< < 172 Sec 2 > >
“นายดูจะเข้าได้กับความสามารถจำพวกคำสาปนะ เคียวยะ”
“คำสาป? ไอ้พวกโง่ที่ชอบเอาตัวรับคำสาป แลกกับพลังเรอะ? วิธีเก่งทางลัดแบบโง่ๆ”
“ไม่ใช่เซ่ๆ ถึงจะดูเป็นทักษะสำหรับพวกสิ้นหวังรึพวกสันหลังยาว แต่ในแก่นแท้แล้วมันมีศาสตร์ของการใช้โดยเฉพาะอยู่ มีความลึกและความยากที่มากกว่าหลายๆศาสตร์ เพราะแต่ละคนก็ต่างวิธีใช้งาน เพราะคุณค่าของร่างกายแต่กำเนิดไม่เท่ากัน ทำให้การใช้ต่างกันไปตามโครงสร้างร่างและจิตใจ ..ฉันคิดว่าถ้าเป็นนาย คงจะคุมทักษะพวกนี้อยู่แน่ๆ”
เรเซอร์ ไอ้จอมอวดเก่งพูดกับฉันขณะที่พวกเรากำลังนั่งฝึกเวทมนตร์กันในป่ามหาภูต หมอนั่นคิดจะให้คำแนะนำ แถมยังเป็นคำแนะนำที่ใหญ่ระดับตัดสินอนาคตของฉันต่อจากนี้ได้เลย
ไม่ได้คิดไปเอง หมอนี่รู้บางอย่างมากกว่าทุกๆคน คล้ายว่ามันสามารถมองทะลุคนบางคนได้ไม่ยาก อย่างฉันเองก็เป็นหนึ่งในเหยื่อกับความแปลกประหลาดของมัน พอพยายามไล่ตามความคิดมันมากๆเข้าในทุกๆวันก็เริ่มจับจุดความคิดได้
มันกำลังแนะนำให้ฉันใช้ทักษะสาปตัวเองแลกกับพลังอยู่ ด้วยความรู้ของมัน ทำให้รู้ว่าฉันเข้ากับศาสตร์นี้ได้ดีจึงแนะนำ
ถ้าหากแนะนำก็จะขอรับไว้ด้วยความยินดี ..
“แต่ถึงจะบอกว่าเข้ากัน แต่ก็ไม่ค่อยอยากให้ใช้เลยแฮะ”
ไอคนแนะนำจู่ๆก็ทำท่าจะถอนตัว ท่าทางดูน่าหงุดหงิดมากถึงมากที่สุด ทำเอาคุมอารมณ์ตัวเองเกือบไม่อยู่ แต่ก่อนที่จะได้บ่นอะไรไป
“เห็นด้วย”
เบลลามีที่นั่งเงียบมาตลอดเสริมขึ้นข้างๆ เธอจ้องที่ดวงตาของฉันตรงๆโดยไม่ได้หวาดกลัวการอ่านใจอะไรเลย แน่นอนว่าไม่คิดจะใช้หรอก แต่..ก็ไว้ใจกันมากเกินไป
“ไม่อยากเห็นเคียวยะทำร้ายตัวเองน่ะ ต่อให้จะเป็นการทำเพื่อแลกกับพลัง”
….
….
“คิดหรือไงว่าคนอย่างฉันจะยอมลดตัวไปใช้ทักษะชั้นต่ำพรรค์นั้นน่ะ ของอย่างนั้นมันไม่ได้ช่วยพิสูจน์ความแข็งแกร่งในตัวฉันได้เลยด้วยซ้ำ”
โกหก ตั้งใจจะทำตามอย่างที่พูดมาต่างหาก แต่ว่า ..ไม่อยากให้เจ้าพวกนี้มันเศร้า
การที่คนอย่างฉันถูกเป็นห่วง นั่นน่าเหลือเชื่อ แอบคิดมาตั้งนานแล้วว่าเป็นไปไม่ได้ แต่ว่าก็เกิดขึ้นแล้ว เพราะอย่างนั้นจะตอบสนองความต้องการนั้นสักหน่อยก็ไม่เห็นจะเป็นอะไร ฉันไม่ใช่พวกที่ไหลไปกับกระแสคำพูดของคนอื่น ไม่ใช่พวกที่ดีใจกับการถูกเป็นห่วง ไม่ใช่ไอ้คนโลกสวยอย่างยูจิ ไม่ใช่พวกไหลง่ายอย่างเรย์ ฉัน ..ฉันถือทิฐิประหลาดมาโดยตลอด
มันคือ ‘อีโก้’ ที่มากจนเกินไป ฉันรู้ดี แต่เพียงแค่สองคนตรงหน้าช่วยพูดอะไรมานิดหน่อย อีโก้ของฉันมันก็มักจะละลายหายไปทุกที
รู้ตัวอีกที ฉันก็อยู่ในสถานะที่ต้องถูกปกป้อง ไม่ต่างกับวันนั้นที่สองคนนี้ช่วยฉันบนดาดฟ้าของวิทยาลัยเวทมนตร์ วันที่ฉันทำเรื่องโง่ๆและน่าอับอาย ก็ไม่ใช่ใครเลยที่มาช่วยปกป้องฉัน ตั้งแต่วันนั้นมา ฉันก็คิดเสมอๆว่าปล่อยให้เป็นอย่างนี้ต่อไปมันดีแล้วเหรอ?
เอาแต่หลบอยู่หลังของไอ้คู่รักบ้าบอสองตัวนี้มันดีแล้วเหรอ? ใช้ชีวิตแบบนี้ต่อไปดีแล้วเหรอ?
และในที่สุดวันที่เรเซอร์พ่ายแพ้ก็มาถึง ฉันถึงได้สติ ว่า ‘ไม่ได้’
ตอนที่หมอนั่นแพ้ ตอนที่ยัยนั่นทำอะไรไม่ได้ คนที่จะต้องลากไอ้หมอนั่นลุกขึ้นมาใหม่ และคนที่จะไปพร้อมกับหมอนั่นเพื่อช่วยยัยนั่น มันคือฉัน ‘เคียวยะ’ คือฉันนั่นแหละ คือฉันที่อยากจะเติบโต ปารถนาจะแข็งแกร่ง ไม่ให้น้อยหน้าหมอนั่น ..อยากจะเป็นคนที่สุดยอด และคู่ควรแก่การไว้วางใจ อยากจะให้สองคนนั้นฝากหลังไว้ให้ฉันได้ อยากให้รู้ว่าต่อให้แพ้ก็ไม่เป็นไร ฉันคนนี้จะช่วยพยุงขึ้นมาเอง
การโค่น เมอัน ไม่ใช่แค่เพื่อช่วยหล่อน แต่ยังเป็นการสนองนีทตัวเอง เพื่อการนั้นแล้วฉันจะ—เป็นความแข็งแกร่งอันเป็นที่สุด
HOPE วัตถุที่เปี่ยมด้วยเจตจำนงศ์แห่งการพัฒนาเอ๋ย ..จงตอบรับเสียงแรกของฉัน และ—มุ่งสู่เส้นขอบฟ้าไปพร้อมกับฉันซะ
****
HOPE กู่ร้อง แสงสีม่วงพวยพุ่งออกจากเกราะทมิฬ คล้ายกับออร่าของตัวร้าย ความชั่วร้ายของมนุษย์ ความปารถนาอันแรงกล้ากำลังพุ่งออกจากแกนกลางของเกราะมนตรา
“อึก!!!”
เคียวยะเข้าต่อสู้กับเมอัน ด้วยพลังกายที่ทัดเทียม ด้วยพลังทำลายล้างที่สูสี เป็นการต่อสู้ที่ไม่มีใครน้อยหน้าใคร ความปารถนามากมายช่วยขับเคลื่อนเคียวยะไปให้ไกลกว่าเดิม ในทุกๆด้าน
“โอย”
เคียวยะกระโดดถีบหลังของเมอันจนปลิว เมอันตั้งหลักและสวนกลับ—โดนเข้าเต็มๆ ร่างของเคียวยะปลิวไปกับแสงสว่าง แต่ก็สามารถหักเหแสงได้ด้วยมือเปล่า จากนั้นก็วิ่งตามหลังคาบ้านเมือง
โชคดีที่ KY HOPE ไม่มีความสามารถในการบิน ทำให้การที่เคียวยะจะตามจับตัวเมอันได้นั้นจำเป็นต้องใช้เวทย์ลมช่วย ซึ่งเสียเวลาเป็นอย่างมาก และทำเสียจังหวะจู่โจมหลายต่อหลายครั้ง
‘ถ้ามีเวลากว่านี้สักเดือน คงจะติดตั้งหลายๆอย่างที่จำเป็นได้มากกว่านี้’ เคียวยะคิดในใจอย่างหัวเสีย เกราะมนตรา KY HOPE อยู่ในสภาพที่ไม่สมบูรณ์พร้อม ด้วยเวลาที่มีจำกัดในการพัฒนาไม่กี่วัน ทำให้เคียวยะสามารถเรียกได้แค่ประสิทธิภาพดั้งเดิม และติดตั้ง–ของเสริมเล็กน้อย
เมอันมองเคียวยะอย่าไม่อยากเชื่อสายตา
“พี่ชายควบคุมเกราะนี้ได้จริงๆเหรอ”
“เออ-สิ!!”
เคียวยะยิงเลเซอร์สีม่วงออกจากฝ่ามือ เมอันบินพลิกตัวหลบ และสวนกลับด้วยลำแสงนับร้อย เหมือนเดิม เคียวยะทำเพียงวิ่งหลบห่ากระสุนแสงแบบไม่ยากเย็น ด้วยดวงตามหาปราชญ์ และเกราะมนตราที่ช่วยยกระดับร่างกายมากโข
“เท่าที่หนูรู้ เกราะมนตราที่มีแกนกลางเป็น HOPE นั้นกินพลังงานของผู้ใช้งานเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะพลังกาย มานา หรือว่าสภาพจิตใจ ผู้ใช้จะถูกลดทอนทีละนิดๆไปจนหมด และอาจคลั่งได้หากฝืนตัวเอง แต่ดูๆแล้วพี่ชายเหมือนไม่ได้จ่ายอะไรเลย ..เพราะดวงตามหาปราชญ์เหรอ?”
“ไม่ใช่เรื่องที่ต้องบอก–!”
เคียวยะดีดตัวขึ้นฟ้าและเสริมตัวเองด้วยเวทย์ลมเพื่อไล่จับเมอัน เป็นอีกครั้งที่เมอันต้องหลบหลีกการโจมตีของเคียวยะอย่างยากลำบาก ระหว่างที่บินหนีเมอันก็พยายามชักถามต่อ
“ไม่มีทางที่พี่ชายจะไม่เสีย—-”
“ถ้ามานาก็เสียอยู่เว้ย!!”
เคียวยะถีบเมอันลงพื้น และแลนดิ่งลงพื้นตามมา–แสงสีม่วงซ้ำเข้าที่หน้าท้อง เมอันระเบิดธาตุรอบตัว เคียวยะกระโดดหลบ และพุ่งเข้าใส่พร้อมกับอัดเมอันจนเละ
เร็ว
อย่างน้อยแค่ความเร็ว เคียวยะก็มีเหนือกว่าเมอัน
“ย๊าก!!!!!!”
“อึก!!”
เมอันสร้างโล่ความมืดขึ้นมา และป้องกันการโจมตี พร้อมกับดูดเอาพลังงานของชุดเกราะ–ทว่าชุดเกราะกับมีออร่าสีม่วงพวยพุ่งขึ้น แสงสีม่วงค่อยๆเข้าโอบร่างของเมอัน
โล่แห่งความมืด ถูกลบหายไป ร่างอาภรณ์เทพมังกรคล้ายว่ากำลังละลาย เมอันรีบเตะเคียวยะออก และบินหนีทันที พริบตาเดียวพลังทั้งหมดก็กลับคืนสู่ร่างของเมอัน
“..ดูดกลืนมานา?”
ออร่าของ HOPE มีความสามารถในการดูดกลืนพลังงาน ไม่เว้นกระทั่งตัวผู้ใช้ เพราะอย่างนั้นทุกครั้งที่ใช้งาน HOPE ผู้ใช้จะต้องจ่ายค่าตอบแทนในทุกๆการขยับ มากน้อยไปตามปริมาณการใช้งาน เพราะอย่างนั้น KY HOPE จึงเป็นเกราะที่น่ากลัวในการสู้ระยะประชิด เนื่องจากว่าถ้าสู้ระยะประชิด แสงสีม่วงจะกลืนกินมานาของศัตรูแทนผู้ใช้งาน ทำให้สามารถใช้งานต่อได้โดยไม่มีปัญหาอะไร แถวยังบั่นทอนจิตใจของคู่ต่อสู้และพลังกายไปในตัวได้อีกด้วย
และจากการต่อสู้ก่อนหน้านี้มากมาย เมอันจงใจให้เคียวยะอัดท่าใหญ่ทุกอย่าง เพราะคิดว่าถ้าเคียวยะใส่เต็มมาเกินไป สามปัจจัยที่ต้องใช้ก็จะถูกดูดไปจนหมดอย่างรวดเร็ว ทว่า ..ตอนนี้ก็ยังแข็งแรงดี
เมอันงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น ถ้าเป็นผู้ใช้คนก่อนอย่าง JK เกิดใช้งานขนาดนี้ ป่านนี้ลงไปนอนหมดสติบนพื้นแล้วแท้ๆ
….
….!!
เมอันรู้สึกตัวได้แล้ว เธอมองขึ้นไปบนท้องฟ้าซึ่งมีโดรนตัวหนึ่งอยู่ เมื่อใช้ดวงตาในการประเมินมานาของเอลฟ์ดูก็ทำให้พอรู้ได้ว่ามันคืออะไร
“ภูต?”
เคียวยะใช้ภูตที่ควบคุมโดรนมาช่วยนั่นเอง แต่ว่า บนโลกใบนี้มันมีที่ไหนกัน ภูตที่ช่วยแบกรับผลกระทบให้ได้น่ะ อย่างแย่ เคียวยะควรจะเหนื่อยเร็วกว่าเดิมด้วยซ้ำ จากการใช้งานภูต
“โครินเป็นกรณีพิเศษ หล่อนเป็นภูตที่มีความสามารถในการเข้าถึงร่างกายของผู้ใช้งาน เป็นภูตที่ฉลาดถึงขนาดที่ฉันยังยอมรับ ..สามปัจจัย มานา พลังกาย และจิตใจ โดยแก่นแท้แล้ว สิ่งที่ใช้มีแค่มานาเท่านั้น แต่เพราะมานามีขอบเขตุที่เล็กเกินไป ทำให้การใช้งาน HOPE มันลามไปถึง พลังกาย และจิตใจไปด้วย โดยที่ทั้งสองสิ่งนี้ก็กำเนิดมาจากมานาเหมือนๆกัน” เคียวยะใช้มือโลหะชี้สมองของตัวเองด้วยท่าทางอวดดี “ที่ทำก็แค่ให้โครินแบกรับทุกอย่าง ภูตคือสิ่งมีชีวิตที่มีแค่มานา จะมีก็แค่มานาที่โดนกลืนกิน พลังกาย และจิตใจ ของฉันเลยยังอยู่ดี”
“..หมายความว่าพี่ชายจะเสียมานาเพิ่มสามเท่า และต้องเสียมานาให้ในส่วนของภูตที่ทำพันธสัญญาด้วยนะคะ”
ไม่ใช่ว่ามันควรจะหมดแรงเร็วกว่าเดิมเหรอ?
“แค่ให้โครินช่วยกลืนกินมานารอบๆ เพื่อไปจ่ายการทำงานของ HOPE ก็พอแล้ว”
“..แบบนั้นมัน..”
ทำได้ที่ไหน
“โครินเป็นภูตที่แตกต่างกับชาวบ้านชาวช่อง หล่อนเป็นภูตที่ไม่มีใครเอา เพราะความสามารถอย่างการดูดกลืนมานาผู้ใช้งาน แลกกับการใช้งานทักษะที่ผู้ใช้งานสามารถใช้ได้ ง่ายๆก็แค่ช่วยร่ายเวทย์ให้มากขึ้นแค่นั้น เป็นทักษะที่ฝึกกันได้ แต่จุดเด่นของโครินที่ไม่เหมือนใครก็มีอยู่ ..อย่างเดียวที่ต่างกับภูตตนอื่น—โคริน สามารถดูดกลืนมานารอบตัวได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นมานาของฉันก็ได้ แน่นอนทุกการใช้งาน ฉันจะต้องจ่ายมานาไปให้โครินอยู่ดี แต่ถ้าเทียบปริมาณกับค่าตอบแทนมันก็คุ้ม”
เคียวยะแบมือทั้งสองข้างให้เมอันดู
“ยกตัวอย่าง HOPE ต้องการสิบนิ้ว” เคียวยะโชว์นิ้วทั้งสิบ “ฉันจำเป็นต้องจ่าย พลังกาย 3 นิ้ว สติ 3 นิ้ว แล้วก็ มานา 4 นิ้ว แต่พอให้โครินแบกรับการกลืนกินแทน มันก็เปลี่ยนเป็น มานา 10 นิ้ว ..แต่ฉันอาศัยมานารอบตัวในการจ่ายค่าตอบแทน โดยที่ฉันต้องจ่ายมานาให้โครินในการใช้งานความสามารถ ผลลัพธ์ก็จะเปลี่ยนไปเป็น—”
เคียวยะยกนิ้วกลางในมือข้างซ้ายให้
“ฉันจ่ายมานาแค่ 1/10 ระหว่างการใช้งาน HOPE”
เงื่อนไขค่าใช้จ่าย 1/10
1.ต้องให้โครินช่วย
2.ต้องให้โครินในโดรนอยู่ห่างจากเคียวยะ เพื่อดูดกลืนมานารอบๆโดยไม่ให้ผลกระทบมาถึงเคียวยะ
3.จะขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งไม่ได้เด็ดขาด
ภายใต้เงื่อนไขที่เด็ดขาด ทำให้ค่าตอบแทนที่แสนน่ากลัวของ HOPE นั้นไร้ราคา
พอรู้อย่างนั้นเมอันก็ตั้งใจจะทำลายโดรนก่อน เธอจึงยิงแสงใส่โดรนจนพัง–ทว่า แสงสีม่วงกลับพุ่งใส่เมอันทันทีที่โดรนระเบิด
แขนหลุดออกจากร่างของเมอัน แต่ก็คุ้มสำหรับการตัดขาเคียวยะ–ทว่า โดรนกลับรักษาตัวเองได้
“โดรนเชื่อมต่อกับ KY HOPE มันคือส่วนหนึ่งของ KY HOPE ถ้าถูกทำลายมันก็จะได้รับการรักษาขึ้นทันที ทางเดียวที่จะทำลายการโกงค่าใช้จ่ายของฉันมีแค่—ชนะฉันให้ได้ตรงๆ!”
เคียวยะย่อตัวลงในท่าที่คล้ายกับจะออกตัววิ่ง แสงสีม่วงเปล่งประกายขึ้นที่ตาตุ๋มตรงเท้าข้างขวา
“[ชาร์จ]-[ONE]”
แผ่นสันหลังของเคียวยะเลืองแสงสีม่วง โดยที่มีขีดสีม่วงทั้งหมด 5 ขีด
ขีดหายไป 1 ขีด เหลือ 4/5 ขีด
จากนั้นร่างของเมอันก็ขาดครึ่ง
???????
เร็ว—เกินไป
อย่าว่าแต่มองให้ทันเลย ไม่รู้สึกถึงการเคลื่อนไหวเลยสักนิด
ชาร์จ-ONE ? อะไรละนั่น ไม่ใช่ความสามารถที่เคยมีอยู่ในเกราะมนตราตระกูล HOPE เลยด้วยซ้ำ
“ของเสริมไงโว้ย!!!!”
เคียวยะพุ่งด้วยความเร็วเท่าเดิม มาเล่นงานเมอันที่ประกอบร่างคืนซ้ำ ด้วยสภาพที่ไม่พร้อมหลังจากตัวขาด ทำให้เมอันโดนเล่นงานอยู่ท่าเดียว
แข็งแกร่ง ..แข็งแกร่ง—-แขนบดขยี้ร่างของเมอัน แสงสีม่วงเข้าทำลายพลังของเมอัน ทุกการเคลื่อนไหว ทุกการตอบโต้ถูกสะกัดไว้โดยออร่าสีม่วงที่แสนอันตราย
แข็งแกร่ง–
“แข็งแกร่ง–”
เคียวยะในตอนนี้–แข็งแกร่ง
****
ใกล้จากการต่อสู้ของ เคียวยะ และมหามังกรเทียม
ภรรยาของ JK HOPE หรือ อดีตเจ็ดคาบสมุทร ได้เฝ้าดูการต่อสู้เบื้องหน้า และยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจ
“ไม่คิดเลยนะว่าจะมีเด็กที่บ้าขนาดนี้อยู่บนโลก–เข้าต่อสู้กับมหามังกรเทียมตรงๆไม่พอ ยังไล่บดขยี้อีกฝ่ายจนเละ” หญิงชราหัวเราะพึมพำในลำคอ “ไม่ได้กลัวเลยว่าตัวเองจะพลาด คงเพราะพรสวรรค์ที่ยอดเยี่ยม ก่อให้เกิดความมั่นใจที่ล้นหลาม”
ดวงตามหาปราชญ์—ดวงตาแห่งเทพแห่งปัญญา สิ่งนั้นเป็นต้นกำเนิดความมหัศจรรย์ของเคียวยะ ทั้งการทำลายข้อจำกัดมากมายของ HOPE และการยกระดับตัวเอง
“ก้าวข้าม เกราะมนตรา JK HOPE คือความใฝ่ฝันของ JK และตอนนี้ก็ได้เป็นจริงแล้ว ..บัดนี้โลกได้กำเนิด KY HOPE เกราะมนตราของชายที่—กระหายในพลังมากที่สุดบนโลก”
หญิงชราหันหลังให้การต่อสู้ ไม่มีอะไรที่เธอต้องดูอีกแล้ว จากนี้และต่อจากนี้ เธอเชื่อว่าเคียวยะจะสามารถพาตัวเองไปสู่จุดที่เรียกว่าแข็งแกร่งที่สุดบนโลกได้ ด้วยปัญญาแห่งเทพ และการพัฒนาที่ไร้ขีดจำกัดของมนุษย์
ความฝันของผู้เป็นสามีได้ถูกเติมเต็มแล้ว–เรื่องราวของ JK ถึงตอนจบแล้ว ต่อจากนี้จะเป็นเรื่องราวของ KY HOPE ตามที่เคียวยะปารถนา
ป.ล.จากนี้จะเริ่มลงนิยายวันละตอนนะครับ