เมื่อปีขาลเข้าห้องน้ำเสร็จก็ออกมาเพื่อที่จะล้างมือ จู่ๆเขาก็รู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่มองเขาจากทางด้านซ้ายมือเพราะภายในห้องน้ำแห่งนี้ไม่มีใครอยู่เลยนอกจากเขา ปีขาลค่อยๆหันไปมองช้าๆจนเจอเข้ากับอะไรบางอย่างทำให้ปีขาลร้องอกมาด้วยความตกใจ
“ เฮ้ย! คุณ ปีหนึ่ง! “
“ สวัสดีครับพี่ปีสาม “ กุนส่งยิ้มให้ปีขาลนิดๆ
“ นี่..นี่คุณมาอยู่ที่นี่ได้ไงเนี้ย “ ปีขาลชี้นิ้วไปทางกุนด้วยความตกใจ
“ ผมก็มาเที่ยวไงครับ แล้วพี่ปีสามละครับมาทำอะไร “ กุนกอดอกถามปีขาลยิ้มๆ
“ คุณยุ่งอะไรด้วย ถอยไปผมจะออกไปหาเพื่อนผม “ ปีขาลยืนประจันหน้ากับกุนแล้วพูดขึ้น
“ แล้วถ้าผมไม่หลบ..รุ่นพี่ปีสามจะทำอะไรผมหรอครับ “ กุนก้มลงไปหาปีขาล จนใบหน้าของทั้งสองอยู่ในระดับเดียวกัน
“ นี่คุณ! “ ปีขาลผลักอกกุนให้ออกห่างด้วยความตกใจ
“ ครับ “ กุนแกล้งเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม
“ …..คุณถอยออกไป ผมจะออกไปหาเพื่อนผม “ ปีขาลถอนหายใจแล้วพยายามพูดใส่เด็กหนุ่มตรงหน้าอย่างใจเย็น
“ งั้น..รอผมเข้าห้องน้ำแป๊ปนะครับ “ กุนกระตุกยิ้มมุมปากพร้อมกับจับข้อมือของปีขาลให้ตามเขาเข้าไปด้านใน ปีขาลได้แต่เบิกตากว้างด้วยความตกใจ เพราะไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะกล้าถึงเนื้อถึงตัวเขาขนาดนี้
“ นี่คุณ! ปล่อยผมนะ คุณจะมาทำแบบนี้ไม่ได้นะคุณ! “ ปีขาลพยายามสะบัดข้อมือให้ออกจากการเกาะกุมของอีกฝ่ายแต่แน่นอนว่ามันไม่ได้ผลเพราะแรงของกุนนั้นค่อนข้างที่จะเยอะกว่าเขาพอสมควร
“ รอผมแป๊ปเดียวเองครับ ไม่นานหรอก “ กุนหันมาส่งยิ้มอ่อนให้กับรุ่นพี่ตัวเล็ก ปีขาลได้แต่อ้าปากอย่างอึ้งๆ
“ คุณจะทำธุระอะไรมันก็เรื่องของคุณ ไม่เกี่ยวกับผม ปล่อย! “ ปีขาลสะบัดข้อมืออีกครั้ง แต่ก็ไม่ได้ผลเพราะนอกจากกุนยังจับข้อมือของเขาแน่นแล้ว ยังเลื่อนมือไปทางเป้ากางเกงของตัวเองด้วย
“ เฮ้ย!จะทำอะไรอ่ะ “ ปีขาลเบิกตากว้างด้วยความตกใจ
“ ผมก็จะทำธุระไงครับแล้วที่ผมต้องจับมือพี่เอาไว้แบบนี้ก็เผื่อพี่จะหนีผมไง ผมเลยต้องจับมือกันพี่หนีเอาไว้ก่อน “ กุนแกล้งตอบหน้าตาย
“ นี่คุณจะบ้าหรอไง คุณจะทำอะไรก็เรื่องของคุณสิ แล้วก็ปล่อยมือผมออกจากตรงนั้นด้วย “ ปีขาลปลายตามองไปยังมือที่อยู่ใกล้กับช่วงล่างของร่างสูงตรงหน้า
“ ถ้าพี่หนีผมขึ้นมาจะทำยังไงล่ะครับ “ กุนแกล้งทำหน้าซื่อมองใบหน้าหวานตรงหน้า
“ คุณไม่ต้องมาแกล้งทำหน้าซื่อตาใสเลยนะ แล้วไอลูกไม้แบบนี้ก็เลิกเอามาหลอกผมได้แล้ว ปล่อย! “ ปีขาลพยายามบิดข้อมือของตัวเองให้ออกจากการเกาะกุมของร่างสูงตรงหน้า
“ อย่าดื้อสิครับ ผมทำธุระแป๊ปเดียว เดี๋ยวเดินไปส่งพี่ที่โต๊ะ “ กุนบอกเสียงนุ่ม
“ ผมไม่ใช่เด็กนะคุณที่จะได้ดื้อเนี้ย แต่ที่คุณทำอยู่มันไม่ถูกต้องแล้วก็ไม่ต้องเดินไปส่งผมด้วย ผมมีขาเดี๋ยวผมเดินไปเองได้ “ ปีขาลขมวดคิ้วจ้องหน้าของกุนเขม็ง
“ ถ้าไม่ใช่เด้กก็อย่าดื้อสิครับ ผมบอกว่าจะพาไปส่งพี่ที่โต๊ะก็คือพาไปสิ พี่แค่รอผมธุระส่วนตัวแป๊ปเดียวเอง “ กุนบอกใบหน้าหวานยิ้มๆ
“ เออๆ คุณจะทำอะไรก็รีบทำเร็วๆเข้า ผมรีบไปหาเพื่อน “ ปีขาลพูดขึ้นด้วยความรำคาญ
“ ทำอะไรก็ทำ? “ กุนเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม พร้อมกับยกยิ้มมุมปากนิดๆ
“ นี่! ถ้าคุณยังไม่เลิกกวนผม ผมจะร้องให้คนช่วยจริงๆด้วยนะ “ ปีขาลพูดขู่
“ ถ้าพี่ร้องผมจะจูบปิดปากให้พี่หยุดร้องเอง..จะลองมั้ยครับ “ กุนแกล้งยื่นหน้าเข้าไปใกล้กับร่างบาง ปีขาลรีบยกมือดันอกแกร่งให้ออกห่าง
“ โอเคๆๆคุณจะทำอะไรก็ทำ ผมจะรออยู่ตรงนี้แล้วคุณก็เอามือของคุณออกห่างจาก..ตรงนั้นของคุณด้วย “ ปีขาลหันหน้าไปทางด้านข้างแล้วพูดขึ้นด้วยความจำยอม กุนยิ้มมุมปากนิดๆแล้วค่อยๆผละใบหน้าของตัวเองออกห่างจากใบหน้าหวาน
“ รอแป๊ปนึงนะครับ “ กุนพูดจบก็ค่อยๆปล่อยมือออกจากข้อมือเล็กของปีขาล ปีขาลรีบเช็ดข้อมือตัวเองทันที กุนมองท่าทางของปีขาลยิ้มๆและไปที่โถ่ฉี่พร้อมกับจัดการธุระของตัวเองนิ่งๆ
ปีขาลหันหลังให้กุนทันทีเพราะเขาไม่อยากเห็นอะไรต่อมิอะไรที่ไม่อยากเห็นของเด็กปีหนึ่งตรงหน้า
“ เสร็จแล้วครับ “ เสียงกระซิบที่ข้างหูของปีขาลทำให้เขาหันไปมองทันทีด้วยความตกใจ แต่ก็ต้องรู้สึกตกใจยิ่งกว่าเมื่อแก้มของเขาดันไปชนกับจมูกของอีกฝ่ายพอดิบพอดี
“ …….. “
“ …….. “
ทั้งสองสบตากันนิ่ง กลายเป้นปีขาลเองที่เป็นฝ่ายรู้สึกตัวขึ้นมาก่อน
“ เสร็จแล้วใช่มั้ย งั้นผมไปละ “ ปีขาลพูดจบก็หันหลังเตรียมที่จะออกจากห้องน้ำ แต่มือหนาของกุนคว้าข้อมือของปีขาลเอาไว้ก่อน
“ เดี๋ยวสิครับ ผมบอกแล้วไงว่าจะไปส่งที่โต๊ะ “ กุนบอกยิ้มๆ กลิ่นของแป้งเด็กที่ติดบนแก้มนุ่มยังคงตราตรึงอยู่ที่ปลายจมูกของกุน
“ จิ๊! เออๆๆ “ ปีขาลจิ๊ปากอย่างขัดใจแต่ก็ยอมให้เด็กรุ่นน้องจับข้อมือของตัวเองเอาไว้พร้อมกับตัวเขาเองที่เป็นฝ่ายเดินนำอีกคนให้ตามเขามา กุนเดินตามคนตัวเล็กกว่าที่เดินนำไปยิ้มๆ
“ เฮ้ยๆๆๆนั่นมันเด็กปีหนึ่งคณะเรานี่หว่า “ ป้องกระซิบบอกกับฟิวและนุที่นั่งอยู่ข้างๆ
“ ใครวะมึง “ ฟางเอียงหน้ามาถามรุ่นน้องตัวเองด้วยความสงสัยเมื่อมองเห็นปีขาลเดินจับมือกับผู้ชายหน้าอ่อนคนนึงมาที่โต๊ะ
“ เด็กปีหนึ่งหนะพี่ ไอนี่มันชอบทำผิดกฎจนทะเลาะกับไอขาลมันบ่อยๆ “ ฟิวตอบรุ่นพี่ตัวเอง แต่สายตายังคงโฟกัสไปยังทั้งคู่ที่เดินมาหยุดอยู่ที่โต๊ะของพวกเขา
“ ไงปีหนึ่ง นี่คุณมาทำอะไรที่นี่ “ ป้องถามกุนเสียงนิ่ง มาดพี่ว๊ากเข้าสิงทันที
“ ผมมากับเพื่อนครับ เห็นพี่ปีขาลเขาเร่มเมาแล้วก็เลยเดินนำมาส่ง “ กุนตอบรุ่นพี่เสียงนิ่ง ทำให้ป้องและคนอื่นๆหันมองหน้ากันด้วยความงงทันที เพราะปีขาลนั้นยังมาไม่ถึงสิบนาทีเลยด้วยซ้ำแล้วอีกอย่างตัวของปีขาลนั้นก็ยังกินไม่ถึงแก้วนึงเลย ไม่น่าจะเมาได้
“ อะ..อ๋ออ ยังไงก็ขอบคุณ คุณมากพี่ปีหนึ่ง “ ป้องพยักหน้ารับรู้ถึงแม้ในใจจะแปลกใจไม่น้อยในสิ่งที่กุนพูดมา
“ เสร็จแล้วคุณก็กลับโต๊ะคุณไปได้แล้วปีหนึ่ง “ ปีขาลหันมาพูดกับกุนเสียงเข้มพร้อมกับดึงนิ้วของกุนที่กำข้อมือของเขาอยู่ให้หลุดออกไป แต่กุนนั้นก็ยังคงจับข้อมือของปีขาลแน่นเหมือนเดิม จนปีขาลขมวดคิ้วมองใบหน้าคมของร่างสูงด้วยความไม่เข้าใจ
“ สัญญากับผมก่อนครับว่าจะไม่เมา “ กุนพูดขึ้นเสียงนิ่ง ปีขาลกรอกตามองบนนิดๆ
“ คุณยุ่งอะไรด้วย ผมจะเมาหรือไม่เมามันก็เรื่องของผม “
“ งั้นผมจะปล่อยมือพี่หรือไม่ปล่อยมันก็เรื่องของผมเหมือนกัน “ กุนตอบกลับไปอย่างกวนๆเช่นกัน
“ ……… “
“ ……… “
ทั้งสองต่างจ้องหน้ากันอย่างไม่มีใคยอมใคร จนเพื่อนของปีขาลได้แต่มองทั้งคู่ด้วยความอึดอัดและสงสัยกับสายตาและท่าทางของทั้งคู่ไม่น้อย จนป้องที่ทนไมไหวจึงรีบพูดเพื่อทำลายบรรยากาศ
“ เฮ้ยๆๆ เอาเป็นว่ายังไงพวกผมก็ไม่ปล่อยให้เพื่อนของผมเมาหรอก คุณเองก็กลับไปหาเพื่อนของคุณได้แล้ว อย่ามายุ่งอะไรกับพวกผมนัก “ ป้องแกล้งตีหน้านิ่งพูดใส่กุนไป
“ รับปากผมก่อนครับว่าจะไม่เมา “ กุนไม่ได้สนใจอะไรในสิ่งที่ป้องพูดมากนัก เขากลับมองหน้าปีขาลนิ่งอยู่แบบนั้นจนกว่าปีขาลจะยอมตกลงให้คำมั่นกับเขา
“ คุณจะมายุ่งวุ่นวายอะไรนักหนากับเรื่องของผมเนี้ยปีหนึ่ง จะไปไหนก็ไป! “ ปีขาลตะคอกใส่กุนเสียงดังลั่นเพราะเริ่มหมดความอดทนแล้ว แต่มีหรือที่กุนจะรู้สึกกลัวเพราะเขาเองก็ถือว่าตอนนี้เขาไม่ได้เป็นเด็กปีหนึ่งอีกแล้วเพราอยู่นอกมหาวิทยาลัย เขาเป็นเพียงแค่ผู้ชายคนนึงที่เป็นห่วงคนที่เขาชอบเพียงแค่นั้น
“ ถ้าพี่ไม่รับปากผม ผมก็จะเอาพี่ไปนั่งโต๊ะผมด้วย “ กุนพูดเสียงนิ่ง
“ ไอขาลมึงก็รับปากน้องมันไปเถอะว่ะ กูรำคาญแล้วเนี้ยแม่ง ยื้อกันไปยื้อกันมาอยู่ได้ “ ฟางยกแก้วเหล้ากระดกเข้าปากด้วยความเซ็ง
“ เฮ้อ! เออๆๆผมจะไม่เมาจะหกลับบ้านครบสามสิบสองไม่เดินเซแม้แต่นิดเดียว พอใจยัง!? “ ปีขาลจ้องหน้ากุนด้วยความโมโห กุนยกยิ้มมุปากนิดๆเมื่อได้ยิน
“ ครับ โต๊ะของผมอยู่ห่างจากพี่ไม่มากนัก ถ้าพี่เมาเดี๋ยวผมพาพี่กลับเอง “ กุนพูดแค่นั้นก็หันไปมองทางกลุ่มของปีขาลแป๊ปนึงและเดินหันหลังออกไปทันที ทิ้งให้ปีขาลได้แต่เดินเข้ามานั่งที่โต๊ะด้วยความรู้สึกที่ขุ่นเคืองไม่หาย
“ กูว่าน้องมันแปลกๆ “ ฟิวขมวดคิ้วแล้วพูดขึ้น
“ ปัญญาอ่อนแบบแปลกๆละสิ “ ปีขาลพูดเสียงขุ่น
“ มึงนี่ก็ไปว่าน้องมัน “ ป้องส่ายหน้าเล็กน้อยเมื่อได้ยินที่ปีขาลพูด
“ ก็มันจริง นี่กะจะมาตีสนิทกับกูเพื่อไม่ให้กูเจาะจงทำโทษมันละสิ หึ! แผนตื้นๆคิดว่ากูไม่รู้หรือไง “ ปีขาลใช้ลิ้นดันกระพุ้งแก้มตัวเองนิดๆพร้อมกับยกแก้วเหล้าขึ้นดื่มจนหมด
“ แต่กูว่าไม่ใช่ว่ะ “ นุพูดขึ้น ปีขาลหันไปมองนุด้วยความสงสัย
“ ไม่ใช่เหี้ยไรของมึงวะ มันใช่เลยแหละ นี่แม่งคงอยากมาตีสนิทกับกูเพื่อไม่ให้กูลงโทษมันแผนตื้นๆแบบนี้ใครก็ดูออกปะวะ “ ปีขาลยังคงพูดเพื่อยืนยันความคิดของตัวเองอยู่
“ แต่กูเห็นด้วยกับไอนุว่ะ กูว่าน้องมันไม่ได้มาตีสนิทกับมึงเพราะแค่ไม่อยากโดนทำโทษแน่ๆ “ ฟิวพูดสมทบ
“ แล้วมึงอ่ะไอพอส ว่าไง “ ฟิวหันไปถามความเห็นของพอสที่นั่งดื่มอยู่เงียบๆ
“ กูคิดเหมือนไอนุ “ พอสยักคิ้วใส่ปีขาลนิดๆ
“ เห็นปะ มีแต่มึงนี่แหละไอห่าขาลที่มองห่าไรติดลบอยู่ได้ “ นุมองขวางใส่เพื่อนนิดๆ
“ เรื่องของกู “ ปีขาลมองขวางเพื่อนสนิทนิดๆพร้อมกับยกแก้วขึ้นดื่มอีกครั้งเมื่อฟิวชงแก้วใหม่ให้กับเขาแล้ว
“ หรือว่า..ไอเด็กปีหนึ่งของพวกมึงมันจะชอบไอขาลวะ “ ฟางพูดขึ้น เมื่อสิ้นสุดคำพูดของฟางทำให้ทั้งหมดหันมามองหน้าปีขาลเป็นตาเดียวทันที
“ เออวะ ที่พี่ฟางแม่งพูดก็ถูกนะเว้ยไอขาล หรือว่าไอเด็กนั่นมันจะชอบมึงจริงๆวะ “ ป้องพูดขึ้นเมื่อเห็นด้วยกับสิ่งที่ฟางพูด ปีขาลเลิกลั่นด้วยความตกใจ
“ จะบ้ากันหรือไง ไอเด็กบ้านั่นมันไม่ได้ชอบกูหรอกเว้ย “
“ แต่แม่งก็น่าคิดนะเว้ย “ ฟิวพูดขึ้นอีก
“ พอๆๆเลยพวกมึง เลิกพูดอะไรไร้สาระได้ละ พี่ฟางเองก็เหมือนกันอ่ะเลิกพูดอไรแบบนี้ได้แล้วพี่ “ ปีขาลพูดจบก็ยกแก้วขึ้นดื่มอีกครั้ง
“ เอ้าไอเชี้ยนี่ นี่กูพูดเรื่องจริงนะเว้ย วีนกูเฉยๆ “ ฟางขมวดคิ้วมองไปยังปีขาลแล้วส่ายหน้านิดๆ
“ อ่ะๆๆชนๆๆ “ ป้องรีบพูดเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศเพราะเริ่มเห็นแล้วว่าเพื่อนสนิทกำลังอารมณ์ไม่ดี