เมื่อเซี่ยสิงจู๋พูดจบ ทุกคนที่อยู่ตรงนี้ตะลึงกันไปตามๆกัน
โดยเฉพาะเซี่ยหรูหลงถ้าไม่ใช่เพราะหน้าครึ่งซีกรู้สึกเจ็บแสบๆ เขาจะไม่เชื่อเลยว่าผู้นำเป็นคนตบเขา
แต่นี่ไม่ใช่เรื่องที่ทำให้เซี่ยหรูหลงตกตะลึงที่สุด เรื่องที่ทำให้เซี่ยหรูหลงตกตะลึงที่สุกก็คือถังเฉาเป็นคนที่ช่วยชีวิตน้องสาวเขาให้!
นี่เป็นไปได้ไง?
เหม่อลอยอยู่นาน เซี่ยหรูหลงได้สติกลับมาทันที แล้วชี้ไปที่ถังเฉาแล้วพูดเสียงดังว่า: “ผู้นำ ท่านเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า คนนี้เขาไม่ใช่คนในเมืองเจียงเฉิงนะ อวี่ซิงป่วยหนักด้วย เธอไม่ออกไปไหนเลย ทำไมถึงบังเอิญไปช่วยชีวิตอวี่ซิงได้?”
เซี่ยสิงจู๋หัวเราะอย่างเย็นชาอย่างต่อเนื่อง:“ฉันเป็นคนต้อนรับชายหนุ่มคนนี้เอง เรื่องนี้จะไม่เป็นความจริงได้ไง?”
ขณะนี้เซี่ยสิงจู๋ดูน่าเกรงขามมาก
โดยความที่เป็นตระกูลผู้นำเซี่ยที่ร่ำรวย เขาเผยออกมาหมดเลย ไม่ว่าจะเป็นสีหน้า หรืออำนาจ ทั้งหมดนี้ทำให้เซี่ยหรูหลงรู้สึกตกตะลึง
สิ่งที่ทำให้เขาคิดไม่ถึงมากที่สุดคือ ผู้นำเป็นคนที่ต้อนรับถังเฉาด้วยตัวเอง นี่มันจะเป็นไปได้ไง?
การที่คนที่มีอำนาจและอายุน้อยในคิดทุกวิถีทางที่จะเจอผู้นำ เป็นเรื่องที่ได้รับความนิยมมาก แต่กลับไม่ได้โอกาสนั้น ลูกเขยแต่งเข้าคนนี้ที่ไม่มีที่มา กลับถูกผู้นำต้อนรับด้วยตนเอง เรื่องนี้ทำให้เขารู้สึกไม่อยากจะเชื่อ
และถังเฉาก็รู้แล้วว่าเรื่องทั้งหมดนี่เป็นอย่างไง
ชายวัยกลางคนที่อยู่ตรงหน้านี้ เป็นคนที่จะให้เงินเขา แต่สิ่งที่เขาไม่เคยคิดก็คือ เขากลับเป็นผู้นำตระกูลเซี่ย
ความจริงตอนนั้นถังเฉาพูดชื่อของตัวเองออกมา ปัญหาหลังจากนั้นก็จะถูกแก้ไขโดยปริยาย
แต่ถังเฉามีนิสัยที่จะไม่บอกชื่อของตัวเองกับคนที่ไม่รู้จัก
“ผู้นำ…….”
เซี่ยหรูหลงมีสีหน้าที่แย่ถึงขีดสุด กำลังจะพูดอะไรออกมา ทันใดนั้นเซี่ยสิงจู๋ตะคอกออกมา: “หุบปาก!”
ใจของเซี่ยหรูหลงสั่นสะท้านอย่างหนัก ตอนนี้เขาไม่กล้าพูดอะไรเลย แล้วมองเซี่ยสิงจู๋ด้วยความกล้าๆกลัวๆ
สถานการณ์ในตระกูลเซี่ยต่างจากตระกูลอื่นที่มีผู้ปกครองรุ่นเดียวกัน เพราะผู้อาวุโสในตระกูลตระกูลเซี่ยตายตั้งแต่ยังหนุ่ม เซี่ยสิงจู๋มารับตำแหน่งผู้นำตอนอายุสี่สิบกว่าๆ และนำพาตระกูลเซี่ยไปถึงจุดสูงสุด เห็นได้ชัดว่าเขาเป็นคนที่มีความสามารถมาก
สำหรับเขาแล้ว เรื่องเดียวที่ทำให้เขาชื่นใจก็คือโรคหัวใจที่เป็น โรคกรรมพันธุ์ ตกทอดมาจากรุ่นปู่นั้น แต่ไม่ถูกถ่ายทอดไปยังเซี่ยสิงจู๋ แต่กลับถ่ายทอดไปให้ลูกดสาวคนเดียวของเซี่ยสิงจู๋ เซี่ยอวี่ซิง ทำให้ผู้สืบทอดตระกูลตกอยู่ที่เขาและเชี่ยหรูหู่น้องชายของเขา
เขาต้องยอมทำตามเซี่ยสิงจู๋อย่างไม่มีเงื่อนไข เขาถึงจะสามารถขึ้นเป็นผู้นำได้
เซี่ยสิงจู๋เพียงแค่ใช้สายตาที่เยือกเย็นมองไปที่เขา และไม่ได้สนใจอะไรเขา แล้วหันมายิ้มเหอะๆกับถังเฉา: “คุณผู้ชาย เราเจอกันอีกแล้วนะครับ ครั้งนี้คุณคงบอกชื่อคุณกับผมได้แล้วใช่มั้ย?”
ถังเฉาพยักหน้า เขามาช่วยออกจากสถานการณ์ที่อันตราย ถ้าตัวเขายังไม่บอกชื่อไป ก็จะดูเหมือนดเป็นคนไร้ความรู้สึกมากเกินไป
ดังนั้นถังเฉาก็พูดออกมาว่า: “ฉันชื่อถังเฉา”
“อะไรนะ? ถังเฉาหรือ?”
เมื่อชื่อนี้ถูกพูดออกมา เซี่ยสิงจู๋แสดงปฏิกิริยาออกมาชัดเจนมาก
ดวงตาคู่นี้ของเซี่ยสิงจู๋จ้องมองไปที่เขา ใจของเขาสั่นสะท้านอย่างมาก เหมือนพึ่งรู้จักถังเฉาเป็นครั้งแรก แล้วมองถังเฉาจากหัวจดเท้า
ถังเฉาไม่รู้หรอกว่าทำไมเซี่ยสิงจู๋ถึงมีปฏิกิริยามากขนาดนี้ เขาก็ได้หรี่ตาและพูดว่า: “ผู้นำผู้นำเซี่ยรู้ว่าผมชื่อถังเฉา เหมือนตกใจเล็กน้อยนะครับ”
เซี่ยสิงจู๋ยิ้มและพูดว่า: “ถังเสี่ยวโหย่วนี่เอง เรื่องราวของคุณถูกแพร่ไปทั่วเมืองเจียงเฉิงแล้ว จะมีใครที่ยังไม่รู้เรื่องของคุณละ? ”
สำหรับเรื่องนี้ ถังเฉาก็แค่ยิ้มอ่อนๆออกมา
เห็นว่าถังเฉาไม่ได้สงสัยอะไรเซี่ยสิงจู๋ก็โล่งใจ
ถ้าเขารู้ว่าเซี่ยสิงจู๋ก็อยากล้วงความลับของเขาก็เลยอยากให้เซี่ยหรูหลงให้บัตรผ่านกับเขา ถ้าเขารู้แบบนี้ความรู้สึกดีๆจะลดลงไปไม่น้อย
เขาหันกลับกะทันหัน แล้วมองเซี่ยหรูหลงด้วยแววตาที่เยือกเย็น
ก็เพราะแววตาเมื่อกี้ของเขา ทำให้เซี่ยหรูหลงเหมือนตกอยู่ในรูน้ำแข็ง สีหน้าแย่ถึงขีดสุด
เขารู้ว่าเขาได้ฝ่าฝืน ปณิธานของกฎ ผู้นำต้องล้วงความลับถังเฉาโดยที่ไม่ล้ำเส้นเขา แต่ตอนนี้เป็นอย่างไง ความลับยังไม่ทันได้ล้วงกลับไปมีเรื่องคับแค้นใจกับถังเฉา
“ทุกคนรวมทั้งนายด้วย มายืนต่อแถวดีๆ แล้วไปขอโทษคุณถัง!”
ไม่ผิดคาด เซี่ยสิงจู๋ใช้แววตาที่เย็นชามองไปหาพวกเขาแล้วตะโกนออกมาเสียงดัง
คนชุดดำทั้งหมดก้มหน้าไม่กล้าส่งเสียงเลยแม้แต่น้อย แล้วได้ไปต่อแถวอย่างรวดเร็วและ โค้งคำนับขอโทษถังเฉา
“คุณถัง ขอโทษครับ!”
มีเพียงเซี่ยหรูหลงที่ยืนอยู่กับที่กัดฟันและใบหน้าบิดเบี้ยว
“ผู้นำที่ผมพาคนมาล้อมเขาไว้ ผมมีเหตุผลนะครับ ก็เพราะเขาแย่งของของตระกูลเซี่ยไป”
“ผู้นำท่านเคยสั่งผมไว้ว่าต้องได้ตราแสดงยศของตระกูลถังแห่งตระกูลหลวงในเยี่ยนตูมาให้ได้ ผมกำลังจะได้มันมาอยู่แล้ว แต่คนคนนี้วางแผนแล้วแย่งไป!”
“แล้วนายก็เลือกที่จะไปสกัดเขากลางทางหลังจบงานประมูลหรือ?”
เซี่ยสิงจู๋ไม่ได้เอียงไปฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอย่างสิ้นเชิง และกฎซักถามอย่างเย็นชา
เซี่ยหรูหลงลังเลอยู่พักหนึ่ง ก็ได้พยักหน้า
” ไอ้เลว!”
เซี่ยสิงจู๋ตะโกนออกมาด้วยความโกรธ แล้วตบไปที่ใบหน้าของเซี่ยหรูหลงอย่างแรงอีกครั้ง”
“ในงานประมูลใครมีความสามารถ คนที่มีความสามารถก็จะเป็นฝ่ายชนะ นายไร้ความสามารถเองจะไปโทษใครได้?”
“นี่ยังไม่เท่าไหร่ นายยังใช้กองกำลังไปสกัดกั้นเขา ถ้าคนในสมาคมการค้าหงยิงรู้เรื่องนี้ นายรู้มั้ยว่าจะเกิดอะไรขึ้น?”
เขาซักถามด้วยเสียงที่ดัง เมื่อกฎได้ยินแล้วสีหน้าขาวซีดทันที
เขาเป็นคนสายผจญภัยและสายทุ่มสุดตัวตั้งแต่แรกอยู่แล้ว แต่เขาไม่คิดว่าเรื่องจะบานปลายใหญ่โตขนาดนี้
งานประมูลที่เมืองเจียงเฉิงมีกฎเหล็กอยู่กฎหนึ่ง คือสิ่งของที่ประมูลมาได้ คนที่ประมูลไม่ได้ไม่สามารถที่จะแสดงความคับแค้นและใช้กำลังในการแย่งชิงสิ่งของนั้นได้
ถ้าพบว่ามีการกระทำแบบนี้ ตระกูลเซี่ยจะถูกสั่งห้ามเข้างานประมูลตลอดชีวิต และธุรกิจที่อยู่ในเมืองเจียงเฉิง จะถูกสมาคมการค้าหงยิงขึ้นบัญชีดำและตระกูลเซี่ยจะถดถอยไปสิบถึงสามสิบปี!
เมื่อนึกถึงเรื่องนี้เขาเย็นไปหมดทั้งตัวแถมมือยังสั่นไม่หยุดอีกด้วย
“เอาเขากลับไป และจัดการด้วยกฎของตระกูล!”
“เซี่ยสิงจู๋โมโหทันทีและพูดเหมือนจะโกนออกมา”
พรึบ!
ได้ยินคำพูดประโยคนี้ เซี่ยหรูหลงตกใจจนหน้าขาวซีดไปเลย
“ผู้นำให้โอกาสผมอีกครั้งหนึ่งนะครับ ผมรู้สึกผิดแล้ว!”
เขาคุกเข่าต่อหน้าเซี่ยสิงจู๋และวิงวอนร้องขอ
เซี่ยสิงจู๋กลับมีสีหน้าที่นิ่งเฉยและแขนที่ใหญ่โบกไปอีกฝั่ง: “เอากลับไป!”
ได้มีคนชุดดำสองคนเดินเข้ามา: “คุณชาย ขอโทษที่ล่วงเกินนะครับ!”
พวกเขาล็อกแขนซ้ายและขวาของเซี่ยหรูหลงไว้ บังคับให้เขาเข้ารถไป
ก่อนจากไปเซี่ยหรูหลงใช้แววตาที่ชั่วร้ายมองไปที่ถังเฉา เหมือนเรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะถังเฉา
ถังเฉามองเซี่ยหรูหลงถูกเอาตัวไปด้วยสีหน้าที่นิ่งเฉย เหมือนเรื่องทั้งหมดนี้ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเขาเลย
“ถังเสี่ยวโหย่วเด็กรุ่นหลังของตระกูลทำอะไรไม่ค่อยคิด ผมเซี่ยสิงจู๋ ต้องขอโทษคุณถังแทนเขาไว้ณ ที่นี้ด้วยนะครับ
เซี่ยสิงจู๋โค้งตัวก้าวสิบองศา แล้วพูดด้วยสีหน้าที่ ละอายใจสุดซึ้ง
ถังเฉาไม่ได้ไปประคองเขาไว้ เพราะถังเฉาคิดว่านี่เป็นสิ่งที่เขาควรจะทำ
“ไม่เป็นไร ต่อไปก็สอนเขาให้ดีกว่านี้ก็พอแล้ว ถ้าคุณเซี่ยไม่มีอะไรแล้ว ผมขอตัวก่อนนะครับ”
ถังเฉาพูดประโยคนี้จบ เซี่ยสิงจู๋ถึงได้เอนตัวขึ้นมา
มองไปที่เงาร่างเฟิ่งหวงและถังเฉาที่กำลังจะจากไป เขาเหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้ ทันใดนั้นเขาตะโกนออกมา: “คุณถังอย่าพึ่งไปครับ!”
“ยังมีอะไรหรือ?”
ถังเฉาหันกลับไปแล้วถามไป
“ความมีความจริงจะสารภาพ ผมยังมีเรื่องจะขอร้องที่อาจจะดูไม่สมเหตุสมผลครับ……”
ใบหน้าของเซี่ยสิงจู๋แฝงไปด้วยความลำบากใจ และลังเลอยู่นานถึงได้พูดออกมา
“วันนี้เด็กผู้หญิงที่คุณถังช่วยไว้ เป็นลูกสาวผมเอง ตอนนี้เธอฟื้นให้มาแล้ว หวังว่าจะได้เจอหน้าคนที่ช่วยชีวิตเธอไว้สักครั้ง!”