ตอนที่ 299 ของขวัญอันมีมูลค่าประเมินไม่ได้ของเย่เฉิน!
“สวรรค์! ตุ้มหูเพชรสวยจังง!”
ฉินเสี่ยวตั่วตะลึง หล่อนเป็นแอร์โฮสเตสมักจะไปเที่ยวทั่วโลก หญิงสาวเคยไปร้านแบรนด์เนมมาแล้วทั่วโลก
แต่ว่าต่อให้เป็นผู้หญิงที่เคยเห็นโลกมามากอย่างหญิงสาว ยังตกตะลึงเมื่อเห็นตุ้มหูคู่นี้
ตุ้มหูเพชรที่มีคุณภาพแบบนี้ สวยจนทำให้คนหยุดหายใจ หล่อนยังไม่เคยเห็นมาก่อน
ตุ้มหูเพชรสองเม็ดนี้ เป็นสีฟ้าหนึ่งเม็ด และสีชมพูอีกหนึ่งเม็ด
ฉินเสี่ยวตั่วอดไม่ได้ หล่อนยื่นนิ้วขาวเรียวงามออกไปแตะเพชรเม็ดหนึ่งมาดูพินิจดูใกล้ๆ แล้วเพ้อ “สวยจังเลย…”
เย่เฉินเห็นท่าทางโง่งมของฉินเสี่ยวตั่วก็หัวเราะออกมา ตุ้มหูคู่นี้เป็นของขวัญที่ไม่ว่าผู้หญิงคนใดก็ไม่อาจปฏิเสธได้!
เย่เฉินแนะนำ “ตุ้มหูเพชรสองเม็ดนี้ ชื่อ Apollo กับ Artemis เทพแห่งดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ เพชรชื่อ Apollo สีฟ้า 14.54 กะรัต ภายในไม่มีตำหนิ ส่วน Artemis สีชมพู 16.00 กะรัต ความใสอยู่ที่ VVS2 เป็นตุ้มหูเพชรที่แพงที่สุดในโลก”
ฉินเสี่ยวตั่วถามอย่างประหลาดใจ “ตุ้มหูคู่นี้ราคาเท่าไหร่?”
เย่เฉินกล่าว “เม็ดสีชมพูราคาเกือบสองร้อยล้าน ส่วนเม็ดสีฟ้าราคาห้าร้อยล้าน ”
“อะไรนะ? ห้า…ร้อยล้าน”
มือของฉินเสี่ยวตั่วที่หยิบตุ้มหูราคาห้าร้อยล้านนั้นสั่นระริก!
คิดไม่ถึงเลยว่าตุ้มหูเพชรเม็ดเล็กๆ จะราคาแพงเสียยิ่งกว่าบ้านที่แพงที่สุดในเมืองเสินเฉิงเสียอีก!
“ฮือๆ…. อิจฉาพี่สาวจังเลย”
ดวงตาฉินเสี่ยวตั่วฉายแววริษยา ตุ้มหูเพชรแบบนี้ ใครจะไม่อยากได้บ้าง?
ฉินเสี่ยวตั่วคล้องแขนเย่เฉินราวจะเอาใจเขา “พี่เขย งั้นพอจะยกตุ้มหูสีชมพูที่ราคาถูกกว่านิดหน่อยเม็ดนั้นให้ฉันใส่ได้ไหมคะ? นะคะนะๆ”
ฉินเสี่ยวตั่วขอร้องเย่เฉินไปพร้อมๆ กับเขย่ามือเขาไปด้วย
ฉินเสี่ยวตั่วหุ่นดีเกินไป หล่อนกอดแขนเขาแบบนี้ทำให้เขาออกจะตะขิดตะขวงใจไม่น้อย เพราะอาจจะไปแตะโดนอะไรที่ไม่ควรไปโดน
เย่เฉินกล่าว “ฮ่าๆ ขอแค่พี่สาวคุณยอม ผมก็ไม่ติดใจอะไรหรอก”
“ขอบคุณค่ะพี่เขย ฉันรู้อยู่แล้วว่าพี่เขยใจดีที่สุด!” ฉินเสี่ยวตั่วชมเชยเขาอย่างดีใจ
และเป็นอย่างที่คิด มีเงินย่อมดีกว่าอยู่แล้ว ถึงสัปดาห์ที่ผ่านมาไม่มีเวลาอยู่เป็นเพื่อนแฟนสาว ทำผิดต่อแฟนสาวและทำผิดต่อคนในครอบครัวของแฟนสาวด้วย
แต่ขอแค่ส่งมอบของขวัญที่มูลค่าสูงขนาดนี้ออกไปให้แล้ว พวกหล่อนจะต้องให้อภัยเขาแน่
“เอาเถอะ ฉันจะรีบไปส่งมอบของขวัญและจดหมายของนายให้พี่สาวฉันเดี๋ยวนี้ นายรอข่าวดีจากฉันก็แล้วกัน!”
ฉินเสี่ยวตั่ววางเพชรมูลค่าแพงเทียมฟ้าลงในกล่องนั้นอย่างระมัดระวัง ถือเอาไว้ในมือแล้วเตรียมตัวกลับ
เย่เฉินพยักหน้ารับแล้วถาม “จริงสิ พี่สาวคุณตอนนี้อยู่ที่ไหน? อยู่ที่บ้านหรือนอนโรงแรม”
เมืองเสินเฉิงเป็นสถานที่ที่ฉินหงเหยียนเติบโต หล่อนน่าจะมีบ้านที่นี่
ต่อให้ไม่มีแต่ฉินเสี่ยวตั่วก็อยู่ที่นี่ ฉินหงเหยียนก็น่าจะอยู่กับน้องสาว
ฉินเสี่ยวตั่วกล่าววว่า “พี่สาวฉันตอนนี้อยู่ในวิลล่าของคุณอาสวี่”
“อะไรนะ? หล่อนอยู่บ้านสวี่ฉู่หมิง? พวกเขาอยู่ด้วยกันเหรอ?”
ใบหน้าเย่เฉินคล้ำเขียว เขาเคยโดนทรยศหักหลังจากคนรักมาก่อนจึงอ่อนไหวกับเรื่องแบบนี้เป็นอย่างมาก!
ตอนหวังเจียเหยาอยู่กับเย่เฉินยังเรียกผู้ชายให้มาหา
แต่สถานการณ์ตอนนี้กลับกลายเป็นว่าฉินหงเหยียนไปอยู่ที่บ้านของสวี่ฉู่หมิงเสียอย่างนั้น!
หรือว่าฉินหงเหยียนนอนกับสวี่ฉู่หมิงไปแล้วเพราะโกรธเขา?
ถ้าหากเป็นแบบนี้เย่เฉินคงจะโกรธหญิงสาวจริงๆ!
ฉินหงเหยียนจะโกรธที่เย่เฉินไม่สนใจหล่อนก็ได้ จะโกรธที่จู่ๆ เย่เฉินมีลูกเล็กเด็กแดงโผล่ออกมาทำให้หล่อนต้องตกที่นั่งลำบาก
แต่ว่าหล่อนไม่ควรจะวิ่งโร่มานอนกับคนรักเก่าโดยไม่พูดไม่จาแบบนี้!
นี่คือการล้างแค้นชัดๆ!
ฉินเสี่ยวตั่วรีบร้อนอธิบาย “แหม ไม่ได้น้อยด้วยกัน คุณอาสวี่มีบ้านในเมืองเสินเฉิงตั้งเยอะตั้งแยะ พี่สาวฉันก็แค่อาศัยอยู่ในบ้านหนึ่งในนั้นของเขาเท่านั้นแหละ คุณอาเขาไม่ได้อยู่กับพี่สาวฉัน”
“นายเชื่อฉันได้ 100% เพราะว่าหลายวันมานี้ฉันนอนกับพี่เขาตลอด คุณอาสวี่ยังไม่เคยค้างคืนเลย” พอได้ยินฉินเสี่ยวตั่วพูด เย่เฉินก็เลยสบายใจ
เขาเองก็คิดว่าฉินหงเหยียนไม่น่าจะทรยศตนเอง ที่จงใจนอนอยู่ในบ้านของสวี่ฉู่หมิงก็เพื่อจงใจยั่วโมโหเขา ทำให้เย่เฉินเกิดหึงหวงหล่อน
ผู้หญิงยิ่งว่าง่าย เป็นผู้ใหญ่ก็ยิ่งโดนผู้ชายละเลย
กลับกันยิ่งเป็นผู้หญิงที่ขี้งอแงเท่าไหร่ ผู้ชายก็ยิ่งเป็นห่วงมากขึ้นเท่านั้น
และในเวลานี้เองฉินเสี่ยวตั่วก็ทำปากยื่นพลางกล่าว “นายสบายใจเถอะน่า พี่สาวฉันจงใจยั่วโมโหนาย นายลองคิดดูนะ คุณอาสวี่เป็นผู้อาวุโสของพวกเรา เป็นเพื่อนสนิทของพ่อพวกเรา พวกเขาจะแต่งงานกันได้ยัง? แค่ดูก็รู้แล้วว่าเป็นเรื่องโกหกจริงไหม?”
ฉินเสี่ยวตั่วยิ้มไปพูดไป ทว่าได้ยินคำอธิบายแบบนี้ของฉินเสี่ยวตั่วแล้ว เย่เฉินก็ตึงเครียดขึ้น
เขาเห็นด้วยกับข้อสันนิษฐานที่ว่าฉินหงเหยียนแสร้งแต่งงานกับสวี่ฉู่หมิงเป็นเพียงเรื่องโกหก
แต่เหตุผลที่ฉินเสี่ยวตั่วกล่าวมานี้ทำให้เขาไม่มั่นใจนัก!
เพราะว่าเมื่อสิบปีก่อนสวี่ฉู่หมิงก็ไม่ได้เป็นแค่ญาติผู้ใหญ่ของหญิงสาว ตอนนั้นเขาได้แตะต้องล่วงเกินฉินหงเหยียนไปแล้ว!
ฉินเสี่ยวตั่วใสซื่อ จนวันนี้ก็ยังไม่รู้เรื่องที่พี่สาวของตนเองโดนญาติผู้ใหญ่ที่หล่อนนับถือเลี้ยงดู!
เมื่อฉินหงเหยียนบอกน้องสาวตนเองเรื่องนี้ เย่เฉินเองก็ไม่อยากบอกเรื่องนี้กับฉินเสี่ยวตั่ว และไม่อยากจะพูดอะไรอีก
“เดินทางระวังแล้วกัน เดี๋ยวผมจะให้คนไปส่งคุณ”
“อืมๆ บ๊ายบาย แต่งตัวหล่อๆ รอข่าวดีจากฉันแล้วกัน!”
“OK!”
เมื่อได้ยินคำรับรองจากฉินเสี่ยวตั่วแล้ว เย่เฉินก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก
ลำดับต่อมาแค่ต้องรอให้ฉินเสี่ยวตั่วจัดแจงให้พวกเขาสองคนเจอหน้ากันก็พอ!
……
ไม่นานนัก ซีกวาก็เป็นคนขับรถด้วยตนเองไปส่งฉินเสี่ยวตั่วที่วิลล่าอ้ายฉินไห่ซานจวงที่ฉินหงเหยียนพำนักอยู่
วิลล่าแห่งนี้ก็ถือเป็นวิลล่าหรูในเมืองเสินเฉิง
ที่ตั้งของวิลล่าแห่งนี้ถูกขนานนามเป็น ‘เขตคนรวยลำดับที่เก้าของโลก’ ด้านหลังติดกับภูเขาปัวหลัวที่สูงจากระดับน้ำทะเล 300 กว่าเมตร มีออกซิเจนจากธรรมชาติ
สามารถพูดได้ว่าที่นี่เป็นพื้นที่ที่อุดมสมบูรณ์และเต็มไปด้วยธรรมชาติที่สุดในเมืองเสินเฉิง
“ขอบคุณนะคะพี่กวา ส่งแค่ที่ประตูก็พอแล้ว ที่นี่ยามตรวจเข้ม ห้ามรถขับเข้า ฉันไปล่ะ!”
ฉินเสี่ยวตั่วยิ้มแล้วโบกมือ
“คุณหนูระวัง! หากมีเรื่องอะไรคุณโทรหาผมได้ตลอดเวลานะครับ!” ซีกวากล่าวอย่างนอบน้อม
“ฮ่าๆ ค่ะๆ”
ฉินเสี่ยวตั่วยิ้ม เป็นครั้งแรกที่โดนคนเรียก ‘คุณหนู’ หล่อนรู้สึกว่าพวกลูกน้องของเย่เฉินน่าสนใจอย่างมาก
ถึงแม้สวี่ฉู่หมิงจะรู้ว่าเย่เฉินมีเงินมาก แต่จากสถานการณ์ก็เห็นได้ชัดเจนว่าฟากเย่เฉินจะเก่งกว่าเล็กน้อย
เมื่อกลับถึงวิลล่า ฉินเสี่ยวตั่วตระโกนเสียงกร้าว “พี่คะ หนูกลับมาแล้ว!”
แต่ว่าฉินหงเหยียนอยู่ในห้องรับแขกชัดๆ แต่ขานรับหญิงสาว
เดินเข้ามาดูใกล้ๆ ก็พบว่าหูของฉินหงเหยียนยัดหูฟังไร้สายเอาไว้
ฉินเสี่ยวตั่วถอดหูฟังฉินหงเหยียนออกมา ปรายตามองมือถือฉินหงเหยียนแล้วกล่าว “พี่คะ พี่หัดภาษาอังกฤษอยู่หรอคะ ช่วงนี้ทำไมพี่ชอบเรียนภาษาอังกฤษจังเลยคะ ที่จริงระดับภาษาอังกฤษของพี่ออกไปเที่ยว คุยกับชาวต่างชาติก็รู้เรื่องแล้วนี่นา อ้อ ฉันรู้แล้ว เพราะพี่คิดว่าค่อไปอาจจะต้องย้ายไปอังกฤษกับเย่เฉินล่ะสิ ก็เลยเตรียมตัวทำความคุ้นเคยกับที่นั่นเอาไว้ล่วงหน้าใช่ไหม?”
ฉินหงเหยียนมีสีหน้าไม่พอใจ “เธอพูดเหลวไหลอะไร ฉันกำลังจะแต่งงานกับสวี่ฉู่หมิงอยู่แล้ว เลิกพูดถึงเย่เฉินที”
ฉินเสี่ยวตั่วหัวเราะคิกคัก หล่อนรู้ว่าพี่สาวยังชอบเย่เฉินอยู่ จึงส่งกล่องตุ้มหูเพชรในมือให้พี่สาว “นี่ค่ะพี่”
“อะไรเหรอ?” ฉินหงเหยียนถาม
“เปิดออกมาดูก็รู้เอง” ฉินเสี่ยวตั่วทำท่าทีลึกลับ
ฉินหงเหยียนรีบมาแล้วเปิดออกดู ทันใดนั้นเองก็ตกใจจนเอามือปิดปาก “ตุ้มหูเพชรที่ฉันชอบที่สุด! Apolla กับ Artemis นี่นา! ใครให้มาเหรอ?”
ฉินเสี่ยวตั่วหัวเราะคิกคัก “พี่ทายสิคะ”
“สวี่ฉู่หมิงเหรอ?” ฉินหงเหยียนถาม
ฉินเสี่ยวตั่วส่ายหน้า “ไม่ใช่ค่ะ ผู้ชายที่พี่รักที่สุดคนนั้นให้มาต่างหาก!”
ใบหน้าฉินหงเหยียนเปลี่ยนสีทันที “เย่เฉินเหรอ? เธอไปเจอเขามาเหรอ?”