เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน – ตอนที่ 121 กระบี่คมกวัดแกว่งไปทั่วทั้งสิบสี่แคว้น

ตอนที่ 121 กระบี่คมกวัดแกว่งไปทั่วทั้งสิบสี่แคว้น

“หืม?”

เย่ฉางชิงได้ยินเช่นนั้นจึงตอบรับเบา ๆ ก่อนจะหันไปมองเยี่ยนปิงซิน

“ท่านเย่ เชิญตามข้ามาทางนี้หน่อยเจ้าค่ะ”

เยี่ยนปิงซินเอ่ยขึ้นอย่างมีเลศนัย ก่อนหมุนตัวเดินไปทางโต๊ะที่เย่ฉางชิงฝึกเขียนอักษรเป็นประจำ

เย่ฉางชิงชะงักเล็กน้อย ก่อนจะลุกตามเยี่ยนปิงซินไป

นักพรตฉางเสวียนและสวีฉิงเทียนต่างก็สบตากัน ก่อนมองตามคนทั้งคู่ไป

ก็เห็นเยี่ยนปิงซินถอดแหวนอันประณีตงดงามวงหนึ่งออกจากนิ้ว

มินานหลังจากนางเพ่งจิต ตรงหน้าก็เกิดแสงเปล่งประกายระยิบระยับขึ้น

ทันใดนั้นกระดาษซวน1 สีเหลืองจาง ๆ หลายแผ่นหลายขนาด ก็พลันปรากฏอยู่บนโต๊ะยาวขนาด 5 ฉื่อ

เย่ฉางชิงที่เห็นเหตุการณ์นี้ก็มีสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย สายตาจับจ้องไปยังแหวนวงนั้นของเยี่ยนปิงซิน

‘นี่คงจะเป็นแหวนเก็บสมบัติในตำนานสินะ ? ’

ตอนอยู่โลกก่อนเขาเคยอ่านนิยายแฟนตาซีเกี่ยวกับแหวนเก็บสมบัติ ในนั้นกล่าวไว้ว่าแหวนเก็บสมบัติเปรียบเสมือนโกดังขนาดเล็กที่สามารถพกพาได้ เพียงแค่เพ่งจิตก็สามารถเก็บหรือหยิบของที่ตนเองต้องการออกมาได้

ดูจากการกระทำเมื่อครู่ของเยี่ยนปิงซินแล้ว นี่ต้องเป็นแหวนเก็บสมบัติเป็นแน่

แม้เย่ฉางชิงจะรู้ว่าตนนั้นมิสามารถบำเพ็ญเพียรได้ หรืออาจจะต้องเดินในเส้นทางการฝึกปราณเส้นทางอื่น

แต่ใจจริงแล้วเขาเองก็อยากมีแหวนเก็บสมบัติเป็นของตนเองสักวงมานานแล้ว

แต่เขาเคยได้ยินมาว่าแหวนเก็บสมบัตินั้น โดยทั่วไปแล้วจะมีราคาแพงมาก

‘มิรู้ว่าภาพวาดหรือภาพอักษรพู่กันของข้า มีภาพใดพอจะแลกแหวนเก็บสมบัติเช่นนี้สักวงได้หรือไม่นะ ? ’

เย่ฉางชิงคิดในใจแล้วก็ต้องขมวดคิ้วเล็กมุ่น แม้จะอยากได้เพียงใดแต่ตอนนี้เขาต้องเก็บอาการเอาไว้ก่อน

เพราะเวลานี้กำลังอยู่ต่อหน้าผู้คนมากมาย เขาจะเอ่ยปากขอออกไปเช่นนั้นได้เยี่ยงไรกัน

มินานหลังจากเย่ฉางชิงสังเกตเห็นกระดาษซวนจำนวนหนึ่งที่อยู่บนโต๊ะ ก็อดมิได้ที่จะหรี่ตาลงทันที ท่าทางเต็มไปด้วยความประหลาดใจ

‘เป็นกระดาษเซิงซวนชั้นดีจริง ๆ ! ’

สำหรับเย่ฉางชิงที่ศึกษาการเขียนอักษรพู่กันและภาพวาดมาตั้งแต่เด็ก เขาจึงรู้เรื่องกระดาษซวนเป็นอย่างดี

ในสมัยโบราณของโลกก่อนหน้านั้น

กระดาษซวนจะแบ่งออกเป็น กระดาษเซิงซวน กระดาษปั้นซู๋ กระดาษซู๋

กระดาษเซิงซวน ส่วนใหญ่ใช้สำหรับเขียนอักษรพู่กันและภาพวาดทิวทัศน์

ที่สำคัญที่สุดก็คือกระดาษซวนชั้นดีนี้ หากอยู่ที่โลกเดิมของเขาคงจะเป็นของใช้สำหรับราชวงศ์เท่านั้น

แต่สิ่งที่เขาคาดมิถึงก็คือการมายังโลกเซียนโดยบังเอิญ แม้มิมีรากวิญญาณและมิอาจบำเพ็ญเพียรได้ แต่กลับมีโอกาสได้ใช้กระดาษเซิงซวนเขียนอักษรและวาดภาพได้

เสียอยู่อย่างเดียวคือกระดาษเซิงซวนนั้นกลับมีเพียงน้อยนิด

แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้น เย่ฉางชิงก็ยังคงแสดงท่าทางพึงพอใจออกมา

“ปิงซิน เจ้าช่างเป็นคนที่รู้ใจข้าจริง ๆ ”

เย่ฉางชิงกล่าวชื่นชม พร้อมรอยยิ้มเรียบ ๆ

สิ่งนี้ทำให้เห็นว่าของขวัญจากทั้งสามคน สิ่งที่ถูกใจเย่ฉางชิงที่สุดก็คือกระดาษซวนของเยี่ยนปิงซินนั่นเอง

ขณะเดียวกัน เมื่อได้ยินเย่ฉางชิงเอ่ยเช่นนี้

นักพรตฉางเสวียนและสวีฉิงเทียนก็ผงะไปเล็กน้อย ก่อนจะสบตากันโดยมิได้นัดหมาย

“ดูเหมือนว่าข้าคงจะคิดน้อยไปหน่อย ยอดฝีมือเช่นท่านบรรพจารย์เย่ สมบัติโบราณเช่นนี้จะนับว่าเป็นสมบัติล้ำค่าอะไรกัน ? ”

นักพรตฉางเสวียนเอ่ยพลางถอนหายใจเบา ๆ

สวีฉิงเทียนครุ่นคิดด้วยสีหน้าสับสนอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยออกมาว่า “ความคิดของยอดฝีมือ มิใช่สิ่งที่ผู้น้อยเช่นพวกเราจะคาดถึง”

ตอนนั้นเองเยี่ยนปิงซินก็ได้ถอดแหวนเก็บสมบัติออกมา ก่อนจะส่งให้กับเย่ฉางชิง

“ท่านเย่ ภายในแหวนเก็บสมบัติวงนี้มีกระดาษซวนขนาดต่าง ๆ ที่ข้าเตรียมเอาไว้ถึงร้อยแผ่น ถ้าท่านใช้หมดแล้วข้าจะนำมาให้อีกเจ้าคะ”

เยี่ยนปิงซินเอ่ยพร้อมยิ้มพรายออกมา นัยน์ตาหวานคู่นั้นมีประกายบางอย่างพาดผ่าน

‘ร้อยแผ่น ? ’

เย่ฉางชิงตกตะลึงเล็กน้อย ก่อนจะส่ายหน้ายิ้ม ๆ “คุณหนูเยี่ยน ครานี้เป็นข้าที่ติดหนี้บุญคุณท่านแล้ว”

เยี่ยนปิงซินยิ้มหวาน พร้อมกับยื่นแหวนเก็บสมบัติไปตรงหน้าเย่ฉางชิงอีกครั้ง “ท่านเย่ ท่านต้องเก็บแหวนเก็บสมบัติวงนี้เอาไว้ให้ดีนะเจ้าคะ”

‘เก็บไว้ให้ดี ? ’

‘หรือว่าจะมอบแหวนเก็บสมบัติวงนี้ให้เขาด้วยงั้นหรือ ? ’

เย่ฉางชิงได้ยินเช่นนั้นก็มีสีหน้าสับสนขึ้นมาทันที

‘วันนี้ช่างโชคดีจริง ๆ ’

‘มีคนมอบพู่กัน มอบแท่งหมึก มอบกระดาษเซิงซวนราคาแพง’

‘ทั้งยังได้แหวนเก็บสมบัติล้ำค่ามาอีกหนึ่งวงด้วย’

ทันใดนั้นจู่ ๆ เย่ฉางชิงก็รู้สึกแปลกใจขึ้นมา

‘ผู้คนในโลกเซียนแห่งนี้ มีไมตรีขนาดนี้เชียวหรือ ? ’

‘หรือว่าก่อนหน้านี้ข้าจะเข้าใจโลกเซียนแห่งนี้ผิดไป ? ’

‘เป็นไปได้ ! ’

‘มิใช่ ! ’

‘ต้องเป็นเช่นนั้นแน่ต่างหาก ! ’

‘ข้ามองโลกคับแคบเกินไป ! ’

‘แต่หากเป็นเช่นนั้นจริง หรือว่าข้าจะออกไปจากหมู่บ้านนี้ได้ ? ’

‘หรือว่าสามารถออกไปดูโลกภายนอกว่ากว้างใหญ่เพียงใด ? ’

ขณะนั้นเองเย่ฉางชิงที่กำลังอารมณ์ดี จึงหันไปทางนักพรตฉางเสวียนและสวีฉิงเทียน

“ท่านทั้งสองมาวันนี้ต้องการตัวอักษรพู่กันหรือภาพวาดอะไร เชิญบอกข้ามาได้เลย”

เย่ฉางชิงเอ่ยกับทั้งสองคนอย่างร่าเริง

ขณะนั้นเอง นักพรตฉางเสวียนและสวีฉิงเทียนที่กำลังรู้สึกหดหู่เพราะเรื่องของขวัญอยู่ พลันมีสีหน้าเปลี่ยนไปในทันที

‘ท่านบรรพจารย์เย่จะมอบโชคและวาสนาให้อีกแล้วเยี่ยงนั้นหรือ ? ’

‘ผู้อาวุโสเย่จะมอบวาสนาให้ข้าเยี่ยงนั้นหรือ ? ’

สวีฉิงเทียนคิดได้เช่นนั้นก็ปรายตามองนักพรตฉางเสวียนเล็กน้อย ก่อนจะก้าวออกไปด้านหน้าหนึ่งก้าว

“ในเมื่อท่านเย่เอ่ยเช่นนี้ ข้าก็จะมิเกรงใจแล้วนะขอรับ”

สวีฉิงเทียนโค้งคำนับให้แก่เย่ฉางชิง ก่อนจะเอ่ยอย่างนอบน้อม “ข้าอยากขอภาพอักษรพู่กันสักภาพได้หรือไม่ขอรับ”

เย่ฉางชิงเอ่ยถาม “มิทราบว่าท่านต้องการภาพอักษรพู่กันหัวข้อเกี่ยวกับอะไรงั้นหรือ ? ”

“กระบี่”

สวีฉิงเทียนลังเลเล็กน้อย ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองเย่ฉางชิงอย่างระวังท่าที ก่อนจะเอ่ยขึ้นเบา ๆ

ถูกต้อง ดินแดนศักดิ์สิทธิ์จื่อชิงถ่ายทอดวิถีกระบี่จากรุ่นสู่รุ่น

เช่นนั้นหากได้รับวาสนาในวิถีกระบี่

เช่นนั้นผู้ที่จะได้รับประโยชน์ก็จะมิได้มีเพียงเขาคนเดียว แต่รวมถึงดินแดนศักดิ์สิทธิ์จื่อชิงทั้งสำนักด้วย

เมื่อได้ยินคำตอบของสวีฉิงเทียน ดวงตาของนักพรตฉางเสวียนพลันเกิดประกายวาววับ อดที่จะบ่นพึมพำภายในใจมิได้ ‘ข้ารู้อยู่แล้วว่าตาเฒ่านี่ต้องคิดมิซื่อ แล้วก็เป็นเยี่ยงนั้นจริง ๆ ด้วย’

“กระบี่ ? ”

เย่ฉางชิงลูบที่คาง และกลอกตาไปมา ท่าทางราวกับกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่างอยู่

จนผ่านไปหลายอึดใจ

เย่ฉางชิงก็คิดถึงคำกล่าวโบราณของเซียนกวีท่านหนึ่งจากโลกเดิมขึ้นมาได้พอดี

“กลิ่นบุปผาทั่วห้องมอมเมาแขกเหรื่อ กระบี่คมกวัดแกว่งไปทั่วทั้งสิบสี่แคว้น”

หลังจากเย่ฉางชิงเอ่ยประโยคนี้ออกมา

ทันใดนั้นทั้งสามคนที่อยู่ในที่นั้นต่างตะลึงงันไปทันที

วินาทีนี้ แม้แต่เยี่ยนเทียนซานที่จิตวิญญาณถูกสะกดเอาไว้ในกระดานหมากกลเทพ ก็ได้สติขึ้นมาอีกครั้ง

ขณะเดียวกันด้านหลังของเย่ฉางชิง พลันปรากฏภาพอันงดงามตระการตาขึ้น

ประกายแสงอันเจิดจ้าโปรยปรายเต็มท้องฟ้า ร่างเงามากมายลอยเลือนราง ราวกับแดนเซียนเช่นบึงเหยาฉือ2

มินาน เงาร่างเรียวยาวเงาหนึ่ง ราวกับกระบี่เซียนก็ปรากฏขึ้นบนภาพนิมิต

หมอกแสงพร่างพราวอยู่รอบกายเขา กระบี่ยาวสีเงินเล่มหนึ่งลอยอยู่ข้างกาย ส่องประกายระยิบระยับ

เพียงพริบตาภาพนั้นก็พลันเปลี่ยนไป กระบี่เงินโบราณเล่มหนึ่งลอยอยู่กลางอากาศ

ทันใดนั้นตัวกระบี่เกิดการเปลี่ยนแปลง ประกายกระบี่ปรากฏขึ้นริบหรี่ สะท้อนกับท้องนภา ราวกับต้องการแช่แข็งเอาไว้…

1 กระดาษซวน กระดาษเนื้อเรียบสำหรับเขียนอักษรและวาดภาพในสมัยโบราณของจีน

2 บึงเหยาฉือ หมายถึง บึงที่อยู่บนเทือกเขาคุนหลุน เป็นที่อยู่ของเจ้าแม่ซีหวังหมู่ตามความเชื่อจีนโบราณ

เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน

เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน

เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน
Score 7.1
Status: Ongoing Released: N/A Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียนเทพแห่งกระบี่ : หากผู้อาวุโสเย่มอบภาพอักษรพู่กันให้ข้าอีกสักภาพ พรุ่งนี้ข้าคงสามารถเปิดประตูสวรรค์ได้แล้ว …… …… เย่ฉางชิงรู้สึกเอือมระอายิ่งนัก ทั้งๆ ที่เขาเป็นเพียงคนธรรมดาคนหนึ่ง เหตุใดถึงได้มีผู้คนแวะเวียนมาหาไม่แต่ละเว้นวันเช่นนี้นะ? Related

Comment

Options

not work with dark mode
Reset