หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – ตอนที่ 123 กัดไหล่นาง

บทที่123 กัดไหล่นาง

 

แค่คิดถึงภาพนั้น หลานเยาเยาก็อดเสียวสันหลังไม่ได้! 

เป็นไปไม่ได้หรอก 

ถ้าเป็นแบบนี้ นางคงตบเย่แจ๋หยิ่งตายไปแล้ว 

“เขาไปตอนไหน?” หลานเยาเยาถามอ่อนแรง 

“แน่นอนว่าต้องหลังฟ้าสางสิ! เสด็จอาเป็นผู้ชายคนแรกของเจ้า เจ้าก็เป็นผู้หญิงคนแรกของเสด็จอา หลังจากคืนนึงแล้วอารมณ์ยังค้างอยู่มันก็เป็นเรื่องปกติ เจ้าคงเหนื่อยมากใช่ไหม? ข้าสั่งให้คนครัวตุ๋นของอร่อยมาแล้ว”

ชิบหาย! 

คำพูดพวกนี้ก็พูดออกมาได้? 

“โหลวเย่ว เจ้ายังเป็นองค์หญิงอยู่ไหม?” 

ทำไมถึงรู้สึกว่านางยิ่งนับวันยิ่งขี้ซุบซิบ อายุก็พอๆกันทำไมไม่รู้จักอายสักนิด?

ในฐานะองค์หญิงผู้สูงส่งและสำรวมหล่ะ? 

“ข้าเป็นองค์หญิงแน่นอน เป็นองค์หญิงแล้วทำไม? จะต้องหยิ่งยโสเหรอ? เวลาจะมองใครก็ใช้รูจมูกมอง?”

แต่ก่อนนางเป็นอย่างนั้น 

ตั้งแต่หลังจากเจอหลานเยาเยาก็พบว่านางใช้ชีวิตได้ดีมากไม่ถูกจำกัดเลยสักนิด 

ดังนั้น!

นางก็อิจฉามาก ด้วยเหตุนี้จึงตัดสินใจเปลี่ยนแปลงตนเอง ตอนนี้ก็เลยกลายเป็นแบบนี้ 

“ที่ข้าบอกไม่ใช่เรื่องนี้แต่เป็นเรื่องของชายหญิง เจ้าก็ดูค่อนข้างเข้าใจ”  นางไม่ใช่ว่าป่วยไปสามปีเหรอ! อีกอย่างสามปีก่อนก็ไม่สามารถเห็นแสงใดๆได้ นางคงไม่สามารถอ่านหนังสือได้หนิ!

ดังนั้น! 

นางคงไม่อ่านตำราเกี่ยวกับชายหญิงแต่เด็กหรอกมั้ง? 

จุดนี้ หลานเยาเยาสงสัยมาก 

“อ้อ ใช่แล้ว เยาเยา เจ้าพักผ่อนเยอะๆหล่ะข้ามีธุระต้องไปทำก่อน” 

พูดจบ! 

โหลวเย่วก็จากไปอย่างไว ตอนจะไปหน้าก็ยังคงแดงก่ำ

“……”

โหลวเย่วจากไปไม่นานหลานเยาเยาก็ลุกขึ้นล้างหน้าบ้วนปากแม้แต่ข้าวเช้าก็ยังไม่ได้กินก็ต้องไปหาเย่แจ๋หยิ่งแล้ว 

เขาไม่ได้ไปที่ราชสำนักหลายวันแล้ว 

 ดังนั้นจึงไปหาพ่อบ้านเหมยเพื่อถามว่าเขาอยู่ที่ไหน

จวนอ๋องเย่, ห้องหนังสือ 

“ก๊อกๆๆ……” 

“ใคร?” เสียงน่าดึงดูดดังออกมาจากห้องหนังสือ 

“ข้าเอง หลานเยาเยา!” 

ในห้องก็เงียบไปครู่นึง แล้วเสียงที่น่าดึงดูดก็ดังขึ้นมาช้า: “เข้ามา!” 

มีเสียง “แกร๊ก” หลานเยาเยาผลักประตูเข้ามาก็เห็นเย่แจ๋หยิ่งนั่งอยู่หน้าโต๊ะในมือถือจดหมายคิ้วขมวดเล็กน้อย

หลานเยาเยาที่เดินไปถึงข้างตัวเขา คิดคำพูดอยู่ครู่นึงก่อนจะพูดออกมา 

“ข้ามีเรื่องจะคุยกับเจ้า!” 

“อื้ม!” 

“ข้าจะกลับไปที่จวนแม่ทัพ น่าจะอยู่ที่นั่นสักช่วงหนึ่ง” 

เพื่อจะสืบหาสาเหตุการตายที่แท้จริงของท่านแม่ และเพื่อให้ได้เงื่อนงำขององค์ชายราชวงศ์ก่อน 

ได้ยินเช่นนั้น! 

เย่แจ๋หยิ่งก็หยุดนิ่งแล้วเงยหน้ามองนางแล้วเอ่ยเรียบๆขึ้นว่า: “ไม่ใช่ว่าตัดความสัมพันธ์ไปแล้วหรือ?” 

“ข้ายังมีเรื่องอื่นต้องทำ” 

“ต้องการจะหาสาเหตุการตายของท่านแม่หรือ?” เขายังคงมองนางนิ่งๆ 

สีหน้าของหลานเยาเยาเปลี่ยนไปเล็กน้อยแต่พอคิดไปก็ปล่อยมันไป!

นิสัยของฮองเฮาถูกเปิดเผย ณ วันนั้น จื่อซีก็อยู่ ฮองเฮาบอกว่าการตายของท่านแม่เกี่ยวข้องกับจวนแม่ทัพ

ดังนั้น…… 

เย่แจ๋หยิ่งรู้เรื่องนี้ก็ไม่น่าแปลก 

“อื้ม! นางตายได้แปลก ถ้าไม่หาสาเหตุการตายที่แท้จริงของนางให้ชัดเจนข้าก็รู้สึกละอายใจ” 

“มีเพียงเพราะเรื่องนี้เท่านั้นหรือ?” เขาถามอีกครั้ง 

หลานเยาเยานิ่ง! 

การถามต่อๆกันเยอะๆของเย่แจ๋หยิ่งทำให้นางรู้สึกแปลกๆ แต่ว่าเหตุผลอื่นๆนางก็ไม่ได้พูดไปดังนั้นจึงเปิดปาก

“แม้ว่ามี ก็เป็นเรื่องส่วนตัวของข้า เจ้าไม่ควรก้าวก่าย” 

หลานเยาเยารู้สึกว่าคำพูดของตนเองสมเหตุสมผลไม่ได้ผิดอะไร 

แต่คิดไม่ถึงว่า…… 

ทันทีที่นางพูดจบ บรรยากาศภายในห้องก็ได้รวมตัวขึ้น 

เย่แจ๋หยิ่งลุกขึ้นในทันที เดินอ้อมโต๊ะเข้ามาใกล้นาง

นางสะดุ้งโหยงกับการกระทำที่กะทันหันของเขาจึงถอยหลังตามสัญชาตญาณแต่กลับถูกเขาไล่ต้อนจนถึงชั้นหนังสือ

เย่แจ๋หยิ่งจ้องนางอย่าแผ่วเบา นัยน์ตามีความโกรธๆเล็กน้อย 

“เจ้ามีส่วนร่วมกับเรื่องส่วนตัวของข้าตลอด ยังคิดไม่ให้ข้าก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวเจ้าอีกหรือ? จะมีเรื่องง่ายๆแบบนี้ที่ไหน!”

“ข้าไปก้าวก่ายเรื่องของเจ้าตอนไหน?” 

ไม่มีนะ! 

ในภาพจำนางก็ไม่มีเรื่องนี้ 

“ไม่มี?” 

เย่แจ๋หยิ่งยิ้มเยาะ แล้วอธิบาย 

“แม้ข้ากับเจ้าจะมีข้อตกลงกันสามปีแต่พวกเราก็ไหว้เทวดาฟ้าดินกันแล้ว(พิธีแต่งงาน) เป็นสามีภรรยาของจริง

ข้าเคยบอกว่าจะรักษาความบริสุทธิ์ของเจ้าไว้ แต่เจ้าก็เอาแต่แตะเส้นตายของข้าครั้งแล้วครั้งเล่า จนคืนเมื่อวานก็ก้าวก่ายแม้แต่เรื่องส่วนตัว

เจ้าอย่าบอกนะว่าเจ้าลืมแล้ว?” 

เอ่อ…… 

เรื่องเมื่อคืนวานดูเหมือนนางจะจำอะไรไม่ได้ 

“ข้าจำไม่ได้จริงๆ!” 

ตอนนี้ เย่แจ๋หยิ่งก็ยิ้มเยาะขึ้นมาหรี่ดวงตาที่แสนอันตรายแล้วพูดว่า

“จำไม่ได้แล้วก็ดี ข้าจะช่วยให้เจ้าจำได้” 

พูดจบ! 

มือข้างหนึ่งของเย่แจ๋หยิ่งจับไหล่นาง กักนางเอาไว้ อีกมือหนึ่งก็แยกคอเสื้อข้างนึงของนางออกจนเผยให้เห็นไหล่ที่ขาวเนียน

นางยังไม่ทันได้ขัดขืน เย่แจ๋หยิ่งก็ก้มตัวลงมากัดที่ไหล่นางแล้ว อีกทั้งยังเป็นการกัดอย่างแรง

“ซี้ด……” 

“เจ้าเป็นหมารึไง? จู่ๆก็มากัดข้า” 

หลานเยาเยารีบผลักเขาออก ใครจะรู้ว่าเย่แจ๋หยิ่งนั้นจะยื่นมือไปดึงเสื้อคลุมตนเอง ทันใดนั้นแผงอกเปลือยก็เผยออกมา

บนตัวเขามีรอยจูบอยู่ทุกที่ เป็นที่น่าตกใจมากๆ!

ชิบหาย! 

น่ากลัวขนาดนี้? 

คงไม่ใช่ผลงานชิ้นเอกของนางใช่ไหม? 

อย่างไรก็ตาม คำตอบของเย่แจ๋หยิ่งทำให้นางต้องปิดตา 

“เมื่อคืนวานตอนที่เจ้าจูบข้า บอกว่าไม่ให้ข้ามีนางบำเรอและยังบอกให้ข้ารักเจ้าตลอดชีวิต และยังพูดว่ารอนางสนมของข้าอยู่ตลอด พวกนี้เจ้าก็ลืมหมดแล้ว?” 

เอ๋? 

พระเจ้า!เหล่าพื้นพสุธา! 

นี่ไม่ใช่ฝันดีที่นางฝันเมื่อคืนวานนี่ นี่คุยกับขาหมูตุ๋นเลิศรสไม่ใช่หรือ? 

ที่แท้…… 

นางมองว่าเย่แจ๋หยิ่งเป็นขาหมูตุ๋น ตายละ ขายหน้าที่สุดอยากจะหารูมุดเข้าไปจริงๆ! 

“คิดออกแล้วใช่หรือไม่?” เสียงน่าดึงดูดถามขึ้นอย่างไม่รู้เรื่องรู้ราว 

เดิมทีก็ขายหน้าพออยู่แล้ว แต่จู่ๆนางก็ยังพูดประโยคที่ไม่ถูกกาลเทศะอย่างมากขึ้นมาอีก 

“ทำไมเจ้าไม่จูบปากข้า?” 

โอกาสดีขนาดนี้นะ! เจ้าจูบ ระบบข้าก็จะได้เลื่อนขั้น 

ทำไมไม่จูบนะ! 

ใครจะรู้…… 

มุมปากของเย่แจ๋หยิ่งกระตุกเล็กน้อยและพูดอย่างหยิ่งๆว่า: 

“ข้ารู้ว่าเจ้าอยากจูบปากข้า ไม่ว่าจะด้วยเพราะมีจุดประสงค์อันใด ข้าก็จะไม่ให้เจ้าได้มันไปง่ายๆ

ท้ายที่สุด การที่ได้ของใดๆมาง่ายเกินไปเจ้าก็จะไม่รู้จักทะนุถนอม ดังนั้นข้าก็โลภ”

“……”

ตอนนี้ หลานเยาเยาตกตะลึง 

โอ้มายก็อด! 

เป็นเพราะนางแสดงออกชัดเกินไปหรือเพราะพลังการมองที่ทะลุปรุโปร่ง พลังการสังเกตของเขาเข้มแข็งมาก?

ความตั้งใจที่ไม่ชัดเจนขนาดนี้ของนางเขายังสามารถสังเกตได้! 

จบกัน การไล่จูบยังมีหนทางอีกยาว

ตอนที่นางกำลังตะลึงอยู่ เย่แจ๋หยิ่งก็ก้มตัวลงมาอีกครั้งแล้วกัดลงไปใหม่อีกครั้งตรงที่เขาได้กัดไปเมื่อกี้ 

ซี้ด……

แม่งเอ๊ย 

กัดคนจนติดเป็นนิสัยแล้วรึยังไง? 

นางก็คิดอยากจะผลักเขาออก แต่พอคิดถึงร่องรอยบนตัวเขาที่ทั้งหมดเป็นเพราะนางก็เกิดลังเลขึ้นมาทันที 

“ซี้ด……”

ในตอนที่นางลังเลอยู่ เย่แจ๋หยิ่งก็กัดแรงขึ้นกว่าเดิม 

ชั่วขณะนึง! 

ตอนที่ริมฝีปากเขาออกห่างจากไหล่นางก็เห็นรอยกัดลึกๆสองรอยซ้ำยังมีเลือดซึมออกมา เขาถึงจะปล่อยนางไปอย่างพึงพอใจ……

 

 

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

Comment

Options

not work with dark mode
Reset