วันคืนอันยาวนานที่มันฝังตัวอยู่ในทะเลสาบท่วมท้นช่วยบ่มเพาะร่างกายของมันให้แข็งแกร่งขึ้นมาก มันมีโอกาสกักเก็บพลังงานที่มีอานุภาพทางยาไว้มากมาย แต่การสูญเสียแขนขาทั้ง 4 ไปก็ถือเป็นความเสียหายครั้งใหญ่
ยาเม็ดจอมราชันย์ชั้นเลิศรวบรวมพลังจนเส้นเลือดที่หน้าผากปูดโปนเพื่อให้แขนขาทั้งหมดงอกออกมาอีกครั้ง แต่คราวนี้ รังสีที่มันแผ่ออกมาเบาบางกว่าครั้งก่อนมาก
“เผ่นสิ!”
เมื่อรู้แล้วว่าสู้จางเซวียนไม่ได้ ยาเม็ดจอมราชันย์ชั้นเลิศกลายร่างกลับเป็นยาเม็ดทันทีก่อนจะรีบหลบเข้าไปในรอยแยกแห่งมิติ
“ฮะ?”
นึกไม่ถึงว่ายาเม็ดจอมราชันย์ชั้นเลิศจะเผ่นหนีทันทีที่รู้ตัวว่าเอาชนะไม่ได้ จางเซวียนรีบกวัดแกว่งดาบอีกครั้ง
ฟึ่บ!
แขนกับขาอีกอย่างละคู่ปลิวออกมาจากรอยแยกแห่งมิติก่อนที่รอยแยกนั้นจะสมานตัว แต่ยาเม็ดจอมราชันย์ชั้นเลิศหายวับไปอย่างไร้ร่องรอยแล้ว
“ปัดโธ่ มันไปแล้ว…” จางเซวียนเดาะลิ้นอย่างหงุดหงิด
ลงท้าย ยาเม็ดจอมราชันย์ชั้นเลิศก็ยังได้เปรียบเมื่ออยู่ในสมรภูมิทะเลสาบดาวหางที่เป็นบ้านของมัน โครงสร้างของมิติที่นี่มีความซับซ้อนละเอียดอ่อนบางอย่างที่จางเซวียนไม่คุ้นเคย แต่อีกฝ่ายรู้จักดี ยิ่งไปกว่านั้น เรื่องจริงก็คือยาเม็ดจอมราชันย์ชั้นเลิศแข็งแกร่งกว่าเขา การที่จางเซวียนจะยับยั้งไม่ให้มันหนีไปจึงเป็นเรื่องยาก
แต่ด้วยการซึมซับแขนและขาของยาเม็ด ระดับวรยุทธของจางเซวียนก็เพิ่มขึ้นอีกครั้ง ตอนนี้เขาได้เป็นราชันย์เทพเจ้าผู้ทรงเกียรติขั้นสูงสุดแล้ว
จางเซวียนใช้เวลาอีก 1 ชั่วโมงทำให้ดาวหางยอมจำนนก่อนจะเก็บพวกมันไว้ในแหวนเก็บสมบัติ จากนั้นก็กลับมาหาอ้าวเฟิงกับหลัวฉีฉี
“ผู้อาวุโสจาง คราวนี้เราจะไปไหนต่อ?”
อ้าวเฟิงคิดว่าการต่อสู้เมื่อครู่นี้คงจะโหดเหี้ยมและลงเอยด้วยความพ่ายแพ้ของจางเซวียน ใครจะไปคิดว่าชายหนุ่มจะเอาชนะยาเม็ดจอมราชันย์ชั้นเลิศได้ง่ายดายขนาดนั้น?
เขาเริ่มรู้สึกตะหงิดๆว่าในโลกนี้ไม่น่ามีอะไรยับยั้งจางเซวียนได้
“เอ่อ เราจะไป…”
ขณะที่จางเซวียนกำลังจะพูดต่อ มิติที่อยู่รอบตัวพวกเขาก็กระตุกเล็กน้อย จากนั้น ลำแสงเจิดจ้าซึ่งมีพลังงานมหาศาลขนาดที่ทำให้ราชันย์เทพเจ้าผู้ทรงเกียรติต้องตัวสั่นด้วยความหวาดกลัวก็ระเบิดออกมา
ในชั่วพริบตา ทั่วทั้งท้องฟ้าก็ถูกปกคลุมด้วยลำแสงเจิดจ้า
“ของล้ำค่าในตำนานปรากฏแล้ว!”
ปรากฏการณ์นี้ดึงดูดความสนใจของทุกคนที่อยู่ในทะเลสาบท่วมท้นทันที
พลังงานมหาศาลที่ปะทุขึ้นโดยไม่ได้มีสาเหตุจากการต่อสู้-นั่นหมายความได้เพียงอย่างเดียว คือของล้ำค่าในตำนานปรากฏแล้ว!
ดูจากพลังงานที่มันแผ่ออกมา มันน่าจะล้ำค่าเหนือชั้นกว่ายาเม็ดจอมราชันย์ชั้นเลิศเสียอีก!
“ในการไหลบ่าของพลังจิตวิญญาณคราวก่อน มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นไหม?” จางเซวียนถาม
อ้าวเฟิงที่ยังคงจังงังส่ายหน้า
ในทะเลท่วมท้นมีทรัพย์สมบัติล้ำค่ามากมายนับไม่ถ้วนซุกซ่อนอยู่ แต่เขาไม่เคยเห็นชิ้นไหนระเบิดพลังงานที่น่าสะพรึงได้ขนาดนี้
“ไปดูกันเถอะ!”
ทั้ง 3 รีบบินไป ไม่ช้าก็ถึงเป้าหมาย
ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ทั้งราชันย์เทพเจ้าและราชันย์เทพเจ้าผู้ทรงเกียรติที่เข้าสู่ทะเลท่วมท้นเกิดความหวาดระแวง พวกเขามาออกันอยู่โดยรอบ แต่ละคนจับจ้องจุดที่เกิดการระเบิดของพลังจิตวิญญาณอย่างรุนแรงที่สุดด้วยความตื่นเต้น
สายตาของคนเหล่านั้นจ้องเขม็งที่ใบบัวสีมรกตขนาดมหึมาที่ดูราวกับแกะสลักขึ้นจากหยก มันลอยตัวอยู่กลางอากาศและปลดปล่อยลำแสงเจิดจ้างดงาม
“นี่มัน…ใบบัวนั่นจะต้องทรงพลังขนาดไหน? ระดับขั้นของมันสูงเกินกว่าที่พวกเราจะรับมือได้! หากเราได้มันมาและนำไปมอบให้จอมราชันย์ จะต้องได้รับรางวัลตอบแทนอย่างงามแน่!”
“จริงด้วย จอมราชันย์คงรับพวกเราเป็นศิษย์สายตรงและมอบตำแหน่งทรงเกียรติให้เราโดยไม่ลังเล หากได้ใบบัวนี้ไป เราจะมีสถานภาพสูงส่งขึ้นอีกมาก…”
ทุกคนจับจ้องใบบัวด้วยแววตารุ่มร้อนขณะจินตนาการถึงความเป็นไปได้มากมายนับไม่ถ้วนที่จะเกิดขึ้นหากได้ใบบัวนี้ไป
ไม่มีใครรู้ว่าใบบัวนี้มาจากไหน หรือแท้ที่จริงแล้วมันคืออะไรกันแน่ แต่พลังจิตวิญญาณที่อยู่ในนั้นมีมากมายมหาศาลเสียจนใครก็ตามที่ได้ซึมซับมันเข้าไป, ต่อให้เป็นถึงจอมราชันย์ ก็ย่อมมีพละกำลังเพิ่มขึ้นอีกมาก
ระหว่างที่ฝูงชนกำลังแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน ราชันย์เทพเจ้าผู้ทรงเกียรติคนหนึ่งก็สังเกตเห็นจางเซวียนกับพรรคพวก “ราชันย์เทพเจ้าผู้ทรงเกียรติอ้าวเฟิง!”
“อ้าวเฟิง? คุณหมายถึงราชันย์เทพเจ้าผู้ทรงเกียรติแห่งน่านฟ้ามังกรเมฆหรือ?”
“รู้แล้วยังจะถามอีก! จะเป็นใครอื่นได้นอกจากเขา?”
จางเซวียนประหลาดใจที่พบว่าอ้าวเฟิงที่แสนจะเหยาะแหยะนั้น แท้ที่จริงได้รับความเคารพยกย่องอย่างสูงในหมู่ราชันย์เทพเจ้าและราชันย์เทพเจ้าผู้ทรงเกียรติด้วยกัน นักรบสาวส่วนใหญ่ที่อยู่ตรงนั้นก็มองเขาด้วยสายตานิยมชมชอบ
กลับกลายเป็นว่าราชันย์เทพเจ้าผู้ทรงเกียรติแห่งน่านฟ้ามังกรเมฆคือคู่ครองในฝันของสาวๆหลายคนเพราะสายเลือดที่ทรงพลังและสูงส่งของพวกเขา มีหญิงสาวมากมายที่ยิ่งกว่าเต็มใจจะแต่งงานด้วย ก็เพราะเหตุนี้ ทายาทของสายเลือดมังกรจึงกระจัดกระจายกันอยู่มากมายทั่วโลก
“ราชันย์เทพเจ้าผู้ทรงเกียรติลั่วหยิง! ราชันย์เทพเจ้าผู้ทรงเกียรติไป๋จื่อ! ราชันย์เทพเจ้าผู้ทรงเกียรติหลิวเหยียน…” อ้าวเฟิงทักทายทีละคนด้วยมาดสุภาพบุรุษ
“ราชันย์เทพเจ้าผู้ทรงเกียรติอ้าวเฟิงน่าจะมาที่นี่เพราะรังสีของทรัพย์สมบัติล้ำค่านั้นเหมือนกัน! ว่าแต่…สหายทั้งสองคนของคุณเป็นใคร?” ผู้อาวุโสคนหนึ่งตั้งคำถามขณะมองจางเซวียนกับหลัวฉีฉีด้วยความสงสัย
“พวกเขาคือราชันย์เทพเจ้าจางเซวียนกับราชันย์เทพเจ้าหลัวฉีฉี…”
อ้าวเฟิงตั้งใจจะแนะนำทั้งคู่อย่างเป็นทางการ แต่จางเซวียนถลึงตาใส่เขาเสียก่อน รู้ดีว่าชายหนุ่มคงไม่อยากเปิดเผยตัวตนที่แท้จริง เขาจึงแนะนำแบบเรียบง่ายแทน
ผู้อาวุโสพยักหน้าก่อนประสานมือทักทาย “คารวะราชันย์เทพเจ้าจางเซวียนกับราชันย์เทพเจ้าหลัวฉีฉี น่าทึ่งเหลือเกินที่คุณทั้งคู่ประสบความสำเร็จขนาดนี้ทั้งที่อายุยังน้อย ดูเหมือนยุคสมัยจะเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ…”
ข่าวที่จางเซวียนสังหารราชันย์เทพเจ้าผู้ทรงเกียรติไป๋เย่ฉิงหงแห่งน่านฟ้าหลิงหลงแพร่สะพัดไปทั่วทั้ง 9 น่านฟ้า ทุกคนในทะเลสาบท่วมท้นรู้เรื่องนี้ มีบางคนถึงกับบันทึกเหตุการณ์ในวันนั้นไว้ด้วย
พวกเขาประเมินเหตุการณ์ครั้งนี้ว่าชายหนุ่มเก่งกาจถึงขนาดสังหารราชันย์เทพเจ้าผู้ทรงเกียรติได้จริงๆ แม้พละกำลังของเขาจะมาจากของล้ำค่าเป็นส่วนใหญ่ แต่นั่นก็เกินพอที่จะทำให้เขากลายเป็นผู้มีอำนาจคนหนึ่งในสรวงสวรรค์ ดังนั้น ไม่เป็นศัตรูกับอีกฝ่ายย่อมดีกว่า
ด้วยเหตุนี้ จึงไม่มีใครกล้าทำตัวไม่สุภาพกับเขา
“คุณก็เกรงอกเกรงใจเกินไป!” จางเซวียนกล่าวตอบรับคำทักทาย
แต่ผู้อาวุโสกลับขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจกับทีท่าของจางเซวียน เขารู้สึกว่าชายหนุ่มออกจะหลงตัวเองเกินไป
อันที่จริง ผู้อาวุโสได้ดูบันทึกภาพการต่อสู้ระหว่างจางเซวียนกับไป๋เย่ฉิงหงแล้ว และรู้สึกว่าต่อให้เขาเองก็ทำแบบเดียวกันได้ด้วยอาวุธที่ได้รับจากจอมราชันย์ เพียงแต่อาจต้องใช้ความพยายามมากกว่ากันสักหน่อย
พูดง่ายๆก็คือ พละกำลังของตัวเขากับจางเซวียนถือว่าทัดเทียมกัน และหากตัดของล้ำค่าออกไป ก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่าตัวเขาคือผู้แข็งแกร่งกว่า
แล้วทำไมชายหนุ่มถึงวางท่าราวกับตัวเองใหญ่โตเสียเหลือเกิน!
ราชันย์เทพเจ้าผู้ทรงเกียรติคนอื่นๆที่ออกันอยู่ไม่ได้พูดอะไร แต่ทุกคนก็ขมวดคิ้วอย่างไม่ค่อยเห็นด้วยกับท่าทีของจางเซวียน
การที่รุ่นน้องไม่ทักทายรุ่นพี่ก่อนก็ถือว่าหยาบคายมากแล้ว แต่กิริยาของชายหนุ่มหนักข้อกว่านั้นเสียอีก
“ราชันย์เทพเจ้าผู้ทรงเกียรติหลิวเหยียน…”
อ้าวเฟิงกำลังจะอ้าปากอธิบาย ก็พอดีกับที่ผู้อาวุโสโบกมือและพูดว่า “เอาล่ะ เลิกมีพิธีรีตองกันเสียที ราชันย์เทพเจ้าผู้ทรงเกียรติอ้าวเฟิง, ในเมื่อคุณอยู่ที่นี่แล้ว ผมเชื่อว่าคุณก็คงหมายตาใบบัวนั้นเหมือนกัน ในเมื่อพวกเราคิดแบบเดียวกัน ทำไมถึงไม่ผนึกกำลังกันล่ะ?”
“ผนึกกำลัง” อ้าวเฟิงขมวดคิ้ว
“ใช่ พวกเราล้วนเป็นราชันย์เทพเจ้าผู้ทรงเกียรติรุ่นเก๋าที่เอาชีวิตรอดจากการไหลบ่าของพลังจิตวิญญาณครั้งก่อนมาได้ อีกทั้งแต่ละคนก็มีวิธีการเฉพาะของตัวเอง แม้อาจจะเกินไปสักหน่อยหากจะพูดว่าประสิทธิภาพการต่อสู้ของพวกเราเป็นเลิศ แต่ผมก็เชื่อว่าพวกเราไม่น้อยหน้าใคร พวกเราได้รับคำสั่งจากจอมราชันย์ให้นำทรัพย์สมบัติในทะเลท่วมท้นกลับไปที่น่านฟ้าของตัวเอง ซึ่งก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่าของล้ำค่าที่มีมูลค่าสูงสุดในทะเลท่วมท้นก็คือใบบัวที่อยู่ตรงหน้า หากเรานำมันกลับไปได้ ก็จะได้รับการตบรางวัลอย่างงามจากจอมราชันย์” ผู้อาวุโสที่ถูกเรียกขานว่าราชันย์เทพเจ้าผู้ทรงเกียรติหลิวเหยียนพูด
อ้าวเฟิงพยักหน้า
แม้ไม่มีใครในหมู่พวกเขาที่นำใบบัวไปใช้ได้ แต่มันจะมีประโยชน์มากหากนำไปมอบให้จอมราชันย์
“ไม่ทราบว่าคุณรู้เรื่องราชันย์เทพเจ้าผู้ทรงเกียรติคนล่าสุดแห่งน่านฟ้าตะวันแผดเผาของเราหรือยัง, เจิ้งหยาง?”
“รู้แล้ว” อ้าวเฟิงตอบ “ไม่มีทางที่ผมจะไม่รู้เรื่องของเขา”
“เจิ้งหยางเป็นราชันย์เทพเจ้าผู้ทรงเกียรติแห่งน่านฟ้าตะวันแผดเผาของเรา เย่อหยิ่งและหลงตัวเองมาก เขาไม่เคารพราชันย์เทพเจ้าผู้ทรงเกียรติรุ่นเก๋าอย่างพวกเราสักนิด อันที่จริง เขารวมกลุ่มเป็นพันธมิตรกับราชันย์เทพเจ้าผู้ทรงเกียรติรุ่นเยาว์คนอื่นๆของอีกหลายน่านฟ้า พวกนั้นร่วมมือกันฉกฉวยทรัพยากรล้ำค่าในทะเลท่วมท้นที่พวกเราเป็นผู้ค้นพบไป…”
ยิ่งราชันย์เทพเจ้าผู้ทรงเกียรติหลิวเหยียนร่ายยาวมากขึ้นเท่าไหร่ ก็ยิ่งโมโหเดือดขึ้นเรื่อยๆ
“เขาฉกฉวยทรัพยากรของคุณไป?” อ้าวเฟิงชะงัก
ราชันย์เทพเจ้าผู้ทรงเกียรติคนหนึ่งในกลุ่มคำรามเกรี้ยวกราด “ใช่! ผมพบหญ้าสกัดกั้นพลังหยางที่จะเป็นประโยชน์อย่างมากกับจอมราชันย์จัวหยาง แต่เขาก็บินเข้าสู่อาณาจักรโบร่ำโบราณและคว้าไปครอบครอง ไม่เปิดโอกาสให้พวกเราเลยสักนิด!”
ราชันย์เทพเจ้าผู้ทรงเกียรติอีก 2 คนเสริมด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดอย่างหนัก
“ผมก็เหมือนกัน! ผมลำบากลำบนแทบตายกว่าจะพบหินต้นกำเนิดท้องทะเล แต่ใครสักคนที่น่าจะเป็นศิษย์น้องของเขาก็บุกเข้าไปที่นั่นและแย่งมันไปต่อหน้าต่อตา พวกเขาไม่เห็นหัวพวกเราเลย!”
“ผมก็โดน เพียงเพราะพวกนั้นแข็งแกร่งกว่าไม่เท่าไหร่ ก็เลยไม่ไว้หน้าพวกเรา แบบนี้ยอมรับไม่ได้!”