ตอนที่ 380 เจ้าเขินหรือ
“ลูกสาวตระกูลมู่เคยเป็นสาวใช้ในสำนักวิหคเขียว แต่ป่วยตายนานแล้ว ข้าได้จี้หยกนี้โดยบังเอิญ นับว่าเป็นลิขิตฟ้า
เฉินหรง รองเจ้ากรมคลังตำแหน่งต่ำเกินไป ตระกูลโจวไม่มีบทบาทสำคัญในเมืองหลวง ตระกูลมู่เป็นทางเลือกที่ดีที่สุด ถ้าข้าจะอยู่เคียงข้างเจ้าเผชิญหน้ากับเฟิงชิงสุ่ย ต้องมีฐานะที่สูงพอ ไม่เช่นนั้นเจ้าคงจะมีเรื่องยุ่งยากไม่น้อย
ฟู่เฉินหรงไม่ได้ทัดทาน “ในเมื่อได้จี้หยกมาแล้วก็ควรจะลองดู ถ้าไม่สำเร็จก็ไปหาตระกูลโจว รับรองไม่มีพลาดแน่”
ซูจิ่วซือพยักหน้า “ดี”
นางตัดสินใจเด็ดขาดแล้วว่าจะไปหาตระกูลมู่ ไม่ว่าอย่างไรต้องทำให้สำเร็จ
เฟิงชิงสุ่ยไม่เหมือนคนอื่น ตระกูลมู่เป็นตระกูลใหญ่เพียงหนึ่งเดียวที่สามารถเทียบเคียงจวนแม่ทัพสยบปฐพีได้ เพียงแต่ว่าตระกูลเฟิงควบคุมอำนาจทหาร ส่วนตระกูลมู่ควบคุมการค้า ว่ากันว่าตระกูลมู่มีคนทำการค้าจำนวนมากครอบคลุมทั่วแคว้น ถ้าบอกว่าทรัพย์สินของตระกูลมู่มีพอๆ กับทรัพย์สินของแผ่นดิน นี่ไม่ใช่คำพูดที่เกินเลย
อาศัยฐานะของลูกสาวตระกูลมู่ นางย่อมยืนเคียงข้างฟู่เฉินหรงได้อย่างสง่าผ่าเผย และสามารถช่วยฟู่เฉินหรงได้อย่างแท้จริง
ตอนอยู่คฤหาสถ์ตระกูลจง นางได้เห็นความสามารถของเฟิงชิงสุ่ยแล้ว เฟิงชิงสุ่ยไม่ต้องปรากฏตัวก็สามารถอาศัยหลี่ฉางกุ้ยไปจัดการแทน เฟิงชิงสุ่ยร้ายกาจกว่าที่นางคิด
“เรื่องนี้รอให้ไปถึงเมืองหลวงก่อนค่อยว่า จิ่วซือ ดึกแล้ว นอนพักเถอะ เรื่องนี้ค่อยคิดทีหลัง จำไว้ว่ามีข้าอยู่ทั้งคน”
ซูจิ่วซือพยักหน้า วันข้างหน้า นางกับฟู่เฉินหรงจะจับมือกันก้าวไป
ขณะเตรียมจะหลับตา จู่ๆ ฟู่เฉินหรงซึ่งนอนที่พื้นก็ลุกขึ้นมาคุกเข่าที่ข้างเตียง ซูจิ่วซือเบิ่งตากว้างมองฟู่เฉินหรง
ฟู่เฉินหรงหัวเราะ “ก่อนดับไฟข้าขอดูหน้าเจ้าให้ชัดๆ”
“ยังดูไม่พอหรือ”
ตั้งแต่อยู่คฤหาสถ์ตระกูลจงฟู่เฉินหรงก็จ้องหน้านางมาตลอด มองจนนางเขินแล้ว เวลานี้ก็ยังกล้ามาจ้องหน้านาง
“ยังไม่พอ”
ฟู่เฉินหรงตอบจากใจจริง “ไม่ได้เห็นหน้าเจ้าตั้งนาน ดูแค่นี้จะพอได้อย่างไร จิ่วซือ เจ้าแต่งงานกับข้าเร็วหน่อย!”
“เจ้าจัดพื้นที่ให้ข้าก่อน”
ซูจิ่วซือพูดเล่น
“ก็ได้ ข้าจะจัดพื้นที่ให้พระชายาให้เร็วที่สุด เป็นพื้นที่ของเจ้า คนอื่นอย่าหวัง”
เขาจับมือซูจิ่วซือไว้ ก้มลงจูบแก้มซูจิ่วซือทีหนึ่ง เดิมทีเขาแค่อยากจูบแก้มทีหนึ่งแล้วนอนหลับ แต่พอจูบแก้มแล้วก็อดจูบปากไม่ได้
ในที่สุดฟู่เฉินหรงก็ผละจากซูจิ่วซือไป ถ้าขืนไม่ไป เขากลัวว่าจะควบคุมตัวเองไม่อยู่
ฟู่เฉินหรงเดินไปดับตะเกียงบนโต๊ะ ห้องตกอยู่ท่ามกลางความมืดทันที เขานอนที่พื้น ซูจิ่วซือไม่พูดไม่จา
ฟู่เฉินหรงไม่รู้ว่าซูจิ่วซือโกรธตนหรือไม่ เขาเอียงหน้าไปมอง อาศัยแสงจันทร์เลือนลางเห็นซูจิ่วซือเอาผ้าห่มปิดหน้า เขาอดหัวเราะออกมาไม่ได้ “จิ่วซือ เจ้าเขินหรือ”
“ฟู่เฉินหรง หุบปาก”
“ได้ ข้าหุบปาก เจ้าอย่าเอาผ้าห่มปิดแน่นเกินไป ข้ากลัวเจ้าจะร้อน” ฟู่เฉินหรงกลั้นยิ้ม “ข้ารับรองว่าจะหลับจริงๆ จิ่วซือ เจ้ารู้ไหม สองเดือนมานี้ข้าคิดถึงเจ้าทุกวันทุกคืน รอเจ้ามาอยู่ใกล้เร็วๆ
มีอยู่หนหนึ่งข้าฝัน ฝันว่าเราสองคนแต่งงานกัน เรามีลูกคนหนึ่ง หน้าตาเหมือนเจ้า ตอนตื่นข้ายังยิ้มอยู่ พอนึกถึงว่าต่อไปอีกหลายสิบปีจะมีเจ้าอยู่ด้วย ข้าก็อยากยิ้ม ดีจริงๆ”
ตอนที่ 381 ต่อไปข้าจะอยู่กับเจ้า
เมื่อกี้ซูจิ่วซือไม่พอใจฟู่เฉินหรงจริงๆ แต่ก็เขินเกินกว่าจะต่อว่า นางเปิดผ้าห่มออก เผยให้เห็นใบหน้าทั้งหมด “เวลานี้เจ้าเป็นรัชทายาท อยากได้แม่นางแบบไหนก็ได้ทั้งนั้น แม้แต่เฟิงชิงสุ่ยก็ยังหลงรักเจ้า เรื่องของนางข้าได้ยินมาไม่น้อย”
“แล้วจะเป็นอย่างไร ข้าต้องการเจ้าคนเดียว” ฟู่เฉินหรงเอียงหน้ามา แววตาทอประกายจับจ้องซูจิ่วซือซึ่งนอนบนเตียง “เฟิงชิงสุ่ยร้อยคนยังสู้เจ้าคนเดียวไม่ได้ ข้าต้องการเจ้าคนเดียว”
ซูจิ่วซือถอนหายใจเบาๆ “เจ้าไม่ถือสากับอดีตของข้าจริงหรือ”
ฟู่เฉินหรงพยักหน้าอย่างแรง “ข้าเป็นห่วงเจ้าเท่านั้น ผู้หญิงดีๆ อย่างเจ้า กลับเจอเรื่องอย่างนี้ ข้าไม่ใช่ท่านพ่อ ข้าไม่ทำกับเจ้าอย่างนี้แน่ ยิ่งไม่ยอมให้คนอื่นทำร้ายเจ้าเด็ดขาด
จิ่วซือ ข้าไม่อยากชดเชยแทนท่านพ่อ ท่านพ่อมีบุญคุณที่เลี้ยงดูข้า แต่เป็นคนละเรื่องกัน
ข้าชอบเจ้าไม่เกี่ยวอะไรกับท่านพ่อ ไม่ว่าเมื่อก่อนเจ้าเป็นใคร ในสายตาของข้า เจ้าเป็นจิ่วซือเท่านั้น
เรื่องราวในอดีต ข้าไม่ใส่ใจ และไม่อยากให้เจ้าจดจำ เพราะเป็นความเจ็บปวดสำหรับเจ้า ข้าหวังว่าวันข้างหน้า เจ้าจะมีความสุขทุกวัน”
ซูจิ่วซือซาบซึ้งใจอย่างยิ่ง เวลานี้นางเป็นซูจิ่วซืออย่างแท้จริง แต่อดีตก็ยังลบทิ้งไม่ได้ ความทรงจำเหล่านี้ไม่มีวันหาย
นางเคยแต่งงานกับกู้เหยี่ยนห้าปี และมีลูกกับเขา นางเป็นคนเชื่อมั่นในตัวเองมาตลอด และไม่รู้สึกว่าตนไม่คู่ควรกับฟู่เฉินหรง เพียงแต่กลัวว่าฟู่เฉินหรงจะถือสาว่านางเคยเป็นซูหลิ่ว
“ข้าพอใจมาก ตั้งแต่รู้จักเจ้า ข้าพอใจมาตลอด”
“ข้าอยากเห็นเจ้ายิ้ม ตอนรู้จักเจ้าใหม่ๆ เจ้าไม่เคยยิ้มให้ข้า วางตัวเป็นศัตรูกับข้า เวลานั้นข้าไม่เข้าใจสักนิด เจ้าอ่อนโยนกับหลียวนมาก และเกรงใจจื่อหยวน แต่เจ้าเย็นชากับข้าคนเดียวที่ ข้านึกว่าเจ้ารักหลียวน เวลานี้พอนึกแล้วก็ขำ ข้าโชคร้ายจริงๆ”
ซูจิ่วซือก็หัวเราะ “เจ้าโชคร้ายจริงๆ ข้าทำอย่างนั้นกับเจ้า เจ้าก็อย่าใส่ใจข้า”
“ตามเหตุผลแล้วข้าไม่ควรใส่ใจเจ้า แต่ข้าเหมือนคนบ้า กลับรู้สึกสนใจเจ้า อยากรู้ว่าทำไมเจ้าจึงทำอย่างนี้กับข้า ทำไมจึงเป็นศัตรูกับตระกูลกู้ ตั้งแต่พบกันครั้งแรกข้าก็สนใจเจ้า อยากใกล้ชิดเจ้า อยากเข้าใจเจ้า แล้วยิ่งชื่นชมเจ้า ข้าไม่เคยเจอผู้หญิงอย่างเจ้า”
ฟู่เฉินหรงพูดต่อ ทั้งสองพูดคุยกันถึงเรื่องราวในอดีต เป็นการหวนรำลึก และรู้สึกสบายใจเป็นพิเศษ เวลานั้นฟู่เฉินหรงยังไม่มั่นใจว่าซูจิ่วซือจะรับรักเขาหรือไม่ เวลานี้ซูจิ่วซืออยู่กับเขา เขาตื่นเต้นดีใจมาก โชคดีที่เขายืนหยัด ไม่เช่นนั้นซูจิ่วซือคงไม่อยู่กับเขาแน่
“เจ้าโง่จริงๆ” ซูจิ่วซือยังคงยิ้ม “หลายปีมานี้เจ้าลำบากมามาก ต่อไปข้าจะอยู่กับเจ้า”
“จิ่วเอ๋อร์ จำคำพูดของข้าไว้ ไม่ว่าต่อไปข้าจะเป็นอย่างไร ข้าก็ยังเป็นเฉินหรงคนเดียวกับที่เจ้ารู้จักครั้งแรก อยู่กับเจ้า ข้าไม่มีวันเปลี่ยน อยู่กับข้า เจ้าก็อย่าเปลี่ยน ถึงข้าจะเป็นฮ่องเต้ เจ้าก็ไม่ต้องนอบน้อมต่อข้าอย่างคนอื่น”
“วางใจ ข้าไม่ทำอย่างนั้นกับเจ้าแน่”
แม้ฟู่เฉินหรงจะเป็นรัชทายาท แต่ในสายตาของซูจิ่วซือไม่มีอะไรเปลี่ยนไปจากเดิม นางยังคงถือว่าฟู่เฉินหรงเป็นคนที่นางรู้จักครั้งแรก พอได้ยินคำพูดของฟู่เฉินหรง นางซาบซึ้งและพอใจมาก ทั้งสองยืนยันต่อกันแล้วว่าจะไม่มีวันเปลี่ยนใจง่ายๆ เพราะทั้งสองมั่นคงต่อสิ่งที่ตนรักอย่างแท้จริง จะรักไปนานๆ
เรื่องนี้ นางกับฟู่เฉินหรงไม่ต่างกัน
“เฉินหรง ข้าง่วงแล้ว”
ซูจิ่วซือหลับตา
“งั้นก็หลับเถอะ!”
ฟู่เฉินหรงพูดเบาๆ