เจ้ามังกรพรีเมี่ยม – ตอนที่ 43 บุคลิกการทานอาหารจะต้องไม่น่าเกลียดเกินไป

บทที่ 43 บุคลิกการทานอาหารจะต้องไม่น่าเกลียดเกินไป

ตลอดทาง ซ่งหมิงเวยยังคงตกอยู่ในความกลัว มีหลายครั้งมากที่ไม่ทันมองบันไดที่ใต้เท้า เกือบจะก้าวตกลงไป

ปั๊บ—-

จู่ๆ ใบหน้าเขาก็ถูกตบเบาๆไปทีหนึ่ง แม้จะไม่เจ็บ แต่ก็ทำให้ซ่งหมิงเวยรู้สึกโกรธมาก

“ใครกันที่ตบกู……”

พอเห็นเป็นหน้าของถังเฉา ทันใดนั้นเสียงของซ่งหมิงเวยก็หยุดลงทันที ท่าทางได้เปลี่ยนเป็นอึดอัดมาก

ถังเฉาหัวเราะเล็กน้อย ถามว่า: “รู้สึกตื่นบ้างหรือยัง?”

ซ่งหมิงเวยเงิบไปสักพัก แล้วก็ดึงสติกลับมาได้ ได้ยิ้มให้กับถังเฉาที่น่าเกลียดกว่าการร้องไห้อีก: “ขอบคุณครับ ฉันไม่เป็นอะไร”

ถังเฉาก็ไม่ได้เปิดเผยอะไร บอกแค่ว่า:“ที่นี่ใกล้กับแม่น้ำหมิงจู ไปเดินเล่นที่แม่น้ำหน่อยไหม?”

ลังเลไปครู่หนึ่ง ซ่งหมิงเวยก็ยังพยักหน้าตอบว่า:“ดีครับ”

เฟิ่งหวงรู้ว่ารองหัวหน้ามีเรื่องที่จะคุยกับไอ้หนุ่มนี้ ก็รู้จักถอยห่างหายออกไป

ไม่มีใครสังเกตเห็นเลยว่าเฟิ่งหวงหายไป และนี่ก็คือลักษณะเด่นของเฟิ่งหวง

เธอเป็นดั่งเงาของถังเฉา เมื่อไหร่ที่ถังเฉาต้องการเธอ เธอก็จะปรากฏตัวอย่างเงียบๆ เมื่อไหร่ที่ถังเฉาไม่ต้องการ เธอจะรู้สึกว่าตัวเองเป็นส่วนเกิน ตัวเองก็จะหายไปอย่างเงียบๆเหมือนกัน

ลมที่แม่น้ำก็แรงไม่น้อย ก็ยังมีความหนาวที่เข้าไปในกระดูก ซ่งหมิงเวยทนไม่ไหวเอาเสื้อผ้าห่อเข้าหาตัวเอง แต่กลับเห็นถังเฉาใส่แค่เสื้อสูทบางสีดำชุดหนึ่ง แต่กลับดูมีลักษณะเรียวยาวและสูง

มองไปที่ใบหน้าข้างๆของถังเฉา ในใจของซ่งหมิงเวยกลับมีความรู้สึกแปลกๆเกิดขึ้น

ทั้งๆที่ เขากับถังเฉาเป็นศัตรูกัน แต่ ตอนนี้กลับเป็นเหมือนเพื่อนกันที่เดินเล่นอยู่ในแม่น้ำหมิงจู

เพื่อนเหรอ?

ซ่งหมิงเวยงุนงงไปสักพัก มองไปที่แววตาของถังเฉาที่เปลี่ยนแปลกไป

คือเพื่อน……ใช่ไหม?

หากพูดถึงเมื่อก่อนนั้น เขาจะดูถูกถังเฉา แต่หลังจากนั้น เขากลัวต่อถังเฉา แต่ในตอนนี้ เขารู้สึกกับถังเฉามีแต่การพึ่งพา

นี่เป็นการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์อย่างหนึ่ง แม้แต่เขาเองก็บอกไม่ได้ว่ามันเป็นยังไงกันแน่

“นายกลัว กลัวเธอใช่ไหม?”จู่ๆถังเฉาก็ถามขึ้น

ซ่งหมิงเวยลังเลไปพัก จากนั้นก็พยักหน้าเล็กน้อย เขารู้ว่าเธอที่ถังเฉาพูดถึงหมายถึงใคร

“ตามจริง เมื่อห้าปีก่อน ฉันก็กลัวเธออยู่”

ถังเฉาหัวเราะเยาะตัวเอง พูดตรงๆว่า:“จากที่ฉันดูในตอนนั้น เธอก็เหมือนหุ่นยนต์ที่ไร้ความรู้สึกคนหนึ่ง ทุกคนก็นับถือเธอไปหมด ไม่งั้นตายศพจะไม่สวย—-ฉันน่ะเป็นเพราะไม่ได้บอกเธอความลับของตระกูลหลิน เกือบโดนเธอตีให้ตายทั้งเป็น”

“ตอนนี้ล่ะ?”ซ่งหมิงเวยมองไปที่ถังเฉา ถามด้วยความแปลกใจ

ช่วงที่ผ่านมานั้น เป็นช่วงเวลาที่มืดมนที่สุดในชีวิตของถังเฉา หากคนที่อ่อนแอกว่าเล็กน้อย อาจถูกทารุณจนตายแต่แรกแล้ว แต่ถังเฉา—-กลับพูดถึงช่วงเวลาที่มืดมนนั้นด้วยรอยยิ้ม แสดงให้เห็นชัดว่าเขาปลงแล้ว

ในโลกจะมีคนกี่คนที่จะสามารถเผชิญกับความกลัวภายในใจตรงๆอย่างนี้?

ซ่งหมิงเวยถามตัวเองมันทำไม่ได้หรอก

“ตอนนี้เหรอ?”ถังเฉาหัวเราะเล็กน้อย ตอบอย่างเย็นชาว่า:“ไม่กลัวตั้งนานละ”

“เธอจะแข็งแกร่งแค่ไหน จะเผด็จการแค่ไหน ยังไงเขาก็เป็นคนคนหนึ่ง ขอแค่เป็นคน ก็ต้องมีจุดอ่อนอยู่แล้ว คนแค่มีจุดอ่อน ก็มีความเป็นไปได้ที่จะพ่ายแพ้ นี่คือธรรมชาติของคน”

“……”

ซ่งหมิงเวยมองถังเฉาด้วยความประหลาดใจอีกครั้ง จากประสบการณ์ของเขา ต้องการที่จะเข้าใจคำพูดลึกซึ้งนี้ มันยังยากไปหน่อย

“คุณต้องเรียนรู้การเอาชนะ รอวันไหนที่จะต้องเผชิญหน้ากับซ่งหรูอี้ สามารถทำได้อย่างไร้กังวล คุณก็จะมีสิทธิ์และคุณสมบัติขั้นต้นที่จะแข่งกับเธอ”

จู่ๆถังเฉาก็หยุดเดิน พิงไปที่ขอบราวบันได มองไปที่พื้นผิวสีขาวและกว้างใหญ่ของแม่น้ำหมิงจู พูดอย่างเบาๆ

ซ่งหมิงเวยนิ่งไปสักพัก กล่าวว่า:“อันนี้มันยากมาก”

“ฉันรู้ว่ามันยากมาก ก็เป็นเพราะมันยาก ถึงต้องเอาชนะกับมัน ไม่อย่างนั้นคุณจะไปแทนที่เธอได้ยังไง?”

ถังเฉากล่าวอย่างใจเย็น:“หากคุณกลับตระกูลซ่งตอนนี้คงต้องรู้สึกกลัวมากแน่ แม้กระทั่งไม่กล้าสบสายตาของเธอ—-เรื่องที่ฉันจะให้คุณทำอย่างแรก ก็คือกลับไปอย่างสง่าจริงใจ สารภาพกับเธอด้วยความซื่อสัตย์กับเรื่องที่ทำวันนี้”

“อะไรนะ?!”

ฟังที่ถังเฉาพูดแล้ว ซ่งหมิงเวยยิ่งตกใจเข้าไปใหญ่ แม้แต่ลมพัด เขาก็สั่นไปทั้งตัว:“คุณไม่ให้ฉันปิดบัง ยังจะให้ฉันเป็นคนเริ่มบอกเรื่องที่ทำในวันนี้งั้นเหรอ?”

“ใช่แล้ว”ถังเฉาพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม

นี่มันหาเรื่องตายเลยไหม?

ซ่งหมิงเวยแอบด่าในใจ

“คุณว่าซ่งหรูอี้จะลงโทษคุณไหม?”ถังเฉาถามด้วยรอยยิ้ม

ไม่ได้คิดอะไร ซ่งหมิงเวยได้พยักหน้า พูดแบบนี้มันไม่ไร้สาระไปหน่อยเหรอ?

ถังเฉากลับส่ายหัว กล่าวอย่างจริงจังว่า:“ฉันจะบอกคุณอย่างเต็มความรับผิดชอบ ซ่งหรูอี้ไม่เพียงแต่ไม่ลงโทษคุณ ทางกลับกัน จะชื่นชมคุณ”

“เพราะอะไร?”

“มันง่ายมาก ก็แค่ใช่สมองเล็กน้อยก็ได้แล้ว”

ถังเฉาหัวเราะออกมาเล็กน้อย กล่าวว่า: “เวลาเดินผ่านไปเรื่อยๆ คนก็เกิดการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ไม่มีใครหรอกที่จะไม่เปลี่ยนแปลงอะไรเลย ซ่งหรูอี้ก็เช่นกัน”

“ห้าปีก่อน เธอทำอะไรโดยไม่คำนึงถึงผู้อื่น ไม่ยอมให้ใครหักหลังเธอ จนพูดคำนี้ออกมาก ‘ผู้ทำการตามประสงค์ของฉันมีชีวิตอยู่รอด ผู้กบฏต่อฉันต้องตาย’คำพูดบ้าๆนี้ สามารถอธิบายได้ว่าเป็นคนที่มีความสามารถและเข้มแข็ง แต่ว่า ห้าปีหลัง เธอก็ยังทำอะไรที่ไม่คำนึงถึงผู้อื่นอีกเหรอ?”

ซ่งหมิงเวยพยักหน้าโดยไม่รู้ตัว สักพักก็ได้ส่ายหัวไปมา

บริษัทในนามของซ่งหรูอี้ทั้งหมดอยู่ในภายใต้องค์กรตระกูลซ่งแล้ว แม้กระทั่งบริษัทหลงเถิงเดิมที่เป็นของตระกูลหลิน ตอนนี้ก็อยู่ภายใต้ตระกูลซ่งแล้ว เธอก็ยังทำตัวเผด็จการเหมือนอย่างเคย แต่ว่า เหมือนมีบางจุดที่ไม่เหมือนเดิมแล้ว

ความเปลี่ยนแปลงนี้ ซ่งหมิงเวยก็พูดไม่ถูก

“เธอก็ยังเอาแต่ใจตัวเองเหมือนเดิม แต่ว่า วิธีการกลับไม่ได้มีความกระตือรือร้นแล้ว ใช่หรือไม่?” ถังเฉามองไปที่ซ่งหมิงเวยแล้วหัวเราะออกมา

“ใช่ ใช่ คุณรู้ได้ยังไง?”ซ่งหมิงเวยตาสว่างขึ้นทันที เขารู้สึกว่ามันน่าอัศจรรย์จริงๆ ดูเหมือนว่าถังเฉาจะเข้าใจซ่งหรูอี้กว่าฉันที่เป็นน้องชายเสียอีก

“มีแต่ศัตรูเท่านั้นที่เข้าใจศัตรู”

ถังเฉากล่าว:“เพราะด้วยอำนาจในมือยิ่งอยู่ยิ่งใหญ่ขึ้น ซ่งหรูอี้ก็ได้ตระหนักถึงแล้วว่า หากยังเป็นเหมือนเมื่อก่อน อาณาจักรธุรกิจที่เธอสร้างมาเองกับมือนานหลายปีก็จะจบสิ้นในชั่วข้ามคืน เพราะไม่มีใครที่ยอมติดตามเจ้านายที่โหดดุร้ายอย่างนี้”

“เรื่องบางเรื่อง เธอจะทำเป็นไม่เห็น แม้กระทั่งให้คนอื่นเข้างานแทน”

พูดถึงตอนนี้ ถังเฉาก็ได้หลับตาลง ก็เหมือนดั่งงานแต่งของเบากับหลินชิงเสว่ ทั้งที่เชิญในนามซ่งหรูอี้เป็นตัวแทนของตระกูลซ่ง แต่สุดท้ายคนที่มาคือ กลับเป็นซ่งเทียนซาน ถังเฉาเดาไม่ยาก สิ่งนี้เป็นการยอมรับของซ่งหรูอี้

ซ่งหรูอี้เป็นหนึ่งในไม่กี่คนของเมืองหมิงจูที่รู้ว่าเจ้าบ่าวเจ้าสาวคือใคร ดังนั้นเธอถึงเลือกที่จะไม่ปรากฏตัว ให้ซ่งเทียนซานที่รักในหลินชิงเสว่ไปแทน สิ่งที่ต้องการคือยืมมือของซ่งเทียนซาน มาทำลายบรรยากาศงานแต่งของตัวเอง และผลของซ่งเทียนซานนั้น ก็คือถูกตัวเองทุบตีอย่างสาหัส ถูกการหักหลังอย่างชัดเจน ยังจะช่วยคนนับเงินอีก

“เธอก็ยังคงเอาแต่ใจตัวเองเหมือนเดิม แต่วิธีการต่างๆฉลาดขึ้นมาก นี่ก็เป็นสาเหตุที่คุณกลัวเธอไง เพราะคุณดูเอไม่ออก”

ถังเฉาหลับตากล่าว: “แต่ว่า หลายเรื่องที่ทำเป็นเมินเฉยไม่เห็น ก็ไม่ได้หมายความว่าเธอจะยอมให้ใครมาแอบทำการเล็กๆน้อยๆลับสายตาเธอได้ ตระกูลหวางกับซ่งหรูอี้มีความไปมาหาสุขกัน กับครอบครัวอื่นๆก็มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดอย่างนี้ด้วยหรือไม่?”

ซ่งหมิงเวยตาโตขึ้นทันที ดูเหมือนว่าจะเข้าใจอะไรบางอย่าง:“คุณหมายถึง—-”

“บุคลิกการทานจะต้องไม่น่าเกลียดเกินไป บางครั้ง กินทั้งสองฝ่ายก็เป็นสิ่งต้องห้าม”

ถังเฉาได้ชี้ทางสบายๆกล่าวว่า: “เรื่องเล็กอย่างนี้ ซ่งหรูอี้ไม่ลงมือจัดการด้วยตัวเองหรอก แต่คุณช่วยเธอไปข่มหวางหมิ่นเหมินแทน เธอก็จะตอบแทนคุณ นี่เป็นกลยุทธ์ของเรื่องทั้งหมดนี้”

ท่าทางของซ่งหมิงเวยเริ่มเปลี่ยนเป็นตื่นเต้นขึ้น เข้าใจความหมายของถังเฉาอย่างสิ้นเชิง

เมืองหมิงจูมีครอบครัวใหญ่ๆเล็กๆเยอะขนาดนี้ ตระกูลหวางอยากสร้างรายได้จากทุกคน อย่างนี้จะเป็นไปได้ยังไง?

ขอแค่ซ่งหมิงเวยให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เพื่อที่อธิบายเรื่องนี้ให้ซ่งหรูอี้ฟัง นี่ก็ไม่ใช่บทลงโทษแล้ว กลับเป็นการขอผลประโยชน์

สำหรับการปรากฏตัวของถังเฉา?

ทั่วทุกการกระทำ เขาดื่มแต่เหล้าอยู่ในบาร์ ตั้งแต่ต้นจนจบก็ไม่ได้พูดสักคำเลย มีอะไรที่เกี่ยวข้องกับเขางั้นเหรอ?

แน่นอน ซ่งหรูอี้ได้เห็นถึงสาระสำคัญของเรื่องทั้งหมดนี้มานานละ แต่ว่าเธอจะไม่เปิดเผย ก็แค่จะระวังซ่งหมิงเวยอย่างลับๆ

ซ่งหมิงเวยเปรียบได้เหมือนหมากรุกหนึ่งที่ถังเฉาแอบแฝงเข้ามาในตระกูลซ่ง ซ่งหรูอี้กลับขยับไม่ได้

“ฉันเข้าใจแล้ว ฉันจะกลับบ้านตอนนี้แหละ!”ซ่งหมิงเวยรู้สึกตื่นเต้น คำนับถังเฉาอย่างสุดซึ้ง

นี่เป็นครั้งแรกเลย ที่เขารู้สึกชื่นชมต่อถังเฉาจากใจ เดิมก่อนที่ถังเฉาจะเรียกเขามานั้น ก็ได้คำนวณทุกอย่างไว้แล้ว!

หลังซ่งหมิงเวยจากไป ถังเฉาก็ตัดสินใจกลับบ้านละ

จู่ๆ มีสายเรียกเข้าจากโทรศัพท์ กลับเป็นหลินฉ่ายเวยที่โทรมา

“มีธุระอะไรหรือเปล่า?”เมื่อถังเฉารับสาย ถามกล่าวด้วยเสียงเบาๆ

“ไสหัวกลับตระกูลหลิน มาสารภาพกับเรื่องที่นายทำ”

เสียงของหลินฉ่ายเวยเย็นชามาก ยังระงับความโกรธที่รุนแรงไว้

เจ้ามังกรพรีเมี่ยม

เจ้ามังกรพรีเมี่ยม

เมื่อห้าปีก่อน ถูกว่าที่ภรรยาใส่ร้าย ในเวลาที่เกือบจะตาย มีผู้หญิงคนหนึ่งมาช่วยเขาอย่างสุดชีวิตห้าปีต่อมา อำนาจและทรัพย์สมบัติของโลกล้วนตกอยู่ในมือของเขา การกลับมาของม้าศึก แค่เพื่อที่จะตอบแทนบุญคุณในคืนนั้น แต่กลับพบว่า เธอได้คลอดลูกสาวคนหนึ่งสิ่งที่เป็นหนี้คุณไม่สามารถลบล้างให้หมดไปได้ ถ้าอย่างนั้นก็ปกป้องพวกคุณสองแม่ลูก……ทั้งชีวิตเลยแล้วกัน!

Options

not work with dark mode
Reset