“ เป็นไงบ้างวะมึง พี่เขาว่าอะไรมึงปะ “ พนาถามกุนเสียงเครียด เมื่อกุนเดินเข้ามาในโดมและมานั่งข้างเขา
“ เปล่า “ กุนตอบสั้นๆพร้อมกับมุมปากที่มีรอยยิ้มติดอยู่นิดๆ นั่งได้สักพักก็มีหญิงสาวสองคนขยับมานั่งใกล้กับพนาและกุน
“ เอ่อ..ชื่อกุนใช่ปะ เราเมย์นะอยู่เคมี “ เมย์กัดปากตัวเองนิดๆเมื่ออยู่ใกล้กับกุน
“ อืม “ กุนพยักหน้านิดๆแล้วหันไปสนใจรุ่นพี่ปีสองตรงหน้าต่อ ทำพนาได้แต่กรอกตามองบนกับนิสัยของเพื่อนสนิท
“ เราพนานะ เรากับไอกุนเรียนโยธาอ่ะ “ พนายื่นหน้าไปหาเมย์แล้วบอกยิ้มๆ เมย์เองก็ส่งยิ้มออกมานิดๆเมื่อได้ยิน
“ ดีจัง ได้ยินมาว่า..เด็กโยธาน่ารักเกือบทุกคนเลย “ เมย์ก้มหน้างุดด้วยความเขิน พนายิ้มกว้างออกมาเมื่อได้รับคำชมนั้น
“ ฮ่าๆๆ เรียกว่าหล่อสุดในคณะเลยก็ว่าได้นะ “ พนาบอกอย่างขำๆ กุนได้แต่ส่ายหน้าน้อยๆให้กับความอวยสาขาตัวเองของเพื่อน
“ คริ! พนาตลกอ่ะ “ เมย์ปิดปากขำอย่างมีจริต ซึ่งทำให้พนามองออกทันทีว่าสาวสวยน่ารักคนนี้..ไม่ธรรมดาแน่ๆ
“ เอ้อกุน..สาขากุนเรียนยากมั้ยอ่ะ สาขาเราเรียนยากมากเลย “ เมย์แบะปากออกมาอย่างน่ารักพร้อมกับช้อนตามองกุนนิดๆ
“ ยากมากทำไมไม่ลาออกไปละ “ กุนหันมาตอบเมย์เสียงเรียบพร้อมกับมองไปที่หญิงสาวนิ่งๆ
พนาได้แต่เบิกตากว้างด้วยความตกใจกับคำพูดของเพื่อนสนิทที่พูดใส่หญิงสาว
“ เอ่อ.. “ เมย์ได้แต่อ้าปากค้างอย่างอึ้งๆ
“ ฮ่าๆๆไอกุนมันชอบติดตลกแบบนี้แหละเมย์ ฮ่าๆๆ ตลกหน้าตายนะมึงอ่ะไอนิ่ง “ พนาแกล้งหัวเราะกลบเกลื่อนพลางตบไหล่ของกุนนิดๆเพื่อบอกเป็นนัยๆว่าให้เพื่อนคนนี้ใจเย็นกว่าเดิมอีกนิด
“ อะ..อ๋อออ ฮ่าๆๆตลกจริงด้วย “ เมย์ยิ้มกว้างออกมาเมื่อได้ยินที่พนาพูด ถึงเธอจะรู้สึกแปลกๆกับคำพูดของกุนก็ตามแต่เพราะใบหน้าหล่อๆของกุนจึงทำให้เธอปัดสิ่งที่ไม่พอใจออกไป
“ เออเมย์ แกยังไม่มีเพื่อนเรียนสาขานี้เลยนี่ทำไมไม่แลกไลน์กันเอาไว้ละเผื่อจะแลกเปลี่ยนวิชากันไง เพราะมันมีบางตัวที่เราต้องเรียนรวมกันด้วยนี่ “ เพื่อนของหญิงสาวรีบดันไหล่เพื่อนเพื่อให้รีบทำตามแผนกันไว้
“ อ๋อใช่ๆ เอ้อกุนเราขอไลน์เธอหน่อยได้มั้ยอะ เผื่อวันไหนมีเรียนตรงกันเราจะได้จองที่เอาไว้ให้ไง “ เมย์เม้มปากตัวเองนิดๆพร้อมกับยื่นโทรศัพท์ของเธอส่งไปให้กุนตรงหน้า กุนปลายตามองโทรศัพท์ที่ถูกยื่นมาพร้อมกับมองใบหน้าของหญิงสาวที่มองหน้าเขาอยู่ด้วย
“ ไปแลกคนอื่นเหอะ ไม่อยากสนิทกับแรด “ คำพูดร้ายกาจหลุดออกมาจากปากกุนอีกครั้ง ทำให้ทั้งสองสาวต่างอ้าปากค้างด้วยความอึ้งไม่น้อย ส่วนพนานั้นได้แต่กุมขมับตัวเองนิดๆเพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เพื่อนสนิทของเขาพูดจาร้ายกาจแบบนี้ แต่กุนนั้นเป็นแบบนี้มาตั้งแต่มัธยมแล้วมันถึงมีเพื่อนสนิทเป็นเขาแค่คนเดียวยังไงละ
“ มะ..หมายความว่าไง นะ..นายพูดแบบนี้กับเพื่อนฉันได้ยังไงเนี้ย “ หญิงสาวที่เป็นเพ่อนของเมย์ตะคอกใส่กุนเสียงดังลั่น จนทำให้ต่อรุ่นพี่ปีสองที่กำลังทำกิจกรรมอยู่ทางด้านหน้านั้นต้องหยุดชะงักและหันมามองทางต้นเสียงทันที
“ มีอะไรกับครับปีหนึ่ง “ ต่อขมวดคิ้วแล้วตะโกนถามขึ้น
“ นายขอโทษเพื่อนฉันเดี๋ยวนี้เลยนะ “ หญิงสาวยังคงพูดต่อโดยไม่สนใจเสียงของรุ่นพี่คนไหนทั้งนั้น เธอกับเพื่อนรู้สึกเสียหน้าเป็นอย่างมากที่ผู้ชายที่เพื่อนเธอสนใจกับกล้าพูดกับเพื่อนเธอแบบนี้
“ ทำไมฉันต้องขอโทษด้วย ฉันพูดเรื่องจริง “ กุนตอบกลับไปอย่างไม่ยอมเช่นกัน ทำให้หญิงสาวตรงหน้าตรงเข้ามาหากุนเพื่อที่จะหาเรื่องแต่ติดตรงที่เมย์ได้ห้ามเพื่อนสนิทของเธอเอาไว้ก่อน
“ พอได้แล้วเยล “ เมย์ก้มหน้างุดไม่กล้าเงยหน้ามองใครมากนัก เพราะรู้สึกอับอายขึ้นมาไม่น้อย
“ ถ้าจะทะเลาะกันก็ไปด้านนอกครับปีหนึ่ง ตรงนี้พวกผมกำลังทำกิจกรรมให้พวกคุณอยู่ ถ้าไม่ให้ความร่วมมือก็อย่าสร้างความวุ่นวายครับ “ ต่อพูดขึ้นเสียงเข้ม
“ ไอกุนพอเหอะว่ะมึง “ พนารีบดึงแขนเพื่อนให้ออกห่างจากสองสาวทันที กุนเองก็ขยับออกห่างอย่างว่าง่ายโดยไม่สนใจอะไรหญิงสาวทั้งสองที่มองหน้าเขาอยู่เลยแม้แต่น้อย
“ ไม่มีอะไรแล้วใช่มั้ยครับ ถ้างั้นผมขอทำกิจกรรมต่อนะ “ ต่อพูดขึ้นอีกครั้งเมื่อเห็นสถานการณ์เริ่มกลับมาเป็นปกติ
“ ต่อไปพวกพี่จะแจกเนื้อเพลงของคณะเราให้น้องๆได้ลองร้องกันนะครับ เชิญพี่หนิง พี่พลอยและพี่แก้วแจกเนื้อเพลงให้กับน้องๆได้เลยครับ “ ต่อหันไปพูดกับเพื่อนของตัวเองพร้อมกับพยักหน้านิดๆเพื่อให้เพื่อนของเขาเริ่มแจกเนื้อเพลงให้กับน้องๆปีหนึ่ง
————————
“ กิจกรรมสำหรับรับเกียร์จะเอาไงดีวะ “ ป้องถามปีขาลด้วยความอยากรู้
“ พวกมึงมีไอเดียอะไรที่อยากจะเสนอกูมั้ย “ ปีขาลหันไปถามเพื่อนทุกคนที่นั่งกันอยู่รอบๆเป็นวงกลม
“ กูขอเสนอได้ปะ “ นุยกมือยิ้มๆ ทั้งหมดหันไปมองทันทีด้วยความอยากรู้
“ มึงว่ามา “ ปีขาลพยักหน้าเป็นเชิงอนุญาต
“ ไปทะเลกัน “ นุบอกพร้อมกับยิ้มกว้าง
“ มึงจะไปเพื่องานหรือไปเพื่อตัวเองไอสัสนุ “ ป้องส่ายหน้าและพูดขึ้นอย่างรู้ทัน นุหน้าบึ้งทันทีเมื่อโดนจับได้
“ คนอื่นมีไอเดียอะไรจะบอกกูมั้ย “ ปีขาลหันไปถามเพื่อนคนอื่นๆ
“ กูว่า..เราลองไปปลูกป่ากันดูปะ อาจาร์ยอาจจะอนุญาตก็ได้นะเว้ย ทั้งอนุรักษ์ธรรมชาติทั้งทำความดีไปในตัวด้วย กูว่ามีแต่ได้กับได้ “ พอสยักคิ้วนิดๆกับไอเดียของตัวเอง
“ คนอื่นอะ “ ปีขาลมองไปรอบๆอีกครั้ง ยังไม่ทันที่คนอื่นๆจะได้พูดอะไรต่อจู่ๆประตูห้องประชุมก็ถูกเปิดขึ้น
พลั่ก!
“ ขอโทษที่เข้ามาเสือกในคณะมึงครับคุณเฮดว๊าก “ ซุงส่งยิ้มกวนๆไปให้ปีขาล พร้อมกับภพ แซกและชาตะกลุ่มเพื่อนของซุงเข้ามาด้วย
“ ไงไอพวกสถาปัตย์ มึงมาทำอะไรคณะกูครับผม “ ป้องแซวเพื่อนต่างคณะยิ้มๆ
“ พวกกูว่างครับ เลยเข้ามายืมห้องประชุมพวกมึงนั่งเล่นกันสักหน่อย “ ภพตอบพร้อมกับเดินไปนั่งข้างๆพอส รวมถึงแซกและชาตะเองก็ด้วย ส่วนซุงนั้นได้เดินไปนั่งข้างปีขาลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“ แล้วนี่คณะมึงประชุมคณะเสร็จแล้วหรอวะ “ ป้องถามซุงด้วยความสงสัย เพราะซุงนั้นก็เป็นเฮดว๊ากเหมือนกันกับปีขาลเพียงแค่คนละคณะก็เท่านั้น
“ เออดิ แล้วนี่พวกมึงคิดกันได้ยังว่าจะไปที่ไหนกัน “ ซุงถาม
“ พวกกูกำลังจะคิดกันอยู่ว่ะ ไอขาลมันก็ให้พวกกูช่วยกันเสนออยู่ “ พอสตอบ
“ ไปกับพวกกูเปล่าาา “ ภพยักคิ้วอย่างกวนๆ
“ ที่ไหน “ ปีขาลหันไปถามซุง
“ เสม็ด “ ซุงตอบยิ้มๆ
“ นี่มึงไม่ใช่กะเอาพวกน้องไปล่อกันที่นั่นหรอกใช่ปะ “ ป้องแซวพวกของซุงขำๆ
“ ไอสัส ถึงพวกกูจะหื่นแต่พวกกูไม่หื่นกับคณะตัวเองโว๊ยย ถ้าเป็นคณะมึงก็ว่าไปอย่าง สาวงี้อย่างแจ่มม “ ซุงนิ้วโป้งขึ้นมายิ้มๆพร้อมกับกระพริบตาข้างนึงด้วยความกวนไม่น้อย
“ น้องมึงมันคงได้ความเจ้าเล่ห์มาจากมึงสินะ “ ปีขาลส่ายหน้าน้อยๆ ซุงขมวดคิ้วนิดๆ
“ ที่มึงพูดนี่..มึงหมายถึงไอกุนหรอวะ “ ซุงถามเพื่อความแน่ใจ
“ ก็ใครละที่มันเป็นน้องมึง ถ้าไม่ใช่มัน “ น้ำเสียงปีขาลติดเหวี่ยงเล็กน้อย
“ ที่ไอขาลมันพูดนี่..มันใช่คนเดียวกับที่เป็นน้องมึงแน่หรอวะไอซุง “ ภพหันไปถามซุงด้วยความสงสัยไม่น้อย
“ อะไรของพวกมึงวะ ก็ที่กูพูดมันก็คือน้องไอซุงมันไม่ใช่หรอไง น้องมึงมันชื่อกุนหรือเปล่าละ “ ปีขาลขมวดคิ้วมองกลุ่มเพื่อนต่างคณะด้วยความงงไม่น้อย
“ คือมันก็ใช่นะเว้ยว่าไอกุนมันเป็นลูกป้ากู แต่..ไอความเจ้าเล่ห์ของมึงที่มึงพูดถึงเนี้ย มึงหมายถึงไอกุนทำกับมึง?หรอวะ “ ซุงชี้นิ้วไปทางปีขาลแล้วถามอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ
“ ก็เออไง น้องมึงอ่ะชอบกวนส้นตีนกู “ ปีขาลบอกเสียงเหี้ยมเมื่อนึกถึงหน้าตาที่กวนประสาทของเด็กปีหนึ่งที่ชื่อกุน
“ ไอเชี้ยกุนเนี้ยนะมันจะกล้ากวนมึง มันเป็นคนที่นิ่งๆไม่ยุ่งกับใครมากกว่า ยิ่งถ้ามึงไม่ได้ทำอะไรมันก่อนนะมันไม่มีทางมายุ่งกับมึงเด็ดขาด “ ซุงยืนยันอย่างมั่นใจ
“ มึงจะบอกว่ากูโกหกหรอไง หรือมึงจะบอกว่ากูไปหาเรื่องน้องมึงก่อนห๊ะ! “ ปีขาลถามซุงอย่างหาเรื่อง
“ เฮ้ยๆๆไอขาลไอสัสใจเย็นเพื่อน นั่นไอซุงเพื่อนเราเองนะมึง มึงใจเย็นดิวะ “ ป้องรีบเข้ามาห้ามทับทันทีเมื่อเห็นว่าปีขาลเริ่มที่จะโมโหแล้ว
“ มึงจะขึ้นทำไมเนี้ยย กูแค่พูดเฉยๆเองง “ ซุงยกมือห้ามพร้อมกับมองปีขาลด้วยความหวั่นไม่น้อย
“ น้องมึงอ่ะกวนส้นตีนกู กวนเยอะด้วยกูไม่ถีบยอดหน้าก็ดีแค่ไหนละ “ ปีขาลพูดขึ้นอีกครั้งด้วยความโมโห
“ แต่ไอกุนมัน.. “ ยังไม่ทันที่ซุงจะพูดจบประโยคเขาก็หันไปเจอสายตาของป้องที่ปรามไม่ให้เขาพูดอะไรต่อ แถมในสายตาของป้องนั้นยังบอกให้เขายอมปีขาลในครั้งนี้ด้วย
“ เออก็ได้ เดี๋ยวกูจะสั่งสอนมันให้ละกันว่าอย่าให้มันมากวนมึงอีก “ ซุงพูดอย่างจำยอม ทำให้เพื่อนๆรอบข้างต่างถอนหายใจด้วยความโล่งอก
“ ก็ดี เพราะกูขี้เกียจตีนกระตุกตอนเจอมัน “ ปีขาลดึงช็อปตัวเองให้เข้าที่พร้อมกับมองไปยังเพื่อนๆของตัวเองต่อ
“ สรุป..พวกมึงมีที่ไหนจะบอกกูอีกมั้ย “ ปีขาลถามขึ้นมาอีกครั้ง
ทุกคนต่างมองหน้ากันเพื่อขอความเห็นแต่ก้มีแค่เพียงความเงียบเป็นคำตอบให้กับปีขาลเท่านั้น
“ งั้นไปที่เดียวกับไอซุงแล้วกัน “ ปีขาลตัดสินใจ
“ ไหนตอนแรกไม่เอาความคิดกูไงครับ “ นุแซวยิ้มๆ
“ กูบอกหรอว่ากูจะไม่เอา กูแค่ถามว่าคนอื่นมีสถานที่ไหนจะเสนอบ้างก็แค่นั้น “ ปีขาลจ้องนุนิ่ง นุได้แต่แบะปากใส่ปีขาลด้วยความหมั่นไส้
“ เดี๋ยวมึงก็เจอส้นตีนไปขาลมันยันหน้าเอาหรอกไอห่านุ ไอกวนส้นตีนมัน “ แซกแซวนุขำๆ
“ ชิชะ “ นุลอยหน้าลอยตาทำเป็นไม่สนใจในสิ่งที่แซกแซว ถึงปีขาลจะขึ้นชื่อเรื่องความดุและโหดแต่พวกเขาก็รู้ดีว่าปีขาลจะไม่ทำร้ายเพื่อนอย่างแน่นอนแล้วยิ่งถ้าเป็นเพื่อนที่สนิทกันมานานอย่างพวกของซุงหรือป้องแล้วละก็ ไม่มีทางเด็ดขาด มันเลยทำให้พวกเขาหยอกล้อและกวนปีขาลได้อย่างไม่กลัวอะไร
“ แล้วนี่จะไปกันตอนไหนวะ “ ชาตะถามด้วยความสงสัย
“ อาจจะพร้อมพวกมึงเลย ถ้าไม่ติดขัดอะไรเดี๋ยวพวกกูต้องไปคุยกับอาจาร์ยก่อนว่าเขาจะอนุญาตมั้ย “ ปีขาลหันไปบอกชาตะ
“ งั้นเดี๋ยวกูช่วยโน้มน้าวอีกแรง กูจะบอกว่าเพื่อสร้างสัมพันธ์ที่ดีระหว่างคณะ รับรองคณะมึงได้ไปแน่ๆ “ ซุงยิ้มกว้างกับแผนที่ตัวเองพึ่งคิดได้
“ เหอะ สัมพันธ์อันนี้หรือสัมพันธ์อย่างอื่นกันแน่ครับไอคุณซุง “ ป้องหรี่ตามองเพื่อนอย่างจับผิด
“ ฮ่าๆๆๆ เกลียดนักคนรู้ทัน “ ซุงกระพริบตาใส่ป้องด้วยความเจ้าเล่ห์ เพื่อนๆได้แต่ส่ายหน้าให้กับความทะเล้นของซุง