หวานรักจับหัวใจท่านประธาน – ตอนที่ 387 ข้อสรุปที่ดี / ตอนที่ 388 ร้องเรียน

ตอนที่ 387 ข้อสรุปที่ดี  

 

 

“วันนี้ผมมีธุระ คุณพาเสี่ยวลิ่วลิ่วไปอยู่กับคุณทวดนะ” อวี๋เยว่หานพูดจบ พ่อบ้านก็รีบเข้ามาอุ้มเสี่ยวลิ่วลิ่วไปจากเก้าอี้  

 

 

จากนั้นก็หันหน้าวิ่งไปทันที!  

 

 

หลังจากเสี่ยวลิ่วลิ่วไปแล้ว ห้องอาหารก็เงียบลงในทันที  

 

 

อวี๋เยว่หานมีสีหน้าไม่รู้สึกรู้สาอะไร และกินโจ๊กต่ออย่างสบายๆ  

 

 

มีเพียงเหนียนเสี่ยวมู่ ที่ยังคงเหม่อลอย  

 

 

เมื่อดึงสติกลับมาได้ และกำลังจะเอ่ยปาก เขาก็ป้อนโจ๊กใส่ปากของเธอ ทำให้เธอพูดไม่ออก  

 

 

หญิงสาวชำเลืองมองเขาครั้งหนึ่ง พลางกอดชามโจ๊กของตัวเองด้วยร่างกายที่ชาหนึบ ก่อนจะเขยิบไปด้านข้าง  

 

 

หลังจากในอ้อมกอดของเขาว่างลง ชายหนุ่มก็ขมวดคิ้วมุ่น  

 

 

จากนั้นเขาเหมือนจะนึกอะไรขึ้นได้ จึงไม่ได้โมโหอะไร  

 

 

เขากินโจ๊กไปพลาง มองโทรศัพท์มือถือไปพลาง  

 

 

ยิ่งมอง เขาก็ยิ่งขมวดคิ้วเป็นปมแน่นขึ้น…  

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่เหลือบมองเขาด้วยความอยากรู้อยากเห็น อยากรู้ว่าเขากำลังดูอะไรอยู่  

 

 

แต่เพิ่งเข้าไปใกล้ อวี๋เยว่หานก็เลื่อนหน้าจอโทรศัพท์มือถือออกไปแล้ว  

 

 

เธอมองไม่เห็นอะไรสักอย่าง  

 

 

“กินข้าวของคุณไป” อวี๋เยว่หานเงยหน้าขึ้น ก่อนจะลูบหัวที่กำลังไม่พอใจ  

 

 

ชายหนุ่มพลิกฝ่ามือ หัวข้อใหญ่บนหน้าจอโทรศัพท์เขียนไว้อย่างชัดเจนว่า ‘ข้อสรุปที่ดี ‘ความสุข’ ที่แฟนสาวชอบมากที่สุด!’  

 

 

ข้อแรกของกฎหมายตราสามดวงเขาก็ทำไม่ได้แล้ว  

 

 

แต่ก็ยังอยากลองทำข้อที่สามดู  

 

 

เขาไม่มีประสบการณ์การมีความรัก แต่เขายินดีที่จะเรียนรู้ เพื่อเธอ  

 

 

อวี๋เยว่หานบันทึกภาพหน้าจอคำแนะนำที่เพื่อนบนอินเทอร์เน็ตแนะนำมาให้  

 

 

จากนั้นเขาก็ชำเลืองมองเหนียนเสี่ยวมู่ที่กำลังก้มหน้าก้มตากินข้าว ในหัวพลันมีคำพูดของเธอก่อนหน้านี้แวบเข้ามา  

 

 

ไม่มีทางที่ใครสักคนจะไปปรากฏตัวที่หน้าโรงพยาบาลโดยที่ไม่มีเหตุผล และตอนนั้นบนตัวเธอก็บาดเจ็บ…  

 

 

เขาหลุบดวงตาสีดำลง แล้วเรียบเรียงข้อความ ให้ผู้ช่วยติดต่อถานเปิงเปิง เขาอยากเจอหน้าคนคนนี้ด้วยตัวเองสักครั้ง!  

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ไม่รู้ว่าเขากำลังทำอะไร เพราะจิตใจจดจ่ออยู่แต่กับอาหารเลิศรสเท่านั้น  

 

 

หลังจากกินดื่มจนอิ่มแล้ว เธออยากกลับไปงีบหลับในห้อง แต่อวี๋เยว่หานกลับดึงเธอไว้  

 

 

ชายหนุ่มยกตัวเธอขึ้น ทำเอาเธอตกใจจนต้องรีบกอดคอของเขาเอาไว้  

 

 

หญิงสาวมองเขาด้วยความสงสัย  

 

 

“เปลี่ยนเสื้อผ้า”  

 

 

“เอ๋?”  

 

 

“ออกไปเดตกัน!”  

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่กำลังงุนงง ยังไม่ทันได้พิจารณาเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนเลย ก็ถูกเขาพาออกจากคฤหาสน์ตระกูลอวี๋เสียแล้ว  

 

 

เมื่อขึ้นไปนั่งบนรถ ก็นับว่าเธอได้สติกลับมาบ้างแล้ว  

 

 

เธอหันหน้าไปมองคนข้างๆ พร้อมทั้งหาวออกมาด้วยความง่วงนอน “ตอนนี้พวกเราจะไปที่ไหนกัน”  

 

 

อวี๋เยว่หานเห็นสีหน้าของเธอแล้ว จึงเอื้อมมือไปดึงเธอเข้ามากอดในอก ให้เธอพิงบนหน้าอกของเขา แล้วขยับปากพูดด้วยความเอ็นดู “หลับไปก่อนเถอะ ถึงแล้วผมจะปลุกคุณ”  

 

 

หญิงสาวได้ยินดังนั้นก็ไม่อิดออด  

 

 

เพราะกินอิ่มแล้วก็ต้องนอน  

 

 

เมื่อเธอตื่นขึ้น ถึงจะพบว่ารถของพวกเขาจอดอยู่ที่หน้าโรงหนังแห่งหนึ่ง  

 

 

เป็นโรงหนังที่เดียวกับที่พวกเขามาเมื่อครั้งที่แล้ว  

 

 

วันนี้เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ คนเยอะมากทีเดียว  

 

 

ท้องฟ้ายังไม่มืด แต่ด้านหน้าห้องขายตั๋วก็มีคู่รักยืนอยู่หลายคู่แล้ว  

 

 

มีคนต่อแถวอยู่เต็มไปหมด  

 

 

“คุณได้จองตั๋วผ่านอินเทอร์เน็ตหรือเปล่า ตั๋วจะหมดหรือยังนะ” เหนียนเสี่ยวมู่นึกได้ว่าครั้งก่อนตั๋วของหนังเด็กหมด จึงยื่นหน้าออกมาจากในอกของเขา แล้วถามด้วยความกังวลใจอยู่บ้าง  

 

 

“ไม่หมดหรอก” อวี๋เยว่หานตาเป็นประกาย พลางตอบด้วยความมั่นใจ  

 

 

นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาออกมาเดตกันอย่างเป็นทางการ หลังจากยืนยันความสัมพันธ์ฏันแล้ว  

 

 

อวี๋เยว่หานจับมือเธอขณะเดินอยู่ท่ามกลางกลุ่มคนแน่นอยู่บ้าง  

 

 

เขาเคยเจองานเลี้ยงใหญ่โตมากมาย แต่วันนี้เขามาดูหนังกับแฟนสาวของตัวเอง กลับตื่นเต้นขึ้นมาเสียอย่างนั้น  

 

 

โดยเฉพาะเมื่อคิดถึงเรื่องที่อีกเดี๋ยวกำลังจะทำ…  

 

 

ชายหนุ่มกระแอมเสียงเบา เพื่อข่มความรู้สึกของตัวเองเอาไว้  

 

 

แล้วจูงมือเธอเดินเข้าไปในโรงหนัง เหมือนกับว่าไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้น  

 

 

 

 

 

ตอนที่ 388 ร้องเรียน  

 

 

“คุณชายหาน!” พนักงานสองคนหน้าโรงหนังวีไอพีกล่าวทักทายอย่างนอบน้อม เมื่อเห็นอวี๋เยว่หาน  

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ตะลึงงัน ก่อนจะหันไปมองเขาด้วยความแปลกใจอยู่บ้าง  

 

 

นี่คือ…โรงหนังในเครือของบริษัทตระกูลอวี๋เหรอ  

 

 

อย่างนั้นทำไมคราวที่แล้วถึงจองตั๋วไม่ได้ล่ะ  

 

 

อวี๋เยว่หานสังเกตเห็นความผิดปกติของเธอ เขาหรี่ตาลง แต่ไม่นานก็เดาได้ จึงกระแอมครั้งหนึ่ง “หนังใกล้จะเริ่มแล้ว พวกเราเข้าไปเถอะ”  

 

 

เมื่อเขาพูดจบ ก็ดึงเธอจากจุดฉีกตั๋ว เดินเข้าไปข้างในโดยไม่เหลือโอกาสให้เธอพูด  

 

 

หลังจากเข้าไปในโรงหนัง แสงก็มืดลง  

 

 

หญิงสาวมองไม่เห็นทาง จึงยื่นมือไปจับอวี๋เยว่หานไว้ตามสัญชาตญาณ “หนังยังไม่ฉายเลย ทำไมถึงปิดไฟล่ะ”  

 

 

แล้วทำไมเธอถึงมองไม่เห็นใครเลย  

 

 

โรงหนังอันโอ่โถงเหมือนจะมีแค่พวกเขาสองคน…  

 

 

ตอนเธอกำลังสงสัยอยู่นั้น ในที่สุดทางเดินเข้าสู่โรงหนังก็สว่างขึ้น  

 

 

อยู่ๆ บนเพดานก็มีแสงไฟกะพริบระยิบระยับ  

 

 

เหมือนกับหิ่งห้อยที่มองเห็นได้ในตอนกลางคืนช่วงฤดูร้อน  

 

 

ขณะที่แสงเปลี่ยนแปลงไป มันก็ส่องประกายอยู่ในโรงหนังอย่างต่อเนื่อง…  

 

 

แสงกะพริบผ่านไปหน้าหล่อเหลาของอวี๋เยว่หานไป ทำให้เครื่องหน้าได้สัดส่วนอยู่แล้วของเขา ยิ่งน่าหลงใหลมากขึ้นเป็นพิเศษ  

 

 

เขายืนอยู่ข้างๆ เธอ มือข้างหนึ่งล้วงกระเป๋ากางเกงอย่างสบายๆ ส่วนมืออีกข้างหนึ่งจับมือเธอไว้แน่น  

 

 

ครั้นชายหนุ่มเหลือบเห็นสีหน้าประหลาดใจของเธอ มุมปากของเขายกขึ้นเล็กน้อย  

 

 

ดูท่าทางคำแนะนำที่เพื่อนบนอินเทอร์เน็ตส่งมาให้จะดีมากทีเดียว  

 

 

เหมาโรงดูหนัง ทั้งโรแมนติก ทั้งสะดวกและได้ใจเธอ  

 

 

แต่ตอนนี้เพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น  

 

 

เขาเลือกหนังรักที่เรียกน้ำตาคนได้เรื่องหนึ่ง ตอนที่ดูถึงช่วงพีค เขาเลือกที่จะสร้างความโรแมนติก เธอต้องซึ้งจนโผเข้ามาในอ้อมกอดของเขาแน่ๆ…  

 

 

อวี๋เยว่หานตัดสินใจพาเหนียนเสี่ยวมู่เดินตรงกลางโรงหนังโดยไม่ลังเลสักนิด  

 

 

หนังเรื่องนี้เขาเลือกมาอย่างดีขณะเดินทางมา  

 

 

นี่คือโรงหนังในเครือของบริษัทตระกูลอวี๋  

 

 

เขาสั่งไว้ตั้งแต่เช้า สิ่งที่ควรจะเตรียมไว้ ก็เตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว  

 

 

ตอนนี้เหลือแค่เวลา…  

 

 

“เอ๋ มีของกินให้กินด้วย” เหนียนเสี่ยวมู่นั่งลง ตอนนี้เธอสนใจอยู่แค่ของกินข้างๆ พนักแขนเก้าอี้เท่านั้น  

 

 

เธอไม่ได้สังเกตโดยสิ้นเชิง ว่าชายหนุ่มข้างๆ เป็นคนจัดเตรียมของกินให้เธอ  

 

 

หนังเริ่มฉายแล้ว  

 

 

อวี๋เยว่หานเลือกหนังที่ค่อนข้างเป็นกระแสในตอนนี้  

 

 

ส่วนต้นของหนังตลกมาก แต่ตอนจบกลับเต็มไปด้วยความโศกเศร้า  

 

 

พล็อตทวิสต์แบบนี้ดึงอารมณ์ร่วมของคนดูได้ง่ายมาก  

 

 

เมื่อหนังเริ่มขึ้น ทั้งสองคนก็ไม่ได้พูดจาอีก…  

 

 

 

 

 

อีกด้านหนึ่ง ณ คฤหาสน์ตระกูลอวี๋  

 

 

ในบ้านเล็ก  

 

 

เสี่ยวลิ่วลิ่วตามพ่อบ้านเดินไปยังห้องรับแขกของบ้านเล็ก เมื่อเห็นคุณนายใหญ่นั่งอยู่บนเก้าอี้โยก เด็กหญิงก็สลัดมือของพ่อบ้านทันที  

 

 

เด็กหญิงก้าวขาสั้นๆ วิ่งเข้าไปข้างใน  

 

 

“คุณทวด!” ร่างเล็กนุ่มนิ่มโผเข้าสู่อ้อมกอดของคุณนายใหญ่ ก่อนจะเงยหน้ารูปไข่สะสวยขึ้น  

 

 

ใบหน้าเล็กยู่เหมือนซาลาเปา  

 

 

“พี่สาวคนสวยของเสี่ยวลิ่วลิ่วถูกแย่งไปแล้ว!”  

 

 

“…”  

 

 

คุณนายใหญ่กำลังอ่านหนังสือพิมพ์ เมื่อเห็นแก้วตาดวงใจของตัวเอง เธอก็รีบวางหนังสือพิมพ์ลง แล้วอุ้มเด็กหญิงขึ้นมา  

 

 

“ใครทำให้หลานรักของทวดโกรธเนี่ย บอกทวดมาสิ ทวดจะไปจัดการให้หนูเอง!”  

 

 

“ปาปา!” เสี่ยวลิ่วลิ่วยู่ปากด้วยความน้อยใจ ก่อนจะสูดจมูก  

 

 

เด็กหญิงเอียงคอ แล้วฟ้องร้องทันที  

 

 

“ปาปาพาพี่สาวคนสวยไปดูหนัง แต่ไม่พาเสี่ยวลิ่วลิ่วไปด้วย!”  

 

 

“…หนูพูดว่าอะไรนะ?”  

 

 

คุณนายใหญ่ยื่นมือไปถอดแว่นสายตายาวบนสันจมูกลงด้วยความประหลาดใจ แล้วเงยหน้าขอคำยืนยันจากพ่อบ้าน  

 

 

ทันใดนั้น เธอก็ได้ยินเสียงออดอ้อนของเสี่ยวลิ่วลิ่ว  

 

 

“เมื่อวานปาปาแอบนอนกับพี่สาวคนสวย แถมใส่เสื้อผ้าด้วยกันด้วย!”   

หวานรักจับหัวใจท่านประธาน

หวานรักจับหัวใจท่านประธาน

อวี๋เยว่หาน หนุ่มหล่อดีกรีประธานบริษัทอนาคตไกลที่จู่ๆ ก็ค้นพบว่าตัวเองมีลูกโดยไม่รู้ตัวแถมไม่รู้ว่าใครเป็นแม่เด็ก ทั้งผลตรวจดีเอ็นเอก็ดันตรงกับเขาเสียด้วย นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย แม้ว่าจะไม่รู้ที่มาของเด็กน้อยแต่อาจเป็นเพราะสายสัมพันธ์อะไรบางอย่างทำให้เขาตัดสินใจเลี้ยงดูเด็กคนนี้ จนกระทั่งวันหนึ่งที่ลูกสาวของเขาบาดเจ็บจนบังเอิญได้รับความช่วยเหลือจาก เหนียนเสี่ยวมู่ หลังจากนั้น เสี่ยวลิ่วลิ่ว ก็ติดเธอแจ หญิงสาวอ้างตัวว่าเป็นพยาบาลรับจ้างเขาจึงจ้างเธอไว้ แต่เบื้องหลังของเธอกลับลึกลับและมีความสามารถเกินกว่าพยาบาลทั่วๆ ไป เรื่องนี้เขาจะต้องหาทางพิสูจน์ความจริงให้ได้

Comment

Options

not work with dark mode
Reset