ตอนที่ 384 สภาพตระกูลมู่
ช่วงสองวันมานี้ฟู่เฉินหรงงานยุ่งจริงๆ แต่ละครั้งเขาจะมาพูดคุยกับซูจิ่วซือไม่กี่คำแล้วก็ไป แม้จะเจ็บแผลมาก แต่ซูจิ่วซือก็ไม่ได้แสดงให้เห็นแม้แต่น้อย ฟู่เฉินหรงจึงไม่รู้สึกว่าซูจิ่วซือมีอะไรผิดปกติ
วันนี้เผยปิงปิงกำลังทำแผลให้ซูจิ่วซือ นอกห้องมีเสียงของกู้หลียวนดังขึ้น “จิ่วซือ ข้าเข้าไปได้ไหม”
“รอเดี๋ยว ข้ากำลังเปลี่ยนเสื้อผ้า”
มีเสียงซูจิ่วซือตอบ พอได้ยินว่าซูจิ่วซือจะเปลี่ยนเสื้อผ้า กู้หลียวนยังนึกว่าซูจิ่วซือจะออกไปหาฟู่เฉินหรง จึงไม่ได้คิดอะไร ได้แต่รอที่หน้าประตู
พอเข้าไปก็เห็นเผยปิงปิงอยู่ด้วย กู้หลียวนทำท่าประหลาดใจ “เป็นไปได้อย่างไร! เจ้าอยู่ดูจิ่วซือเปลี่ยนเสื้อผ้าหรือ”
“ทำไมจะไม่ได้ ผู้หญิงเหมือนกัน ไม่เป็นไรนี่”
“จิ่วซือไม่ใช่คนอย่างนั้น”
กู้หลียวนมองซูจิ่วซืออย่างสงสัย
ซูจิ่วซือยิ้มเจื่อนๆ “ข้าชอบปิงปิง เว้นให้นางคนเดียว”
เผยปิงปิงหัวเราะร่า กู้หลียวนรู้สึกประหลาดใจ สองวันมานี้เผยปิงปิงเข้าออกห้องซูจิ่วซือบ่อยๆ แต่เวลากลางวันเขาไปธุระข้างนอก ไม่ได้นึกสงสัย สองคนสนิทสนมกันปานนี้ตั้งแต่เมื่อไร
ช่างเถอะ ตอนนี้ไม่ใช่เวลามานึกถึงเรื่องนี้
กู้หลียวนนั่งที่ข้างโต๊ะ พูดต่อ “ข้าคบคุณชายรองตระกูลมู่ได้สำเร็จ พรุ่งนี้จะไปดื่มเหล้ากับเขา จิ่วซือ เจ้าเตรียมตัวหรือยัง ถ้าพร้อมแล้ว พรุ่งนี้จะได้ไปให้เขาดูตัว”
“รออีกสองวัน”
ซูจิ่วซืออยากรอให้แผลหายก่อนค่อยไปแสดงตัว ช่วงนี้รอให้กู้หลียวนใกล้ชิดคุณชายรองตระกูลมู่อย่างเต็มที่ก่อน
กู้หลียวนยพยักหน้า แล้วพูดต่อ “อย่างนี้ก็ดี มู่หยางเป็นคนพูดเก่ง เปิดเผย ทำให้ข้ารู้สภาพของตระกูลมู่ดี
หัวหน้าตระกูลมู่ชื่อมู่อวิ๋นชาง มีลูกชายสามคนลูกสาวคนหนึ่ง ลูกชายคนโตชื่อมู่หย่งเป็นคนที่มีบทบาทมากที่สุด นิสัยหนักแน่นที่สุด เป็นขุนนางกรมอาญา
มู่หยางยังไม่เข้ารับราชการ นิสัยร่าเริง ชอบคบหาสมาคม มู่เจี๋ยเป็นพ่อค้า ว่ากันว่าเป็นคนฉลาดมาก เขากับอาดูแลการค้าของตระกูลมู่ เวลานี้ไม่ได้อยู่ที่ตูเฉิง”
หลายวันมานี้แม้ซูจิ่วซือไม่ได้ออกจากบ้านไปไหน แต่ก็ไม่ได้อยู่เฉย นางให้คนไปสืบเรื่องของตระกูลมู่ จึงรู้สภาพของตระกูลมู่อย่างละเอียด
มู่อวิ๋นชางกับฮูหยินมู่หรงผู้เป็นภรรยารักใคร่กันดี มู่อวิ๋นชางไม่เคยมีเมียน้อย
นางมู่หรงมีลูกชายสามคนลูกสาวคนหนึ่ง สภาพเช่นนี้พบน้อยมากสำหรับตระกูลใหญ่ในเมืองหลวง ซึ่งส่วนมากจะมีเมียน้อยมากมาย มีแต่ตระกูลมู่ที่รักใคร่กันดี ลูกทั้งหมดเกิดจากแม่เดียวกัน ความขัดแย้งต่อสู้กันจึงน้อยมาก
ซูจิ่วซือไม่อาจบุ่มบ่ามไปแสดงตัวเป็นญาติตระกูลมู่ นางอยากสร้างโอกาสใกล้ชิดกับคนตระกูลมู่โดยบังเอิญ กู้หลียวนเป็นคนชอบคบหาสมาคมอยู่แล้ว นางจึงเริ่มต้นจากเรื่องนี้
“หลียวน ร้านเหล้าของเจ้าดำเนินงานถึงไหนแล้ว”
“เลือกสถานที่ได้แล้ว มู่หยางเป็นคนแนะนำ จัดร้านเสร็จก็เปิดกิจการได้ อย่างน้อยต้องรอเดือนหน้า”
เผยปิงปิงยิ้ม “ยินดีด้วย เถ้าแก่กู้”
“ยังขาดเถ้าแก่เนี้ย”
ซูจิ่วซือก็ยิ้ม นางสนับสนุนกู้หลียวนมาก รู้ว่าเขาไม่อยากรับราชการ นางก็ไม่อยากบังคับ เปิดร้านเหล้าก็ไม่เลว
“ปิงปิง….” จู่ๆ กู้หลียวนก็เรียกเผยปิงปิง ทำให้เผยปิงปิงมีความหวัง
“หือ” เผยปิงปิงรีบมองหน้ากู้หลียวน รอให้เขาพูดต่อ
ตอนที่ 385 ไม่อยากให้เจ้าเสียใจภายหลัง
“เจ้าอยากเป็นผู้จัดการของข้าไหม”
พอได้ยินคำพูดนี้สีหน้าของเผยปิงปิงห่อเ**่ยวทันที ในใจรู้สึกผิดหวัง “เอาคนเก่งไปทำงานเล็กน้อย ให้คุณหนูหมู่บ้านเขากุยอวิ๋นซานมาเป็นผู้จัดการให้เจ้า ฝันไปเถอะ ไปหาคนอื่นไป จิ่วซือ ข้ากลับห้องก่อนละ”
เผยปิงปิงพูดจบก็ออกไปจากห้อง
พอเผยปิงปิงไปแล้ว ซูจิ่วซือก็มองหน้ากู้หลียวนแวบหนึ่ง เห็นสีหน้าเขาไม่ปกติ จึงถามต่อ “หลียวน เจ้าไม่ชอบปิงปิงจริงหรือ คนเขาเคยพูดชัดเจนอย่างนั้น ปิงปิงคิดอย่างไร เจ้ารู้ดีอยู่แล้ว”
กู้หลียวนยกกาชาบนโต๊ะขึ้นมารินให้ตัวเอง จิบคำหนึ่ง “ข้าไม่อยากแต่งงาน”
“ทำไม”
ซูจิ่วซือเห็นกู้หลียวนปฏิเสธการแต่งงานมาตลอด เมื่อก่อนทั้งสองไม่ได้คุยเรื่องนี้อย่างละเอียด เวลานี้พอดีว่าง นางอยากพูดคุยกับกู้หลียวน นางรู้สึกว่ากู้หลียวนเอาใจใส่เผยปิงปิงมากกว่าปกติ ถ้าพลาดเผยปิงปิงไป นางกลัวว่ากู้หลียวนจะเสียใจภายหลัง
กู้หลียวนมองที่ประตู แววตาเลื่อนลอย “จิ่วซือ เจ้าก็รู้เรื่องของท่านแม่ข้า ท่านพ่อทำให้ท่านแม่ช้ำใจ ต่อมาท่านพ่อแต่งงานใหม่ ความสัมพันธ์ของทั้งสองกลายเป็นอย่างนี้
แล้วยังเรื่องของชิงเฉิง นางกับฝ่าบาทก็กลายเป็นอย่างนี้ ทั้งสองไม่ได้รักกันหรอกหรือ แต่ไม่มีใครพบความสุข ข้าไม่อยากแต่งงาน ข้ากลัวการดูแลใครคนหนึ่งไปตลอดชีวิต และกลัวว่าจะไม่สามารถรักนางไปตลอดชีวิต”
กู้หลียวนตั้งแต่เล็กก็เห็นกู้เหยี่ยนคิดถึงซูหลิ่ว รู้ว่าก่อนหน้านั้นกู้เหยี่ยนทำให้ซูหลิ่วช้ำใจ
มองดูความสัมพันธ์ของกู้เหยี่ยนกับซูเหมยเย็นชาลงเรื่อยๆ เขาไม่คิดจะแต่งงาน คนที่รักกันตั้งแต่ต้นไม่แน่ว่าจะรักกันไปตลอดชีวิต แม้แต่งงานกัน แต่สุดท้ายก็อาจจะหมางเมินกัน
สู้ชอบใครสักคนอย่างบริสุทธิ์ใจจะดีกว่า พอไม่รักก็เลิก ไม่จำเป็นต้องผูกพันมาก
ด้วยเหตุนี้เขาจึงมีผู้หญิงอยู่ใกล้ชิดหลายคน เคยชอบมาแล้วหลายคน แต่ไม่เคยคิดจะแต่งงาน อย่างมากก็อยากรับเป็นเมียน้อย แต่ก็ไม่อยากมีลูก ภรรยาสำหรับเขาแล้วเป็นคำศักดิ์สิทธิ์ ในเมื่อความรักจืดจางได้ งั้นก็ไม่ต้องแต่งงาน
แม้เขาจะมองฟู่เฉินหรงกับซูจิ่วซือด้วยความอิจฉา แต่ก็ยังไม่อยากแต่งงาน
เขาชอบเผยปิงปิงจริงๆ เรื่องนี้เขาไม่ปฏิเสธ แต่เขาไม่กล้าแต่งงานกับนาง และรู้ว่าความปรารถนาสูงสุดของเผยปิงปิงก็คือการแต่งงานมีลูก เขาไม่สามารถมอบชีวิตในแบบที่เผยปิงปิงต้องการได้ จึงไม่กล้ารับปาก กลัวว่าจะทำให้เผยปิงปิงเสียใจ
“หลียวน คนที่แต่งงานอยู่ด้วยกันจนแก่เฒ่ามีมากมาย เดิมทีข้าก็เหมือนกับเจ้า นี้เตรียมไว้ว่าชีวิตนี้จะไม่แต่งงาน แต่พอเจอเฉินหรง เขาทำให้ข้าคิดจะแต่งงาน ข้าเคยลังเล และปฏิเสธเขาหลายครั้ง
ต่อมาพอเฉินหรงจากไป ข้าจึงเข้าใจตัวเอง ถ้าพลาดจากเขา ข้าคงเสียดาย และอาจจะเสียใจภายหลัง ถ้ามั่นใจว่าคนนั้นคือเขา ข้ายินดีเสี่ยงสักครั้ง”
กู้หลียวนฟังอย่างเงียบๆ ซูจิ่วซือพูดต่อ “หลียวน เจ้าคิดให้ดี เจ้าต้องการอะไรแน่ ถ้าในใจเจ้ามีนาง ก็ลองดู อย่ารอจนเสียไปแล้วเสียดาย พอถึงตอนนั้นก็แก้ไขอะไรไม่ได้ ข้าไม่อยากให้เจ้าเสียใจภายหลัง”
กู้หลียวนพยักหน้า “ข้าเข้าใจความหมายของเจ้า เรื่องนี้ข้าจะคิดให้ดี เวลานี้ข้ายังไม่พร้อม”
เรื่องของความรักซูจิ่วซือไม่อาจพูดอะไรมาก ได้แต่คอยแนะบ้าง นางหวังว่าลูกทั้งสองจะมีความสุขของตัวเอง นางจึงจะสบายใจ นี่เป็นความปรารถนาของนางในฐานะแม่