแล้ว ใครๆ ก็รู้ว่าเหลียงอินฆ่าฮองเฮา ฝ่าบาทแม้ทรงอยากช่วยแต่ก็ไม่อาจทำได้ เย็นนี้ข้าจะทูลขอร้องฝ่าบาทอีกครั้ง”
ซูจิ่วซือรู้ว่ากู้ชิงเฉิงพยายามเต็มที่แล้ว นางพูดขึ้น “ชิงเฉิง ข้ามาขอบใจเจ้า ถ้าไม่ใช่เพราะเจ้า ไม่รู้ว่าเหลียงอินจะถูกทรมานอย่างไร เหลียงอินร่างกายอ่อนแอ ถ้าถูกลงทัณฑ์ เกรงว่าจะทนไม่ไหว ข้ามีวิธีช่วยเหลียงอิน”
พอรู้ว่าซูจิ่วซือมีวิธี กู้ชิงเฉิงซึ่งร้อนใจอยู่ก็ซักถามทันที “เจ้ามีวิธีใด”
“ในมือข้ามีป้ายเว้นโทษประหาร”
“เจ้ามีป้ายเว้นโทษประหารได้อย่างไร”
กู้ชิงเฉิงประหลาดใจ ตอนที่ฮ่องเต้องค์ก่อนยังมีพระชนม์ทรงประทานป้ายเว้นโทษประหารสามป้าย หลังจากนั้นก็ไม่มีป้ายเว้นโทษประหารอีก นางจำได้ว่าสกุลกู้มีป้ายเว้นโทษประหารป้ายหนึ่ง แต่คนตายเป็นกู้เฝิ่นไต้ สกุลกู้คงไม่เอามาช่วยซูเหลียงอินแน่ เรื่องนี้ถึงนางเป็นคนขอก็คงไม่ได้
“จื่อหยวนเคยให้ข้าไว้”
คำพูดนี้ทำให้กู้ชิงเฉิงเข้าใจทันที ช่างบังเอิญจริงๆ คงเป็นกู้จื่อหยวนมอบให้ซูจิ่วซือไว้ก่อนแล้ว ถ้าอย่างนี้ซูเหลียงอินก็รอดชีวิตแน่
เดิมทีเฟิ่งอวิ๋นหล่างไม่ปรารถนาจะเอาชีวิตซูเหลียงอิน แต่พระองค์จะประหารซูเหลียงอินเพื่อแสดงให้ราษฎรเห็น ถ้ามีเหตุผลที่จะปล่อยซูเหลียงอิน พระองค์ก็ปล่อยได้
“ป้ายเว้นโทษประหารอยู่ที่เจ้า ข้าจะเอาป้ายนี้ไปให้ฝ่าบาท พอมีป้ายเว้นโทษประหาร ข้าค่อยไปทูลขอร้อง พระองค์ต้องช่วยเหลียงอินแน่”
ซูจิ่วซือเพิ่งกลับถึงเมืองหลวง ย่อมไม่ได้เอาป้ายเว้นโทษประหารมาหากู้ชิงเฉิง ป้ายเว้นโทษประหารยังอยู่ที่จวนอันผิงโหว คนอื่นไม่รู้ว่าป้ายเว้นโทษประหารอยู่ในมือของนาง วันนี้เย็นแล้ว พรุ่งนี้เข้านางจะเอาป้ายเว้นโทษประหารเข้ามา
“อยู่ที่จวนอันผิงโหว”
“เรื่องนี้อย่าให้ใครรู้ จิ่วซือ เจ้ารีบเอาป้ายเว้นโทษประหารมาเร็วหน่อย”
ซูจิ่วซือพยักหน้า เย็นนี้นางไม่สะดวกที่จะเข้าวัง ไม่อย่างนั้นจะส่งเข้ามาคืนนี้เลย ถ้านานอาจจะเกิดพลิกผัน
ทั้งสองพูดคุยกันครู่หนึ่ง ซูจิ่วซือจึงออกจากวัง
กู้ชิงเฉิงส่งซูจิ่วซือที่หน้าประตูวังจื่อจิงกง ยังดีที่มีป้ายเว้นโทษประหาร ไม่อย่างนั้นนางคงรู้สึกผิดมาก ซูเหลียงอินเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ก็เพื่อช่วยเหลือนาง ถ้าไม่มีซูเหลียงอิน นางคงตายด้วยน้ำมือของกู้เฝิ่นไต้
คราวนี้นางต้องพยายามช่วยซูเหลียงอินอย่างสุดความสามารถ ไม่เช่นนั้นนางคงเสียใจไปตลอดชาติ สำหรับนางแล้ว กู้เฝิ่นไต้ตายยังไม่สาสม
พอออกจากวัง ซูจิ่วซือก็กลับไปยังจวนอันผิงโหว นางอาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้า คงเป็นเพราะความเหนื่อยล้า พอเอนตัวนั่งที่ตั่ง นางก็เคลิ้มหลับทันที