ชิ้วว!
เครื่องบินลำหนึ่งได้บินขึ้น ขึ้นไปบนท้องฟ้า ห่างออกไปจนมองไม่เห็น
ถังเฉากับหลินชิงเสว่เงยหน้ามองเครื่องบินลำนั้น ใบหน้าของทั้งสอง ต่างก็มีรอยยิ้มอ่อนๆ
นั้นเป็นเครื่องบินของหลินจ้าวหยูน ตอนเธอลงจากเครื่อง สิ่งที่รอคอยเธอ จะเป็นชีวิตใหม่
เธอต้องรับรู้ ว่าจากเจ้าหญิงน้อยของตระกูลหลินกลายเป็นหญิงแกร่งที่ถืออำนาจของตระกูลทั้งหมด เป็นเรื่องที่ยากขนาดไหน
และเส้นทางนี้ ต่อให้ลำบาก ต่อให้ยากเย็นขนาดไหน ก็ต้องกัดฟันแล้วก็อดทน
เพราะว่า หลินชิงเสว่ก็เดินผ่านมาแล้วเหมือนกัน
“เธอก็ไม่เคยคิดเรื่องอนาคตเหรอ?”
หันกลับ ถังเฉาก็ได้มองหลินชิงเสว่ข้างๆ สักพัก ถาม
“อนาคตอะไรคะ?”
หลินชิงเสว่ก็ได้มองไปทางถังเฉา ใบหน้าก็ได้มีรอยยิ้มอ่อนๆ อยู่
“เรื่องความสัมพันธ์ของเธอกับจ้าวหยูน”
ถังเฉาก็ได้มองไปไกล “พ่อสะใภ้ของผมก็ได้ตัดสินใจแล้วว่าเธอนั้นจะไม่กลับไปตระกูลหลินอีก เพราะงั้น จ้าวหยูนก็จะกลายเป็นลูกสาวคนเดียวของตระกูลหลิน ต่อไปเขาต้องเป็นผู้สืบทอดธุรกิจของตระกูลหลิน จำเป็นต้องกลายเป็นผู้หญิงที่แข็งแกร่งเหมือนเธอ”
“ถึงตอนนั้น ความสัมพันธ์ของเธอกับเขา ยังจะเป็นเหมือนตอนนี้ไหม? จ้าวหยูนคงไม่มีทางพึ่งเธอแล้ว”
“……”
หลินชิงเสว่ก็ได้ตกอยู่ในความเงียบอยู่นาน
จริงด้วย นี่มันทำให้เกิดปฏิกิริยาลูกโซ่
ถ้าเกิดหลินชิงเสว่กลับไปตระกูลหลิน งั้นคนที่เป็นผู้สืบทอดธุรกิจตระกูลหลิน ก็ต้องเป็นเธอแน่นอน
ไม่ใช่หลินจ้าวหยูน
เว่ยหมิงจวินก็ต้องทำทุกวิถีทางขัดขวางหลินชิงเสว่ไม่ให้สานต่อธุรกิจของตระกูลหลิน ถ้าเกิดเป็นแบบนั้น ตระกูลหลินก็ไม่มีที่ที่ให้เธออยู่อีกต่อไปแล้ว
มีพี่สาวที่เก่งขนาดนี้ หลินจ้าวหยูนก็สามารถที่จะเป็นเจ้าหญิงน้อยของเธอต่อไป
แต่ว่าหลินชิงเสว่ไม่กลับไป ภาระหน้าที่ทั้งหมด ก็ได้ต้องอยู่บนตัวของหลินจ้าวหยูน
คนที่ทำให้ทุกอย่างเป็นแบบนี้คือเว่ยหมิงจวิน แต่ว่า เธอหลินชิงเสว่ ก็เป็นคนที่ถลอกปอกเปิกไปทั้งตัวจริงไหม?
เว่ยหมิงจวินพยายามที่จะทำทุกอย่างเพื่อที่จะเพิ่มความกดดันให้กับหลินจ้าวหยูน ให้เธอเผชิญหน้าคนเดียว
หลินจ้าวหยูนแข็งแกร่งแล้ว เธอถึงจะแข็งแกร่งความเดิม
บวกกับปัญหาของคนรุ่นก่อนๆ เว่ยหมิงจวินต้องพยายามยุยงให้หลินจ้าวหยูนเห็นว่าหลินชิงเสว่เป็นศัตรู
ถึงตอนนั้น จะควรทำยังไง?
“สุดท้ายแล้วเป็นยังไง ก็ให้เวลาเป็นคนกำหนดเถอะ”
เงียบอยู่นาน หลินชิงเสว่ก็ได้ยิ้มออกมา
“ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน เธอก็ยังเป็นน้องสาวของฉัน และฉัน ก็เป็นพี่สาวของเธอ จุดนี้ ไม่มีทางที่จะเปลี่ยนแปลงได้”
“เธอก็คงคิดแบบนี้เหมือนกัน”
แสงแดดที่สาดส่อง ลมอ่อนๆ ก็ได้พัดผมของเธอ สิ่งที่ถังเฉามองเห็นนั้น เป็นใบหน้าที่ได้ดูเป็นผู้ใหญ่มากกว่าเดิมของหลินชิงเสว่
ถังเฉาก็ได้ตกอยู่ในภวังค์ ถึงได้รู้สึกตัวว่า ตอนนี้มาคิดพวกนี้ ก็ดูกังวลเกินไปแล้ว
ไม่ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ เธอก็ยังเป็นหลินชิงเสว่คนก่อน
ไม่เคยที่จะเปลี่ยน
“ก็จริง”
ถังเฉาก็ได้ยิ้มออกมา
ตอนที่กำลังจะกลับไปนั้น ถังเฉากับหลินชิงเสว่ก็ได้เจอกับเพื่อนเก่าที่กำลังเตรียมตัวกลับไปเยี่ยนจิง
เธอใส่เสื้อกี่เพ้าสีม่วง สวยซะเหมือนผู้หญิงก็ได้เดินออกมาจากภาพวาด
“เย่หรูอี้”
ถังเฉาก็ได้หรี่ตาเล็กน้อย
“คุณถัง”
ข้างหลังของเย่หรูอี้ ยังมีผู้ชายอีกสองคนตามหลัง
ซ่งหมิงเวยกับเย่เทียนหลง
จ้าวเย็นหรานอยู่ข้างๆ เย่เทียนหลง
เวลานี้เย่เทียนหลงฟื้นขึ้นมาแล้ว แขนข้างหนึ่งก็ได้พันผ้าก๊อซหนาๆ
สำหรับเย่หรูอี้แล้ว เมืองหมิงจูถึงเป็นบ้านเกิดของเธอ เพราะงั้นเธอก็จะกลับตระกูลซ่งสักพัก
“พวกเธอคุยกันก่อน”
รู้ว่าถังเฉากับเย่หรูอี้มีความสัมพันธ์ที่ดี หลินชิงเสว่ก็ได้พูดออกไปอย่างไม่ร้อนไม่หนาว แล้วก็ได้เดินไปรอที่รถคนเดียว
“เธอหึงแล้วนะนั่น”
เย่หรูอี้ก็ได้ยิ้มอ่อนๆ พูดออกมา
ถังเฉาหัวเราะ ไม่ได้พูดอะไร
เย่หรูอี้ก็ไม่ได้ว่าอะไร เงยหน้ามองท้องฟ้าที่โล่ง แล้วก็ได้สูดหายใจที่บริสุทธิ์เข้าไปลึกๆ พูดออกมา
“ยังเป็นอากาศที่เมืองหมิงจูสดชื่นกว่า”
ประโยคนี้ ตอนที่เย่หรูอี้มาที่เมืองเจียงเฉิงก็ได้พูดประโยคคล้ายๆ กัน
สถานการณ์แบบนี้ ก็มีแค่คนที่อยู่ในอารมณ์เดียวกันเท่านั้นที่ฟังความหมายของประโยคนี้ออก
“นั่นก็เป็นเพราะที่นี่มีเพื่อนเก่าที่เธอสนิทอยู่”
ถังเฉาหัวเราะ
เย่หรูอี้พยักหน้า “จริงด้วย ญาติ ศัตรู ต่างก็เป็นเพื่อนเก่า”
นิ่งไปสักพัก เย่หรูอี้ก็ได้มองถังเฉาแล้วพูด “พูดตามตรง ฉันไม่เคยที่จะคิดว่ามีวันหนึ่ง พวกเรานั้นจะสามารถมาพูดเรื่องอดีตที่ผ่านมาอย่างใจเย็นแบบนี้ได้”
“ผ่านมาเยอะ แน่นอนว่าต้องบรรลุเรื่องเรื่องหนึ่ง การต่อสู้การฆ่า นั่นเป็นเรื่องนี้เด็กๆ เล่นกันเท่านั้น”
ถังเฉาพูด
ซ่งหมิงเวยกับเย่เทียนหลงยืนอยู่ข้างหลังทั้งสอง ต่างก็ได้ตกอยู่ในความเงียบ
เวลาเป็นสิ่งไม่เที่ยง ใครจะคิดได้ว่าสองคนนี้จะมีความบาดหมางมากขนาดนี้
เดิมพวกเขานั้นควรที่จะเป็นสามีภรรยากัน แต่กับก็ได้ชวดกันไปแบบนี้
พวกเขาเคยรักกัน เกลียดกัน แค่เรื่องอดีตที่เคยมีร่วมกันมา หลินชิงเสว่เทียบเย่หรูอี้ไม่ได้เลย ถังเฉากับเย่หรูอี้ถึงได้เป็นคู่ที่เหมาะสมกันที่สุด
“ถังเฉา”
อยู่ๆ เย่หรูอี้ก็ได้เรียกออกไป
ถังเฉาหันกลับไปมองหน้าตาที่ได้สวยสดใสของเธอใบนั้น
เย่หรูอี้ก็ได้กะพริบตา แล้วก็ได้ยิ้มอย่างขี้เล่นออกมา
“เชื่อไหมว่า เราสามารถที่จะพัวพันไปตลอดชีวิต?”
“……”
ถังเฉาก็ได้อึ้งไปทันที
“ฉันคิดได้แล้ว ชาตินี้ฉันนั้นไม่คิดที่จะแต่งงานแล้ว เรื่องสืบทอดรุ่นลูกรุ่นหลานอะไรนั้น ก็ให้น้องชายฉันไปจัดการเถอะ”
“ได้ทะเลาะและรักกับนายแบบนี้ ฉันสนุกเอามากๆ”
ซ่งหมิงเวยที่อยู่ข้างหลังหน้าก็ได้แดงขึ้นมาทันที
พูดจบ เย่หรูอี้ก็ได้กลับไปมีสีหน้าที่ปกติ พูดออกไปเรียบๆ ว่า “เทียนหลง ไปแล้ว ฉันพานายไปเจอกับพี่น้องมากมายของตระกูลเย่แห่งตระกูลหลวง เชื่อเลยว่าตอนที่พวกเขาได้เห็นนายนั้นสีหน้าของพวกเขาต้องดูน่าสนุกมากแน่ๆ”
“รู้แล้วครับ พี่”
เย่เทียนหลงก็ได้ยิ้มออกมา
มองแผ่นหลังของพวกเขา ถังเฉาก็รู้แล้วว่า กลับไปคราวนี้ เย่หรูอี้ต้องทำเอาตระกูลเย่วุ่นวายไปหมดแน่ๆ
ถังเฉาก็ได้ยิ้มออกมาอ่อนๆ
เยี่ยนจิง เป็นที่ที่ทำให้คนอยากไป
กลับไปที่รถ หลินชิงเสว่ก็ไม่ได้ถามเรื่องเย่หรูอี้
เรื่องความสัมพันธ์ชายหญิง ปกติหลินชิงเสว่นี้จะใช้วิธีปล่อยเลยตามเลยไปตลอด
ถ้าเกิดข้างๆ ไม่มีผู้หญิงที่สวยอยู่รอบๆ งั้นผู้ชายคนนั้นก็ต้องไม่ได้ถือว่าเก่งแน่ๆ
นี่ก็เป็นสิ่งที่หลินชิงเสว่ รู้สึกภาคภูมิใจและหยิ่งผยองมาตลอด
คนที่หลินชิงเสว่อย่างเธอมองเข้าตา ไม่มีทางที่จะหักหลังเธอแน่
แน่นอน เธอสามารถที่จะอนุญาตให้ถังเฉากับเย่หรูอี้อยู่ด้วยกันเป็นการส่วนตัว แต่กลับไม่อนุญาตที่จะให้ถังเฉาอยู่กับผู้หญิงคนหนึ่งเป็นการส่วนตัว
ผู้หญิงคนนั้นก็คือพี่สะใภ้ของเขาเจียงไป๋เสว่……
เรื่องที่ถังเฉากับเจียงไป๋เสว่อยู่โรงแรมด้วยกันคราวก่อน ชาตินี้หลินชิงเสว่ไม่มีทางลืมได้……
กลับไปที่บริษัทลี่จิงกรุ๊ป หลินชิงเสว่ก็ได้คิดว่าจะตั้งใจทำงานอย่างเดียว เลขาหลี่ถาวก็ได้รีบวิ่งเข้ามา
“ประธานหลิน ในบริษัทมีแขกพิเศษมาค่ะ พูดออกมาแล้วว่าจะเจอกับประธานถัง!”
“แขกพิเศษ? แล้วยังบอกว่าอยากเจอฉัน?”
ถังเฉาอึ้งไปสักพัก
“ใช่ค่ะ เขาบอกว่าเขามาจากตระกูลหลวงในเยี่ยนตู ตระกูลถัง”
“ตระกูลถัง?”
ได้ยินแบบนั้น ถังเฉากับหลินชิงเสว่ก็สบตาสักพัก จากนั้นก็ได้แปลกใจเล็กน้อย
เพราะว่าถังหลินกับถังฮันเจี๋ย พวกเขาก็ไม่ได้มีความรู้สึกที่ดีกับตระกูลถังแม้แต่น้อย
พวกเขามาทำไมอีก?
“เจอหน่อยเถอะ”
หลินชิงเสว่ก็ได้ไปห้องรับแขก เป็นเพื่อนถังเฉา
ก็ได้เห็นชายวัยกลางคนที่ได้นั่งนิ่งราวกับหินตรงนั้น อายุประมาณหกสิบ แต่ว่ามองไม่ออกว่าแก่เลยสักนิด
“นายก็คือถังเฉา?”
ชายวัยกลางคนก็ได้ตกในความอายุน้อยของถังเฉา จากนั้นก็ได้ยิ้มเรียบๆ “ฉันขอแนะนำตัวหน่อย ฉันชื่อถังเหนียนหู่ เป็นผู้นำของตระกูลถังในตอนนี้ ที่มาเมืองหมิงจู ก็เพราะเชิญนายกลับไป”