เกิดใหม่เป็นตัวร้ายโหลยๆแล้วทำไม? ผมจะช่วยน้องนางเอก(อวย)ของผมเอง!! – ตอนที่ 136: โลกใบนี้มีแต่คำโกหก

< < 108 > >

ศูนย์กลางโลก ยังไงซะก็ยังเป็นศูนย์กลางโลก

ยูจิลืมตาตื่นขึ้นมาในโลกแห่งความว่างเปล่า บนโลกที่ไม่มีผืนดินหรือท้องฟ้า ที่ๆเขาอยู่มีเพียงสีขาวเท่านั้น หากให้นิยามสั้นๆง่ายๆก็คงเป็น ‘โลกสีขาว’

ที่แห่งนี้คือสถานที่ในฝันของยูจิ ในตอนที่ยูจิหลับเขาจะถูกส่งมาโลกใบนี้และพบกับ—ชายที่หน้าตาคล้ายกับเขาทุกประการ นาม ‘ออร่า’

วันนี้เองก็เหมือนกับทุกวัน ออร่านั่งอยู่บนเก้าอี้บนโลกสีขาวและจ้องมาทางยูจิ 

เหมือนกับทุกๆครั้ง เพราะเหมือนกับทุกครั้งยูจิเลยไม่ได้ประหม่าอะไร ทั้งเรื่องที่ตนอยู่ในโลกสีขาวหรือเรื่องที่มีคนหน้าคล้ายตัวเองมาคุยด้วย

“วันนี้ก็ขอรบกวนด้วยนะครับ”

ยูจิกวาดมือหนึ่งครั้ง ทำให้มีเก้าอี้ปรากฏขึ้นมา ยูจิเลยนั่งลงอยู่ตรงข้ามออร่า

“วันนี้ก็เหมือนทุกวันครับ ผมพยายามฝึกฝนฝีมือตัวเองอยู่ ..ตามคำแนะนำของคุณออร่า”

ไม่ใช่แค่ครั้งแรก บ่อยครั้งที่ออร่าได้พูดคุยกับยูจิในโลกสีขาว และเหมือนว่าออร่าจะให้คำแนะนำแก่ยูจิในการพัฒนาตัวเองตลอด ..แล้วก็ใช่ บนโลกนี้ยูจิไม่จำเป็นต้องพูดอะไรทั้งนั้น เพราะออร่าสามารถอ่านความคิดทั้งหมดของยูจิได้

ยูจิไม่ใช่ชายที่มีเรื่องต้องปิดบัง เขาไม่มีอะไรจะปกปิดกับใคร เพราะอย่างนั้นเลยหายห่วงและก็ไม่ได้รู้สึกขยะแขยงเลยแม้แต่น้อย

“วันนี้ข้ามาแปลกหน่อยนะ แต่อย่าได้ใส่ใจเลย ถ้าเกิดสนิทกันแล้วต่อให้แปลกแต่ก็รับได้ เหมือนกับพวกเพื่อนๆของเจ้านั่นแหละ”

ได้ยินอย่างนั้นยูจิก็หัวเราะแห้งๆ ไม่ได้ปฎิเสธซะทีเดียว

“มีเรื่องอยากไหว้วานให้ทำสักหน่อยน่ะนะ”

“ว่าแต่มีเรื่องอยากให้ช่วยเนี่ย เรื่องอะไรเหรอครับ?”

ออร่าหรี่ตาลงเล็กน้อยและยิ้มออกมา ยูจิแอบตกใจเพราะปกติออร่าไม่ได้ยิ้มเลยสักนิด เป็นคนที่ชอบเล่นคำเล่นการเปรียบแทบแบบเอาฮาที่ไม่เคยยิ้มเลยสักครั้งแท้ๆ

พอเห็นรอยยิ้มของออร่า ยูจิก็พยักหน้าให้รัวๆทั้งรอยยิ้ม

“หวังว่าจะไม่รบกวนเวลาเจ้านะ”

“ไม่เลยครับๆ กลับกันผมต้องขอบคุณทางคุณออร่ามากกว่าที่อุตส่าห์ช่วยผมในหลายๆเรื่อง ..อย่างตอนที่ต้องสู้กับการ์ป คุณก็ให้อลันมาทำให้ผมพอสู้ได้” ยูจิยิ้มเจื่อน “ถึงตอนสุดท้ายจะพลาดท่าโดนคุณการ์ปเล่นงานก็เถอะครับ ..ขอโทษด้วยครับ”

ยูจิกล่าวขอโทษทันทีที่นึกถึงเรื่องในคราวนั้น ตัวเองพ่ายแพ้ให้กับการ์ปและถูกฆ่า แต่ก็ฟื้นคืนชีพได้ด้วยพลังของออร่า ทั้งๆที่ก่อนหน้านั้นออร่าพึ่งให้อลันมาช่วยแท้ๆแต่ก็ยังแพ้ ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นค่อนข้างเสียมารยาททีเดียว

“อย่าได้ใส่ใจไป การที่เจ้าไม่ตายเป็นเรื่องที่ดีที่สุดอยู่แล้ว ผู้รอดต่างหากคือผู้ชนะที่แท้จริง”

ช่วงประโยคสุดท้ายเสียงของออร่าแข็งขึ้นมาเหมือนฝืนที่จะพูด

“เป็นเพราะคุณออร่า ผมถึงมีชีวิตอยู่ถึงตอนนี้ ..ผมพร้อมจะทดแทนบุญคุณครับ”

“บุญคุณสินะ ..นั่นสินะ” ออร่ายิ้มอีกครั้ง “ช่วยฆ่าเรเซอร์ที”

พูดเหมือนกับเป็นเรื่องปกติ ยูจิจ้องออร่าด้วยสีหน้าที่ไม่อยากจะเชื่อ ยูจิข่มอารมณ์ตัวเองไว้และถามกลับอย่างใจเย็น

“ทำไมต้องคุณเรเซอร์ครับ”

“ครั้งก่อนข้าก็บอกเจ้าไปแล้วนี่ว่าอย่าได้ไว้ใจชายที่ชื่อ ‘เรเซอร์ ดราแคล์’ น่ะ”

“คุณเรเซอร์ไม่ใช่คนอย่างนั้นครับ”

ออร่าถอนหายใจเฮือกโต

“ช่วยไม่ได้ คงต้องขอยกเลิกคำไหว้วาน นึกว่าตัวเจ้าที่พร้อมจะรับคำไหว้วานของทุกคนเสมอจะพร้อมรับฟังข้า และทำตามเสียอีก”

“..ขอโทษด้วยนะครับ นั่นผมทำไม่ได้หรอก เรื่องอย่างการฆ่าคนน่ะ ..แถมยังเป็นคุณเรเซอร์อีก เขาเป็นเพื่อนคนสำคัญของผม แล้วก็ให้ตายยังไงผมก็สู้เขาไม่ไหวหรอกครับ คุณเรเซอร์แข็งแกร่งยิ่งกว่าผมไปหลายขุมเลยนะครับ ..อีกอย่างทำไมถึงเป็นคุณเรเซอร์ล่ะ?”

“สักวันเจ้าจะรู้ตัวเอง”

(สักวันจะรู้ตัวเหรอ ..)

คำตอบของออร่าสร้างความกังวลขึ้นในใจของยูจิโดยไม่รู้ตัว

“สรุปคือ ไม่ว่ายังไงเจ้าก็จะไม่ฆ่า เรเซอร์ ดราแคล์ ตามนั้นนะ

“ครับ ขอโทษด้วยนะครับ”

“ไม่หรอก อย่าที่เจ้าพูด ตัวเจ้าในตอนนี้ไม่สามารถเอาชนะได้ แต่เดิมมันเป็นข้อเสนอที่โง่เขลาอยู่แล้ว ..เช่นนั้นขอลดระดับมาแทนล่ะกัน เอาเป็นหลังเจ้าตื่นนอนแล้ว ช่วยไปสถานที่ที่ข้าอยากให้ตรวจสอบแทนหน่อยได้รึเปล่า”

(ตรวจสอบสถานที่? จะว่าไปพวกคุณเรเซอร์ก็กำลังตรวจหาที่ที่หนึ่งอยู่เหมือนกันอีก บังเอิญจังเลยนะ)

“เป็นที่แบบไหนเหรอครับ”

“ข้าไม่สามารถอธิบายได้ เรื่องทางไปและวิธีเข้าถึงที่แห่งนั้น พอตื่นเจ้าจะรู้ตัวเองโดยธรรมชาติ เรื่องตรวจสอบ เอาเป็นว่าเอาตามที่เจ้าเห็นว่าควรเป็นพอ แล้วก็ห้ามบอกใครเด็ดขาด”

ยูจิตอบกลับทันที

“เข้าใจแล้วครับ ถึงข้อเสนอที่ให้มามันจะงงๆนิดหน่อยก็เถอะ”

“ทั้งหมดก็เพื่อเจ้าล่ะนะ”

“เพื่อผม?”

ออร่าพยักหน้า

“ไม่ทางตรงก็ทางอ้อม การที่เจ้าทำตามที่ข้าบอกมันดีต่อตัวเจ้า เชื่อข้าสิ”

..ยูจิเงียบไป เขาแบมือมองมือตัวเองก่อนจะค่อยๆยิ้มออกมา

“ตัวผมเป็นใครกันแน่ ผมยังไม่รู้เลยครับ ..คุณออร่าน่าจะรู้นะว่าผมเสียความทรงจำไป พึ่งได้เริ่มชีวิตใหม่ก็สี่ห้าปีมานี้เองครับ ..ดีต่อผมเนี่ย ..ผมไม่รู้เหมือนกันว่ามันดียังไงก็ตัวผมจริงๆคือใครผมยังไม่รู้เลยนี่นา ..อา ขอโทษครับ มานั่งบ่นให้คุณออร่าฟังซะได้”

“ตัวตนที่เจ้าอยากจะเป็นมีรูปร่างยังไงกัน”

(..แน่นอน)

“ปกป้องทุกคนได้ ห้าวหาญ ทรงปัญญา..ผมอยากเป็นเหมือน คุณเรเซอร์ ครับ”

ออร่าเงียบกริบ เขาทำเพียงลุกขึ้นยืนจากเก้าอี้ นั่นทำให้เก้าอี้ถูกย้อมด้วยสีขาวของโลกใบนี้

“..คุณออร่า”

“ยูจิข้าจะเตือนเจ้าอยู่เรื่องหนึ่ง–”

“ ‘อย่าได้ไว้ใจ เรเซอร์ ดราแคล์’ ..จะพูดอย่างนั้นสินะครับ”

ออร่ายักไหล่ให้พลางหัวเราะออกมา ยูจิพลอยหัวเราะตามไปด้วยตามนิสัยของตัวเอง

เรื่องนี้สำหรับยูจิเป็นเรื่องปกติที่ออร่ามักจะพูดประจำ

“ข้าแนะนำเจ้า”

“ต้องขอบคุณสำหรับความหวังดีครับ แต่ผมจะเลือกเองครับว่าคนไหนที่ผมควรเชื่อใจ คนไหนที่ผมไม่ควรเชื่อใจ คิดว่านั่นเป็นวิธีที่ดีที่สุดสำหรับผม ..สำหรับผมที่ไร้ซึ่งตัวตน นั่นคือการสร้างตัวตนที่ผมต้องการครับ–ลำดับแรก เริ่มจากการได้เลือกก่อนครับ”

“ยูจิ ..สักวันเจ้าจะผิดหวัง เจ้าจะเสียใจกับทางเลือกของตัวเอง จะต้องสูญเสียจนเสียใจนับไม่ถ้วนแน่นอน แน่นอนเจ้าคงได้หลั่งน้ำตาแน่ๆกับทางเลือกของตัวเอง คงคิดกลับไปแก้ไขหลายต่อหลายครั้งจนบางวันก็รู้สึกอยากตายให้จบๆไป ..ความทรมานกำลังรอเจ้าอยู่ เพราะอย่างนั้นแหละ—แน่ใจแล้วเหรอ?”

เนื้อความนั้นแสนคุ้นเคย ..เหมือนกับที่ยูจิเคยได้ยินมาจากอลันเลยไม่มีผิด ประโยคต่างกัน แต่คำแนะนำนั้นเหมือนกัน ที่พูดมากพอต่อมความทรงจำของยูจิถูกกระตุกอีกครั้ง

คำแนะนำที่ถามซ้ำว่า ..แน่ใจแล้วเหรอ? สักวันจะต้องเสียใจ ถึงอย่างนั้นก็ยังจะยอมรับเหรอ?

“ผมแค่เชื่อเพื่อนผมเองนี่ครับ ..ถ้าผมพลาดคือผมผิดเอง โทษใครไม่ได้ครับ อาจจะเสียใจแตก็ทำอะไรไม่ได้ก็อย่างที่คุณพูดครับ ผมคงจะเสียใจจนอยากตายไปข้างเลย ในตอนสุดท้ายผมคงอยากแก้ไขทุกอย่างก็จริง แต่ถ้าพลาดไปมันคงแก้อะไรไม่ได้ ..แต่ยังไงก็เถอะ ผมก็ยังอยากเชื่ออยู่ดี”

“..ข้าไม่คิดจะตำหนิคำตอบของเจ้าหรอก”

โลกสีขาวค่อยๆจาง เหมือนกับสัญญาณบอกลาระหว่างผมกับคุณออร่า

“โลกใบนี้มีแต่คำโกหก ..เข้าใจความหมายรึเปล่า?”

อย่างกับตั้งใจบอกว่ายังไงก็ห้ามไว้ใจเรเซอร์ ..ทว่า ยูจิชักไม่แน่ใจแล้วว่าใครกันแน่ที่กำลังโกหก คำพูดของออร่ามันจะน่าเชื่อถือนั้นเหรอ? ไม่ใช่ว่าทั้งเรเซอร์และออร่าโกหกกันทั้งคู่เลยเหรอ? ..ในเมื่อโลกมีแต่คำโกหกน่ะ

“ถ้าได้คำตอบเมื่อไหร่ผมจะมาตอบนะครับ”

หน้าที่ของยูจิคือหาคำตอบ ออร่าพยักหน้าอย่างพึงพอใจ เพราะนั่นคือหน้าที่ของ ‘ศูนย์กลางโลก’

ทันใดนั้นโลกสีขาวก็หายไป ยูจิลืมตาตื่นขึ้นในโลกสีดำที่ไร้ซึ่งแสงไฟ ..เป็นผลจากการไม่ได้เปิดไฟนอน

ยูจิลุกขึ้นออกจากเตียง และอย่างที่ออร่าว่า เขารู้วิธีไปที่ที่ออร่าวานให้ไปแล้ว

 

****

“เอาจริง?”

‘จริงค่ะ’

หลังจากพักผ่อนโดยการชมวิวไปได้แค่ชั่วโมงเดียวผมก็เจอเรื่องปวดหัวประการที่สองเข้า—-เหมือนว่ามิรันด้าจะเป็นสายลับจากเนลยอน นี่ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจเท่าไหร่ แต่ที่น่าแปลกคือมิรันด้าดันเป็น ‘วิน’ ผู้ใช้วิญญาณระดับเทพราชาไสยศาสตร์เนี่ยสิ

อย่างที่เคยเกริ่นไว้หลายๆครั้ง วินคือคนสำคัญของอาณาจักรเนลยอน ในเนื้อเรื่องช่วงเกือบไฟต์สุดท้ายกับจอมมาร พวกยูจิก็ต้องสู้กับเนลยอนก่อนและแน่นอนก็เลี่ยงที่จะซัดกับวินไม่ได้ วินคือศัตรูตัวฉกาจ เป็นตัวร้ายที่สร้างความประทับใจได้พอดู จากการที่ทำให้ยูจิช่วยที่แกร่งอย่างกับพระเจ้าลำบากได้ และแน่นอนตามสูตร วินคือหนึ่งในผู้กระทืบเรย์ในศึกกับเนลยอนด้วยเช่นกัน

และตามที่รู้ๆกันว่าผมไม่รู้หน้าของวิน ตอนแรกก็ไม่คิดว่าวินเป็นผู้หญิงอย่างมิรันด้าด้วยซ้ำ แต่ก็ช่วยไม่ได้นี่นา เหมือนคนเขียนตั้งใจไม่ให้ใครรู้ตัวตนของวินมากเลย แม้แต่เพศก็ไม่ทราบ ถึงขนาดที่คนต้องตั้งกระทู้วิเคราะห์เพศของวินกันเลยนะ…ให้ตายสิ เรื่องตลกอะไรกันนะ เจ้าคนเขียนนิยายต้องการทำให้ผมลำบากถึงขนาดไหนจึงจะพอใจกันนะ

ผมถอนหายใจเฮือกโต

แค่เรื่องก้อนมานายักษ์กับอักษณโบราณไม่พอ ยังมีเรื่องของวินหรือมิรันด้ามาให้ปวดหัวเล่นอีก พับผ่าสิ

‘ฉันขอเสนอให้มาสเตอร์เมินเรื่องของวินไปก่อน’

เธอไม่อยากคุยกับอาจารย์ของตัวเองเลยไง?

‘มาสเตอร์น่าจะรู้ลำดับความสำคัญดีนี่ ทำเรื่องที่ตัวเองต้องทำตอนนี้ไปก่อนเถอะ’

“ครับๆ ..จะว่าไป”

‘ค่ะ เหมือนว่าคุณยูจิจะนั่งเล่นอยู่ชั้นล่างนะคะ”

ผมกับยูนาพากันมองยูจิที่นั่งเล่นอยู่บริเวณสวนของหอพัก

“..ตื่นเร็วจังนะ ไปทักทายหน่อยดีกว่า ช่วงนี้ไม่ค่อยได้เจอหน้ากันเลย”

เพราะวันๆผมเอาแต่หมกตัวค้นคว้าข้อมูลนี่นะ

..

ผมลงไปหายูจิโดยการย่องเบาเข้าไปใกล้ๆและจับไหล่เจ้าตัว

“ทายสิใครเอ่ย”

“อรุณสวัดดิ์ครับคุณเรเซอร์ ตื่นเร็วจังเลยนะครับ”

ยูจิหันมาทักทายด้วยรอยยิ้ม เหมือนจะเมินที่ผมเล่นทายสิใครเอ่ยแฮะ

“พอดีโดนเบลลามีวางยาน่ะนะเลยหลับตั้งแต่เย็นๆเลย”

“ละ เล่นกันแรงจังเลยนะครับ”

คิดว่าเล่นกันซะอย่างนั้น ให้ตายสิยูจิเนี่ยนะ

“ทางนายเองก็เถอะ ตื่นเร็วพอดูเลยนะ”

“นั่นสินะครับ แค่นึกได้น่ะครับว่ามีเรื่องต้องทำ”

ยูจิพูดพลางหรี่ตาลงเล็กน้อย เหมือนกำลังครุ่นคิดเรื่องบางอย่างอยู่ ซึ่งดูจากสีหน้าแล้วน่าจะหนักเอาเรื่องเลย

“เป็นอะไรไป ฝันร้ายเหรอ?”

“..ไม่ใช่ฝันร้ายหรอกครับ แค่ได้เรื่องกลับมาคิดเล็กน้อยน่ะครับ”

เรื่องเก็บมาคิดสินะ ..ยิ่งไปกว่านั้นความฝัน หรือว่าจะได้เจอแล้วกัน เจอกับ ‘ออร่า’ เทพแห่งวัฐจักรผู้อยู่ในจิตใต้สำนึกของยูจิ แต่ก็ตามคาด ทุกอย่างเร็วเกินไปแล้ว ควรจะอีกสักพักเลยที่ยูจิจะได้เจอกับออร่าเป็นครั้งแรกตามเนื้อเรื่องนิยาย ..เนื้อเรื่องในนิยายตอนนี้แทบจะพังหมดแล้ว บอกได้เลยว่าเป็นเนื้อเรื่องคนล่ะรูทอย่างแท้จริง

“เรื่องที่เก็บมาคิดเนี่ย จริงจังรึเปล่า—อย่างฉันก็เคยเก็บมาคิดนะว่าเมนูข้าวอันไหนอร่อยที่สุด เล่นคิดในใจเป็นชั่วโมงเลยกว่าจะได้คำตอบ”

ลำบากแทบแย่ล่ะตอนนั้น ผมแสดงออกทางสีหน้าอย่างชัดเจน ยูจิเห็นก็ยิ้มให้

“ก็เป็นเรื่องที่จริงจังพอตัวครับ”

“เหรอ”

“ครับ ..คุณเรเซอร์”

ยูจิเรียกชื่อผม ผมผงกหัวรับ ยูจิเลยพูดต่อ

“..ผมสามารถไว้ใจคุณได้รึเปล่าครับ?”

จู่ๆก็ถามอย่างนั้นเฉยเลย ไว้ใจผมเหรอ? ต้องถามว่าอะไรทำให้ถามอย่างนั้นมากกว่า การถามอย่างนั้นมันเหมือนกับการบอกเป็นนัยน์ว่า–ผมแอบไม่ไว้ใจคุณเล็กน้อยเลยไม่มีผิด

“ผมกลัวถูกหักหลังครับ” ยูจิพูดขึ้น “ขอโทษด้วยนะครับที่พูดเรื่องไม่ดีอย่างนี้”

เหมือนจะเจออะไรบางอย่างเข้ากระมัง เพราะยูจิตอนนี้ดูอ่อนแอพิลึก ไม่ใช่ด้านร่างกายแต่เป็นด้านจิตใจที่ปกติมักจะแข็งแกร่ง

เวลานี้ผมควรเลือกคำตอบที่ดีที่สุดเพื่อเรียกความมั่นใจของยูจิกลับมา …อย่างการอธิบายความดีของตัวเองที่ควรค่าแก่การไว้ใจ ใช่ ควรจะบอกว่าโปรดไว้ใจผมเถอะ

แต่ปากมันก็ไปเอง

“เรื่องนั้นนายควรตัดสินเอง”

นี่ไม่ใช่คำตอบที่ดีที่สุด ผมทำผิดแผนอีกแล้ว แต่ก็ช่างมันสิ ..กับเพื่อน ..กับเพื่อนอย่างยูจิ ผมจะตอบจากใจจริง เพราะเป็นเพื่อนจึงต้องเริ่มจากการตอบจากใจจริง

“แน่นอนว่าทางฉันไว้ใจนาย เพราะคิดว่าเป็นเพื่อนเลยอยากไว้ใจ”

“..คุณเรเซอร์”

ยูจิพึมพำพลันเงียบไปชั่วขณะหนึ่ง ก่อนกลับมาปั้นยิ้มให้ผมเหมือนทุกที

“ผมเองก็เชื่อใจครับ เพราะคุณเรเซอร์คือเพื่อน ไม่มีทางหักหลัง”

“แหงอยู่แล้ว”

ผมยื่นหมัดไปให้ยูจิ ยูจิชนหมัดกลับโดยไม่ต้องรอให้ผมพูดอะไรทั้งนั้น

ไทไฟต์แบบเพื่อน—ภายใต้แสงจากดวงจันทร์ พวกเราต่างคิดในใจว่าจะเชื่อใจซึ่งกันและกัน ใช่ สัญญาไว้ว่าจะไม่หักหลังกัน …ทว่ามีเรื่องหนึ่งที่ผมไม่ตระหนักรู้เลยว่าคำว่า ‘หักหลัง’ กับ ‘เพื่อน’ มันคือสิ่งที่เกิดขึ้นบ่อย แม้แต่ในโลกนิยายสุดแฟนตาซึก็เหมือนกันหมด

แน่นอนความคิดที่ว่ายูจิจะหักหลังมันไม่เคยมีอยู่ในหัวเลย ทางยูจิคงคิดแบบเดียวกับผม พวกเราไม่มีทางหักหลังกัน เว้นแต่ว่าโชคชะตามันจะเล่นตลก ทั้งหมดไม่ใช่ความผิดของใครเลย มันเป็นเพราะ ..

“โลกใบนี้มีแต่คำโกหก ..คิดอย่างไรกับข้อความนี้หรือครับ”

“..ไม่รู้สิ รู้สึกว่ามันทั้งจริงและไม่จริงไปในตัวกระมัง” ผมพูดพลางแหงนหน้ามองท้องฟ้า “แต่มันดูไม่ใช่เรื่องไกลตัวเลย สักวันคงจะรู้เอง คิดว่าพอแก่คงจะตรัสรู้เองแหละ”

“คิดอย่างนั้นเหมือนกันครับ”

ได้แต่หวังว่าคำตอบของข้อความนี้มันจะอ่อนโยนล่ะนะ

 

เกิดใหม่เป็นตัวร้ายโหลยๆแล้วทำไม? ผมจะช่วยน้องนางเอก(อวย)ของผมเอง!!

เกิดใหม่เป็นตัวร้ายโหลยๆแล้วทำไม? ผมจะช่วยน้องนางเอก(อวย)ของผมเอง!!

เกิดใหม่เป็นตัวร้ายโหลยๆแล้วทำไม? ผมจะช่วยน้องนางเอก(อวย)ของผมเอง!!
Status: Ongoing
อ่านนิยายเรื่อง เกิดใหม่เป็นตัวร้ายโหลยๆแล้วทำไม? ผมจะช่วยน้องนางเอก(อวย)ของผมเอง!! << 0 >> รู้สึกว่าโลกเราช่วงนี้จะฮิตต่างโลกกันสินะ? ถ้าจำไม่ผิดนวนิยายประเภทไลทโนเวลของญี่ปุ่นในยุค 2020 จะฮิตกันเอาเรื่องเลย ขนาดผมก็เคยอ่าน หรือเคยดูอนิเมที่ดัดแปลงจากนิยายมาอีกทีไม่น้อยเลย ใช่ มันค่อนข้างสนุกเลย อาจจะเป็นเพราะมันช่วยสนองนีทให้ผมก็ได้ เพราะปกติผมมักจะเป็นผู้แพ้เป็นประจำทั้งๆที่พยายามากแล้ว พอได้เห็นคนๆหนึ่งประสบความสำเร็จอย่างสวยงาม ซึ่งนั่นก็คือพระเอกมันก็ชวนให้รู้สึกภาคภูมิใจในตัวเขาด้วย พร้อมไปกับสาวๆในฮาเร็มของแกด้วยอะนะ แต่ด้วยความที่เป็นตลาดที่ใหญ่ ทำให้มีหลายความเห็นตามไปด้วย หลายครั้งที่นิยายแนวนี้จะถูกวิจารย์ในเชิงไม่ดี อาทิเช่น ส้ำซากจำเจ เดาทางง่าย ตัวละครผู้หญิงง่าย ทุกอย่างง่ายไปหมด บางเม้นต์ก็ร้ายแรงขนาดบอกว่า ‘นี่ไม่ใช่นิยายแต่เป็นสินค้า’ อืม ถ้าในมุมผมก็ไม่ได้รังเกียจอะไรหรอก ออกไปในทางชอบด้วยซ้ำ แต่ขอติหน่อยเถอะ ตัวร้ายส่วนใหญ่ในเรื่องแนวนี้โคตรจะไม่น่าให้อภัย คนอะไรมันจะเลวได้ขนาดนั้น เลวถึงแก่นแท้เลยพวกตัวร้ายในนิยายต่างโลกเนี่ย ไม่น่าให้อภัยที่สุด โง่ก็โง่ กระจอกก็กระจอกชิบหายเลย ไร้ความคิดความอ่าน กลับตัวก็ไม่เป็น

Comment

Options

not work with dark mode
Reset