เกิดใหม่พร้อมกับระบบไร้พ่าย – ตอนที่ 138 ทะเลซากศพ ข้ามาแล้ววว!

Chapter 138 ทะเลซากศพ ข้ามาแล้ววว!

 

“เขายังไม่ตาย?!”

 

“เขายังไม่ได้อีกรึ?!”

 

“โอ้ สวรรค์! เขายังไม่ตายใช่ไหม? เขาเป็นมนุษย์อยู่หรอ? หรือว่าเขาเป็นแบบเดียวกับพวก เราที่มีร่างกายอมตะ?”

 

เหล่ายามเริ่มพูดคุยกันเอง

 

นี่มันบ้ามาก!

 

ฉากที่เห็นทั้งหมดมันบ้าเกินกว่าที่จะดูได้!

 

ถั่วเทียนเปิดตาและมีรอยยิ้มอยู่ที่ปากของเขา

 

ไม่เพียงแต่เขาไม่ตาย….

 

บาดแผลบนร่างกายของเขายังฟื้นฟูจนแม้กระทั่งตาเปล่าก็มองเห็น! ไม่มีแม้แค่รอยแผลเล็ก น้อยเหลืออยู่! มันเกิดอะไรขึ้น?

 

ทุกคนตะลึงอย่างมาก

 

สมองของพวกเขารู้สึกอื้ออึง เขาไม่เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น ร่างกายของชายคนนี้ดูเหมือนจะ แกร่งกว่าร่างอมตะของเขาอีก!

 

ร่างอมตะของพวกเขาไม่อาจรักษาตัวเองได้ แต่ร่างของลัวเทียนเล่า!

 

ฉินหยู่เอ๋อร์ยิ้มออกมาทั้งน้ําตา มันดูสดใสกว่าครั้งใดๆที่นางยิ้มออกมาตั้งแต่เมื่อก่อน “ไอ้เลว เจ้าเกือบทําข้ากลัวแทบตาย!”

 

“ 5555…”

 

“5555.”

 

“ดี ดี ดีมาก! นี่สิสมบูรณ์แบบ!”

 

หยินซางหัวเราะออกมา

 

เสียงหัวเราะของเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้นอย่างที่หาเปรียบมิได้ หยินซาง เริ่มมองไปยังลั่วเทียนและรู้สึกว่าเขามีร่างกายที่ยอดเยี่ยมเสมือเป็นผลงานที่สมบูรณ์แบบและเหมาะที่จะเป็นภาชนะที่สุดเท่าที่เคยมีมา ด้วยจิตใจที่แข็งแกร่งของถั่วเทียนที่ได้แสดงออกมา เขาจะ สามารถปรับแต่งแมลงให้อยู่ในขอบเขตที่สูงขึ้นไปได้อีก!

 

เกินกว่าขั้นที่ 8 หรือสูงถึงขั้นที่ 9 และไปถึงขอบเขตอมตะที่แท้จริง!

 

ขณะที่หยินชางกําลังตรวจสอบตั๋วเทียน ถั่วเทียนก็มองไปยังหยินซาง

 

ร่างกายของหยินซางส่องแสงสีทองจนถั่วเทียนไม่อาจลืมตามองตรงๆได้ หัวใจของเขามีความ สุขและน้ําลายก็เกือบจะไหลออกจากปากของเขา จากนั้นเขาก็พูดกับตัวเอง “บอส บอส โครตพ่อ โครตแม่บอส! ชายคนนี้เป็นบอสตัวที่สองและระบบก็จะต้องให้รางวัลที่ยอดเยี่ยมกับข้าแน่ๆ!”

 

“เล่นงานเข้าให้ตาย แน่นอนว่าข้าต้องเล่นงานเขาให้ตาย!”

 

ก่อนที่จะเหลือบมองหยินซาง ตั๋วเทียนก็ยังสงสัยอยู่เล็กน้อย

 

แต่เมื่อเขาเห็นแสงสีทองระยิบระยับของหยินชาง เขาก็ค่อนข้างมั่นใจว่าชายคนนี้จะต้องเป็น บอสตัวต่อไปที่ระบบจะให้รางวัลแก่เขา!

 

รางวัลครั้งล่าสุดคือ ดื่มโลหิต แล้วครั้งนี้เขาจะได้รับอะไร?

 

)ถั่วเทียนคาดหวังเป็นอย่างมาก เขาตื่นเต้นมากจนเขาไม่อาจปกปิดมันได้ จากนั้นเขาก็จ้องตา หยินชางและถามอย่างเคร่งเครียด “เจ้าเป็นคนฆ่าเผ่าหลักของโลกนี้งั้นหรอ?”

 

“ถูกต้อง!”

 

หยินชางไม่ปิดยังเพราะว่าเขาไม่ต้องการ จากนั้นเขาก็ยิ้มและถาม“เจ้าเป็นคนที่ถูกพูดใน คําทํานาย?”

 

ตาของถั่วเทียนหรี่แคบลงเมื่อนึกถึงฉากนองเลือดของเผ่าหลักของโลกที่ไหลออกมาเป็นแม่น้ํา ความโกรธในใจของเขาระเบิดออกมาทันที เขาพูดอย่างเย็นชา “ไม่ ข้าก็เป็นเหมือนกับเจ้าตอนที่ ยังมีชีวิต”

 

“โอ้?”

 

“งั้นก็ทําได้แต่พึ่งพาตัวเอง?”

 

หยินชางมีสีหน้าที่สนใจและจากนั้นก็ยิ้ม “คนที่กล้าพูดกับข้าแบบนี้ ตายไปหมดแล้ว แต่เจ้า จะได้รับการยกเว้นเพราะว่าข้าชอบเจ้า ในไม่ช้าเจ้าจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของกองทัพอมตะของข้า และกลายเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดรองจากข้าอย่างแน่นอน”

 

“เจ้าคิดว่าไง?”

 

“ข้าควรจะเคลื่อนไหวเองหรือเจ้าจะทําเองด้วยความเต็มใจของเจ้า?”

 

เมื่อเขาพูดอย่างนั้นหยินซางยังคงยิ้มอยู่ นอกจากนี้เขายังแสดงควา มพออกพอใจเหมือนกับว่าลั่วเทียนเป็นสมบัติของเขาอยู่แล้ว

 

จากคําพูดนี้

 

เขาเป็นเจ้าเหนือหัวของสถานที่นี้

 

นั่นคือเหตุผลที่ว่าทําไมเสียงของหยินซางถึงได้เย่อหยิ่งและเย็นชาอย่างมาก ราวกว่าเขาไม่ เห็นใครอยู่ในสายตา สิ่งนี้ถือว่าเป็นเรื่องจริงเมื่อพูดกับถั่วเทียน เขาก็รู้สึกได้ถึงความหมายเหล่านี้ มันไม่สําคัญว่าเจ้าจะเห็นด้วยหรือไม่กับคําพูดของข้า เจ้าก็ไม่อาจหนีรอดไปจากฝ่ามือของข้าได้

 

ด้วยแมลงภู่ที่อยู่บนศรีษะของเขา ร่างกายของเขาก็บวมออกมาอย่างน่าเกลียดและรอยยิ้มที่ น่าขยะแขยงที่อยู่บนใบหน้าของเขา หยินซางดูเหมือนกับสัตว์อสูรบางตัวที่คลานออกมาจากท่อ ระบายน้ํา

 

ถั่วเทียนเก็บดื่มโลหิตไว้และเอาหอกวิญญาณงูออกมาจากนั้นเขาก็พูดและยิ้มเล็กน้อยว่า “ข้าสัญญากับยายเฒ่าว่าข้าจะฆ่าเจ้าให้ได้”

 

ขณะที่เขาพูดถั่วเทียนก็โบกมือให้หอกวิญญาณงูพุ่งออกไป “นี่คืออาวุธของหยู่ฮั่น เจ้าก็จะก ลายเป็นเหมือนเขา วิญญาณที่แตกสลายและหายไปกับความว่างเปล่า 5555…”

 

หยินชางขมวดคิ้วขณะที่ใบหน้าของเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อย กลิ่นอายแห่งความตายของเขาพลุ่ งพล่านพร้อมกับความโกรธในใจของเขา จากนั้นเขาก็พูดว่า “เจ้าเป็นคนดื้อดึง แต่เจ้าควรจะรู้ว่า คนเราต้องมีความสามารถมากพอที่จะหยิ่ง น่าเสียดายที่เจ้าขาดสิ่งเหล่านั้น”

 

“ตอนนี้”

 

โดยที่หยินชางยังพูดไม่จบ เลือดพิราบก็ก้าวเข้ามาและพูด “ราชาทมิฬ มอบเขาให้กับข้า ข้า จะทําให้เขายอมแพ้และหมอบแทบเท้าเจ้า”

 

โดยไม่รอคําตอบ…

 

ร่างของเลือดพิราบเคลื่อนไหวและทะเลโลหิตที่ปกคลุมทั่วท้องฟ้าก็ระเบิดออกมา จากเขาอีกครั้ง

 

ดวงตาหยินชางหลุบต่ําขณะที่เขากําลังโกรธ กลิ่นอายแห่งความตายที่เชี่ยวกรากก็ปรากฏขึ้น บนท้องฟ้าและเริ่มบดขยี้เลือดพิราบ ในเวลานี้หยินซางก็พุ่งออกไป

 

เร็ว!

 

เร็วมาก!

 

ถั่วเทียนต้องมองหยินชางที่หายตัวไปทันที แม้กระทั่งกลิ่นหายแห่งความตายของเขาก็หายไป และไม่มีร่องรอยใดๆเหลืออยู่ ลั่วเทียนตกตะลึงอยู่ภายในและเขาพูดกับตัวเอง “ชายคนนี้แข็งแก ร่งจริงๆ ความแข็งแกร่งของเขาอาจจะไปถึงจุดสุดยอดของปราณวิญญาณแล้ว”

 

“เวรเอ้ย!”

 

“เป็นแค่ปราณวิญญาณขั้น 92 มาดูว่าบิดาคนนี้จะฆ่าบอสตัวนี้อย่างไร?”

 

“ความแตกต่างของเขากับเราคือห่างกันถึง 20 ขั้น แล้วข้าจะฆ่าเขาอย่างไร?”

 

ในเวลานั้น

 

ถั่วเทียนรู้ว่าการฆ่าหยินซางเป็นภารกิจที่เขาไม่อาจทําสําเร็จได้ เพราะความแตกต่างระหว่า งความแข็งแกร่งของพวกเขานั้นห่างกันเกินไป ถ้าไม่มีใครช่วย แต่การจะหามนุษย์เพียงสักคนที่อ ยู่ในหลุมเชี่ยนที่ไม่มีแม้กระทั่งผี…

 

เอ๋?

 

แล้วผู้หญิงหน้าอกใหญ่นั่นหล่ะ?

 

บะ ปราณสุดยอดเชี่ยวชาญก็เหมือนกับลมที่ออกมาจากตูดนั่นแหละ

 

จิตใจของลัวเทียนเงียบสนิท ตอนนี้เขาเริ่มสวดมนต์ว่าจะมีคนมาช่วยเหลือเหมือนกับที่ยาย เฒ่าพูด.

 

ในเวลานั้น

 

“ตูใน!”

 

เกิดเสียงดังหน้าเมืองภูเขาศพทมิฬ เลือดพิราบตกลงมาจากฟ้าก่อนที่จะกระแทกพื้นจนเป็นห ลุม เลือดไหลออกมาจากปากของเขาและใบหน้าของเขาก็ซีดเซียว เมื่อเห็นว่าหยินชางก้าวเดินมา อย่างช้าๆ หัวใจของเลือดพิราบก็เต็มไปด้วยความหวาดกลัวจากภายใน ขณะที่เขาพูดในลําคอออ กมา “ข้าไม่คิดเลยว่าเขาจะยกระดับจนถึงปราณวิญญาณขั้น 9 นี้!”

 

หยินชางแค่นเสียงอย่างเย็นชาขณะที่เขาพูดอย่างเย่อหยิ่ง“เจ้ากล้าแสดงความสบประมาทต่อ หน้าราชา? หาที่ตาย!”

 

“ถ้าหากสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นอีก เจ้าควรจะรู้ว่าผลที่ตามมาคืออะไร!”

 

หยินซางจ้องมองเลือดพิราบอย่างเย็นชาในขณะที่เขาใช้ความกดดันของเขาก็กดทับให้เลือด พิราบคุกเข่าลง ด้วยเหตุนี้แม้ว่าเขาจะไม่เต็มใจเขาก็ไม่อาจต้านทานใดๆได้

 

แต่เลือดพิรายยังคงมองลั่วเทียนที่หางตาอย่างเย็นชา

 

นี่คือทั้งหมดที่เขาสามารถทําได้ในตอนนี้เพราะเขารู้ว่าเขาจะไม่มีโอกาสโจมตีอีกต่อไป.

 

ถั่วเทียนจะกลายเป็นผู้พิทักษ์ไม่มีวันตายของหยินสงเมื่อมาถึงจุดนี้ริมฝีปากของเลือดพิร าบก็ยิ้มออกมาอย่างเย็นชาขณะที่เขาพูดกับถั่วเทียน “แม้ว่าเจ้าจะไม่ได้ตายในมือของข้า เจ้าก็ยัง ต้องมีชีวิตอยู่กับความทรมาณอย่างเลวร้ายยิ่งกว่าความตาย 555..”

 

หยินซางเริ่มเดินทีละก้าว ที่ก้าว ก่อนที่จะมาถึงตัวถั่วเทียน

 

“Level 2 Berserk!”

 

“ไฟแม็กม่า…”

 

มือและเท้าของถั่วเทียนกลายเป็นหินหนืดทําให้อากาศรอบๆกลายเป็นหมอกควัน กําปั้นของถั่วเทียนรั้งกลับมาก่อนที่จะปล่อยออกไปด้วยพลังทั้งหมด!

 

หยินซางดูเหมือนจะไม่สนใจขณะที่เขายิ้มอย่างเย็นชา “การจู่โจมของเจ้าอ่อนแอยิ่ง”

 

เขาไม่หลบเลยและปล่อยให้การโจมตีของถั่วเทียนกระทบตัวเขา

 

หมัดสีแดงเพลิงของถั่วเทียนต่อยออกไปอย่างแรงตรงที่มีแมลงภู่ที่หัวของหยินซางในทางเท คนิคแล้วแมลงภู่ควรจะเป็นจุดอ่อนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของหยินซาง แต่หมัดของถั่วเทียนรู้ สึกเหมือนกับว่ากระทบเข้ากับแผ่นเหล็กหนา มันไร้ประโยชน์อย่างสมบูรณ์!

 

หากจะพูดถึงศัพท์ในเกมส์ มันก็ต้องขึ้นเป็นตัวหนังสือว่า Miss ตัวบักเอ็ก

 

เขารู้ว่าเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหยินซาง แต่เขาก็ยังอยากรู้ว่าหยินชางแข็งแกร่งแค่ไหน อย่างน้อ ยก็รู้ถึงทักษะพิเศษของบอส เพื่อที่จะให้เขาได้วางกลยุทธ์สําหรับการโจมตีของเขาในครั้งต่อไป

 

การโจมตีของลัวเทียนก็เหมือนกับเป็นการเกาให้เค้า!

 

บอสแข็งแกร่งมาก!

 

หยินชางจับถั่วเทียนและยิ้มอย่างดุร้าย ในมือซ้ายของเขาเป็นแมลงภู่ที่ส่องแสงสีเขียว จากนั้นเขาก็หัวเราะอย่างตื่นเต้น “มาเป็นหนึ่งในผู้พิทักษ์อมตะของข้าและข้าจะมอบชีวิตนิรันดิ์ ให้กับเจ้า 555..”

 

ถั่วเทียนคิดและความตั้งใจที่ซ่อนอยู่นั้นได้เริ่มเดินหน้าแล้ว จากนั้นเขาก็พูดกับตัวเอง “ทะเล ซากศพ บิดามาแล้ว!”

 

“แม่งเอ้ย รอให้บิดากลับมาก่อนเถอะ!”

 

Comment

Options

not work with dark mode
Reset