ตอนที่ 697 น่าสนุก บอกว่าขึ้นสวรรค์ก็ขึ้นจริงๆ!
หาเรื่องแล้ว!
พอเหนียนเสี่ยวมู่ได้ยินคำพูดของฟ่านอวี่ร่างทั้งร่างก็อึ้งงันไป
พุ่งตัวเข้าใส่อ้อมกอดของอวี๋เยว่หาน แล้วรีบเอ่ยอธิบาย “ไม่เกี่ยวกับฉันเลยนะ ฉันไม่เคยบอกว่าจะพาเขากลับบ้านด้วย!”
แม้ว่าเธอจะอยากสะสม “พี่ชาย” แต่เธอก็ไม่กล้าสะสมมันต่อหน้าอวี๋เยว่หานหรอก
เสี่ยงอันตรายต่อชีวิตเลยนะ!
สิ้นเสียง ใบหน้างดงามของฟ่านอวี่ก็เริ่มแสดงเกินจริง เอามือจับอกของตัวเองเอาไว้ แกล้งทำเป็นเสียใจ “ลิ่วลิ่ว เมื่อก่อนคุณไม่ได้เป็นแบบนี้นะ……”
“เรื่องเมื่อก่อนฉันลืมมันไปหมดแล้ว คุณก็รีบๆ ลืมมันไปเถอะ ฉันอ่อยแล้วก็หนี ไม่รับผิดชอบหรอก!” เหนียนเสี่ยวมู่ตอกกลับไปอย่างไม่คิดแม้แต่น้อย
สิ้นคำพูดนั้น จู่ๆ ก็รู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง
ทำไมรู้สึกหนาวๆ ที่แผ่นหลังนะ……
เธอเงยหน้าขึ้นสบกับดวงตาดำขลับนิ่งลึกของอวี๋เยว่หาน ในสมองก็เหมือนจะเข้าใจอะไรขึ้นมาในทันที
ร่างทั้งร่างเต็มไปด้วยความกระวนกระวาย
เธอลืมไปได้อย่างไรนะว่าประโยคนี้ เธอก็เคยพูดกับอวี๋เยว่หานเหมือนกัน
ตอนนี้จู่ๆ ก็มีความรู้สึกว่าตัวเองเป็นเหมือนผู้ชายชั่วๆ คนหนึ่ง ที่ชอบฟันแล้วทิ้ง……
“อวี๋เยว่หาน พวกเราใกล้จะหมั้นกันแล้ว ฉันจะรับผิดชอบคุณแน่ๆ ฉันสาบาน” เหนียนเสี่ยวมู่ยกนิ้วมือขึ้นสัญญาอย่างเชื่อฟัง
อวี๋เยว่หานเหล่ตามองดูหญิงสาวแวบหนึ่ง เอ่ยขึ้นเสียงเย็นๆ “เหนียนเสี่ยวมู่ เวลาสาบานไม่มีใครยกนิ้วขึ้นมาแล้วนิ้วเดียวหรอกนะ นั่นมันจะขึ้นสวรรค์แล้ว”
เหนียนเสี่ยวมู่ “o(╯□╰)o……”
ยังมีอารมณ์แกล้งแซวเธอ ดูเหมือนว่าจะไม่ได้โกรธ
ส่วนฟ่านอวี๋เมื่อเห็นว่าเหนียนเสี่ยวมู่ยิ้มออกมาได้แล้ว แววตาอบอุ่นคู่นั้นก็ส่อแววอ่อนโยนขึ้น
ไม่รอให้พวกเธอพูดอะไร เขาก็รีบเอ่ยขึ้นมาก่อน
“เอาเถอะ พวกคุณใจแคบกันขนาดนี้ ผมขับรถกลับบ้านเองก็ได้”
เขาพูดพลางก้าวเท้าลงจากรถ แล้วก็เดินกลับไปที่รถของตัวเอง
สตาร์ทรถแล้วขับออกไปจากบ้านสิง
อวี๋เยว่หานมองรถคันหน้าที่หายลับตาไป มีแสงทอขึ้นในดวงตาดำขลับของชายหนุ่ม
ชายหนุ่มกอดกระชับร่างของเหนียนเสี่ยวมู่เอาไว้แน่น เอ่ยบอกให้คนขับรถขับรถออกไป
เหนียนเสี่ยวมู่เหนื่อยจริงๆ
เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มไม่ได้โกรธ ก็ซุกตัวอยู่ในอ้อมกอดของเขาแล้วหลับไปอย่างรวดเร็ว
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานสักเท่าไหร่ จู่ๆ ก็รู้สึกว่าร่างกายของตัวเองค่อยๆ ลอยขึ้นไปด้านบน สะลึมสะลือตื่นขึ้นมา ในสมองก็คิดถึงคำพูดของอวี๋เยว่หานที่บอกว่าหากชูนิ้วเดียวคือการขึ้นสวรรค์ก็ตกใจจนรีบเบิกตาโพลง
วินาทีต่อมา ก็พบว่าตัวเองไม่ได้อยู่ในรถแล้ว
ภาพที่ปรากกฎตรงหน้าก็ไม่ใช่คฤหาสน์ตระกูลอวี๋
แต่กลับลอยค้างอยู่กลางอากาศจริงๆ
ที่บริเวณเอวยังมีแขนแข็งแรงข้างหนึ่งโอบเอาไว้อยู่……
เกิดอะไรขึ้น
เหนียนเสี่ยวมู่ตระหนักได้ก็อยากจะหมุนตัวกลับ แต่ก็ได้ยินน้ำเสียงอ่อนโยนของอวี๋เยว่หานดังมาจากทางด้านหลัง “ตื่นแล้วเหรอ”
“……”
เธอตื่นแล้ว
แต่ก็ตกใจจนเอ๋อไปแล้วเหมือนกัน
ตอนเด็กๆ เธอก็แค่ชอบยั่วพี่ชายหน้าตาดีไม่กี่คนเท่านั้นเอง แถมยังเป็นก่อนหน้าที่จะเจอเขาอีก เขาคงไม่ได้จะให้เธอขึ้นสวรรค์ไปจริงๆ ใช่ไหม
เหนียนเสี่ยวมู่โดนเขาอุ้มอยู่ในอ้อมกอด ก้มมองดูก็พบว่าพวกเธออยู่ห่างจากพื้นสิบกว่าเมตรแล้ว หากไม่ระวังพลัดตกลงไป ก็คงไม่ต้องช่วยยื้อชีวิตกันแล้ว……
เหนียนเสี่ยวมู่กลืนน้ำลายลงคออย่างตื่นเต้น “อวี๋ อวี๋เยว่หาน ที่ฉันแสดงออกเมื่อกี้อาจยังไม่ค่อยชัดเจน ฉันขอรวบรวมคำพูดอีกครั้ง ให้ฉันได้มีโอกาสอีกครั้งนะ”
“…….”
“ตอนเด็กๆ ฉันชอบยั่วพี่ชายหน้าตาดี แต่นั่นมันก็ก่อนที่ฉันจะเจอคุณ หลังจากที่ฉันรู้จักคุณแล้ว ในสายตาของฉันก็ไม่มีคนอื่นอีกเลย ยั่วเสร็จแล้วหนีอะไรกัน ฉันแกล้งคุณเล่นเฉยๆ นะ คุณหล่อขนาดนี้ ทั้งรวยทั้งรูปร่างดี หน้าตาดี อ่อนโยน กล้าหาญ สง่างามไม่มีใครเทียบได้……สรุป ที่ฉันพูดมามากมายขนาดนี้ก็เพราอยากจะบอกคุณว่า ในเมื่อฉันนอนกับคุณแล้วฉันก็จะรับผิดชอบคุณ คุณต้องใจเย็นๆ นะ มีอะไรเราก็ปรึกษากันได้ เสี่ยวลิ่วลิ่วยังเด็ก แกขาดแม่ไม่ได้นะ!”
ตอนที่ 698 เด็กโง่
เหนียนเสี่ยวมู่มาเติบโตมาจนถึงทุกวันนี้ยังไม่เคยจะพูดได้รวดเร็วขนาดนี้มาก่อนเลย
กลัวว่าหากตนเองพูดช้าไป อวี๋เยว่หานจะผลักเธอลงไปจนร่างแหลกละเอียดเสียก่อน
พูดไปพลางมืออีกข้างหนึ่งก็จับชายเสื้อของชายหนุ่มเอาไว้ไม่ยอมปล่อย
เตรียมพร้อมไว้ว่าหากเขาปล่อยมือ เธอก็จะลากเขาลงไปเป็นฐานรองให้ตายไปด้วยกัน!
สีหน้าของอวี๋เยว่หานเปลี่ยนเป็นรู้สึกขนลุก ค่อยๆ เปิดริมฝีปากเอ่ยพูดขึ้น “เหนียนเสี่ยวมู่ ในสมองของคุณมีอะไรอยู่ในนั้นกันแน่นะ”
เหนียนเสี่ยวมู่ “o(╯□╰)o……”
อวี๋เยว่หาน : “คุณมีเข็มขัดนิรภัยรัดอยู่ ไม่รู้สึกตัวเลยหรือไง”
เหนียนเสี่ยวมู่ “???”
เหนียนเสี่ยวมู่ก้มหน้าลงมอง ก็พบว่าที่บริเวณเอวของเธอนอกจากมีลำแขนของชายหนุ่มอยู่แล้ว ยังมีเข็มขัดนิรภัยที่ดูแน่นหนาผูกรัดเอาไว้อีกด้วย
เธอเบนหน้าไปสำรวจบริเวณรอบๆ ก็พบว่าที่นี่ไม่ใช่สวรรค์อะไรทั้งนั้น แต่เป็นเครื่องเล่น drop tower ที่อยู่ในสวนสนุก เพียงแต่ว่าที่นั่งทั้งหมดมีแค่พวกเธอสองคนเท่านั้น
จู่ๆ ก็พาเธอมาที่ drop tower โดยไม่บอกไม่กล่าว มันน่ากลัวยิ่งกว่าเดิมอีกไหม
เหนียนเสี่ยวมู่บ่นอุบอิบอยู่ในใจ มือที่กำเสื้อของอวี๋เยว่หานเอาไว้กระชับแน่นขึ้นกว่าเดิม
พยายามทำให้ตัวเองสงบลง
“อวี๋เยว่หาน คุณมีอะไรก็พูดกันดีๆ อย่า อย่าคิดว่าพาฉันมาที่นี่แล้วฉันจะกลัวนะ เทพธิดาไม่ได้โดนรังแกง่ายขนาดนี้หรอก ฉันไม่ยอมแพ้……”
อวี๋เยว่หาน : “คุณปล่อยผมก่อนแล้วค่อยพูด”
เหนียนเสี่ยวมู่ “ ฉันขอถอนคำพูดที่พูดไปเมื่อกี้!”
อวี๋เยว่หาน “……”
เทพธิดา ความหยิ่งยโสของคุณเมื่อครู่ล่ะ
เหนียนเสี่ยวมู่เหลือบมองดูความสูงที่มากกว่าหลายสิบเมตรที่ปลายเท้า ร่างสั่นไปทั้งร่าง
ความหยิ่งยโสจะสำคัญไปกว่าการมีชีวิตอยู่ได้อย่างไรกันล่ะ
ชีวิตมีค่ามากนะ คุณรู้หรือเปล่า
ถูกอวี๋เยว่หานทำให้ตกใจกลัวแบบนี้ เหนียนเสี่ยวมู่จะมีเวลาไปนึกถึงเรื่องของตระกูลสิงที่ไหนกัน ในสมองเอาแต่คิดว่าจะทำอย่างไรให้ได้มีชีวิตกลับไปยังพื้นดินอีกครั้ง
หญิงสาวกำลังลังเลว่าจะง้อชายหนุ่มอย่างไรดี จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงนิ่งๆ ของเขาเอ่ยขึ้น
“เงยหน้า”
“เอ๋?” เหนียนเสี่ยวมู่งุนงันไป แล้วเงยหน้าขึ้นตามสัญชาตญาณ
เมื่อสายตาสัมผัสกับแสงของดวงดาวที่อยู่เต็มท้องฟ้า แววตาก็เป็นประกายขึ้นมาในทันที
ท้องฟ้าที่สวยงาม
ดวงดาวระยิบเต็มท้องฟ้าประดับล้อมรอบพระจันทร์ดวงกลมอยู่
เปล่งกระกายส่องสาวพร่างพราวสดใส
บางทีอาจเป็นเพราะพวกเธออยู่ในตำแหน่งที่ค่อนข้างสูง จึงทำให้อยู่ใกล้ดวงดาวมมากว่าในเวลาปกติ
เหนียนเสี่ยวมู่มีความรู้สึกว่าหากตัวเองยื่นมือไปก็คงเก็บดวงดาวเอามาได้……
มุมปากยกยิ้มขึ้นโดยไม่รู้ตัว
จากนั้นก็มองทอดออกไปสุดสายตา ทุกอย่างดูกลายเป็นสิ่งเล็กๆ ไม่มีอะไรเลย……
“เหนียนเสี่ยวมู่ ไม่มีเรื่องอะไรที่เราข้ามผ่านมันไปไม่ได้ ตอนนี้คุณมีผม มีเสี่ยวลิ่วลิ่ว พวกเราถึงจะเป็นคนที่สำคัญที่สุดของคุณ” น้ำเสียงน่าดึงดูดของอวี๋เยว่หานดังขึ้นอย่างแผ่วเบา
เหนียนเสี่ยวมู่ตะลึงงัน ขอบตาแดงก่ำ
ตั้งแต่เรื่องของตระกูลสิงถูกเปิดเผยขึ้น ถึงแม้เธอจะดูเหมือนไม่ได้เป็นอะไร สงบได้ถึงขนาดที่ว่ามีสติวิเคราะห์แยกแยะปัญหาทีละข้อ แต่ในใจก็รู้สึกเหมือนมีก้อนหินก้อนใหญ่กดทับอยู่ตลอดเวลา
ตอนแรก อยากหาสาเหตุที่ทำให้เกิดไฟไหม้เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเอง
ตอนนี้เธอก็อยากตามหาครอบครัวของตัวเอง
เหมือนกับติดอยู่ในกับดัก ทุกอย่างก้าว เหมือนจะมีมือที่ซ่อนอยู่ผลักเธอให้เดินไปข้างหน้า
เจ็บปวดจนหายใจแทบไม่ออก
เธอคิดว่าตัวเองปกปิดเอาไว้ดีแล้ว นึกไม่ถึงเลยว่า แม้ชายหนุ่มจะไม่ได้พูดอะไรออกมาแต่กลับมองออกทุกอย่าง……
ที่ตั้งใจพาเธอมาที่นี่ไม่ใช่เพราะหึง แต่เพื่อจะทำให้เธอมีความสุขอย่างนั้นเหรอ
จู่ๆ หน้าอกของเหนียนเสี่ยวมู่ก็สั่นไหวขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
คนที่เกิดเรื่องขึ้นมากมายแต่ก็ไม่เคยร้องไห้ออกมาเลย ในชั่วขณะนี้ เพราะประโยคปลอบอย่างอ่อนโยนแค่ประโยคเดียวของชายหนุ่ม ก็ทำให้น้ำตาของเธอไหลออกมาราวกับฝนตก
ทำไมเขาถึงได้ดีขนาดนี้นะ
อวี๋เยว่หานลูบผมของหญิงสาวเบา กอดเธอไว้แน่น
“เด็กโง่”