(อ่าน แปลไทย LN) Otonari asobi The Story Of How A Beautiful Foreign Student Who Lives Next Door Started To Visit My House After I Helped A Lost Little Girl – ตอนที่ 4.2

“ชั้นคิดว่าอนาคตเด็กคนนี้ต้องเป็นสาวน้อยจอมมารแน่นอน”

“เอ๋ ตะกี้ว่าอะไรนะครับ”

“ป..เปล่าค่ะ”

ผมได้ยินคำพูดจาแปลกๆเหมือนหลุดมาจากนิตยสาร หรือหูฝาดไปเองมั้ง ตอนนี้ชาร์ล็อตส่งยิ้มให้ผม คงเป็นคำพูดที่ไม่น่าจะสื่อถึงผมหรือเอมม่ามั้ง ช่างเถอะ

“นี่นี่ โอนี่จัง”

“หือ ว่าไงครับ”

“เอมม่าอยากกินข้าวกับโอนี่จัง”

“เด็กคนนี้นี่..”

ดูเหมือนว่าเอมม่าจะยังไม่พอใจเพียงแค่ได้เล่นกับผม น้องเลยรีเควสมาแบบนี้ แต่ว่ามันก็ทำให้ชาร์ล็อตแสดงท่าทีเดือดร้อน

“เอมม่า พี่ว่าเรากลับกันเถอะ  อย่าสร้างความลำบากใจให้อาโอยางิคุงไปมากกว่านี้เลย”

“แงง ล็อตตี้ปล่อยหนูนะ”

เอมม่าโดนชาร์ล็อตอุ้มจากด้านหลัง เกิดอาการไม่พอใจดิ้นอาละวาด

ผมเข้าใจความรู้สึกทั้งสองฝ่ายนะ พี่สาวก็ไม่อยากให้น้องกวนผม ส่วนน้องสาวก็แค่อยากเล่นอยากทำอะไรที่ต้องการ มันเป็นเรื่องความต่างของอายุด้วย 

สุดท้าย สิ่งที่ผมกล่าวคือ

“คุณชาร์ล็อตครับ ไม่เป็นไรครับ ถูกชวนทานข้าวด้วยกันผมก็ดีใจครับ”

ผมส่งยิ้มให้ชาร์ล็อต เลือกใช้คำพูดที่คิดว่าไม่ได้เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจนเกินไป

ชาร์ล็อตฟังจบ แสดงอาการขอโทษขอโพบ

“ขอโทษในความเอาแต่ใจของน้องด้วยนะคะ”

“ไม่เป็นไรครับไม่ต้องใส่ใจ การเอาแต่ใจเป็นสิทธิพิเศษของเด็กเล็กอยู่แล้วครับ”

“อาโอยางิคุงเป็นคนใจดีมากเลยนะคะ”

“ง..งั้นเหรอครับ แค่พูดตามตรรกะทั่วไป”

“อืม โอนี่จังใจดี ผิดกับล็อตตี้ลิบลับ”

ในขณะที่ผมเขินอยู่ เอมม่าเล่นพูดจาชวนทะเลาะซะงั้น เธอทำแววตาล้อเลียนก่อนเอาหน้าซูกกับเสื้อผม

“หึหึ เอมม่าคะ พอมีอาโอยางิคุงให้พึ่งพาได้แล้วฝีปากกล้าขึ้นนะคะ”

ถึงแม้หน้าชาร์ล็อตะจะยิ้ม แต่แรงกดดันที่ส่งมาไม่ยิ้มตามเลย น่ากลัวชิบเป๋ง รอยยิ้มของเธอไม่น่ารักแล้วครับ

เอมม่าจังเองก็คงรู้ตัวว่าพูดแรง เลยรีบหาทึ่พึง รีบซุกตัวเข้ากับอกผม

“คุณชาร์ล็อตครับ เรื่องอาหารเย็นวันนี้เอาไงดีครับ”

ผมลูบหัวเอมม่าอย่างอ่อนโยน พลางเปลี่ยนหัวข้อสนทนา

“ปกติชั้นจะเป็นคนทำกับข้าวทานเองที่บ้าน แต่วันนี้วัตถุดิบหมดเลยกะว่าจะออกไปจ่ายตลาดข้างนอก ในเมื่อเอมม่าน้องอยากทานข้าวกับอาโอยางิคุง งั้นวันนี้ชั้นทำกับข้าวให้เธอกินแล้วกันนะ”

“ได้เลยครับ ผมดีใจสุดๆเลยครับ”

ครั้งก่อนที่ได้ลิ้มรสอาหารฝีมือชาร์ล็อตยังประทับใจไม่ลืมในความอร่อย การได้กินอาหารฝีมือชาร์ล็อตมันช่างโชคดีเหลือเกิน

“ถ้างั้นเดี๋ยวชั้นไปจ่ายตลาด พวกเธอรออยู่ที่บ้านแล้วกันนะ”

“ไม่ครับ ให้ผมไปช่วยถือของด้วยเถอะแล้วก็ค่ากับข้าวเดี๋ยวผมเป็นคนออกเอง”

“ไม่ได้หรอก เพราะว่าคนชวนเธอทานข้าวด้วยกันคือทางชั้นเอง”

“แต่ว่าคุณก็ลงแรงทำกับข้าวให้ผมนะครับ”

“คิดซะว่าแทนคำขอบคุณที่เป็นเพื่อนเล่นให้เอมม่าละกัน แล้วก็ทางชั้นเองถ้าอาโอยางิคุงทานอาหารที่ชั้นเป็นคนทำให้จะดีใจมากค่ะ”

ชาร์ล็อตกล่าวอย่างจริงจัง ไม่เปิดช่องให้ผมแย้งต่อ เอาเหอะ ถกเรื่องนี้มันเสียเวลาเปล่า 

“งั้นอย่างน้อยขอผมเป็นคนช่วยถือของละกันครับ”

“งั้นเหรอ…ตกลงตามนั้นค่ะ”

ชาร์ล็อคคิดเล็กน้อย เธอตอบผมกลับพร้อมรอยยิ้ม

“ขอบคุณครับ งั้นไปซุเปอร์มาร์เก็ตแถวนี้มั้ย?

“ค่ะ ตรงนั้นเดินไปแปบเดียวก็ถึงแล้ว”

ซุเปอร์มาร์เก็ตตรงนั้นมันไม่ค่อยมีคนนิยมไป ผมคิดว่าถึงไปด้วยกันก็ลดโอกาสเสี่ยงงที่จะเจอเพื่อนร่วมห้องเห็นผมกับเธออยู่ด้วยกัน

“ซื้อขนมให้หนูด้วยมั้ย”

เอมม่าจังที่อยู่ในอ้อมอกผม เงยหน้ามองถามชาร์ล็อต

พอชาร์ล็อตเห็นหน้าน้อง เธอส่งรอยยิ้มให้

“อืมมม เอาไงดีน้า วันนี้เอมม่าเป็นเด็กไม่ดีซะด้วยสิ”

“…งือ”

ชาร์ล็อตส่งรอยยิ้มแบบว่าชั้นเหนือกว่า ให้เอมม่า รอยยิ้มเธอราวกับปีศาจตัวน้อย เจตนาชัดเจนคือแกล้งน้องเอาคืนเบาๆ  แต่ไม่รู้ทำไม ผมรู้สึกว่า รอยยิ้มแบบนี้ของเธอก็มีเสน่ไปอีกแบบ

“โอนี่จัง ล็อตตี้แกล้งหนู ช่วยหนูด้วยค่า”

เอมม่าเจอชาร์ล็อตทำแบบนี้ หันมาทุบอกผมเบาๆพลางกอดขอให้ผมช่วย 

“อืมม นั่นสินะ ถ้าเอมม่าจังเอ่ยปากขอโทษ พี่อาจจะซื้อขนมให้ก็ได้นะ”

ชาร์ล็อตช่างเป็นผู้หญิงที่ใจดีจริง เธอรู้ว่าเอมม่าอยากทานขนมมาก ถึงจะแกล้งน้องขนาดไหนแต่สุดท้ายก็จะซื้อให้อยู่ดี

ผมคิดว่าแค่เอมม่ากล่าวขอโทษ ทุกอย่างก็จบแล้ว

แต่ทว่า

“ทำไมเอมม่าต้องขอโทษด้วยล่ะ?”

เอมม่าพูดเหมือนไม่รู้ว่าตัวเองทำผิดตรงไหน ส่ายศรีษะปฏิเสธคำพูดพี่สาว

“น้องพูดจาทำร้ายความรู้สึกพี่สาว ฉะนั้นน้องก็ต้องกล่าวขอโทษนะครับ”

ผมลองพูดดูบ้าง ไม่รู้ว่าจะสื่อถึงเอมม่ามั้ย 

เอมม่าที่โดนผมกอดอยู่ เงยหน้ามองผมก่อน จากนั้นหันไปมองชาร์ล็อตสักพัก ก่อนค้อมหัวลง

“หนูขอโทษค่ะ”

ชาร์ล็อตเองตกใจเบิกตากว้าง ก่อนเผยรอยยิ้มและกล่าว

“ไม่เป็นไรจ๊ะ พี่ก็ขอโทษด้วยนะจ๊ะที่แกล้งหนูตะกี้”

ชาร์ล็อตกล่าวขอโทษจบ ดูเหมือนว่าเธอคงอยากกอดน้อง เพราะเธอผายมือสองข้างออกเป็นภาษากายบอกว่า “มาหาพี่สิ”

อาจจะเป็นรูปแบบทำหลังจากคืนดีกันเรียบร้อยมั้ง ผมเองก็คิดว่า เอมม่าเห็นชาร์ล็อตทำแบบนี้ เธอคงวิ่งไปกอดแต่ทว่า

“ไม่เอา อยู่กับโอนี่จังดีกว่า”

เอมม่าหันหน้ากลับมากอดผมต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

“……..”

สรุปง่ายๆว่าชาร์ล็อตกางแขนเก้อครับ หน้าแตกกระจุย  สภาพเธอตอนนี้ตัวแข็งทื่อเป็นหินไปละ

“เอ่อ คือว่า คุณชาร์ล็อตครับ น้อง..เขายังเด็กเนอะ”

“อ…อืม รู้อยู่แล้วค่ะ  ชั้นไม่เป็นไรแล้วอาโอยางิคุง”

ชาร์ล็อตส่งยิ้มตอบกลับให้ผม แต่ผมยังกังวลว่าไม่เป็นอะไรจริงรึเปล่า

เอมม่ายังเป็นเด็กเล็ก จะทำอะไรตามใจชอบก็ไม่ใช่เรื่องแปลก สุดท้ายผม เอมม่า ชาร์ล็อต เดินไปซูเปอร์มาร์เก็ตด้วยกัน

*****

พอถึงซุเปอร์มาร์เก็ต ระหว่างเดินดูของด้วยกัน เอมม่าดึงเสื้อ น้ำตาคลอกล่าว

“โอนี่จัง หนูหิวแล้ว”

“เดี๋ยวคุณชาร์ล็อตกลับถึงบ้าน เธอทำกับข้าวให้ทานครับ ระหว่างนี้อดทนสักนิดนะครับ”

“…..หนูหิวข้าว”

ผมตอบเอมม่าแต่เอมม่ายังย้ำคำเดิม

“ขอโทษจริงๆครับ แต่ต้องอดทนนะ”

“บู่”

“เอมม่าเป็นคนเก่ง แล้วคนเก่งจะอดทนไม่ได้เหรอ”

“เอมม่าเป็นคนเก่งเหรอ?”

“ใช่ เพราะว่าเอมม่าอยู่บ้านคนเดียวได้ไง”

“เอมม่าเป็นคนเก่งค่ะ”

พอเอมม่าถูกชม น้องทำท่าพอใจเต็มที่พนักหน้ารับคำ

“ใช่แล้วครับ เพราะฉะนั้นคนเก่งแบบเอมม่า เรื่องอดทนแค่นี้ทำได้สบายมากเนอะ”

ผมลองแนะให้เธออดทนอีกครั้ง  แอบลุ้นในใจ หรือว่าเราจะฝืนน้องมากไปรึเปล่า

ระหว่างที่ผมกำลังคิดอยู่ เอมม่าผงกหัว

“อืม เอมม่าเป็นคนเก่ง เพราะฉะนั้นเอมม่าอดทนได้ค่ะ”

“ดีละครับ เอมม่าเก่งที่สุดเลย”

ผมลูบหัวชมเชยเอมม่าที่ยอมอดทน พอถูกลูบหัวและชม เอมม่ายิ้มแป้นเดินมาซบผมต่อ

เป็นเด็กขี้อ้อนจริงๆ

“จริงสิ เอมม่าสนใจดุคลิปแมวมั้ยครับ”

“น้องแมวเหรอ เอมม่าอยากดู”

เอมม่ายื่นมือรับสมาร์ทโฟนผม

“น้องเหมียว น้องเหมียวน่ารักไ

เอมม่าดูคลิปน้องแมว ร้องเพลงไปด้วย ดูเหมือนว่าการดุคลิปจะทำให้น้องลืมความหิวไปได้ 

“อาโอยางิคุงสุดยอดไปเลยนะคะ”

“คุณชาร์ล็อต?”

ชาร์ล็อตที่เลือกซื้อวัตถุดิบทำกับข้าว กล่าวชมผมเป็นภาษาญี่ปุ่นด้วยรอยยิ้ม เธอเดินกลับมาหาผมตั้งแต่เมื่อไรไม่ทันรู้ตัว

ผมสบตาเธอ หัวใจเต้นตึกตัก

ว่าไปการที่เธอเลือกพูดเป็นภาษาญี่ปุ่น แปลว่าเอมม่าจะไม่เข้าใจในสิ่งที่พวกผมคุยกันต่อจากนี้

“อาโอยางิคุงสามารถกล่อมเอมม่าให้เชื่อฟังได้ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่สามารถทำได้ง่ายๆนะคะ”

“เอ่อ ที่ผมทำก็แค่ชมน้องนะครับ”

“ไม่หรอก มันสุดยอดมาก ก่อนหน้านี้เธอก็น่าจะเห็นความเอาแต่ใจของเอมม่า ว่าเป็นเด็กที่รับมือไม่ได้ง่าย  อาโอยางิคุงเป็นคนที่อ่อนโยนมากเลยค่ะ”

โดนชมรัวแบบนี้เล่นเอาผมเขินจนร่างกายวูบวาบ ถ้าโดนชมต่ออีกผมคงช็อคตายเพราะความเขินแน่เลยเปลี่ยนเรื่อง

“หยุดชมผมเถอะครับ เออ จะว่าไป วันนี้จะทำกับข้าวเมนูอะไรครับ”

“นั่นสินะ อาโอยางิคุงอยากทานอะไรคะ”

“อืมตอนนี้ยังนึกไม่ออกครับ”

อาหารที่ผมชอบทานคือราเม็ง แต่จะให้ทำเป็นข้าวเย็น ผมว่ายากไป จะขอร้องให้เธอทำ ผมว่าไม่ดี

“เอาเป็นว่า ผมทานเมนูที่เอมม่าอยากกินละกันครับ เอมม่าจังอยากทานอะไรครับ”

แทนที่ผมจะเป็นคนเลือก ให้น้องเป็นคนเลือกน่าจะดีกว่า

“เอ๋? เอมม่าอยากทานแฮมเกอร์”

พอเอมม่าได้ยิน คำถามผม เธอละสายตาจากสมาร์ทโฟน มองหน้าพร้อมกล่าว 

ผมฟังคำตอบ ลูบหัวเธอไปด้วย น้องส่งเสียง “แฮะแฮะแฮะ”  พร้อมซบผมต่อ

“ตกลงเอาแฮมเบอร์เกอร์ละกัน”

“เอมม่าชอบทานแฮมเบอร์เกอร์มาก เอาจริงชั้นอยากทำเมนูที่อาโอยางิชอบมากกว่าแต่ถ้าตัดสินใจแล้ว งั้นเมนูวันนี้เป็นแฮมเบอร์เกอร์นะคะ”

ชาร์ล็อตกล่าวด้วยน้ำเสียงหม่นเล็กน้อยตอนต้น ก่อนหัวเราะ

****

พวกผมเดินทางกลับถึงบ้าน

ชาร์ล็อตเข้าครัวเตรียมทำกับข้าว

ส่วนเอมม่านั่งบนตักผม โยกร้องเพลงรอด้วยท่าทางมีความสุข

“แฮมเบ้อเกอร์ แฮมมมเบอเกอร์”

น้องนี่มันน่ารักจริงๆ

“เอมม่าชอบแฮมเบอร์เกอร์มากเลยใช่มั้ยครับไ

“อืม ชอบสุดๆเลย…”

“งั้นระหว่างรอแฮมเบอร์เกอร์มาก็นั่งรอด้วยกันนะครับ”

“อืม

ผมลูบหัวเอมม่าไปด้วย เอมม่าเงยหน้ามองผม

“มีอะไรรึเปล่าครับ”

“อืม เอมม่าอยากดูน้องแมว”

เอมม่าอ้อนผมขอโทรศัพท์ ผมหยิบส่งให้เธอ

“น้องแมววว”

เอมม่าดูน้องแมว ตาเป็นประกาย  ผมให้เธอดูคลิปแมวไปเรื่อยพร้อมสแตนบายรอเผื่อชาร์ล็อตเรียกใช้

“อาโอยางิคุง อาหารเสร็จเรียบร้อยแล้ว ช่วยเตรียมจัดโต๊ะได้มั้ย”

ผมช่วยเธอจัดโต๊ะไปด้วย อาหารตอนนี้พร้อมทานแล้ว แต่ปัญหาคือเอมม่ายังไม่วางโทรศัพท์ ตาจดจ่ออยู่กับคลิปแมว

งานชักจะหยาบละ เพราะถ้าผมดึงโทรศํัพท์จากเธอ เอมม่าร้องไห้แน่  ฉะนั้นต้องหาทางเกลี่้ยกล่อมให้เธอวางโทรศัพท์และทานข้่าว

“เอมม่าจัง อาหารเสร็จแล้วนะครับ เลิกดูคลิปแมวก่อนได้มั้ยครับ”

“เอ๋ ยังอยากดูต่ออีกหน่อยค่ะ”

“อึ่ก”

พอบอกให้เลิอกดู น้องก็เริ่มดราม่าน้ำตาคลอเบ้าตามที่คาด เรื่องนี้เป็นนิสัยที่ไม่ดีต้องแก้ แต่ถ้ามาดูสภาพน้องตอนนี้ ผมฝืนดึงโทรศัพท์จากน้องไม่ไหวจริงๆ

“ไม่เป้นไรค่ะ อาโอยางิคุง”

ขณะที่ผมคิดแผนว่าจะเอาโทรศัทพ์คืนยังไง ชาร์ล็อตกล่าวกับผมเป็นภาษาญี่ปุ่นพร้อมรอยยิ้ม ใบหน้าของเธอเข้ามาใกล้ผม เล่นเอาผมใจเต้นตึกตัก 

ระหว่างผมใจเต้น ชาร์ล็อตหันสายตาไปหาน้องสาวเธอ ดูเหมือนว่าเธอจะมีแผนการบางอย่างในใจ 

น่าสนใจว่าชาร์ล็อตจะใช้วิธีไหนในการเอาโทรศัพท์ออกจากมือน้องและให้น้องกินข้าวจริงๆ 

******

 

 

หมายเหตุ อยากอ่านไวกว่าใครนิดหนึ่ง คลิกติดตามเพจผู้แปลได้ตรงนี้เลยจ้า  kurakon 

หมายเหตุ2 พรุ่งนี้กับมะรืน ผมติดคอมปานีทริปนะครับ ไม่สามารถอัพนิยายได้แน่ รออ่านสี่วันหลังได้เลยนะครับ 

(อ่าน แปลไทย LN) Otonari asobi The Story Of How A Beautiful Foreign Student Who Lives Next Door Started To Visit My House After I Helped A Lost Little Girl

(อ่าน แปลไทย LN) Otonari asobi The Story Of How A Beautiful Foreign Student Who Lives Next Door Started To Visit My House After I Helped A Lost Little Girl

Status: Ongoing
อ่านนิยาย (อ่าน แปลไทย LN) Otonari asobi The Story Of How A Beautiful Foreign Student Who Lives Next Door Started To Visit My House After I Helped A Lost Little Girl มื่อผมช่วยเหลือน้องเธอ พี่สาวสุดสวยนักเรียนชาวต่างชาติกับน้องเธอที่อาศัยอยู่ห้องข้างๆจึงแวะเวียนมาเยี่ยมห้องผม นี่คือไลท์โนเวลที่กำลังขายดีสุดๆในญี่ปุ่นตอนนี้ อยากรู้ว่าเรื่องเป็นไงต้องลองอ่านครับ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset