otonari asobi เล่ม 2 ch9-5 ความลับ
“สรุปเรียกมา มีเรื่องอะไรจะคุยรึ”
ผมที่เดินแยกออกมาจากพวกคุณชาร์ล็อต เดินมาที่สวนสาธารณะพอเจออากิระ อยู่สองต่อสองปุ๊บ ก็ไม่เสียเวลา ถามเข้าประเด็นหลักเลย
อากิระจ้องหน้าผมอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะทำท่าไตร่ตรอง สีหน้ากังวล ดูเหมือนว่าเขากำลังคิดอยู่เรื่องนี้ควรจะพูดออกไปหรือไม่พูดดีกว่า
สุดท้าย อากิระสีหน้าเปลี่ยนเป็นจริงจังเขาตัดสินใจแล้วว่าจะพูดออกมา เริ่มเอ่ยปาก
“อากิฮิโตะ นายน่ะคบอยู่กับคุณชาร์ล็อตใช่มั้ย”
“อืม ใช่….ห๊ะ?”
ผมเข้าใจว่าคำถามของอากิระจะเป็นว่า นายชอบคุณชาร์ล็อตใช่มั้ย เลยพูดล่วงหน้าไปก่อน ก่อนจะเหวอแดก เพราะคำถามดันเหนือความคาดหมายกว่าที่ผมคิดอีก
อากิระมองหน้าผม กล่าวต่อ
“เพราะว่าคุณชาร์ล็อตน่ะ มองนายบ่อยมาก แถมยังนั่งด้วยกันเมื่อตะกี้อีก มันไม่แปลกหรอกที่จะคิดแบบนั้น”
นั่นไง กะแล้วเชียวว่าคุณชาร์ล็อตอยู่ใกล้ผมมากเกินไปจริงด้วย แต่ว่าด้วยความที่ได้ใกล้ชิดคุณชาร์ล็อต มันทำให้ผมรู้สึกดีใจมาก ผมเลยไม่ปฏิเสธเวลาเธอมาชิดผมนี่แหละ
นอกจากนี้ เวลาที่คุณชาร์ล็อตอยู่ใกล้ผม เธอเองก็ดูจะดีใจด้วยแหละ ผมเลยไม่อยากปฏิเสธเธอ
แต่ว่า ในเมื่อเรื่องนี้อากิระรู้ละ ทีนี้ก้งานหยาบเลยว่าจะแก้ตัวยังไงดี
“ไอ้ที่นั่งใกล้กันในร้านคาเฟ่ ก็นั่งชิดกันตั้งสามคนนะ มันใกล้ชิดกันก็เป็นเรื่องธรรมดาไม่ใช่รึไง”
“เหรอ แล้วเรื่องที่คุณชาร์ล็อตคล้องแขนนาย นายจะอธิบายว่าไงล่ะ”
“อึ่ก..”
“สายตาชั้นมองไกลขนาดไหนนายอย่าลืม ชั้นเห็นนะว่าเธอคล้องแขนนายระหว่างอยู่ในร้านน่ะ”
อากิระไม่ได้พูดด้วยน้ำเสียงโกรธเคือง เขาพูดธรรมดา พลางหัวเราะแห้งๆ
มันเหมือนท่าทางของคนที่กำลังจะยอมแพ้กับอะไรสักอย่าง
เรื่องสายตากับความสามารถในการมอง อันนี้ไม่แปลกหรอก เป็นเอซทีมฟุตบอล สกิลนี้ถือว่าเป็นอะไรที่ต้องมีแน่
พวกนักฟุตบอลเก่งๆจะมีสกิลมองภาพรวมได้กว้าง เหมือนมองเกมส์สนามฟุตบอลมุมมองเบิร์ดอายวิว ซึ่งความสามารถนี้ อากิระมีมาตั้งแต่ตอนเด็กๆละ แต่ว่าด้วยความที่ผมไม่ได้เล่นฟุตบอลมานานแล้ว เลยลืมไปว่าเพื่อนของผมมันมีสกิลนี้ติดตัวด้วยนี่หว่า
“จะว่างั้นมัน….ก็…อืม ..ว่าไงดีน้า…ก็…ยังไม่ได้คบกันนะ”
ผมพูดออกไปตามความจริง และอธิบายรายละเอียดเพิ่มเติมไปอีกว่า
“แต่ว่าถึงไม่ได้คบกัน ผมก็สนิทกับเธอดีในระดับหนึ่งเลยเพราะเรื่องส่วนตัวน่ะ”
“อย่างนี้นี่เอง ม่า ชั้นเข้าใจความรู้สึกนายที่ปิดบังเรื่องนี้ ต่อให้เป็นเพื่อนสนิทกันมันก็ต้องมีบางเรื่องปิดเป็นความลับอยู่แล้ว”
“ขอโทษนะ ที่ปิดเป็นความลับ”
“ไม่ต้องขอโทษหรอก ก็บอกแล้วว่าชั้นเข้าใจความรู้สึกดี”
“ม่า อืม ถึงนายจะบอกแบบนั้น แต่เรื่องปิดบังมันก็คือความผิดอยู่ดี ยังไงก็ต้องขอโทษอยู่ดี”
ผม่ไม่กล่าวแก้ตัวเยอะ ก้มหัวขอโทษเพื่อน
อากิระเห็นสภาพผม เกาแก้มแกรกๆ กล่่าว
“ก้บอกแล้วว่าไม่ต้องขอโทษไง อีกอย่าง เห็นสภาพนายตอนนี้ชั้นก็เข้าใจจนได้”
“หือ?พูดถึงเรื่องอะไร”
“อืมมม บอกไปนายจะว่าอีกรึเปล่านี่สิ”
ผมเอียงคอด้วยความสงสัย ส่วนอากิระก็พูดเหมือนว่าจับสังเกตอะไรบางอย่างได้ แต่ก็ลังเลจะพูด คาดว่าสาเหตุเป็นเพราะผมนี่แหละคือตัวการ แต่ว่ามันคืออะไรหว่า
“นี่ อากิฮิโตะ”
“ว่าไง”
“ชั้นว่าจะยอมแพ้เรื่องชาร์ล็อตแล้วล่ะ”
“หา?”
ผมหูฝาดไปรึเปล่า เลยจ้องหน้าอากิฮิโตะราวกับจะถามว่า เมิงพูดจริงเหรอเรื่องะตะกี้
อากิระเห็นท่าทีผมเลยหัวเราะ เอามือหนึ่งมาจับไหล่ผม
“คุณชาร์ลอตเขาน่าจะหลงนายอยู่น่ะสิ เพราะฉะนั้นเรื่องคบชาร์ล็อตเป็นแฟน นายก็พยายามเข้านะ ชั้นเป็นกำลังใจให้”
ผมยิ่งงงกับคำพูดอากิระซ้ำไปอีก ชาร์ล็อตหลงผมเนี่ยนะ คิดอะไรในหัวกันแน่
“นายพูดอะไรของนาย ก็นายชอบชาร์ล็อตอยู่ไม่ใช่รึไง”
“อ้อ ตอนนี้เลิกชอบแล้วล่ะ”
“ไม่ตลกนะท่าน”
ก่อนหน้านี้เห็นว่าหมอนี่พยายามมาตลอดเรื่องคุณชาร์ล็อต แล้วตอนนี้มาบอกแบบนี้เนี่ยนะ ทำใจเชื่อไม่ลงเลย
“นายคิดว่าบอกชั้นแบบนี้แล้วชั้นจะเริงร่ารึไง ถ้านายยอมแล้วแล้วนายคิดว่าชั้นจะ…”
“นายนั่นแหละ อย่ามาตลกดีกว่า คิดว่านายทำแบบที่เป็นแล้วชั้นจะยกโทษให้นายรึไง”
อากิระจ้องหน้านิ่งไม่หลบตา
“แล้วที่อากิระบอกมาตะกี้มันหมายความว่าไง”
“จุดยืนของชั้นกับนายมันต่างกัน ชั้นพยายามจู่โจมจีบเธอให้ตายยังไง คุณชาร์ล็อตก็เหมือนจะสร้างกำแพงเว้นระยะห่างชั้นกับเธอตลอด แต่กับอากิฮิโตะ นายบอกเองว่า เธอสนิทกับนายดีระดับหนึ่งเพราะความสัมพันธ์ส่วนตัว ซึ่งชั้นก็ไม่รู้หรอกว่านายสนิทกับเธอได้เพราะอะไร แต่ว่าคนที่เธอยอมให้เข้ามาอยู่ในหัวใจ มีแค่อากิฮิโตะคนเดียว เพราะงั้นชั้นจะยอมแพ้มันก็ไม่ผิดแปลกตรงไหนเลย”
ก็เป็นไปตามที่อากิระพูดไว้แหละ เพราะผมก็เห็นด้วยตาตนเองในห้องว่า เธอพูดและสงวนท่าทีเว้นระยะห่างต่อคนในห้องชัดเจนมาก
“ถึงนายจะบอกว่าจุดยืนมันต่างกัน แต่ตัดสินใจยอมแพ้แล้วนี่ก็ฟังดูแปลกๆนะ”
“มันไม่ใช่แค่นั้นน่ะสิ ชั้นคิดว่าถ้าเป็นอากิฮิโตะต้องทำให้คูณชาร์ล็อตมีความสุขได้แน่ ฝั่งนายเทียบกับฝั่งชั้นนี่ ความหวังจีบสำเร็จมันต่างกันลิบลับ แถมตอนนี้ ชั้นว่าที่นายรู้สึกผิด เพราะว่าความภาคภูมิใจของนายมันบอกล่ะสิ”
“…..”
ผมเจอคำพูดของอากิระเข้าไป เล่นเอาสตันพูดไม่ออกเลย
ส่วนอากิระเห็นท่าทีผมเลยหัวเราะเหงาๆ ก่อนเอ่ยปาก
“นะ อากิฮิโตะ ไอ้ความรู้สึกผิดที่กัดกินอยู่น่ะ เลิกทำตัวเป็นพระเอกสักทีเหอะ”
“หมายความว่าไง”
“นายคิดจะปล่อยให้อดีตกัดกินชีวิตตัวเองไปถึงไหน ไอ้เรื่องอาการบาดเจ็บที่ขาชั้น ก็ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะนายซะหน่อย เป็นเพราะพวกเราไปคาดหวังกับนายมากเกินไปก็เลยขาดสติต่างหาก เพราะฉะนั้นนายไม่ต้องแบกรับความผิดที่นายไม่ได้เป็นคนก่อเลย”
อากิตะโกนใส่ผมด้วยความกราดเกรี้ยว และนี่เป็นครั้งแรกที่ผมเห็นอากิระแบบนี้
“จะบอกว่าผมไม่ผิดได้ไงล่ะ ในเมื่อผมนี่แหละผิดเต็มๆ ผมก็ต้องชดเชยสิ”
“เป็นบ้าอะไรถึงอยากทำตัวพระเอกนักวะ รู้สึกตัวสักทีเหอะว่า ชั้นไม่ได้ต้องการ”
“อากิระ..”
เพื่อนสนิทของผม..กล่าวด้วยสีหน้าราวกับพร้อมจะร้องไห้ได้ทุกเมื่อ ทำเอาผมจุกในอกเลย
กลายเป็นว่า สิ่งที่ผมทำมาตลอด คือสร้างความทุกข์ใจให้แก่เพื่อนงั้นเหรอ
แต่ว่า..
“ชั้นเป็นคนพรากอนาคตจากเพื่อนหลายคน และยังสร้างบาดแผลแก่คนสำคัญด้วยนะ จะไม่ชดเชยอะไรเลยก็ไม่ถูกต้องนี่นา”
อากิระอาจจะเป็นผู้เสียหายที่หนักที่สุด แต่ว่าคนอื่นๆก็ได้รับความเสียหายเพราะผมหลายคน และผมคิดว่าคนหลายคนนั้นคงไม่ลืมสิ่งที่ผมทำแน่ๆ
“ไอ้คนเข้าใจอะไรยากเอ้ย..”
“ขอโทษด้วยละกัน”
“แล้วเรื่องชาร์ล็อต นายจะเอาไงต่อ”
“เรื่องนั้นมัน..”
“ถ้าอากิฮิโตะนายบอกว่าจะยอมแพ้เรื่องชาร์ล็อต ชั้นบอกตรงนี้เลยว่า เมิงกับกู ขาดกันจากความเป็นเพื่อนตั้งแต่ตอนนี้เลย”
“อากิระ….ชั้นไม่เข้าใจนายเลย ทำไมนายถึงยืนกรานขนาดนี้”
“ถามบ้าอะไรโคตรแปลกเลย ก็อยากให้เพื่อนสนิทมีความสุข แล้วก็อยากให้เพื่อนมันลืมอดีต แล้วมองตรงไปที่อนาคตข้างหน้านะ”
ผมเข้าใจความรู้สึกอากิระดี เพระาผมก็อยากให้เพื่อนมีความสุข แต่ว่า ทำไมมันถึงขั้นที่อากิระต้องยอมแพ้ด้วยเหรอ
“ถ้านายพูดแบบนั้น มันก็แปลกใช่มั้ยล่ะ ที่อากิระบอกว่าจะยอมแพ้เรื่องคุณชาร์ฺล็อต”
“…ชั้นไม่บอกนายแบบนี้ นายก็มัวแต่เกรงใจไม่ทำอะไรกันพอดี”
“…ฮะฮะ…ถ้านายบอกแบบนั้น แปลว่าต้นเหตุก็คือผมสิ”
ผมหัวเราะกล่าวออกมา
อากิระใช้มือสองข้างจับไหล่ผม ออกแรงแน่น มองตาผม ก่อนจะกล่าวด้วยท่าทีจริงจัง
“น่า อากิฮิโตะ การดวลน่ะ มันต้องสูสี แต่ว่าการเล่นเกมส์ความรักที่โอกาสสมหวังเป็นศูนย์ แล้วนายจะบอกให้ชั้นเล่นเกมส์นี้ต่อเหรอ”
“เรื่องนั้นมัน…”
ผมนึกคำพูดที่จะตอบโต้ไม่ออก
“ชั้นคบกับนายมากี่ปีแล้ว ชั้นเข้าใจนายทะลุปรุโปร่งเช่นเดียวกับที่นายเข้าใจชั้นนั่นแหละ”
“แต่ว่านายอาจจะเข้าใจชั้นผิดก็ได้นะ”
“ถึงอย่างนั้นมันก็ไม่ได้ลบล้างความจริงว่า ชั้นไม่มีโอกาสชนะเกมส์ความรักครั้งนี้ ถือเป็นโอกาสอันดี ใช้เรื่องนี้เป็นแรงผลักดัน แก้ไขความรู้สึกตัวเองในอดีตซะ อากิฮิโตะ พยายามเข้า ชั้นเป็นกำลังใจให้นาย”
“อากิระ..เข้าใจแล้ว ถ้านี่คือการตัดสินใจของนาย ชั้นไม่มีอะไรจะโต้แย้งแล้ว ขอบใจนะ”
กับเพื่อนสนิทที่อุตส่ายอมเสียสละความรู้สึกตัวเอง และเลือกจะเชียร์เพื่อน ผมก็ทำได้แค่กล่าวขอบคุณ
***ตัดแหลกเลย ที่เหลือก็เป็นการคุยเล่นเรื่อยเปื่อยกันถึงอดีตนิดหน่อย ก่อนที่อากิระจะไปรวมกลุ่มกับเพื่อน ส่วนอาโอยางิก็ซาบซึ้งกับการที่เพื่อนยอมเสียสละชาร์ล็อต
***
จบ CH 9-5