หลังจากที่ถังเฉาพูดจบแล้ว เจ้าหญิงก็ส่ายหัวทันที
“นี่มันจะเป็นไปได้ยังไง เธอเป็นหนึ่งในทายาทของญี่ปุ่นของพวกเราเชียวนะ ถ้าเธอไม่สำคัญล่ะก็ แบบฉันก็คงจะไร้ค่าไร้ความหมายไปเลยน่ะสิ”
หลังจากที่ได้ยินประโยคนี้ ถังเฉาถึงได้ตอบสนองกลับมา
เบาะแสร่องรอยในการตามหาโอดะไอ มันเงียบกริบไร้ข่าวคราวมาตลอด ที่แท้สถานภาพที่แท้จริงของโอดะไอก็คือคนของญี่ปุ่นนี่เอง
“เธอเป็นทายาทของญี่ปุ่น เรื่องนี้ทำไมผมถึงไม่รู้”
เห็นได้ชัดว่าถังเฉาช็อกตกใจอยู่ไม่น้อย แต่ในตอนนี้เองเจ้าหญิงสูดหายใจไปหนึ่งเฮือกก่อนจะพูดขึ้น
“เรื่องนี้คุณไม่รู้ก็ปกติ ถึงยังไงเธอก็หายตัวไปตั้งนานแล้ว แต่เลือดของเธอยังคงมีคุณสมบัติในการเป็นทายาทอยู่”
เจ้าหญิงพูดขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง ส่วนถังเฉากลับยิ่งฟังยิ่งอึ้งตะลึง
“ในเมื่อเป็นแบบนี้ ทำไมคุณถึงต้องมาหาผมล่ะ?”
พูดให้ชัดๆคือ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ถังเฉาไม่เข้าใจที่สุด แต่เจ้าหญิงกลับแค่ยิ้มนิ่งๆพร้อมกับพูดขึ้น
“อำนาจของญี่ปุ่นไม่ใช่น้อยๆอยู่แล้ว แม้จะบอกว่าตรวจสอบไปหลายปีขนาดนี้ แต่กลับไม่มีแนวโน้มอะไรเลยแม้แต่น้อย ฉันได้ยินมาจากโลกภายนอกว่าโอดะไออาจจะติดต่อสื่อสารกับคุณอยู่บ้าง ดังนั้นฉันจึงตามมาถึงที่นี่ทันที”
“แต่ถึงยังไงใครเป็นคนบอกฉัน ฉันไม่สามารถบอกคุณได้แน่นอน เพราะว่าฉันกับคนคนนั้นมีคำสัญญากันอยู่”
จากนั้นถังเฉาก็พยักหน้า ถึงยังไงเรื่องใหญ่ระดับประเทศของญี่ปุ่น ถังเฉาก็ไม่กล้าทีเล่นทีจริง
“ได้ ผมจะบอกคุณ ผมรู้ว่าเธออยู่ที่ไหน แถมผมก็รู้จักเธอด้วย ผมพาคุณไปหาเธอได้ แต่คุณต้องปกป้องคุ้มกันความปลอดภัยของเธอด้วย”
“แล้วก็ยังมีอีกหนึ่งเรื่องที่คุณต้องรู้ นั่นก็คือเธอไม่ได้มีความจำมากมายเท่าไรแล้ว หลายสิ่งหลายอย่างสำหรับเธอแล้วล้วนแต่เป็นสิ่งแปลกหน้า ดังนั้นคุณต้องค่อยๆบอกเธอทีละนิดๆ”
หลังจากที่ได้ฟังคำพูดนี้แล้ว เจ้าหญิงก็รู้สึกยากที่เชื่ออยู่ไม่น้อย แต่ก็ต้องยอมรับความจริง
“เอาเถอะ คุณพาฉันไปแล้วกัน เรื่องระดับประเทศจะมาทีเล่นทีจริงไม่ได้ ตอนนี้ฉันต้องหาตัวเธอให้เจอให้โดยเร็ว”
ถังเฉาพยักหน้า ไม่ได้พูดอะไร พาเจ้าหญิงไปยังตระกูลลั่ว
ถังเฉายังไม่ทันถึงตระกูลลั่ว ก็ถูกลั่วเย่นหัวรู้เข้าก่อน
ลั่วเย่นหัวได้ยินลูกน้องของตัวเองบอกว่าข้างกายของถังเฉายังพาผู้หญิงคนหนึ่งมาอีกด้วย ก็นึกว่าถังเฉาจะต้องนอกใจแน่นอน ก็เลยโกรธสุดๆ
จนกระทั่งถังเฉามาถึงตรงหน้าของลั่วเย่นหัว ลั่วเย่นหัวก็ยังคงโมโหอยู่ ไม่ว่ายังไงถังเฉาก็เป็นลูกเขยของตัวเอง ไม่คิดว่าจะทำเรื่องที่ไร้สามัญสำนึกต่อหน้าของตัวเองแบบนี้
พอเห็นว่าข้างกายของถังเฉาพาผู้หญิงคนหนึ่งมาด้วย ลั่วเย่นหัวก็สีหน้าเปลี่ยนไป
“ถังเฉา ไอ้เดรัจฉาน นายกล้าทำเรื่องแบบนี้ ยังมีหน้ามาทำท่าทีนิ่งสงบต่อหน้าฉันอีกเหรอ”
ถังเฉาสีหน้ามึนงง? ทำไมผมถึงไม่เข้าใจ?
ลั่วเย่นหัวก็ยิ่งโมโหมากขึ้น ถังเฉาแสร้งทำเป็นไม่เข้าใจต่อหน้าของตน หรือว่าอยากจะให้ตนเองแฉว่าถังเฉาเป็นคนที่แต่งงานแล้วอย่างนั้นสินะ?
“นายยังมาแกล้งทำเป็นไม่รู้? ถ้าอย่างนั้นผู้หญิงที่นายพามาด้วยคือใคร นายไม่รู้เหรอว่านายแต่งงานแล้ว?”
ในตอนนี้ถังเฉาก็เข้าใจขึ้นมา หัวเราะออกมาเสียงดังอย่างอดไม่ได้
“น้า เธอเป็นเจ้าหญิงของญี่ปุ่น มาทำธุระ ผมแค่นำทางมาเท่านั้น คุณเข้าใจผิดแล้วครับ!”
ลั่วเย่นหัวเพิ่งจะก้าวก่ายล่วงเกินเจ้าหญิงไปเมื่อตะกี้ ตอนนี้พอรู้ว่าคนที่อยู่ตรงหน้าคือเจ้าหญิง เธอก็รู้สึกอึดอัดสุดๆ
“อา……ที่แท้เป็นแบบนี้นี่เอง ฉันก็ยังนึกอยู่ว่านายไปเอาความกล้ามาจากไหน ถึงได้กล้าทำเรื่องแบบนี้ ว่าแต่เจ้าหญิงมาที่พวกเรามีเรื่องอะไรล่ะ”
พอพูดถึงตรงนี้สีหน้าของถังเฉาเปลี่ยนไปจริงจังทันที
“เธอมาที่นี่เพื่อมาหาโอดะไอ ผ่านมานานมากแล้ว ในที่สุดก็มีคนที่รู้จักโอดะไอสักที แล้วก็ไม่รู้เหมือนกันว่าควรจะดีใจหรือว่าเศร้าดี”
ถังเฉารู้ว่าหลังจากที่เรื่องนี้ยืนยันแล้ว โอดะไออาจจะต้องจากไป แม้จะไม่รู้ว่าภายในญี่ปุ่นเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ แต่การที่สามารถทำให้เจ้าหญิงเผยตัวออกมาด้วยตัวเอง พานายพลมาด้วยตัวคนเดียวแบบนี้ จะต้องไม่ใช่เรื่องเล็กๆแน่นอน
หลังจากที่ได้ยินคำพูดของถังเฉาแล้ว ลั่วเย่นหัวก็สีหน้าช็อกตกใจทันที
“ถ้าอย่างนั้นเชิญเจ้าหญิงเข้าข้างในก่อนค่ะ ตอนนี้เธอนั่งอยู่ในห้องของฉัน”
ลั่วเย่นหัวพาเจ้าหญิงแล้วก็ถังเฉาไปที่ห้องของตัวเอง
พอได้ยินว่าถังเฉาจะมา โอดะไอก็ไปแต่งตัวอยู่หน้ากระจกอย่างไม่รู้ตัว
“เธออยู่ที่นี่แหละค่ะ”
พูดจบ เจ้าหญิงก็ผลักประตูเข้ามา เห็นผู้หญิงคนหนึ่ง กำลังนั่งจัดผมของตัวเองอยู่หน้ากระจก
“เป็นเธออย่างที่คิดเอาไว้”
วินาทีแรกที่เจ้าหญิงเห็นโอดะไอ ในแววตาก็เต็มไปด้วยแสงสว่าง
แต่ปฏิกิริยาของโอดะไอกลับเฉื่อยชาลงอย่างเห็นได้ชัด หลังจากผ่านไปไม่กี่วินาที โอดะไอก็รู้สึกว่าปวดหัวอย่างผิดปกติ
หลังจากเป็นลมไป ถังเฉาก็รีบเข้ามาอุ้มโอดะไอเอาไปนอนไว้บนเตียง
“อาจจะเป็นเพราะว่าเธอเห็นคุณแล้วนึกอะไรขึ้นมาได้ล่ะมั้ง คุณเป็นใครกันแน่ ทำไมเธอถึงมีปฏิกิริยาตอบสนองกลับมาแบบนี้?”
พอถังเฉาถามถึงตรงนี้ ใบหน้าของเจ้าหญิงก็เผยให้เห็นถึงรอยยิ้มขึ้นมา เห็นได้ชัดว่าเป็นรอยยิ้มที่มีความสุข
“ถ้าเธอมีปฏิกิริยาแบบนี้ แสดงความทรงจำที่เธอมีต่อฉันนั้นลึกซึ้งมากๆ”
ตอนที่เจ้าหญิงพูดประโยคนี้ออกมา สีหน้าปลาบปลื้มใจสุดๆ
จากนั้น เจ้าหญิงก็เล่าเรื่องในอดีตของตัวเองกับโอดะไอให้เขาฟัง ในที่สุดถังเฉาก็รู้ถึงสาเหตุแล้ว
ในพระราชวังของญี่ปุ่นมีความสัมพันธ์ไม่ค่อยดีกับผู้ที่ยึดครองพื้นที่ทุกคนมาโดยตลอด มีความสัมพันธ์ที่ค่อนข้างดีกับแค่ตระกูลเดียวเท่านั้น นั่นก็คือตระกูลโอดะ
ที่ความสัมพันธ์ของทั้งสองตระกูลนี้ดี ก็เป็นเพราะว่าโอดะไอกับเจ้าหญิงชอบที่จะอยู่ด้วยกัน จึงทำให้คนของทั้งสองตระกูลนี้มักจะไปมาหาสู่กันอยู่ตลอดเวลา ความสัมพันธ์ก็เลยเริ่มดีขึ้นมา
แต่ก็เกิดเหตุการณ์ครั้งใหญ่ขึ้นมากะทันหัน ทำให้ตระกูลโอดะเผชิญกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด
อุทกภัยในตอนนั้น ทำให้ทุกคนของตระกูลโอดะพากันจากโลกนี้ไป แต่ยังดีที่โอดะไอยังมีชีวิตอยู่ แต่กลับไม่รู้ว่าถูกน้ำซัดไปอยู่ที่ไหน
เนื่องจากได้รับความเสียหายที่หนักหนารุนแรง แล้วก็แช่อยู่ในน้ำมานานขนาดนั้น ความทรงจำของโอดะไอก็เริ่มสับสนเลือนราง นี่ก็เป็นเหตุผลว่าทำไมความทรงจำของเธอถึงวุ่นวายยุ่งเหยิง
ตอนนี้หลังจากที่เห็นเจ้าหญิงแล้ว ความจำของเธอก็เริ่มปั่นป่วนขึ้นมา สิ่งต่างๆคาบเกี่ยวทับซ้อนกันไปหมด สมองตอบสนองกลับมาไม่ทัน ก็เลยเป็นลมล้มทับไป
ตอนที่ฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง โอดะไอก็นึกถึงเจ้าหญิงที่อยู่ตรงหน้าขึ้นมาได้
“อายาเสะ!เธอมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง? ตอนนี้เธอเปลี่ยนไปมากเลยนะ!”
ไม่เจอกันหลายปี แต่พอโอดะไอเห็นเจ้าหญิงอายาเสะก็สนิทสนมราวกับเป็นเพื่อนเก่าเพื่อนแก่ ทั้งสองคนน้ำตาไหลรินด้วยความตื่นเต้น โผเข้ากอดกัน
“ผ่านมานานหลายปี ในที่สุดฉันก็หาเธอพบสักที เธอรู้ไหมว่าฉันหาเธออย่างยากลำบากขนาดไหน? ตอนนี้เธอกลับมาแล้ว!”
ก่อหน้านี้อายาเสะมีท่าทีที่สุภาพสง่างามมาโดยตลอด แต่นาทีที่เห็นโอดะไอก็ทลายมันไปจนหมดสิ้น กลายเป็นสาวน้อยที่อ่อนไหวง่ายไวต่อความรู้สึกขึ้นมาทันที
“แต่ว่า ครั้งนี้ที่ตามหาเธอเจอ ยังมีเรื่องที่สำคัญมากๆอีกหนึ่งเรื่อง”