เจ้ามังกรพรีเมี่ยม – ตอนที่ 271 จัดการให้ราบคาบ

เมื่อหวางหมิ่นเหมินถามซักไซ้ด้วยเสียงเบา สายตาของคนที่อยู่ตรงนั้นต่างพากันมองไปที่คนที่กำลังนั่งอยู่อย่างต่งวี่ซู่

ไม่ใช่แค่พวกเขา ขนาดฟางหย่ากับถังชิงเหอยังมองต่งวี่ซู่ด้วยสีหน้าตกตะลึง ไม่คิดว่าคนที่มาช่วยพวกเธอยามคับขันจะเป็นเขา

ตอนนี้สีหน้าของต่งวี่ซู่เคร่งขรึมเป็นอย่างมาก เขาต้องเผชิญหน้ากับสายตาที่ไม่เป็นมิตร เขายืนขึ้นมาช้าๆ

“เถ้าแก่หวาง ไว้หน้าผมหน่อย ปล่อยพวกเธอไปได้ไหม”

แววตาของหวางหมิ่นเหมินฉายแววอาฆาตออกมา แต่ไม่ได้โกรธ เขาหรี่ตาลงมองอย่างประเมิน “วี่ซู่ นายกับฉันสนิทกันเหมือนพี่น้อง ฉันรู้ว่านายชอบอะไร นายชอบถังชิงเหอมานานแล้ว วันนี้ผมกะมอบเธอเป็นของรางวัลให้กับนาย ทำไมนายถึงพูดไร้สาระแบบนี้ออกมา”

เจิ้งเทียนเฉิง เหวินเหรินวี่ จ้าวชุนเซิงและซุนเสว่ต่างพากันมองเขาด้วยสายตาเย็นยะเยือก เพื่อรอคำอธิบายจากเขา

ต่งวี่ซู่เงียบไปครู่หนึ่ง เขาพูดด้วยแววตาแน่วแน่ “คนมักมีการเปลี่ยนแปลงเสมอ ถูกแล้วที่ผมชอบชิงเหอ แต่ผมต้องการความจริงใจจากเธอ ไม่ใช่การใช้วิธีการแบบนี้”

เมื่อคำพูดนี้ออกมา เหมือนถังชิงเหอเพิ่งรู้จักต่งวี่เป็นครั้งแรก สีหน้าของเธอเต็มไปด้วยความตกตะลึง

จู่ๆ สีหน้าของหวางหมิ่นเหมินก็นิ่งลง แต่เขายังคงพยักหน้า “อืม งั้นเอาตามที่นายว่าแล้วกัน ปล่อยถังชิงเหอไป เธอเป็นดาราดัง ถ้าเรื่องแดงออกไป มันก็ไม่ดีกับตระกูลหวางของฉัน”

“ปล่อยเธอด้วย!”

ต่งวี่ซู่ชี้ไปที่ฟางหย่าแล้วเอ่ยขึ้น

“ต่งวี่ซู่!”

ในเวลาเดียวกัน จู่ๆ สีหน้าของหวางหมิ่นเหมินก็เปลี่ยนไป เขาโมโหจนถลึงตาและแผดเสียงออกมา

ทุกคนสะดุ้งโหยงเพราะหวางหมิ่นเหมิน เส้นเลือดปูดขึ้นมาบนหน้าผากของเขา เขามองต่งวี่ซู่ด้วยสีหน้าโหดเหี้ยม

“ฉันปล่อยถังชิงเหอคนเดียวก็ถือว่าไว้หน้าแล้ว นายอย่ามาได้คืบจะเอาศอก”

“ใช่ ห้ามปล่อยฟางหย่า!”

ซุนเสว่พูดออกมาอย่างร้ายกาจ “ต่งวี่ซู่ ฉันรู้ว่านายเป็นคุณชายตระกูลต่ง แต่พวกเรามีคนเยอะขนาดนี้ นายแน่ใจเหรอว่าจะมาเป็นศัตรูกับเรา”

หวางเยี่ยก็เดินเข้ามาเช่นกัน สีหน้าของเขาไม่สู้ดี “พี่วี่ซู่ ผมเคารพพี่ถึงเรียกพี่ว่าพี่ แต่ตอนนี้พี่ต้องหาเหตุผลมาให้ทุกคน!”

เมื่อได้ยินดังนั้น ต่งวี่ซู่ก็เงียบไป สีหน้าของเขาอึมครึม

ฟางหย่ากับถังชิงเหอก็อยากรู้เหตุผลที่ต่งวี่ซู่ทำแบบนี้เหมือนกัน

ถังเฉาอาการไม่ดี ผู้หญิงอ่อนแออย่างพวกเธอสองคน ไม่สามารถปลีกตัวออกจากสถานการณ์อันตรายแบบนี้ได้ ทำไมต่งวี่ซู่ต้องยอมผิดใจกับทุกคน เพื่อช่วยพวกเธอด้วย

“หรือว่านายทรยศฉันตั้งนานแล้ว”

จู่ๆ หวางหมิ่นเหมินก็พูดขึ้นมา ภายในคำพูดของเขาแฝงไปด้วยความอาฆาต

เมื่อคำพูดนั้นออกมา ทุกคนต่างพากันอึ้ง หวางเยี่ยมองต่งวี่ซู่อย่างไม่อยากจะเชื่อ

“ถึงถังเฉาจะมีความสามารถมาอีกแค่ไหน เขาไม่มีทางรู้เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้หรอก แถมเขายังสงสัยว่าฉันวางยาในเหล้าของเขา นี่มันไม่ผิดปกติไปหน่อยเหรอ”

หวางหมิ่นเหมินจ้องต่งวี่ซู่เขม็งแล้วพูดออกมาอย่างชัดถ้อยชัดคำ “ต้องเป็นนายแน่ๆ ที่แอบส่งข่าวให้เขา ใช่ไหม”

“เป็นแบบนี้เหรอ นายทรยศพวกเรา!”

หวางเยี่ยกัดฟันแล้วถามออกมา “แผนนี้มีแค่พวกเราสามคนที่รู้!”

ต่งวี่ซู่ยังคงเงียบ เขากำหมัดแน่น เหมือนกำลังแบกรับความกดดันอันหนักหน่วง

แต่เมื่อเขาหันไปมองถังเฉาที่กำลังสลบแต่สีหน้าของเขายังคงราบเรียบ ในใจของเขาก็มีคำตอบ

เขาสูดหายใจลึกแล้วจ้องหวางหมิ่นเหมินแล้วพูดว่า “นายคิดผิดแล้ว ไม่ว่าผมจะแอบส่งข่าวให้หรือไม่ แผนของนายก็ไม่มีทางสำเร็จหรอก เพราะไม่ว่านายจะจัดฉากขึ้นมายังไง มันก็แค่เรื่องตลกในสายตาของเขา!”

“บังอาจ!”

หวางหมิ่นเหมินโกรธเป็นอย่างมาก “ฉันว่านายยังไม่รู้ว่าสถานการณ์ตอนนี้เป็นยังไง เจ้านายถังเฉาของนาย นอนรอความตายเท่านั้น ส่วนผู้หญิงสองคนนี้ก็จะกลายเป็นเครื่องระบายอารมณ์ของพวกเรา การที่นายมาต่อต้านฉันในเวลาแบบนี้ เป็นการรนหาที่ตายชัดๆ”

“ถึงนายจะเป็นผู้นำตระกูลต่ง แต่ตระกูลของนายกำลังตกระกำลำบาก ผู้นำแบบนี้มีไปก็เท่านั้น!”

ต่งวี่ซู่ไม่ได้พูดอะไร แต่สีหน้าของเขาเคร่งขรึมขึ้น

หวางหมิ่นเหมินพูดถูก ตอนนี้ตระกูลต่งกำลังตกระกำลำบากและพังย่อยยับ ไม่ได้มีบารมีเหมือนแต่ก่อนอีกแล้ว ขนาดตระกูลระดับล่างอย่างตระกูลหวางยังมาข่มเหงเขาได้

จู่ๆ เขาก็ยิ้มออกมา “เสือออกจากป่าไปอยู่ตามพื้นบ้านถูกหมารังแก นกหงส์ที่ขนหลุดร่วงก็ไม่ได้ดีไปกว่าไก่ไม่ใช่เหรอ”

“ถูกต้อง นายคือนกหงส์ที่ขนหลุดร่วง!”

แววตาของหวางหมิ่นเหมินเต็มไปด้วยการดูถูก “ถึงตระกูลต่งจะไม่เกิดเรื่องน่าเศร้า นายมันก็แค่ตัวตลกเท่านั้น เป็นคุณชายตระกูลดีดีไม่ชอบ กลับไปเต้นกินรำกินเป็นตัวตลก น่าขำสิ้นดี!”

“ต่งวี่ซู่ นายไม่ต้องสนใจพวกเรา รีบหนีไปเถอะ”

ในที่สุดถังชิงเหอก็อดพูดออกมาไม่ได้ เธอพยายามพูดเกลี้ยกล่อม

ต่งวี่ซู่ยังไม่ขยับไปไหน ถังเฉาเป็นคนให้ตำแหน่งผู้นำตระกูลกับเขา เขาจะไม่หักหลังถังเฉา เรื่องหักหลังทำแค่ครั้งเดียวก็พอแล้ว

“ต่งวี่ซู่ ฉันจะให้โอกาสนายเป็นครั้งสุดท้าย จะยอมแพ้ฉันไหม”

ความอดทนของหวางหมิ่นเหมินมาถึงจุดสูงสุดแล้ว เส้นเลือดบนหน้าผากของเขาเต้นตุ้บๆ

ต่งวี่ซู่แสยะยิ้มออกมาอย่างเยาะเย้ย “ขนาดต่งอี้สิงผมยังไม่ยอมเลย ทำไมผมต้องยอมผู้นำตระกูลระดับล่างอย่างนายด้วย”

“ได้!”

คำพูดเหล่านี้ทำให้หวางหมิ่นเหมินอาฆาตเป็นอย่างมาก เขาพูดด้วยสีหน้าโหดเหี้ยมว่า “ในเมื่อนายรนหาที่ตาย งั้นฉันฆ่านายก่อนแล้วกัน!”

จู่ๆ บอดี้การ์ดของตระกูลหวางก็เอาปืนออกมา อาวุธปืนสีดำขลับเล็งไปที่หัวของต่งวี่ซู่

“ต่งวี่ซู่ รีบหนีไป!”

ฟางหย่ากับถังชิงเหอหน้าซีดเผือด พวกเธอพูดออกมาอย่างกังวล

แต่ทว่าคนที่ถูกปืนหลายกระบอกเล็งมาที่หัวอย่างต่งวี่ซู่ กลับไม่มีท่าทีว่าจะขยับไปไหน

สีหน้าของเขามีรอยยิ้มบ้างๆ “คุณถังเฉาเขาหวาดระแวงผมมาตลอด ตอนนี้ผมว่าเขาคงจะไม่สงสัยในตัวผมแล้ว”

หวางหมิ่นเหมินกำลังจะออกคำสั่งให้ยิงต่งวี่ซู่ แต่ทว่าจู่ๆ ก็มีเสียงหัวเราะดังขึ้นมาเบาๆ

“ไม่เลวนี่ นายไม่ทำให้ฉันผิดหวัง”

เมื่อได้ยินเสียงหัวเราะ ทุกคนรู้สึกเหมือนโดนฟ้าผ่า สีหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยอารมณ์ต่างๆ นานา

“ใคร!”

สิ่งแรกที่หวางหมิ่นเหมินทำคือมองไปรอบๆ

แต่ทว่าต่งวี่ซู่กลับอึ้งไป เขาหันไปมองข้างหลังฟางหย่าโดยอัตโนมัติ

เขาพบว่าถังเฉาที่นอนสลบอยู่ข้างหลังฟางหย่าหายตัวไปแล้ว เขานั่งอยู่บนเก้างานเลี้ยงด้วยท่าทางมั่นใจและยกชาขึ้นมาจิบอย่างสบายใจ

“ถังเฉา! นายต้องสลบไม่ใช่หรือไง”

จู่ๆ คนในงานต่างพากันตกตะลึงเหมือนเห็นผี และพากันถอยกรูดไปข้างหลัง

ฟางหย่ากับถังชิงเหอมีสีหน้าดีใจ “คุณถังเฉาไม่เป็นอะไรใช่ไหม”

สีหน้าของหวางหมิ่นเหมินซีดเผือด “เขาดื่มยาเบื่อเข้าไป เป็นไปได้ที่จะฟื้นขึ้นมาเร็วขนาดนี้ นี่เขาไม่ได้โดนพิษอย่างนั้นเหรอ เขาสร้างเรื่องทั้งหมดขึ้นมา”

“ถูกต้อง สัญชาตญาณบอกฉันว่านอกจากตระกูลหวาง ยังมีคนอื่นอีกแน่นอน ฉันจึงแกล้งทำเป็นสลบ ดูว่าจะล่องูออกจากรูได้หรือเปล่า แน่นอนว่าพวกนายไม่ทำให้ฉันผิดหวัง”

ถังเฉากวาดตามองไปรอบๆ น้ำเสียงของเขาราบเรียบ แต่ทว่าทุกคนกลับรู้สึกขนหัวลุก

คนมีฝีมือแถมยังมีความกล้า ถึงจะไม่รู้ว่าแผนของหวางหมิ่นเหมินแล้วจะยังไง เมื่อยาเบื่อเข้ามาในร่างกายก็โดนแรงภายในกระแทกจนสลาย ยาแค่นี้ทำอะไรถังเฉาไม่ได้แม้แต่น้อย

“นอกจากนี้ ฉันอยากใช้โอกาสนี้ลองดูความจริงใจของนาย”

เขาเปลี่ยนเรื่องพูดและมองไปยังต่งวี่ซู่ เขายิ้มแล้วพยักหน้า “นายก็ไม่ทำให้ฉันผิดหวังเหมือนกัน”

พรึ่บ

ต่งวี่ซู่เข่าอ่อนทรุดลงบนเก้าอี้ หลังของเขาเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ

ในสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด เขาจะนิ่งดูดายแล้วทรยศถังเฉาได้เหรอ

สำหรับเขาแล้วการที่ทนนิ่งดูดายให้ฟางหย่ากับถังชิงเหอโดนดูหมิ่น นี่สิถึงจะเรียกว่าทรยศ

ยังโชคดีที่เขาผ่านการทดสอบจากถังเฉา

เวลานี่อยู่ระหว่างความเป็นและความตาย

“โอเค ในเมื่อทุกคนอยู่ที่นี่ งั้นก็จัดการให้ราบคาบเลยก็แล้วกัน!”

ถังเฉากวาดตามองทุกคนด้วยสายตาเย็นชา จากนั้นจึงลุกขึ้นเดินเข้าไปหาพวกเขา

เจ้ามังกรพรีเมี่ยม

เจ้ามังกรพรีเมี่ยม

เมื่อห้าปีก่อน ถูกว่าที่ภรรยาใส่ร้าย ในเวลาที่เกือบจะตาย มีผู้หญิงคนหนึ่งมาช่วยเขาอย่างสุดชีวิตห้าปีต่อมา อำนาจและทรัพย์สมบัติของโลกล้วนตกอยู่ในมือของเขา การกลับมาของม้าศึก แค่เพื่อที่จะตอบแทนบุญคุณในคืนนั้น แต่กลับพบว่า เธอได้คลอดลูกสาวคนหนึ่งสิ่งที่เป็นหนี้คุณไม่สามารถลบล้างให้หมดไปได้ ถ้าอย่างนั้นก็ปกป้องพวกคุณสองแม่ลูก……ทั้งชีวิตเลยแล้วกัน!

Options

not work with dark mode
Reset