ภายในห้องรับแขกที่หรูหราของวิลล่านั้น นอกจากหุ่นยนต์ทำความสะอาดอัตโนมัติแล้ว ก็ไม่มีการเคลื่อนไหวอะไรอีก จนทำให้ภายในวิลล่าตกอยู่ในเงียบราวอยู่ในหุบเขาลึก
คำพูดนี้ของฉินหงเหยียนพิสูจน์ได้แล้วว่าข่าวที่หวังเจียเหยาคาบมาบอกเขานั้นเป็นเรื่องจริง เมื่อครู่นี้ฉินหงเหยียนอยู่กับคนรักเก่าของเจ้าหล่อนจริงๆ
แต่จากคำพูดของอดีตภรรยานั้นคือฉินหงเหยียนจะเลือกแต่งงานกับคนรักเก่า แล้วสลัดเขาทิ้ง
ฉินหงเหยียนทำตามที่เจ้าหล่อนรับปากเขาเอาไว้ หล่อนไม่ใช่ผู้หญิงที่จะหลอกลวงคู่ชีวิต จะไม่หลอกลวงเย่เฉินเหมือนที่หวังเจียเหยาทำ
ถ้าหากหญิงสาวทำผิดต่อเขาจริงๆ หล่อนจะเป็นฝ่ายยอมรับตรงๆ แล้วก็จะเป็นคนขอเลิกกับเขาเอง
เย่เฉินรู้จักนิสัยของแฟนสาวดี เขาเดาว่าวินาทีต่อมาฉินหงเหยียนจะต้องขอโทษเขา บอกว่าตนเองทำผิดต่อเขา จากนั้นก็จะขอเลิกกับเขา!
เดิมทีเย่เฉินก็คิดเอาไว้แล้วว่าจะตอบอีกฝ่ายอย่างไร
เขาจะยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดอย่างสงบนิ่งและใจกว้าง จากนั้นก็จะยอมเลิกรากับหญิงสาว
จากนั้นในวันใดวันหนึ่งข้างหน้าหลังจากเลิกรากันก็จะทำให้เจ้าหล่อนได้เห็นศักยภาพที่แท้จริงของเขา เขาจะชี้ไปที่ตึกไป๋ลี่แล้วบอกหญิงสาวไปว่าเดิมเขาตั้งใจจะยกที่นี่ให้หล่อน!
เพื่อให้หล่อนเสียใจภายหลังที่เลิกรากับเขา เหมือนที่หวังเจียเหยาเคยเผชิญมา
ทว่าในวินาทีนี้เขาไม่สามารถวางเฉยได้จริงๆ
ถึงแม้ว่าเมื่อครู่หวังเจียเหยาอดีตภรรยาที่สวยปานนางฟ้าจะพยายามกอดรัดฟัดเหวี่ยงเขาร่วมครึ่งชั่วโมง แต่ในวินาทีนี้เขากลับไม่รู้สึกอาลัยอาวรณ์หญิงสาวแม้แต่น้อย
หวังเจียเหยาไม่มีพื้นที่ในหัวใจของเย่เฉินอีกแล้ว ทั้งหมดในหัวใจของเขานั้นถูกแทนที่ด้วยฉินหงเหยียนไปแล้ว!
เย่เฉินได้ตกหลุมรักหญิงสาวที่มีอายุมากกว่าตนเองคนนี้ไปแล้ว
ในวินาทีนี้ ภาพของพวกเขาสองคนที่อยู่ด้วยกันจำนวนนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้นในหัวเขาไม่หยุด
ภาพเหตุการณ์ตอนที่ฉินหงเหยียนเห็นเขาแล้วตกใจกลัวจนต้องคุกเข่าขอโทษเขา
ตอนที่เขาโดนปลดออกจากตำแหน่งประธานบริษัท แล้วหญิงสาวก็ร่ำไห้เพราะเขา
ตอนที่ตนเองโดนข้อหาทำร้ายร่างกาย ฉินหงเหยียนวิ่งโร่หาเส้นสาย ไหว้วานคนอื่นเสมือนหนึ่งเป็นภรรยาของตนเอง
หรือหลังจากมาที่เทียนไห่แล้ว หญิงสาวออกเงินซื้อวิลล่า แถมเลียนแบบบทพูดจากในภาพยนตร์เรื่อง ‘คนเล็กไม่เกรงใจนรก’ โดยกล่าวกับเขาว่า “ฉันจะเลี้ยงงนายเอง”
เขาไม่อยากจะสูญเสียคนรักที่ดีแบบนี้ไป!
“ฉันกับเขา…” ฉินหงเหยียนเปิดปากเอ่ยช้าๆ
ทว่าเย่เฉินกลับไม่ยอมปล่อยให้หญิงสาวพูดจบ แต่ดึงหล่อนเข้าสู่อ้อมกอดทันที!
ฉินหงเหยียนที่สวมชุดนอนที่เปิดเผยเรือนร่าง ก็ตกใจจนตัวสั่นเทิ้มไปเล็กน้อย
เย่เฉินกอดหญิงสาวเอาไว้แน่น แล้วกล่าวด้วยอารมณ์
“ไม่ต้องพูดแล้ว ผมไม่อยากได้ยินว่าระหว่างพวกคุณสองคนมันเกิดอะไรขึ้น หงเหยียน อย่าไปจากผมเลย สิ่งที่ผู้ชายคนนั้นให้คุณได้ ผมก็ให้คุณได้เหมือนกัน กว่าผมจะชอบใครสักคนมันไม่ง่ายเลย ผมไม่อยากสูญเสียคุณไปแบบนี้…”
เป็นครั้งแรกที่เย่เฉินกล่าวอ้อนวอนอย่างจริงใจแบบนี้ต่อหน้าฉินหงเหยียน
ฉินหงเหยียนทำอะไรไม่ถูก ไม่รู้ว่าทำไมเย่เฉินถึงได้พูดอะไรแบบนี้ออกมา
จากคำพูดเมื่อครู่ของเย่ฉินนั่นแปลว่า ต่อให้เมื่อหล่อนทำอะไรๆ ต่อมิอะไรกับสวี่ฉู่หมิงทำ เขาก็ไม่อยากรู้และไม่สนใจ!
เขาแค่อยากอยู่กับฉินหงเหยียนเท่านั้น!
“สวรรค์”
พอฉินหงเหยียนนึกถึงคำพูดของเย่เฉินก็ตื้นตันจนอยากจะร้องไห้ออกมา หล่อนเองก็คิดไม่ถึงว่าเย่เฉินจะรักหล่อนขนาดนี้!
ฉินหงเหยียนยิ้มแล้วพูดด้วยน้ำตา “เด็กโง่ คุณพูดเหลวไหลอะไร ทำไมฉันต้องเลิกกับคุณด้วยล่ะ?”
เย่เฉินคลายอ้อมกอด ถอยตัวออกมาเล็กน้อยพลางมองหญิงสาวแล้วเอ่ยถาม “คุณจะบอกเลิกผมไม่ใช่เหรอ?”
ฉินหงเหยียนทำหน้าไม่ถูก “ทำไมฉันต้องเลิกกับคุณด้วยล่ะคะ? ฉันรักคุณขนาดนี้แถมกว่าจะจีบคุณติดก็ยากเย็น ทำไมฉันต้องขอเลิกกับคุณด้วยล่ะ?”
“แต่คุณกับผู้ชายคนนั้น…” เย่เฉินสับสน
หรือที่หวังเจียเหยาบอกว่าฉินหงเหยียนจะทิ้งเขาไปนั้นเป็นเรื่องโกหก?
เรื่องฉินหงเหยียนจะแต่งงานกับสวี่ฉู่หมิงเป็นเรื่องโกหกเหมือนกันงั้นเหรอ?
ฉินหงเหยียนอธิบาย “เรื่องเป็นแบบนี้ค่ะ วันนี้ตอนที่ฉันดูหนังสือในร้านฮั่นหยวนเสร็จก็บังเอิญเจอเขาพอดี เขาได้ยินเรื่องที่ฉันโดนตระกูลหลิ่วหาเรื่อง แล้วบังเอิญที่เขานับถือป็นพี่น้องกับหลิ่วหย่วนหาง สนิทสนมกันมาก ดังนั้นเขาถึงได้มาที่เทียนไห่เพื่อช่วยฉัน”
“เมื่อครู่ฉัน เขาแล้วก็พวกคนตระกูลหลิ่วกินข้าวด้วยกัน หลิ่วอวี่เจ๋อรับปากแล้วว่าจะไม่หาเรื่องพวกเราอีก”
“เย่เฉิน ฉันรู้ว่าฉันควรจะปรึกษาเรื่องนี้กับคุณก่อน เพราะไม่ว่ายังไงผู้ชายคนนั้นก็เป็นแฟนเก่าฉัน ให้เขาช่วย คุณคงจะต้องรู้สึกไม่สบายใจแน่ๆ”
“แต่ว่าตอนนี้ก็มีแค่เขาคนเดียวเท่านั้นที่พอจะช่วยแก้ไขปัญหาเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเรากับตระกูลหลิ่วได้จริงๆ พวกเขามีอิทธิพลมากขนาดนั้น ฉันกลัวว่าคุณจะเกิดอุบัติเหตุในเทียนไห่…”
สิ่งที่ฉินหงเหยียนเป็นกังวลนั้นก็ไม่ใช่ว่าจะไร้เหตุผลไปเสียทีเดียว ถ้าหากว่าหลิ่วอวี่เจ๋อบอกพ่อและปู่ของเขาเรื่องที่ตนเองมีลูกไม่ได้
ตอนนี้คาดว่าเย่เฉินที่ทำงานอยู่ทุกวันก็คงจะต้องโดนคนลอบทำร้ายมานับครั้งไม่ถ้วน!
เย่เฉินถาม “เขาเป็นฝ่ายมาหาคุณก่อน คุณไม่ได้เป็นฝ่ายไปหาเขาใช่ไหม?”
ในจุดนี้นั้นต่างจากสิ่งที่หวังเจียเหยาบอกเขา
ฉินหงเหยียนกล่าว “ฉันจะไปขอร้องเขาได้ยังไง? นั่นไม่เท่ากับว่าฉันรนหาเรื่องทะเลาะกับคุณเหรอ? ฉันเคยบอกแล้วไงว่าต่อให้คุณเป็นขอทานในเทียนไห่ฉันก็ไม่สนใจหรอก!”
เย่เฉินคลายความเศร้าใจลงไปไม่น้อยแล้ว ที่แท้ทั้งหมดนี้ก็เป็นฝีมือตาแก่นั่นที่เสนอตัวเข้าหาฉินหงเหยียนก่อน!
ฉินหงเหยียนไม่ได้เป็นฝ่ายทำอะไรก่อนทั้งนั้น!
“งั้นเมื่อกี้ที่ผมโทรหาคุณ ทำไมคุณไม่รับสายผมล่ะ? แล้วพอผมโทรหาอีกรอบ คุณก็ปิดมือถือไปเลย ตอนนั้น…คุณทำอะไรอยู่เหรอ?”
เย่เฉินไม่อมพะนำอีกต่อไปแต่กล่าวถามอีกฝ่ายตรงๆ
ฉินหงเหยียนกล่าว “คุณโทรหาฉันเหรอคะ? ฉันไม่รู้เลย ฉันวางโทรศัพท์ไว้บนโต๊ะ ฉันเองก็ไม่รู้ว่ามือถือปิดเครื่องไปตอนไหน ฉันก็คิดว่าแบตหมดไปแล้ว อ้อ ฉันรู้แล้วอาจจะเป็นฝีมือหลิ่วอวี่เจ๋อ! เขาชอบเดินมารินเหล้าให้ฉัน ที่รักคะ คุณเชื่อฉันเถอะค่ะ เมื่อครู่ฉันอยู่ในร้านอาหารตลอด แล้วที่นั่นก็ไม่ได้มีแค่ฉันกับเขา แต่ยังมีหลิ่วหย่วนหาง หลิ่วเฟิงแล้วก็หลิ่วอวี่เจ๋อด้วย นอกจากกินข้าวกับเขาแล้ว ฉันขอสาบานกับคุณว่าฉันไม่ได้ทำอะไรเลย!”
ฉินหงเหยียนชูนิ้วมือข้างขวาขึ้น
เย่เฉินคว้านิ้วเรียวงามนั้นแล้วกล่าวด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม “ผมเชื่อคุณ”
เย่เฉินรู้ว่าฉินหงเหยียนไม่ใช่ผู้หญิงแบบหวังเจียเหยา หล่อนไม่มีทางทรยศเขา!
หลังจากที่ความจริงเปิดเผยแล้ว เย่เฉินก็มีความสุขอย่างมาก!
แต่หลังจากที่ดีใจแล้ว เย่เฉินกลับรู้สึกผิดอย่างมาก!
เพราะว่าหวังเจียเหยาอาศัยโอกาสตอนที่เขาประคองหล่อน หอมเขาไปหลายฟอด
ดีที่หวังเจียเหยาตั้งครรภ์ได้สองเดือน ถือว่าเป็นช่วงเพิ่งตั้งท้อง หากว่าพวกเขาเกิดทำอะไรบ้าๆ กันขึ้นมาอาจจะเสี่ยงเกิดการแท้งได้
ดังนั้นหวังเจียเหยาจึงได้สะกดอารมณ์ตนเอง
นี่น่าจะเป็นเรื่องเดียวที่เย่เฉินรู้สึกว่าเป็นเรื่องโชคดี ถ้าหากว่าหวังเจียเหยาไม่ได้ตั้งท้องแล้วล่ะก็ เมื่อครู่จะเกิดอะไรขึ้นก็พูดได้ยากแล้ว
ส่วนเรื่องของหวังเจียเหยา เย่เฉินเองคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วสุดท้ายก็ไม่ได้บอกฉินหงเหยียน
ความรู้สึกที่เขามีต่อฉินหงเหยียนนั้นไม่ได้เปลี่ยนแปลงไป บอกหล่อนไปก็รังแต่จะทำให้อีกฝ่ายเสียใจเปล่าๆ!
เย่เฉินลอบสาบานกับตัวเองว่าต่อไปจะต้องชดเชยให้ฉินหงเหยียน เขาจะทำดีกับหล่อนให้มากขึ้นเป็นเท่าตัว
เย่เฉินได้สติกลับมาแล้วถามซ้ำ “คุณไม่ได้เจอเขามาเจ็ดปีแล้วใช่ไหมล่ะ? เจอกันอีกรอบรู้สึกยังบ้าง?”