ตอนที่ 667 ในตู้เสื้อผ้ามีช่องลับ!
สิ้นคำพูด เหนียนเสี่ยวมู่ก็ลุกขึ้นยืนขึ้นจากเก้าอี้ เตรียมก้าวเดินเข้าไปด้านใน
พอก้าวออกไปได้ก้าวเดียว มือใหญ่ข้างหนึ่งก็เอื้อมมาจับข้อมือของเธอเอาไว้ หญิงสาวหันหน้ากลับไป มองสบกับสายตานิ่งขรึมของอวี่เยว่หาน เธอมองทอดอยู่อย่างนั้น
น้ำเสียงของชายหนุ่มเย็นชาน้อยๆ ตามปกตินิสัย “รีบร้อนอะไร ลืมแม้กระทั่งผม”
เหนียนเสี่ยวมู่ “……”
ร่างสูงโปร่งของชายหนุ่ม เดินตามติดมาอย่างรวดเร็ว ขายาวๆ ก้าวเพียงก้าวเดียวก็มาหยุดอยู่ข้างเธอ
เอ่ยขึ้นเสียงนิ่งๆ “ตอนนี้เข้าไปได้แล้ว”
เหนียนเสี่ยวมู่ “……”
ตาก้อนน้ำแข็ง
ยังคงเป็นก้อนน้ำแข็งที่หยิ่งยโสเหมือนเดิม
ถูกชายหนุ่มขัดคอกะทันหันแบบนี้ อาการอึดอัดในใจของเหนียนเสี่ยวมู่จู่ๆ ก็เปลี่ยนเป็นดีขึ้นกว่าเดิม
อวี๋เยว่หานเดินเข้าไปนำอยู่ด้านหน้า เธอเดินตามอยู่ด้านหลัง
ปล่อยให้ชายหนุ่มจูงเข้าไปในห้องของสิงลี่
อึดใจเดียวก็เดินมาถึงประตูหน้าห้องที่ป้าสะใภ้รองสิงบอก
เอื้อมมือผลักประตูเข้าไป
สายตากวาดเข้าไปในห้อง อากาศเย็นภายในห้องแผ่ออกมาจากด้านใน
มีกลิ่นอับของห้องเก่าๆ ผสมออกมาด้วย
แม้ว่าลุงรองและป้าสะใภ้รองสิงจะไม่ค่อยมีความสามารถอะไรนัก แต่ก็คงนึกถึงความดีของสองสามีภรรยาตระกูลสิง อีกทั้งตัวเองก็ไม่มีลูก ทำให้ปฏิบัติต่อสิงลี่ได้ค่อนข้างดี
เปรียบกับห้องรับแขกที่โล่งด้านนอกแล้ว ห้องนอนของสิงลี่มีเฟอร์นิเจอร์ที่ค่อนข้างดูได้อยู่สองสามชิ้น
เตียงที่เก็บผ้าปูที่นอนเรียบร้อย
โต๊ะเครื่องแป้งเก่าๆ ตัวหนึ่ง บนนั้นมีครีมบำรุงผิวที่ใช้เป็นประจำ และเครื่องประดับที่เด็กผู้หญิงชอบจำนวนเล็กน้อยวางอยู่
มองดูแล้วไม่ใช่ของมีค่าอะไร
ข้างๆ ยังมีตู้เสื้อผ้าอีกหนึ่งตู้
ประตูด้านหนึ่งของตู้เสื้อผ้ายังเปิดเอาไว้ ด้านบนยังมีกระโปรงที่เพิ่งถูกเปลี่ยนออกแขวนอยู่……
เหนียนเสี่ยวมู่เดินเข้าไป หยิบกระโปรงตัวนั้นลงมา ตาหรี่แคบลง
“นี่เป็นกระโปรงตัวเดียวกับที่สิงลี่ใส่ไปที่คฤหาสน์ตระกูลอวี๋วันนั้น”
ก็บอกได้ว่า หลังจากที่เธอถูกส่งกลับมาที่นี่ เธอเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนแล้วค่อยจากไป
แบบนี้ โอกาสเรื่องที่เธออาจถูกลักพาตัวไปก็น้อยลงไปอีก
เหนียนเสี่ยวมู่กวาดตามองดูเสื้อผ้าในตู้แวบหนึ่ง
ธรรมดามาก
ดูท่าแล้วเหมือนจะซื้อมาแบบส่งๆ ไม่มีเสื้อผ้าแบรนด์เนมเลยสักชุด
การตกอบของตระกูลสิงไม่ใช่การแกล้งทำ
มิน่าล่ะ ทุกคนในตระกูลสิงถึงได้เกลียดเธอแบบนี้
ในสายตาของพวกเขา ตัวอฃกาลกิณีอย่างสิงซิงไม่เพียงแต่ทำให้พี่ใหญ่กับพี่สะใภ้ของพวกเขาต้องตาย แต่กลับทำลายความมั่งคั่งของพวกเขาอีกด้วย
“คุณจะหาอะไร ผมช่วย” อวี๋เยว่หานมายืนอยู่ด้านหลังของหญิงสาว เห็นว่าเธอเอาแต่มองเหม่อไปยังตู้เสื้อผ้า จึงเอ่ยถามขึ้น
เมื่อได้ยินเสียงของชายหนุ่ม เหนียนเสี่ยวมู่จึงได้สติ
ใช้มือลูบคางเบาๆ พูดพึมพำ
“ฉันแค่คิดว่า ถ้าฉันไม่ใช่สิงลี่ ในใจมีความลับที่บอกใครไม่ได้ ฉันจะจดมันเอาไว้ที่ไหน แล้วถ้ามีของที่เป็นความลับอะไรฉันจะซ่อนมันไว้ที่ไหน”
เหนียนเสี่ยวมู่พูดพลางเงยหน้าขึ้น กวาดตามองไปยังห้องที่ไม่ได้ใหญ่มาก
ห้องของสิงลี่โล่งมาก นอกจากเฟอร์นิเจอร์ไม่กี่ชิ้นนี้ ที่เหลือก็เหมือนกับห้องรับแขกที่แทบจะไม่มีอะไรอีกเลย
หญิงสาวมองไปมองมา แล้วก็ยังรู้สึกว่าตู้เสื้อผ้าตรงหน้าดูน่าสงสัยที่สุด ดังนั้นเลยเอาแต่มองสอดส่องไปที่ด้านใน
“มานี่” อวี๋เยว่หานดึงหญิงสาวให้มาอยู่ข้างๆ ตนเองเดินเข้าไป งอนิ้วสองนิ้วเคาะลงไปบนตู้เสื้อผ้าเก่าใบนั้นสองสามที
จากนั้น ก็เปลี่ยนตำแหน่ง
“คุณคิดว่ามันจะมีช่องลับอยู่เหรอ” เหนียนเสี่ยวมู่มองเห็นการกระทำของชายหนุ่มก็เข้าใจอะไรขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
จริงสิ
ป้ารองสิงดูรักสิงลี่มาก ต้องเข้ามาช่วยเก็บกวาดห้องให้เธอบ่อยแน่ๆ
ถ้าเกิดสิงลี่ซ่อนความลับอะไรเอาไว้ในตู้ ต้องโดนพบเจอได้ง่ายๆ แน่ๆ
นอกจากมันจะมีช่องลับ
“ตุ๊บตุ๊บ” มือของอวี๋เยว่หานเคาะไปด้านในอีกเล็กน้อย จากนั้นก็มีเสียงที่ไม่เหมือนกันดังแว่วออกมาในทันที
ตอนที่ 668 ไม่ใช่เพราะไฟไหม้ แต่เกลียดมาโดยตลอด!
“มีช่องลับจริงๆ ด้วย!” เหนียนเสี่ยวมู่พุ่งเข้าไปอย่างตื่นเต้น
ศีรษะยื่นไปด้านใน ก็เห็นว่าอวี๋เยว่หานค่อยๆ ดึงไม้แผ่นเล็กๆ ที่อยู่ด้านในออก……
เมื่อพบว่าในช่องลับนั่นมีของซ่อนอยู่ ดวงตาของทั้งสองคนก็เปลี่ยนไป
อวี๋เยว่หานดึงกล่องที่ซ่อนอยู่ในช่องลับนั่นออกมาอย่างไม่ลังเล
สิ่งที่ปรากฏแก่สายตาก็คือ กล่องเหล็กที่เคยใช้ใส่คุกกี้มาก่อน
ลวดลายที่อยู่บนกล่องนั้น ถูกครูดจนเบลอมองไม่ชัด
แต่ก็พอจะเดาได้รางๆ ว่าเป็นกล่องใส่ขนมไหว้พระจันทร์
น่าจะเป็นเพราะถูกเอาออกมาเป็นประจำ ถึงได้ดูโทรมขนาดนี้
อวี๋เยว่หานวางกล่องนั้นลงบนโต๊ะ มองเหนียนเสี่ยวมู่แวบหนึ่ง ส่งสายตาบอกให้เธอไม่ต้องตื่นเต้น เขาเปิดกล่องนั่นออกอย่างแรง
“นี่มัน……” เมื่อเหนียนเสี่ยวมู่มองเห็นของที่อยู่ด้านในได้ชัดเจน สายตาก็เปลี่ยนเป็นฉงน
หยิบของเล่นที่อยู่ด้านในกล้องออกมา
เป็นตุ๊กตาสโนว์ไวท์ ดูจากรูปทรงแล้วน่าจะหมดความนิยมไปแล้ว
อีกอย่างผมของตุ๊กตาก็น่าโดนไฟเผามาด้วย มันถูกเผาไปเกือบครึ่ง ตำแหน่งที่อยู่ใกล้ๆ ใบหน้าก็มีรอยโดนเผาเล็กน้อย
ของที่ทำมาจากพลาสติกถูกละลายแบบนี้ยิ่งทำให้มันแข็งเข้าไปใหญ่
อีกอย่างมันกลับไปอยู่ในสภาพเดิมไม่ได้แล้ว
เหนียนเสี่ยวมู่วางตุ๊กตาลงแล้วมองไปในกล่องเหล็กอีกครั้ง
ของที่อยู่ด้านใน นอกจากตุ๊กตาแล้วก็ยังมีกรอบรูปอีกบาน
ตรงขอบกรอบรูปโดนไฟเผาไหม้เกรียมเหมือนกับตุ๊กตา
ภาพที่เหนียนเสี่ยวมู่เห็นในกล่องเหล็กไม่เหมือนกับที่เธอเคยเห็นเมื่อก่อนหน้านี้ ไม่ใช่รูปภาพของคนสี่คนแต่เป็นคนสามคน
ภาพถ่ายรวมของสามีภรรยาที่เสียชีวิตไปที่กำลังอุ้มสิงลี่เอาไว้คนเดียว
เหนียนเสี่ยวมู่มองดูภาพใบนั้น ดวงตาสั่นไหวเล็กน้อย
ดูจากในรูป สิงลี่น่าจะอายุประมาณสิบกว่าขวบแล้ว
หรือก็พูดได้ว่า ตอนนั้นเธอเกิดแล้ว
แต่ว่าทำไมในรูปถึงไม่มีเธออยู่ล่ะ
ดังนั้นเรื่องที่สิงลี่พูดน่าจะเป็นเรื่องจริง
เธอไม่ใช่ลูกสาวแท้ๆ ของตระกูลสิง เป็นแค่เด็กที่ถูกเก็บมาเลี้ยง
ของในกล่องเหล็กนี่ น่าจะเป็นของี่สิงลี่หยิบฉวยออกมาได้ตอนหนีออกมาจากกองไฟ
ของที่จะหยิบออกมาด้วยตอนความเป็นความตายนี้ ต้องเป็นของที่มีความสำคัญต่อเธอเป็นอย่างมาก และก็ต้องอยู่ในที่ที่เธอหยิบออกมาได้อย่างถนัด……
กรอบรูปใบนี้ ปกติน่าจะตั้งอยู่ที่หัวเตียงของสิงลี่!
“สิงลี่ไม่น่าจะเกลียดคุณเพราะคิดว่าคุณเป็นต้นเหตุของเพลิงไหม้ ในใจของเธอไม่เคยคิดว่าคุณเป็นน้องสาวเลยต่างหาก” อวี๋เยว่หานกวาดตามองดูรูปถ่ายในมือของเหนียนเสี่ยวมู่ แล้วเอ่ยขึ้นเบาๆ
“แต่ว่านี่มันก็พิสูจน์ไม่ได้ ว่าเธอมีส่วนเกี่ยวข้องกับไฟไหม้ในตอนนั้น” เหนียนเสี่ยวมู่มองของที่อยู่ในกล่องเหล็กอีกรอบ ก็ยังไม่เจอหลักฐานใดๆ ทั้งสิ้น เดินถอยหลังไปสองสามก้าว นั่งลงบนเตียง กวาดตาสำรวจไปรอบๆ ห้อง
พยายามนึกว่าตนเองลืมส่วนสำคัญอะไรไปหรือเปล่า
สิงลี่เอาแต่พูดว่าเธอทำให้พ่อแม่บุญธรรมของตัวเองต้องตาย……
ทำไมเธอถึงได้แน่ใจขนาดนั้น
ของที่อยู่ในกล่องเหล็ก ถ้าหากมีไว้เพื่อรำลึกถึงพ่อแม่ที่ตายไป ทำไมเธอต้องเอามันไปซ่อนไว้ในช่องลับในตู้เสื้อผ้าด้วย
มีหลายเรื่องที่เธอยังไม่เข้าใจ……
จู่ๆ ที่ด้านนอก ก็มีเสียงฝีเท้าดังแว่วขึ้น
เหนียนเสี่ยวมู่หันไปมองที่หน้าประตู ที่เห็นเป็นสิ่งแรกก็คือใบหน้าที่ไม่ค่อยจะเต็มใจของป้าสะใภ้รองสิง ที่ตามมาก็คือใบหน้าอ่อนเยาว์ของใครคนหนึ่ง
พอเห็นเหนียนเสี่ยวมู่ก็เหมือนจะตื่นเต้นเป็นอย่างมาก
รีบผละออกจากป้ารองที่นำทางมา เดินเข้าไปด้านใน
“สิงซิง เป็นเธอจริงๆ เหรอ เธอจำฉันไม่ได้เหรอ ฉันสิงฟางไง พี่สาวที่โตกว่าเธอแค่สามวัน ตอนที่เธออยู่ที่บ้านเก่าสิง เธอไม่ค่อยสนใจใคร ชอบนั่งรอใครอยู่ที่สนามหญ้าด้านหลังคนเดียว มีแค่ตอนที่ฉันไปหาเธอ เธอถึงยอมคุยกับฉันสองสามคำ”