บทที่ 407 : พฤกษากลับหัว
บทที่ 407 : พฤกษากลับหัว
อาคารสูงตระหง่านของสำนักงานกลางตั้งอยู่บนฐานสูง ณ ใจกลางเขตกลางของนอร์ซิน
นอกจากฐานสูงนี้ ยังมีอาคารเล็ก ๆ มากมายกระจายกันทั่วฐานราวกับดาวเคราะห์ อาคารเหล่านี้ต่างเป็นสถานที่อันโด่งดัง ทั้งศาลสูงสุด สำนักงานภาษีสูงสุด กรมบัญชาการตำรวจ และบ้านเรือนของเหล่าผู้แทน…
ถึงอย่างไร นอร์ซินใหญ่ยักษ์นี้ก็คือเครื่องจักรขนาดยักษ์อันซับซ้อน เป็นไปไม่ได้เลยที่จะไม่มีส่วนประกอบและสกรูนับไม่ถ้วนเพื่อช่วยมันทำงาน
ถ้าเจ้าของร้านหลินอยู่ที่นี่ เขาอาจได้ทอดถอนใจ นอร์ซินเล็กจ้อย แต่ก็มีเครื่องในครบครัน
แต่เหล่าสถานที่ ‘สูงสุด’ เหล่านี้จะยอมให้คนธรรมดาเข้าไปหรือไม่ นี่คือคำถาม
สิ่งที่ถูกสร้างขึ้นบนยกพื้นสูงใจกลางเขตกลางซึ่งราคาที่ดินแพงดั่งทองคือป่ามนุษย์สร้างสีมรกตเขียวชะอุ่มงดงาม เป็นสถานที่ซึ่งประชาชนในเมืองเขตบนอาจไม่เคยได้เห็นชั่วชีวิต และอาคารสูงหลายร้อยชั้นหลังหนึ่ง
ป่านี้ถูกใช้เพื่อหมุนเวียนอากาศ ดังนั้นผู้คนจึงเรียกป่านี้ว่า ‘ปอดแห่งนอร์ซิน’
ปอดแห่งนอร์ซิน?
มันก็แค่ต้นบอนไซสำหรับเขตกลางเท่านั้น
กระทั่งพลังในการหายใจยังไม่ใช่สิ่งที่ผู้ยากไร้สามารถดื่มด่ำได้ง่าย มีเพียงผู้คนในนอร์ซินเขตกลางเท่านั้นที่สามารถสูด ‘อากาศบริสุทธิ์’ ที่ป่านี้สร้างขึ้นได้ ส่วนสิ่งที่คนอื่น ๆ ได้หายใจนั้นเป็นเพียงหาง ๆ ที่เหลือมาเท่านั้น
หากโชคดีพอ ได้ปีนขึ้นบนแท่นสูง คน ๆ นั้นจะได้เห็นตึกสำนักงานกลางซึ่งดูสูงพอ ๆ กับท้องฟ้าเมื่อมองจากหน้าผืนป่าใจกลางเขตกลาง
ที่นี่คือสำนักงานปกครอง นำโดยขุนนางผู้ถืออำนาจแท้จริงและ ‘ผู้สูงศักดิ์’ ทั้งสิบเป็นศูนย์กลาง
แต่คนเหล่านี้เป็นเพียงยอดภูเขาน้ำแข็ง น้ำหยดเดียวในสมุทร ไม่มีใครรู้ว่าอาคารยักษ์นี้มีชั้นใต้ดินลึกลงไปหลายพันเมตร ปรากฏขึ้นหลังจากขุดลงไปใต้ชั้นหินดำมืดนับชั้นไม่ถ้วน
มีพื้นที่ใหญ่มโหฬาร
พื้นที่ที่แทบจะไร้สิ้นสุดนี้เป็นเหมือนแดนนิมิต ไร้ท้องฟ้าคราม ตะวันและจันทรา เป็นเพียงถ้ำมืด ๆ ว่าง ๆ และพฤกษากลับหัวซึ่งอธิบายไม่ได้ปรากฏขึ้นโดยมองไม่เห็นจุดจบ
พฤกษากลับหัวนี้ใหญ่โตมากเกินไปจริง ๆ กระทั่งจินตนาการยังไม่เห็นภาพรวม แต่เหล่าคนชราผู้รวมตัวกันใต้มวลกิ่งไม้นับไม่ถ้วนในตอนนี้ดูจะรู้จักมัน…
พฤกษากลับหัวนี้แผ่กิ่งก้านไปทั่วเมืองเหล็ก
คนชราในชุดคลุมสีขาวกลุ่มหนึ่งยืนรวมตัวอยู่ใต้ต้นไม้ พวกเขาอายุมากเสียจนผิวย่นยานบอกรูปลักษณ์ เพศ และฐานะไม่ได้ เรียกได้เพียง ‘กลุ่มคนชรา’
พวกเขาคือนายที่แท้จริงของศาลสูงสุด
ชายชราเคราขาวคนหนึ่ง ไม่ทราบว่าเป็นเพราะอายุมากหรือเปล่า จมูกของเขาบวมโตเหมือนถัง ดูเหมือนมีหนอนยักษ์ตัวหนาห้อยอยู่บนใบหน้า เขาลูบคางของตนอย่างแผ่วเบา กล่าวว่า “ฮัมฟรีย์ที่เราส่งไปเข้างานประมูลตายแล้ว”
“ดูเหมือนว่าเรายังดูถูกเจ้าของร้านหนังสือเกินไป”
หนังตายานย่นของคนอื่น ๆ เปิดขึ้นกะทันหัน ดวงตาสีเหลืองมัวหมองดูจะถูกปกคลุมด้วยชั้นเถ้าจาง ๆ มันเต็มไปด้วยความขรุขระ ชวนให้ผู้มองขนหัวลุกซู่
“อืม…นอกจากผู้ตรวจการฮัมฟรีย์ ทุกคนที่เหลือถูกฝังเมล็ดพันธุ์แห่งเทพปีศาจลงไป”
ชายชราจมูกใหญ่พูดต่อ
“บาล เจ้าของร้านหนังสือฆ่าฮัมฟรีย์หรือ?”
ชายชราอีกคนผู้พยุงร่างด้วยไม้เท้าตอบ เขาชราเสียจนแก้มย้อยลง ราวตาชั่งถ่วงน้ำหนักสองข้าง
บาล ชายชราจมูกใหญ่พูดต่อด้วยสีหน้าหนักอึ้ง “เปล่า ผู้ลงมือเป็นคนจากเขตล่าง”
“อะไรนะ?!”
ราวกับกลุ่มคนชราเหล่านี้ได้รับข่าวน่าตกใจ มีพวกเขาสองสามคนผุดลุกขึ้นจากกิ่งไม้ ตกใจกว่าเรื่องลิ่วล้อที่พวกเขาส่งไปเข้าร่วมงานประมูลตายแล้วเสียอีก
ทุกคนรู้ถึงอำนาจที่เจ้าของร้านหนังสือถือครองเป็นอย่างดี การฆ่าฮัมฟรีย์และสายสืบคนอื่น ๆ ที่เขตกลางส่งไปก็แค่ทำให้พวกเขาตระหนักถึงความเข้าใจในความแข็งแกร่งของเจ้าของร้านหลินมากขึ้น
แต่ว่านี่…เป็นฝีมือชาวเมืองเขตล่างที่ขึ้นมา!
“เขาทำได้อย่างไร?!” หนึ่งในหญิงชราตื่นเต้นเสียจนเธอตัวสั่นเทิ้ม เสียงเข้มงวดของเธอกระทั่งเจือความหวาดกลัวเล็กน้อย “สัตว์พวกนั้นจากเขตล่างขึ้นมาได้อย่างไร?!”
บาลเหลือบมองเธอ พูดปลอบใจว่า “ใจเย็นก่อน แอสโมเดียส อย่าตกใจไป”
หลังได้ยินคำพูดปลอบใจจากบาล หญิงชรานามแอสโมเดียสสูดหายใจลึก ๆ สงบสีหน้า
แต่จากนั้น เธอก็ได้ยินบาลพูดต่อ “เพราะถึงอย่างไร คุณจะได้ตกใจกว่านี้อีก”
แอสโมเดียสนิ่งงันไป
บาลพูดต่อช้า ๆ “เพราะฉันสงสัยว่า ไม่สิ นับว่าแน่ใจได้แล้วว่าคนจากเขตล่าง…ถูกเจ้าของร้านหลินคนนั้นชี้นำ”
ทันทีที่สิ้นเสียงของบาล เหล่าคนชราก็ดูจะตกสู่สภาวะนิ่งงัน
บาลพูดต่อเพื่อทำลายบรรยากาศเงียบกริบ กล่าวราวกับผู้ประกาศข่าว “ฉันไม่รู้ว่าพวกคนจากเขตล่างขึ้นมาที่เขตบนได้อย่างไร แต่ดูเหมือนเขาจะถูกพลังบางอย่างชี้นำให้ฆ่าฮัมฟรีย์ และก่อนหน้านี้เขาได้รับหนังสือเล่มหนึ่งซึ่งว่ากันว่าเจ้าของร้านหลินเป็นผู้เขียน”
“เหตุการณ์เหล่านี้เต็มไปด้วยความบังเอิญ ยกตัวอย่างเช่น หนังสือในงานประมูลจะเป็นผู้เลือกนาย ในฐานะที่เป็นหนังสือของเจ้าของร้านหลิน มันก็นับได้ว่าเป็นตัวแทนหัวใจของเขา แต่เขากลับเลือกฮัมฟรีย์ผู้ไม่มีความสำเร็จอะไรเลย มันจะเป็นไปได้อย่างไร?”
“เกรงว่า…” บาลหลับตาลง เสียงเต็มไปด้วยคำทอดถอนใจเสียงยาว “ทั้งหมดนี่คือแผนของเจ้าของร้านหนังสือ”
“ดูเหมือนว่าเราต้องสู้กับเขาแล้ว ในเมื่อเรากล้าบุกรุกเมืองเขตล่าง เรากำลังทำให้รากฐานทั้งหมดทั่วนอร์ซินสั่นสะเทือน” ชายชราอายุน้อยที่สุดในหมู่พวกเขาโพล่งขึ้น เสียงของเขาเต็มไปด้วยเหตุผล
“อากาเรซ คุณยังคงห้าวไม่เปลี่ยน” บาลขมวดคิ้ว กล่าวอย่างเย้ยหยัน “แต่ก่อนจะสู้กัน คุณควรใช้สมองก่อนนะ คุณคิดว่าเราในตอนนี้เอาชนะเจ้าของร้านหนังสือได้หรืออย่างไร?”
อากาเรซผงะไป เขาไม่คิดว่าบาลจะยอมรับออกมาเร็วขนาดนี้ว่าไม่สามารถเอาชนะเจ้าของร้านหนังสือได้ ไร้ศักดิ์ศรีโดยสิ้นเชิง
“เฮอะ ขี้ขลาดเหมือนหนู!” อากาเรซสะบัดหน้าไปด้านข้างอย่างกระอักกระอ่วนสุด ๆ
“เขาบังคับวิถีแห่งดาบอัคคีให้รวมเป็นหนึ่ง ทำลายโบสถ์แห่งจุดสูงสุด จัดเตรียมให้ผู้มีพลังเหนือธรรมชาติระดับเหนือนภาสองคนถล่มนอร์ซินเละเทะได้ด้วยคำชี้นำสบาย ๆ แค่ไม่กี่คำ พวกคุณลืมแล้วเหรอ? ถ้าไม่ใช่เพราะการมีอยู่ของคนผู้นั้น พวกเราคงไม่รู้อะไรต่อไป”
ชายชราตัวเตี้ยที่สุดในหมู่พวกเขาพูดต่อ
“ฉันคิดว่าเป็นข่าวลวงที่เขาจัดเตรียมให้ผู้มีพลังเหนือธรรมชาติระดับเหนือนภาสู้กัน ที่จริงแล้วนั่นคือการแสดงเพื่อเรามากกว่า”
พูดจบ เขาก็ชะงักไปครู่หนึ่ง “ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่เขาคาดการณ์ทุกสิ่งอย่างแม่นยำ การพัฒนาของเรื่องราวต่าง ๆ ไม่เคยเกินไปจากความคาดหมายของเขา เขาต้องคุ้นเคยกับอดีตและอนาคตด้วยแน่ บางที…”
เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงพูดต่อ “เขาอาจจะเห็นพวกเราที่กำลังวางแผนกันอยู่ที่นี่อย่างชัดเจนก็ได้?”
“ไร้สาระ อามอน นายกลายเป็นกระต่ายตื่นตูมไปแล้วสินะ” อากาเรซพูดอย่างฉุนเฉียว ชี้นิ้วไปยังต้นไม้ซึ่งมองไม่เห็นจุดขอบ ดุด่าเสียงดัง “นายกำลังช่วยกระพือไฟให้คนอื่นเพื่อทำลายเกียรติยศของฉัน และฉันถือได้ไหมว่า คำพูดของนายเป็นการไม่เคารพแม่มดแห่งพฤกษา?!”
อามอนยักไหล่ด้วยรอยยิ้มเยาะ ตั้งใจจะโต้แย้ง ทว่าบาลขัดเขาไว้กะทันหัน…
“หยุดทะเลาะกันได้แล้ว! พวกคุณอยากส่งผลกระทบต่อมารดาแห่งนอร์ซินผู้ต่อสู้เพียงลำพังกับหมอกสีเทา และอยู่เฝ้านิทราของมหาแม่มดพฤกษาแห่งนอร์ซิน ฟราซินัสเหรอ?”
คำพูดของบาลทำให้ทั้งสองหุบปาก รวมไปถึงคนอื่น ๆ ด้วยครู่หนึ่ง
จากนั้น บาลก็ถอนหายใจสองสามครั้ง ก่อนจะเกินไปยังผลไม้ผลเดียวที่ห้อยอยู่บนกิ่งพฤกษากลับหัว ทุกคนต่างเดินตามเขาไปด้วยสีหน้าเคารพบูชา
“ไม่ว่าอย่างไร เป็นไปไม่ได้แล้วที่เราจะสู้กับเขาได้ สิ่งที่วิถีแห่งดาบอัคคีทำก่อนหน้านี้เปิดรอยแตกในแดนนิมิตไปแล้ว หมอกสีเทาเริ่มแพร่ขยาย และกระทั่งนอร์ซินยังตกสู่อันตราย ตอนนี้เราพักเรื่องนี้ไว้ก่อนเถอะ เมื่อวิถีแห่งดาบอัคคีลงมือ เราจะนั่งเป็นตาอยู่รอฉวยผลประโยชน์”
“แค่ว่าในตอนนั้น เราจะทำได้เพียงกวนนิทราอันยาวนานของแม่มดฟราซินัส” บาลเดินไปหาผลไม้ยักษ์ที่ดูเหมือนมนุษย์ และมองผ่านหน้าต่างโปร่งใสบานเล็ก ๆ ที่เปิดอยู่เหนือผลไม้เข้าไปจากภายนอก
เด็กสาวผมสีฟ้าเทอร์ควอยซ์หน้าตางดงามราวนางฟ้านอนเปลือยอยู่ที่ใจกลาง ผิวของเธอขาวเนียนจนลมเป่าก็อาจแตกสลาย แต่มีกิ่งไม้สีเทอร์ควอยซ์งอกออกมาจากร่างเธอ ซึ่งทำให้เธอยิ่งดูงดงาม
โดยเฉพาะที่บริเวณท้องน้อยแถว ๆ สะดือ มีกิ่งไม้หนางอกออกมาเหมือนสายสะดือ ดูดซับสารอาหารจากเธอ กระจายไปทั่วพฤกษากลับหัวขนาดยักษ์อย่างต่อเนื่อง ทำให้ทั่วเมืองนอร์ซินสามารถรักษากำแพงหมอกไว้ได้
จากมุมมองหนึ่ง แม่มดแห่งพฤกษาฟราซินัสก็คือต้นกำเนิดพลังทั้งในการสร้างและอยู่อาศัยในเมืองนอร์ซิน เมืองนี้เป็นราวตัวอ่อนในครรภ์ซึ่งดูดซับสารอาหารจากเธออย่างต่อเนื่อง
แพขนตายาวสีเดียวกันของเธอกระเพื่อมเล็กน้อย ดูราวกับตกสู่ความฝันอันยาวนานและงดงาม มุมปากประดับบนใบหน้างดงามของเธอยกขึ้นเล็กน้อย เหมือนกับเด็กสาวตัวน้อย ๆ