เคลียร์นะเฮีย! เป็น’เมีย’ผมนะ – ตอนที่ 14

“ เอาล่ะครับ วันนี้ที่พวกผมเลื่อนนัดประชุมก็เพราะมีเรื่องบางอย่างที่อยากจะมาแจ้งกับพวกคุณปีหนึ่งทุกคนได้ทราบ “ ปีขาลเอามือไขว้หลังพร้อมกับมองเด็กปีหนึ่งตรงหน้าด้วยสายตาเรียบนิ่ง เขามองไปรอบๆจนกระทั่งไปเจอเข้ากับสายตาของกุนที่มองมาที่เขาแล้วส่งยิ้มมาให้ ปีขาลขมวดคิ้วเล็กน้อยและมองผ่านสายตานั้นไป

“ วันนี้พวกผมอยากจะขอดูสมุดลายเซ็นของพวกคุณสักหน่อยว่าได้ทำการให้พวกรุ่นพี่เซ็นไปถึงไหนแล้ว หวังว่าพวกคุณคงเอาสมุดกันมาทุกคนนะครับ “ สิ้นสุดเสียงของปีขาล ปีหนึ่งทั้งหมดต่างก็หันมองหน้ากันทันทีด้วยความตกใจ เพราะไม่มีใครคาดคิดว่ารุ่นพี่คนนี้จะขอดูสมุดเร็วขนาดนี้ทั้งๆที่ยังไม่ถึงกำหนด

“ ผมทราบดีครับว่าวันนี้มันยังไม่ถึงกำหนดที่ผมเคยสั่งไป แต่ผมเพียงแค่อยากดูความคืบหน้าเฉยๆ หวังว่าพวกคุณคงจะไม่ติดปัญหาอะไรนะครับ “

“ ปีสามทุกคน! เดินตามแถวเพื่อตรวจสมุด ปฎิบัติ! “ ปีขาลสั่งเสียงดังลั่น

ปีหนึ่งทุกคนต่างรีบหยิบสมุดของตัวเองทันทีเมื่อเห็นว่ารุ่นพี่ปีสามเริ่มทยอยเดินเข้ามาหาแล้ว

“ ใครยังไม่มีแม้แต่ลายเซ็นเดียว ให้พวกพี่ปีสามทั้งหมดนำน้องออกมายืนข้างหน้าด้วยนะครับ “ ปีขาลพูดขึ้นอีกครั้ง

เวลาผ่านไปสักพัก ปีสามทั้งหมดก็ตรวจสมุดของปีหนึ่งจนครบและเป็นเป็นแบบที่ปีสามคาดการณ์เอาไว้ว่าต้องมีปีหนึ่งบางคนที่ยังไม่ได้เริ่มทำ ซึ่งก็มีเยอะพอสมควรเหมือนกัน เด็กปีหนึ่งส่วนมากที่ยังไม่ได้ทำต่างก็ออกมายืนทางด้านหน้าอย่างพร้อมเพรียง

“ ผมขอเหตุผมในพวกคุณแต่ละคนหน่อยได้มั้ยครับว่าทำไมพวกคุณถึงยังไม่เริ่มให้รุ่นพี่ของพวกคุณเซ็น “ ปีขาลมองใบหน้าเด็กปีหนึ่งทีละคนนิ่งๆ

“ เริ่มที่คุณเลยครับ แนะนำตัวพร้อมกับบอกรหัสของตัวเองและสาขาที่เรียนพร้อมกับให้เหตุผลกับผม เชิญครับ “

“ ผมนาย ทันทิวา รหัส6567 สาขาเคมี เหตุผลที่ผมยังไม่ได้ให้รุ่นพี่เซ็นก็เพราะ…ลืมครับ! “

“ คนต่อไปครับ “ ปีขาลเอามือไข้หลังและเดินไปหาปีหนึ่งคนต่อไป

“ นะ..หนูชื่ออรอุมา รหัส6854 สาขาชีวเวช หะ..เหตุผลที่หนูยัง..ไม่ได้ให้รุ่นพี่เซ็น..กะ..ก็เพราะว่า..เอ่อ..หนู.. “ หญิงสาวมีท่าทีอึกอักอย่างเห็นได้ชัดซึ่งทำให้ปีขาลที่กำลังจ้องหน้าหญิงสาวอยู่นั้นพูดสวนขึ้นทันทีด้วยความทนไม่ไหวกับการลังเลของปีหนึ่งตรงหน้า

“ ลืมเหมือนกันหรอครับ “

“ นะ..หนูขอโทษค่ะ “ เธอยกมือไหว้ด้วยความรู้สึกผิด

“ ผมถามว่าลืมหรอครับ! ไม่ใช่ให้คุณมายกมือไหว้ผม ฟังไม่รู้เรื่องหรอครับว่าผมพูดว่าอะไร “ ปีขาลตะคอกถามกลับไปเสียงดังลั่น

“ คะ..ค่ะ! หนูลืมค่ะ “ เธอตอบรุ่นพี่เสียงสั่นด้วยความกลัว

“ มีใครที่มีเหตุผลเหมือนแบบสองคนนี้อีกมั้ยครับ ยกมือเลยครับผมขี้เกียจยืนถามรายคน “ ปีขาลพูดเสียงเข้ม เด็กปีหนึ่งแต่ละคนค่อยๆยกมือขึ้นอย่างช้าๆ

“ ดีครับ ดี “ ปีขาลพยักหน้านิดๆ

“ ผมคงใจดีกับพวกคุณมากไปหรอครับ คำสั่งของผมพวกคุณถึงได้เลือกที่จะเมินกันแบบนี้ “

“ ผมหวังว่าถ้าถึงวันที่ผมนัดตรวจสมุด..พวกคุณคงจะไม่มีใครบอกว่าลืมอีกนะครับ ปีหนึ่งทั้งหมด! เชิญกลับประจำที่ครับ “ ปีขาลพูดเสียงเข้ม ปีหนึ่งหลายๆคนต่างลอบมองหน้ากันอย่างงงๆและค่อยๆทยอยเดินเข้าประจำที่ของตัวเอง

“ มีอีกเรื่องที่ผมจะแจ้งให้พวกคุณทุกคนทราบ “

“ อาทิตย์หน้าจะเป็นการมอบเกียร์ของรุ่น..แต่ผมขอบอกพวกคุณทุกคนเอาไว้ก่อนนะครับว่ามันไม่ได้ง่ายเหมือนอย่างที่พวกคุณคิดกัน พวกคุณรู้กันมั้ยครับว่าเกียร์คืออะไร.. “ ปีขาลมองหน้ารุ่นน้องทุกคนนิ่งพร้อมกับชูเกียร์ที่สวมอยู่ในข้อมือของเขาขึ้นมา

“ เกียร์! เกิดจากการทำงานของฟันเฟืองอย่างเป็นระบบถ้าขาดฟันเฟืองตัวใดตัวหนึ่งไปเกียร์ก็จะไม่สามารถทำงานได้ เพราะฉะนั้น! เกียร์จึงเป็นสิ่งสำคัญมาก ถ้าพวกคุณได้เกียร์นี้ไปมันก็เป็นการยืนยันในตัวของพวกคุณได้ว่า พวกคุณ!เป็นรุ่นน้องของพวกเราชาววิศวะเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ถ้าใคร!ที่ไม่สามารถเอาเกียร์มาจากผมได้ มันก็เท่ากับว่า…คุณ ไม่ใช่รุ่นน้องของคณะผม “ ปีขาลมองเกียร์ที่ข้อมือของตัวเองสลับกับมองใบหน้าของเด็กปีหนึ่งที่มองเขาอยู่

“ อย่างที่ผมเคยบอกพวกคุณไปครับว่าถ้าพวกคุณคิดว่าการที่พวกคุณไม่เอาพี่!ไม่เอาน้อง! มันจะสามารถทำให้พวกคุรอยู่ที่นี่ได้อย่าราบรื่นและสงบสุข พวกคุณคิดผิด! แต่ถ้าพวกคุณมีคำถามว่าทำไมผมถึงพูดแบบนี้กับพวกคุณ..พวกคุณก็รอดูต่อไปแล้วกันนะครับ ว่าที่ผมพูด..มันจริงมั้ย ปิดประชุมครับ “ ปีขาลพูดจบก็เดินนำออกจากหอประชุมไปทันทีโดยมีป้องและคนอื่นๆเดินตามไปอย่างเงียบๆ

.

.

“ แกว่าที่พี่เขาพูดมันจริงปะวะ “ หญิงสาวที่กำลังเดินออกมาจากหอประชุมหันไปพูดกับเพื่อนสนิท

“ มันก็น่าคิดนะแก ฉันว่าที่พวกพี่เขาทำมันต้องมีเหตุผลของมันแหละ เราลองกันดูสักตั้งมั้ยละ “ เธอหันไปยิ้มให้กับเพื่อน

“ อืม..ลองดูก็ได้นะ เพราะฉันเองก็อยากได้เกียร์เหมือนกันอ่ะ “ เธอพูดยิ้มๆพร้อมกับพากันเดินออกไปจากบริเวณนั้น

“ มึงคิดยังไงวะไอนิ่ง “ พนาหันไปถามความเห็นของกุนเพราะพวกเขาเดินตามหญิงสาวทั้งสองคนออกมาและได้ยินบทสนาทั้งหมด

“ ก็ไม่คิดไง แค่คิดว่า..อยากได้เกียร์เหมือนกัน “ กุนพูดพร้อมกระตุกยิ้มมุมปากนิดๆ

“ เกียร์รุ่นอ่ะนะ “ พนาขมวดคิ้วมองเพื่อนด้วยความสงสัย

“ เปล่า เกียร์ที่อยู่บนข้อมือ “ กุนหันไปยิ้มใส่พนานิดๆแล้วเดินนำเพื่อนสนิทไปทันที ทิ้งให้พนาได้แต่มองตามกุนเหวอๆ

“ ร้ายจริงๆเพื่อนกู “ พนาส่ายหน้านิดๆพร้อกกับยิ้มมุมปากแล้วรีบเดินตามกุนไป

————————

“ ปิดการประชุม “ ปีขาลบอกพร้อมกับบิดตัวเล็กน้อยด้วยความเมื่อยขบ เพื่อนทุกคนต่างก็เอนหลังด้วยความผ่อนคลายจากการะประชุมที่แสนเครียดในวันนี้

“ ไหนๆพรุ่งนี้ก็หยุดแล้ว..งั้นคืนนี้..สักหน่อยมั้ยจ๊ะ “ ฟิวเอ่ยชวนเพื่อนทุกคนยิ้มๆเพราะพี่รหัสของเขาทักมาชวนเขาอยู่เมื่อเย็นนี้ว่าให้ชวนพวกเพื่อนของเขาไปร้านเหล้าที่เปิดใหม่

“ มึงนี่ใจคอจะชวนพวกกูไปแต่ที่แบบนี้อ่ะนะ “ ป้องหันมาถามฟิว

“ มึงจะไม่ไป? “ ฟิวเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม ป้องกรอกตามองบนด้วยความเหนื่อยใจ

“ มึงถามนี่ไม่รู้จริงๆใช่ปะว่ากูคิดไร “ ป้องมองไปทางฟิวนิ่งๆ

“ คิดว่ามึงไม่พลาดไงครับเพื่อน “ ฟิวยิ้มมุมปากอย่างรู้ใจ

“ สมแล้วที่เป็นเพื่อกูมานานเพื่อนรัก ฮ่าๆๆ “ ป้องหัวเราะออกมาอย่างขำๆ

“ แล้วมึงอ่ะไอขาลไปปะ “ ฟิวหันไปถามปีขาลที่นั่งพักสายตาอยู่

“ มันเหนื่อยๆกูว่ามึงให้มันพักเหอะ “ พอสบอกเมื่อเห็นท่าทีที่เหนื่อยของเพื่อนสนิท ปีขาลมองไปยังเพื่อนทุกคนที่มองมาทางเขาด้วยความเป็นห่วง

“ กูไปได้ กูแค่อยากพักสายตาเฉยๆว่าแต่พวกมึงจะไปกันกี่โมงอ่ะ “ ปีขาลถามกลับไป

“ ก็สักสองทุ่มนั่นแหละ ร้านนี้พี่ชงบอกว่าพึ่งเปิดใหม่ พี่เขาเลยให้กูมาชวนพวกมึงอ่ะ “ ฟิวพูดถึงพี่รหัส

“ มิน่าล่ะพี่นัทถึงทักมาหากูว่าวันนี้กูไปไหนมั้ย ที่แท้ก็จะชวนไปร้านเปิดใหม่นี่เอง “ นุพูดขึ้นยิ้มๆ เพราะพี่รหัสเขาก็เป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกับพี่รหัสของฟิวเหมือนกัน

“ งั้นตกลงพวกมึงทุกคนไปใช่ปะ กูจะได้บอกให้พี่ชงมันจองที่เอาไว้ให้เลย “ ฟิวถามเพื่อนๆอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ

“ เออ “ นุพยักหน้าตอบกลับไป คนอื่นๆก็พยักหน้าเช่นเดียวกัน

“ โอเคดีล “ ฟิวบอกอย่างอารมณ์ดีพร้อมกับหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วพิมพ์หาพี่รหัสของตัวเองทันที

“ ไอนุมึงมารับกูที่หอด้วย “ ปีขาลหันไปบอกกับนุแล้วลุกขึ้นยืน

“ เอ้า ทำไมต้องกูอ่ะ “ นุชี้นิ้วเข้าหาตัวเองแล้วถามด้วยความสงสัย

“ เรื่องของกู จบมั้ย “ ปีขาลยักคิ้วใส่เพื่อนสนิทอย่างกวนๆ

“ ไอสัส เออๆๆเดี๋ยวกูไปรับไอห่าพอสก่อนแล้วจะเข้าไปรับมึง “ นุบอกอย่างจำใจ

“ ดีมากครับไอเพื่อนรัก “ ปีขาลตบบ่านุเบาๆแล้วเดินแยกตัวออกมาทันที

.

.

“ ไปเถอะหน่าไอกุนน นานๆทีจะได้ออกไปเที่ยวนะเว้ย “ พนากอดแขนกุนอย่างอ้อนๆ เพราะตอนนี้เขากำลังชวนกุนไปร้ายเหล้าเปิดใหม่ซึ่งเพื่อนสมัยมัธยมของพนาพึ่งโทรชวนพนาเมื่อตอนเย็นที่ผ่านมา

“ ไม่เอา รำคาญคนเยอะ “ กุนตอบปัด

“ แต่นานๆทีมึงจะออกไปเจอคนอื่นนะเว้ย แล้วอีกอย่างกูก็ไม่อยากกลับคนเดียวด้วยอ่ะ “ พนาพูดอ้อนพร้อมกับช้อนตามองกุน

“ ไม่ “ กุนปฎิเสธและทำท่าจะลุกหนีเพื่อนสนิทด้วยความรำคาญ แต่ติดตรงที่แรงของพนานั้นก็มีมากพอๆกับกุน มันเลยทำให้เขาไม่สามารถที่จะสลัดเพื่อนสนิทที่เกาะเป็นปลิงให้ออกไปได้

“ ปล่อยกูไอเอ๋อ “ กุนขมวดคิ้วแล้วพูดถึงฉายาที่เขาใช้เรียกเพื่อนคนนี้

“ ไม่ปล่อย มึงต้องไปกับกูก่อน “ พนาบอกเสียงหนักแน่น

“ แม่งเอ้ย “

“ ไปกับกู “

“ ไม่ไป “

“ ไปกับกู “

“ กูไม่ไป “

“ ถ้ามึงไม่ไปกูก็จะเกาะมึงเป็นลูกลิงแบบนี้แหละ ถ้ามึงไม่รำคาญก็เอาเลย “ พนาพูดจบก็เกาะแขนของกุนแน่นขึ้นอีก จนกุนได้แต่ถอนหายใจออกมาอย่างแรงด้วยความเหนื่อยใจกับการดื้อด้านของเพื่อนสนิท

“ เออ! ไปก็ไป และถ้ากูโดนลวนลามอีกนะกูจะถีบมึง “ กุนชี้นิ้วใส่พนาพร้อมกับคาดโทษเพื่อนสนิทเอาไว้ เพราะมีอยู่ครั้งนึงที่เขาไปเที่ยวกับพนากันแค่สองคน จู่ๆก็มีหญิงสาวประมาณสองคนเดินเข้ามาขนาบแขนทั้งสองข้างของเขาเอาไว้และแน่นอนว่าเขาได้ถูกลวนลามและลูบไล้ไปตามระเบียบ ดีที่พนามองเห็นถึงสีหน้าของเขาและรู้ได้ในทันทีว่าตัวเขาเริ่มไม่พอใจแล้ว พนาจึงรีบพาเขาออกมาจากตรงนั้น เขาจึงไม่โดนทำอะไรไปมากกว่านี้

“ หึหึหึ เอาหน่าาา คืนนี้เดี๋ยวกูกับเพื่อนกูช่วยกันดูแลมึงเอง เอาให้แบบ..ลิ้นไม่ไต่ไรไม่ให้ตอมเลยเพื่อนรัก “ พนาตบบ่าของกุนยิ้มๆ กุนถอนหายใจนิดๆพร้อมกับลุกขึ้นเพื่อไปอาบน้ำแล้วเตรียมตัวไปกับไอเพื่อนตัวดีที่มันบังคับเขาให้ไปด้วย

ร้าน มากับพี่สิจ๊ะ

“ เดี๋ยวกูโทรหาพวกไอฟองก่อน “ พนาหันมาบอกกุนเมื่อมาถึงร้าน กุนเอามือล้วงกระเป๋ากางเกงด้วยท่าทีนิ่งๆ ตั้งแต่เขาลงมาจากรถที่มีพนาเป็นคนขับ เขาก็รู้สึกอึดอัดไม่น้อยเพราะมีทั้งผู้ชายและผู้หญิงที่ต่างมองมาที่พวกเขาไม่วางตา ซึ่งกุนเองที่ไม่ชอบตกเป็นเป้าก็เริ่มรู้สึกไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ส่วนพนาที่ชินกับสถานการณ์แบบนี้ย่อมไม่ได้รู้สึกอะไรอยู่แล้ว

“ พวกไอฟองมันอยู่กันข้างในล่ะ พวกเราเข้าไปกัน “ พนาพยักหน้านิดๆพร้อมกับเดินนำกุนเข้าไปด้านในทันที

เมื่อร่างสูงทั้งสองคนเดินเข้าไปก็ต้องพบกับสายตาของผู้หญิงที่มองตรงมาทางพวกเขาเป็นตาเดียว พนายกยิ้มมุมปากเป็นการทักทายผู้หญิงเหล่านั้นกลับไป มีเพียงกุนเท่านั้นที่ปั้นหน้านิ่งไม่ยินดียินร้ายกับรอยยิ้มของพวกผู้หญิงเหล่านั้น

“ ไงไอพนา “ เสียงของฟองเอ่ยทักเพื่อนสมัยเรียนเมื่อเห็นว่าทั้งคู่เดินมาที่โต๊ะของพวกเขา

“ ไงไอกุน “ ฟองพยักหน้าทักกุนนิดๆ

“ ดี “ กุนยิ้มทักทายกลับไปเช่นกัน เพราะฟองหรือคนอื่นๆต่างก็เป็นเพื่อนสมัยมัธยมของเขาและพนามาหลายปีถึงจะต่างห้องกันก็ตามแต่ก็สนิทกันพอสมควรเหมือนกัน แต่ฟองหรือคนอื่นๆนั้นจะสนิทกับพนามากกว่าเพราะกุนนั้นเป็นคนไม่ค่อยพูดและเป็นคนที่เงียบๆแต่ก็ใช่ว่าพวกเขาจะไม่สนิทกัน

“ แดกอะไรกันดีพวกมึง “ ถ่านถามเพื่อนทั้งสองคนที่นั่งอยู่ข้างๆเขา

“ ของกูกับไอนิ่งขอเหมือนเดิมนะไอดำ “ พนาพูดกับถ่านยิ้มๆ ถ่านหันขวับมามองพนาตาเขียวทันทีที่พนาพูดแซวชื่อเขา ทั้งๆที่สีผิวของถ่านนั้นขาวยิ่งกว่าไฟนีออนเสียอีก

“ ดำพ่อง!ไอเชี้ยเอ๋อนี่ “ ถ่านถลึงตาใส่เพื่อน

“ ฮ่าๆๆๆ “ พนาได้แต่หัวเราะเมื่อแกล้งเพื่อนได้สำเร็จ

“ มึงก็ไปแกล้งมันไอห่าพนา “ บอนพูดว่าพนายิ้มๆ

“ หึหึหึ คนเชี้ยไรเกิดมาตัวขาวจั๊วเสือกชื่อถ่าน “ พนาพูดพลางส่ายหัวด้วยความไม่เข้าใจ

“ ทีมึงยังชื่อพนาเลย ทั้งๆที่มึงเกลียดธรรมชาติจะตายห่า “ ถ่านว่าออกมาอย่างไม่ยอมเช่นกัน

“ อย่างน้อยชื่อกูก็ไม่แปลกเหมือนมึงละวะ “ พนาลอยหน้าลอยตาเถียงเพื่อนกลับไป

“ พอๆๆนี่พวกมึงตีกันตั้งแต่มัธยมยันมหาลัยเลยนะ “ รุจรีบเข้าไปห้ามทับ ก่อนที่เพื่อนทั้งสองคนของเขาจะตีกันไปมากกว่านี้

“ ก็ไอห่านี่มันเริ่มก่อนอ่ะไอรุจ “ ถ่านหน้างอชี้นิ้วไปทางพนา

“ เอาหน่า มันก็ไม่ได้ตั้งใจจะแซวมึงหรอก “ รุจรูปหัวเล็กของถ่านอย่างปลอบโยน

“ ตามใจเมียจนเสียนิสัย “ พนาแกล้งพูดขึ้นลอยๆ แต่ทุกคนก็รู้ดีว่าพนานั้นพูดถึงใคร

“ ไอเชี้ยพนา “ รุจแกล้งพูดปรามเพื่อนสนิทยิ้มๆ เพราะเขารู้ว่าพนานั้นแซวเขากับถ่านที่เป็นแฟนกัน

“ เสือก คนไม่มีผัวอย่างมึงมีหน้าอะไรมาแซวกูไม่ทราบ “ ถ่านลอยหน้าลอยตาถามพนากลับไปอย่างกวนๆไม่แพ้กัน ทำให้พนาหันไปถลึงตาใส่ถ่านทันที

“ หน็อยไอห่าดำนี่ เดี๋ยวเถอะมึง “ พนาทำท่าจะปาน้ำแข็งใส่ถ่านแต่ติดที่รุจดึงถังน้ำแข็งเอาไว้ก่อน

“ ไอสัสพนา เมียกู “ รุจถลึงตาใส่พนาอย่างดุดุ แต่เป็นการดุที่ไม่จริงจังมากนัก พนาได้แต่วางถังน้ำแข็งลงด้วยความโมโห

“ รอให้ผัวมึงไม่อยู่ก่อนเถอะ “ พนาชี้หน้าถ่านอย่างคาดโทษ ถ่านลอยหน้าลอยตาใส่พนาทันทีเมื่อคนรักปกป้องตัวเอง

“ เดี๋ยวกูมา “ กุนพูดขึ้น พนาหันไปมองกุนอย่างสงสัย

“ กูไปห้องน้ำแป๊ป “ กุนที่เห็นสีหน้าที่สงสัยของเพื่อนเลยตอบขึ้น พนาพยักหน้ารับรู้

.

.

“ เอ้าชนนนนน “

ปีขาลและเพื่อนต่างยกแก้วขึ้นเมื่อรุ่นพี่อย่างฟางสั่งให้ยกแก้วชน

“ นี่ถ้ามึงไม่ได้เป็นเฮดว๊ากนะ กูว่าจะให้มึงชวนน้องรหัสของพวกมึงมาเมากันที่ร้านของรุ่นพี่กูซะหน่อย “ ฟางพูดกับรุ่นน้องตัวเองยิ้มๆ

“ พวกผมยังไม่มีใครจับน้องรหัสเลยพี่ “ ปีขาลพูดกับพี่รหัสยิ้มๆ

“ เอ้าทำไมวะ นี่พวกมึงรออะไรกันเนี้ย “ ฟางถามรุ่นน้องตัวเองอย่างงงๆ

“ รอจบรับเกียร์ก่อนพี่ “ ปีขาลตอบ

“ งี้มึงไม่มีน้องรหัสชาติหน้าเลยรึไงวะ “ ฟางพูดอย่างขำๆ

“ เว่อร์ไปพี่ “ ปีขาลส่ายหน้าเล็กน้อย

“ เดี๋ยวผมมานะพี่ฟาง ไปเข้าห้องน้ำก่อน “ ปีขาลพูดจบก็ลุกขึ้นทันที ฟางพยักหน้านิดๆและหันไปพูดคุยกับรุ่นน้องคนอื่นๆต่อ

เป็นเมียผมนะ

เป็นเมียผมนะ

ปวดหัวกับหน้าที่ที่โดนยัดเยียดไม่พอยังต้องมาปวดหัวกับไอเด็กปีหนึ่งที่ชอบแหกกฎอีกงานนี้เขาจะรับมือกับไอเด็กตัวแสบไหวมั้ยนะหรือว่าจะต้องทำโทษให้มันตายไปข้างนึงดีแต่ทำไมยิ่งอยู่ใกล้ใจเขามันถึงเต้นแปลกๆนะ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset