เจ้ามังกรพรีเมี่ยม – ตอนที่ 315 ในที่สุดก็ได้มาอยู่ด้วยกัน

ทั่วทั้งตระกูลหลวงในเยี่ยนตูไม่มีเสียงแม้แต่น้อย แต่หัวใจของทุกคนแขวนอยู่บนเส้นด้าย รังสีสังหารในที่นั้นล้วนมาจากคนเพียงคนเดียว

ถังเฉา

เขานิ่งไม่ไหวติงราวกับรูปแกะสลัก อยู่ในท่วงท่าเดิมมาตลอด แต่ว่าทุกคนล้วนสัมผัสได้ถึงแรงอาฆาตที่ไม่อาจควบคุมได้

“ชิงเสว่เอาหัวโขกกำแพง?”

เขาพูดพึมพำอย่างไม่อยากจะเชื่อ

“อืม!”

หลินจ้าวหยูนออกแรงพยักหน้า ร้องไห้จนดวงตาแดงก่ำมาตั้งแต่แรกแล้ว

ลั่วเยนอวิ๋นถอนหายใจอย่างจนปัญญา สถานการณ์ในตอนนี้แย่อย่างถึงที่สุดจริง ๆ

ทันใดนั้นถังเฉาก็หันกลับมา มองหลินโป๋หลายและพวกของหลินอิ่นแวบหนึ่งอย่างเย็นยะเยือก

ทันใดนั้นทุกคนราวกับตกอยู่ในอุโมงค์น้ำแข็ง

สายตาแบบนั้นนำพาความปรารถนาที่อยากจะสังหารที่น่าสะพรึงกลัว ไม่เห็นพวกเขาเป็นคนเลยสักนิด

“ทางที่ดีพวกคุณสวดภาวนาให้ชิงเสว่ไม่เป็นอะไรจะดีที่สุด ไม่อย่างนั้นผมจะฝังทั้งตระกูลหลินลงไปตายด้วย!”

ทิ้งประโยคนี้ไว้อย่างเย็นชา ถังเฉาพุ่งขึ้นไปข้างบนอย่างไม่คำนึงถึงสิ่งใดแล้ว

หลินโป๋หลายไม่ได้บอกอย่างชัดเจนว่าหลินชิงเสว่อยู่ในห้องไหน แต่สัมผัสที่หกของถังเฉานั้นแตกต่างจากคนทั่วไป รู้จักหลินชิงเสว่แต่แรก ผลักประตูเข้าไป

บนผ้าปูที่นอนที่ขาวราวหิมะ หลินชิงเสว่นอนแผ่ออกอยู่อย่างเงียบ ๆ ตาทั้งคู่ปิดสนิท สีหน้าสงบเยือกเย็น

ถ้าหากไม่ใช่เพราะคราบเลือดบนหน้าผาก ถังเฉาคงคิดว่าเธอแค่หลับไป

“ชิงเสว่!”

ถังเฉาพุ่งเข้าไปหาหลินชิงเสว่อย่างรวดเร็ว ยกมือขึ้นมาสัมผัสลมหายใจของเธอ

สิ่งที่ทำให้ถังเฉาผ่อนลมหายใจออกมาเฮือกใหญ่ก็คือ หลินชิงเสว่ยังมีลมหายใจ ทั้งยังสม่ำเสมอมาก

บาดแผลบนหน้าผากเป็นแค่บาดแผลบนพื้นผิวเท่านั้น

“พี่เขย พี่สาวฉันเป็นยังไงบ้างคะ?”

ในตอนนี้หลินจ้าวหยูนเองก็ปราดเข้ามา

เฟิ่งหวงไม่ได้เข้ามา แต่กลับอุ้มถังเสี่ยวลี้รออยู่ด้านนอก โยกย้ายความสนใจของเธอ

ถ้าหากเจ้าหนูน้อยได้รู้ว่าหลินชิงเสว่บาดเจ็บเข้าละก็ จะต้องร้องไห้ออกมาแน่

“เธอไม่เป็นไร แค่ได้รับแผลภายนอกเท่านั้น!”

ถังเฉากอดหลินชิงเสว่เอาไว้ เอ่ยเสียงต่ำ

ได้รู้ว่าหลินชิงเสว่ไม่เป็นอะไร หลินจ้าวหยูนก็ผ่อนลมหายใจออกมายาว ๆ หนึ่งเฮือก พวกของหลินโป๋หลายก็พากันวางใจ

ยังดีที่หลินชิงเสว่ไม่เป็นอะไรไป ถ้าหากเกิดเรื่องขึ้นจริง ๆ พวกเขาเองก็จะพลอยซวยไปด้วย

จากนั้นพวกเขาก็เดินเข้าไปดูสถานการณ์ในห้อง เสียงเย็นชาของถังเฉาที่เต็มไปด้วยความอาฆาตก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง

“ใครกล้าเหยียบเข้ามาในห้องนี้แม้แต่ก้าวเดียว… ตาย!”

คำนี้พูดดังออกมา พวกของหลินโป๋หลายก็เดือดดาลเต็มใบหน้า

“ที่นี่คือตระกูลหลวงในเยี่ยนตูของฉัน ถือดีอย่างไรไม่ให้เข้าไป?”

“แกต่างหากที่เป็นคนที่ควรจะไสหัวออกไป!”

ทุกคนตะโกนออกมาเสียงดัง เตรียมที่จะพุ่งเข้าไป

“พวกคุณลองเข้ามาดูสักคนสิ?”

แต่ทว่า ก็มีเสียงเย็นชาอีกเสียงหนึ่งดังขึ้นมา ลั่วเยนอวิ๋นเดินเข้ามาช้า ๆ ขวางอยู่ตรงหน้าของทุกคน

ดวงตาเย็นชาที่งดงามกวาดตามองหน้าของทุกคนทีละคน ๆ “พวกคุณทั้งกลุ่มเป็นฆาตกรฆ่าคน ไม่มีคุณสมบัติจะมาเยี่ยมชิงเสว่!”

หลินอิ่นใบหน้าแข็งค้าง แต่ก็ยังถามด้วยความโมโห “พวกเราล้วนเป็นญาติผู้ใหญ่ของชิงเสว่ อาศัยอะไรมาไม่มีคุณสมบัติไปเยี่ยมเธอ?”

ลั่วเยนอวิ๋นหัวเราะอย่างเสียดสี “ตอนนี้รู้แล้วสินะว่าพวกคุณเป็นญาติผู้ใหญ่ของชิงเสว่ คนที่จัดการชีวิตของเธอโดยพลการ ใช้วิธีการอันต่ำช้าแยกเธอกับถังเฉาคือใครกันล่ะ?”

คำพูดของเธอทำให้หลินโป๋หลายกับหลินอิ่นล้วนมีสีหน้าไม่เป็นธรรมชาติในทันที เบนหน้าหนีอย่างระงับอารมณ์ไม่อยู่

สายตาของลั่วเยนอวิ๋นดุดันเป็นอย่างมาก “พวกคุณฟังฉันให้ดี ๆ นะ ชิงเสว่ไม่ได้เป็นญาติของพวกคุณเท่านั้น แต่ยังเป็นหลานสาวของฉันด้วย ถ้าพวกคุณคิดจะทำอะไรเธอก็ต้องมาถามฉันก่อน!”

ชั่วพริบตา สีหน้าของหลินโป๋หลายกับหลินอิ่นก็ไม่น่ามองอย่างถึงที่สุด จ้องลั่วเยนอวิ๋นราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ แต่กลับพูดอะไรไม่ออกแม้แต่ประโยคเดียว

คำพูดนี้ของเธอทำให้ต้อนตระกูลหลินให้จนมุมในทันที

ลั่วเยนอวิ๋นไม่น่ากลัว ที่น่ากลัวคือวงศ์ตระกูลเบื้องหลังของเธอ รวมถึงผู้หญิงที่ออกจากเยี่ยนจิงไปยี่สิบกว่าปีที่ยังไม่กลับมาคนนั้นอีก

เมื่อเธอกลับมา ทั้งเยี่ยนจิงจะต้องเริ่มนองเลือดแน่

“ไปเอาผ้าพันแผลมา!”

ทันใดนั้น ถังเฉาที่กอดหลินชิงเสว่มาโดยตลอดก็เปิดปากเอ่ยเสียงต่ำ

หลินจ้าวหยูนเอาผ้าพันแผลกับกรรไกรมาในทันที

ถังเฉาฉีกผ้าพันแผลแถบใหญ่ในทันที คาบไว้ในปาก จากนั้นก็พันหน้าผากของหลินชิงเสว่อย่างระมัดระวัง

หน้าผากของเธอถูกพันด้วยผ้าพันแผลหนา ๆ ด้วยความรวดเร็ว เพียงแต่บริเวณที่โขกจนเป็นแผลยังคงมีเลือดสดซึมออกมาอย่างเบาบาง

“ชิงเสว่…”

มองดูหลินชิงเสว่ที่ถึงแม้จะยังสลบอยู่แต่ก็ยังงดงามดึงดูด ดวงตาของถังเฉาก็แดงก่ำขึ้นมา

มือทั้งคู่คว้าเอามือของหลินชิงเสว่มาจับไว้แน่น ๆ แนบไว้กับแก้มของตัวเอง

ถึงแม้จะรู้ว่าหลินชิงเสว่ไม่ได้เป็นอะไรมาก แต่ถังเฉาก็ยังคงไม่กล้าชะล่าใจ อย่างไรเสียที่กระแทกไปก็เป็นศีรษะ

สมองเป็นส่วนที่ละเอียดที่สุดของร่างกายมนุษย์ มีแค่สวรรค์เท่านั้นที่รู้ว่าการกระแทกครั้งนี้ได้สร้างความเสียหายตรงไหนหรือไม่

ก่อนที่หลินชิงเสว่จะตื่นขึ้นมา ความเป็นไปได้ทุกอย่างล้วนเกิดขึ้นได้

“พวกคุณออกไปกันให้หมดเถอะ”

ลั่วเยนอวิ๋นมองฉากนี้แล้วก็เป็นทุกข์จนพูดไม่ออก เงยหน้ามองพวกของหลินอิ่นแล้วพูดขึ้น

หลินโป๋หลายยังอยากพูดอะไรอยู่ หลินอิ่นกลับมองเขาแวบหนึ่ง บอกใบ้ให้เขาหุบปากไว้ พากำลังคนลงไปรอที่ชั้นหนึ่ง

ตอนนี้พวกเขาเองก็ภาวนาให้หลินชิงเสว่ฟื้นขึ้นมาเร็วพอ ผู้นำยังไม่กลับมา ถ้าหากให้ผู้นำรู้ว่าลูกสาวของเขาได้รับบาดเจ็บจนสลบไป พวกเขาจะต้องจบไม่สวยแน่

ทั้งห้องมีแค่ถังเฉา หลินจ้าวหยูน และลั่วเยนอวิ๋นอยู่ด้วยกันพร้อมหน้าสามคน

นอกจากถังเฉาที่ในสายตาจะมีแค่หลินชิงเสว่เพียงคนเดียวแล้ว หลินจ้าวหยูนและลั่วเยนอวิ๋น ทั้งสองคนก็มีดวงตาแดงก่ำ บนใบหน้าเต็มไปด้วยความร้อนรน

เวลาผ่านไปทีละนาที ทีละวินาที ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่แล้ว ถังเฉายังคงนั่งอยู่ที่ขอบเตียงไม่ขยับเขยื้อน กุมมือของหลินชิงเสว่แน่น

หลินจ้าวหยูนส่งน้ำให้แก้วหนึ่ง “พี่เขย ดื่มน้ำสักหน่อยเถอะ”

ถังเฉาส่ายศีรษะ ฝืนยิ้มออกมา “ไม่ต้องหรอกครับ”

หลินจ้าวหยูนเห็นสภาพการณ์แล้วก็กัดฟันเบา ๆ กลั้นเสียงร้องไห้ไว้อย่างยากเย็น

“ถังเฉา นายดูสิ!”

ทันใดนั้น ลั่วเยนอวิ๋นที่อยู่ข้าง ๆ ก็ลุกขึ้นมาทันที เอ่ยอย่างตื่นเต้นดีใจว่า “หลานสาวคนโตตอบสนองแล้ว!”

ถังเฉากับหลินจ้าวหยูนก็มีชีวิตชีวาขึ้นมา สายตาวางอยู่บนร่างของหลินชิงเสว่ทั้งร่างกายและจิตใจ

เห็นนิ้วมือของหลินชิงเสว่ที่เดิมไม่มีการขยับเขยื้อนแม้แต่น้อย อยู่ดี ๆ ก็เคลื่อนไหวเบา ๆ ขึ้นมา

ถึงแม้ว่าจะแค่นิดเดียว แต่ก็ทำให้ความยินดีปรีดาปรากฏอยู่บนใบหน้าของถังเฉา

“ดีจังเลย พี่สาวจะฟื้นแล้ว!”

หลินจ้าวหยูนเองก็ดีใจจัดจนร้องไห้ออกมา

ทุกคนที่รออยู่ที่ชั้นหนึ่งได้ยินเสียงแล้วก็ทยอยกันขึ้นมาชั้นบน แต่ก็ยังคงไม่กล้าเข้าไปในห้อง

ผ่านไปอีกพักหนึ่ง ความถี่ของการขยับนิ้วของหลินชิงเสว่ก็เร็วขึ้นอีก ดวงตาค่อย ๆ ลืมขึ้นมา

ตอนที่เห็นใบหน้าของถังเฉา หลินจ้าวหยูนและลั่วเยนอวิ๋นนั้น หลินชิงเสว่ไม่ดีใจเลยสักนิด เพียงปรากฏรอยยิ้มอย่างเรียบง่าย

“นี่ฉัน… ตายหรือยัง?”

“พี่คะ พี่ยังไม่ตาย พี่ยังมีชีวิตอยู่ค่ะ!”

หลินจ้าวหยูนเอ่ยปากขึ้นทันที

“ชิงเสว่…”

ถังเฉาเองก็ร้องเรียกชื่อของเธอเบา ๆ ทั้งยังอุ้มถังเสี่ยวลี้มา “นี่ไม่ใช่สวรรค์ เสี่ยวลี้อยู่นี่ไง!”

“คุณแม่!”

เห็นแม่แล้วถังเสี่ยวลี้ก็ดีใจจนยิ้มออกมา โผเข้าไปในอ้อมกอดของหลินชิงเสว่

รู้สึกถึงอ้อมกอดของลูกสาว หลินชิงเสว่ถึงเรียกสติขึ้นมาได้ รูม่านตาหดลงอย่างรวดเร็ว

“ถังเฉา คุณกับเสี่ยวลี้ไม่เป็นอะไร…”

หลายวินาทีผ่านไป หลินชิงเสว่ก็ลุกขึ้นนั่ง กอดถังเฉาไว้แน่น น้ำตาไหลลงมาไม่ขาดสาย

“ฉันยังนึกว่าพวกคุณเกิดเรื่องร้ายขึ้นแล้ว”

ถังเฉาเองก็กอดเธอเอาไว้ ลูบผมยาวของเธอเบา ๆ ในที่สุดก็โผล่ยิ้มออกมา

“ไม่ต้องกลัวนะ ผมกับเสี่ยวลี้มาหาคุณแล้ว”

เห็นสามคนครอบครัวกอดกันแน่น ๆ แล้ว หลินจ้าวหยูนกับลั่วเยนอวิ๋นก็มองหน้ากัน จิตใจที่แขวนอยู่บนเส้นด้ายก็ปล่อยวางลง

ด้านนอก หลินโป๋หลายและพวกของหลินอิ่นกลับมองฉากอบอุ่นนี้ด้วยใบหน้ามืดครึ้ม

พวกเขาสัมผัสได้ถึงแรงกดดัน

ไม่ว่าจะเป็นการที่หลินชิงเสว่ตั้งใจที่จะตาย หรือการที่ถังเฉาตามภรรยามาไกลเป็นพันลี้ ไม่เสียดายที่จะก่อกวนตระกูลหลวงในเยี่ยนตูทั้งตระกูลจนพลิกฟ้ากลับแผ่นดิน ก็ล้วนแต่ทำให้พวกเขายอมรับความจริงข้อหนึ่งได้ว่า…

มีเพียงความตายเท่านั้นที่จะสามารถแยกพวกเขาออกจากกันได้

เจ้ามังกรพรีเมี่ยม

เจ้ามังกรพรีเมี่ยม

เมื่อห้าปีก่อน ถูกว่าที่ภรรยาใส่ร้าย ในเวลาที่เกือบจะตาย มีผู้หญิงคนหนึ่งมาช่วยเขาอย่างสุดชีวิตห้าปีต่อมา อำนาจและทรัพย์สมบัติของโลกล้วนตกอยู่ในมือของเขา การกลับมาของม้าศึก แค่เพื่อที่จะตอบแทนบุญคุณในคืนนั้น แต่กลับพบว่า เธอได้คลอดลูกสาวคนหนึ่งสิ่งที่เป็นหนี้คุณไม่สามารถลบล้างให้หมดไปได้ ถ้าอย่างนั้นก็ปกป้องพวกคุณสองแม่ลูก……ทั้งชีวิตเลยแล้วกัน!

Options

not work with dark mode
Reset