เจ้ามังกรพรีเมี่ยม – ตอนที่ 819 วางแผนด้วยความทะเยอทะยาน

“ชิงตัวเจ้าสาว?!”

หลังจากได้ยินสิ่งที่ถังเฉาพูด เฟิ่งหวงอึ้งอยู่นาน ร้องเสียงหลงออกมาหลังจากได้สติในที่สุด

“ชิงของใครคะ?”

เฟิ่งหวงเพิ่งกลับมาอยู่ข้างกายถังเฉา ยังไม่รู้เรื่องราวใหญ่โตที่เกิดขึ้นในเมืองซื่อจิ่วช่วงเวลานี้

เธอลองค้นหาผ่านมือถือก็ถึงบางอ้อ ชิงตัวเย่หรูอี้

แค่เปิดหน้าเพจช่องข่าว ไม่ต้องค้นหาด้วยซ้ำ หน้าเพจเกี่ยวกับข่าวใหญ่อย่างตระกูลหลวงอย่างตระกูลเย่และตระกูลถังดองกันก็เด้งขึ้นมาเอง

พวกสายข่าวบันเทิงที่ไม่กลัวเรื่องใหญ่สนแค่ความบันเทิงใช้คำพูดคุยโวว่านี่เป็นงานแต่งงานแห่งศตวรรษที่ไม่ว่าจะในด้านคุณภาพงาน หรือผลกระทบที่ส่ง ล้วนเกินกว่างานแต่งงานแห่งศตวรรษเมื่อยี่สิบกว่าปีก่อน

ถึงยังไงในประวัติศาสตร์ของเมืองซื่อจิ่ว ยังไม่เคยมีเหตุการณ์ที่สองตระกูลหลวงในเยี่ยนตูดองกันมาก่อน

ตระกูลเย่และตระกูลถังทำเป็นตัวอย่าง เชื่อว่าหลังจากสองตระกูลนี้ดองกันแล้ว เจ็ดตระกูลหลวงที่เหลือก็ต้องทำทุกวิธีเพื่อดองกันเป็นแน่

อย่างไรซะ การดองกันก็เป็นวิธีกระชับมิตรระหว่างสองตระกูลที่รวดเร็วและดีที่สุด

เก้าตระกูลหลวงต้องรักษาความสมดุล

การที่สองตระกูลร่วมมือกัน ย่อมทำลายสมดุลนี้

ตระกูลหลวงอื่นๆก็ต้องหาทางดองกันเพื่อรักษาสมดุลนี้

ไม่อย่างนั้น ตระกูลที่หลุดขบวนและถูกกำจัดก่อนจะต้องเป็นตระกูลหลวงที่ไม่ดองกับใครแน่นอน

“งานแต่งงานครั้งนี้ เป็นสงครามนี่เอง…..”

เฟิ่งหวงอ่านคำแนะนำสุดอลังการแล้วกลับถอนหายใจเบาๆ

“เธอก็ดูออกหรอ?”

ถังเฉาเอ่ยยิ้มๆ

เฟิ่งหวงพยักหน้า ก่อนจะลังเลเล็กน้อย จะพูดบางอย่างแต่ก็ไม่พูด

ถังเฉาเอ่ยขึ้น “มีอะไรก็พูด ไม่ต้องหลบๆซ่อนๆหรอก”

เฟิ่งหวงถึงยอมเอ่ยด้วยสีหน้าลำบากใจ “รองหัวหน้าไปชิงตัวเจ้าสาว ด้านคุณหลิน….เกรงว่าจะอธิบายยากนะคะ”

ถังเฉาเงียบไปพักหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยขึ้น “ฉันไม่ได้ไปเพื่อชิงตัวเจ้าสาวเท่านั้น หนี้แค้นบางอย่าง ฉันต้องไปชำระด้วยตัวเอง”

สายตาของเขาฉายแววเย็นยะเยือก

เมื่อไม่นานมานี้ เย่หรูอี้สูญเสียพรหมจรรย์ในห้องทำงาน เย่จงซือคอยผสมโรงอยู่เบื้องหลัง หากไม่ใช่ถังเฉาใช้ตัวเองเป็นเหยื่อเพื่อล่อค้างคาวออกมา เขาอาจจะหนาวตายไปจริงๆก็ได้

แค้นนี้ ไม่ชำระไม่ได้

เฟิ่งหวงได้ยินเรื่องนี้แล้วหน้าตาก็เปี่ยมด้วยแรงอาฆาตเช่นกัน

แต่ในส่วนของหลินชิงเสว่ ถังเฉาเดาว่าเธอคงไม่หาเรื่องใส่ตัว ไปร่วมงานแต่งงานของเย่หรูอี้หรอก

อย่างไรซะคราวก่อนที่เขาแต่งงานกับหลินชิงเสว่ เย่หรูอี้ก็ไม่มา แต่ให้ซ่งเทียนซานร่วมงานแทน

เช่นเดียวกัน หลินชิงเสว่ก็คงไม่ร่วมงานแต่งงานของเย่หรูอี้

จากนั้น เฟิ่งหวงไม่พูดอะไรอีก เพียงแต่จ้องหน้าถังเฉาเนิ่นนาน

ถังเฉาลูบหน้าตัวเองด้วยสัญชาตญาณและถาม “เป็นอะไรไป หน้าฉันมีอะไรติดหรอ?”

“ไม่มีค่ะ”

เฟิ่งหวนเบนสายตาออกไป มีรอยยิ้มบางๆเปื้อนหน้า “ฉันแค่รู้สึกว่าได้กลับมาอีกครั้งนี่ดีจริงๆเลยค่ะ”

“อากาศที่นี่ดีกว่า”

ได้ฟังแล้วถังเฉาก็มีสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย ก่อนจะเผยรอยยิ้ม “กลับมาครั้งนี้ ก็ไม่ต้องไปไหนอีกแล้วนะ”

“อื้ม ไม่ไปแล้วค่ะ”

เฟิ่งหวงยิ้ม และตั้งใจขับรถ

ไม่นานนักพวกเขาก็มาถึงโรงแรมใหญ่หลงเฉิง ณ ใจกลางเมือง

ที่นี่เป็นโรงแรมที่หรูหราที่สุดของเมืองซื่อจิ่ว งานแต่งงานหลายงานของตระกูลใหญ่ล้วนจัดขึ้นที่นี่

แน่นอนว่าราคาของที่นี่ก็ไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาจะรับไหว

ถังเฉาและเฟิ่งหวงลงจากรถ มองโรงแรมใหญ่แห่งนี้

ขณะนี้งานแต่งงานยังไม่เริ่ม แต่หน้าประตูห้อมล้อมไปด้วยนักข่าวมากมายรวมถึงประธานบริษัทยักษ์ใหญ่ต่างๆ พวกเขามารอกันแล้ว

“รองหัวหน้าคะ เหมือนว่าเราจะไม่มีบัตรเชิญ”

เฟิ่งหวงสังเกตดูแล้ว แทบจะมีบัตรเชิญกันคนละใบ

ถังเฉาขมวดคิ้ว ตอนนี้สำหรับทั้งเมืองซื่อจิ่วเขาเป็นคนที่ตายไปแล้ว ไม่สะดวกผลีผลามไปขอบัตรเชิญ

ทันใดนั้น มีชายหนุ่มลูกคนรวยท่าทางเสเพลคนหนึ่งเดินออกจากฝูงชน

พอเห็นคนคนนี้ ถังเฉาก็มีสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย เขารู้สึกว่าหน้าคุ้นเหลือเกิน

นี่มันคุณชายของตระกูลฉู่แห่งตระกูลหลวง ฉู่หยางไม่ใช่หรอ?

ก่อนหน้านี้ที่งานบรรลุนิติภาวะสิบแปดปีของเจ้าหญิงน้อยหลงเจียเจีย ฉู่หยางก็เคยโผล่มา แต่อารมณ์เสียกับหลงเจียเจียจนออกจากงานไป

ทั้งสองเคยหมั้นหมายกันเมื่อครั้งยังเด็ก

ด้วยเหตุนี้ ฉู่หยางจึงจองล้างจองผลาญถังเฉา

คิดไม่ถึงเลยว่าจะมาเจอเขา

ไม่นานนัก ถังเฉาก็มีความคิดบางอย่าง

เขาเดินมาอยู่ตรงหน้าฉู่หยาง และตบไหล่เขา

“ใครน่ะ?”

ฉู่หยางหันกลับมาด้วยสีหน้ารำคาญใจ หน้าตาโกรธเกรี้ยวสุดๆ

ทว่า เมื่อได้เห็นรอยยิ้มของถังเฉา เขาก็ตกใจอย่างหนัก

“ผี—- ผีหลอก!”

ฉู่หยางออกวิ่งโดยไม่ต้องคิด

ถังเฉาตายไปแล้ว นี่เป็นเรื่องที่วงสังคมชั้นสูงของเมืองซื่อจิ่วรู้กันดี แต่ถังเฉากลับปรากฏต่อหน้าเขา ไม่ใช่ผีแล้วจะเป็นอะไร?

ปรากฏว่า เขากำลังจะเผ่น ก็โดนเฟิ่งหวงเตะกลับมาทันที

“พวก พวกนายจะทำอะไร?”

เขามองถังเฉาและเฟิ่งหวงด้วยท่าทีหวาดกลัว ฉู่หยางตกใจแทบแย่

ถังเฉายิ้มให้เขาอย่างใสซื่อ “ไม่ต้องกลัว ฉันยังมีชีวิตอยู่ ไม่เชื่อว่านายก็ลองจับดูสิ”

พูดจบก็ยื่นหน้าเข้าไปให้ฉู่หยางจับ

นาทีที่ได้สัมผัส ฉู่หยางสั่นไปทั้งตัว ก่อนจะผงะ “ยังมีชีวิตอยู่จริงๆด้วย”

“แล้วนี่นาย—-“

ฉู่หยางเบิกตากว้างทันที มองถังเฉาอย่างไม่อยากจะเชื่อ

“ชู่ว…..”

ถังเฉาทำท่าให้เขาเงียบ แต่สายตากลับทอดไปที่บัตรเชิญในกระเป๋าของเขา “ฉันอยากขอยืมอะไรนายหน่อย”

“อะไร……”

เมื่อสังเกตเห็นสายตาของถังเฉา สายตาของฉู่หยางเปลี่ยนไปทันที เขาเอามือคลุมกระเป๋าด้วยสัญชาตญาณ

ถังเฉาไม่พูดอะไร แต่สายตามองบัตรเชิญในมือของฉู่หยางราวกับเบนสายตาไม่ได้

ห่างออกไปไม่ไกล บอดี้การ์ดของฉู่หยางก็ตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน—-เพียงแต่พวกเขามีความสุขกว่าฉู่หยางอยู่หน่อยๆ

ฝ่ายหนึ่งถูกเพศเดียวกันปล้น อีกฝ่ายหนึ่งถูกคนต่างเพศปล้น

เฟิ่งหวงกำลังลากบอดี้การ์ดของฉู่หยางไปที่มุมกำแพง และขู่ด้วยใบหน้าดุร้ายส่งบัตรเชิญมา

ภายใต้ทั้งการขู่และเอาผลประโยชน์เข้าล่อของเฟิ่งหวง บอดี้การ์ดของฉู่หยางต้องมอบบัตรเชิญในมือออกไปอย่างเสียไม่ได้

ไม่นานนัก เฟิ่งหวงก็เดินถือบัตรเชิญเข้ามาด้วยท่าทีเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น และถลึงตาใส่ฉู่หยางอย่างเหี้ยมเกรียม

ฉู่หยางแทบจะหมดลมหายใจเพราะสายตานี้

ถังเฉาถอนหายใจเบาๆ “นายรู้สึกมั้ยว่าช่วงนี้นายตกอับมาก?”

“ตกอับ? ตกอับยังไง?”

ฉู่หยางตะลึงนิดหน่อย แต่เนื่องจากเฟิ่งหวงยังอยู่เขาจึงไม่แสดงออกมา

ขณะเดียวกันเขาก็อยากรู้ว่าทำไมถังเฉาถึงพูดแบบนี้

“ช่วงนี้สถานะของนายในตระกูลฉู่แห่งตระกูลหลวงต่ำลงเรื่อยๆใช่มั้ย? นอกจากคนในตระกูลจะดูถูกนายแล้ว แม้แต่พ่อแม่ของนายก็เริ่มห่างเหินกับนายใช่มั้ย?”

ถังเฉามองฉู่หยางและถอนหายใจพลางกล่าว “แถมฝันทุกคืน และมักจะฝันร้าย ดึกดื่นสะดุ้งตื่นและตกใจจนเหงื่อแตกพลั่ก”

“นายรู้ได้ยังไง?”

หลังจากที่เขาพูดเช่นนี้ ฉู่หยางก็ผงะไปเลย หน้าตาเหลือเชื่อ

ถังเฉากล่าวต่อ “ฉันรู้อีกว่านายมีอาการแบบนี้ตั้งแต่โดนหลงเจียเจียปฏิเสธ สาเหตุก็เพราะนายเป็นลูกผู้ชายอกสามศอก เกิดในตระกูลฉู่ กลับถูกเด็กสาวตัวเล็กๆปฏิเสธ อับอายขายขี้หน้าเป็นที่สุด”

“แล้วฉันต้องทำยังไง?”

โดนถังเฉาพูดใส่แบบนี้ฉู่หยางก็เริ่มรู้สึกว่าตัวเองไร้น้ำยา คิ้วขมวดเป็นปมในบัดดล

“ง่ายมาก การดองกันระหว่างตระกูลเย่และตระกูลถังเป็นผลให้ตระกูลหลวงอื่นๆเกิดความวิตกกังวลขึ้นมา หากสองตระกูลนี้ดองกันไม่สำเร็จ เก้าตระกูลหลวงก็จะยังรักษาสภาพการณ์เดิมไว้ได้”

“ตอนนี้ฉันกำลังจะไปหยุดการดองระหว่างตระกูลเย่และตระกูลถัง——หรือก็คือ ชิงตัวเจ้าสาว”

ถังเฉาพูดด้วยท่าทีจริงจัง

“…….”

ฉู่หยางอึ้งไป ปากเขาอ้ากว้างเล็กน้อย ทว่าพูดอะไรไม่ออกสักอย่าง

เขาเพิ่งเคยเห็นคนอธิบายการชิงตัวเจ้าสาวได้แปลกใหม่เช่นนี้

“นายเอาบัตรเชิญในมือนายมาให้ฉัน ฉันช่วยนายกอบกู้ภาพลักษณ์”

ถังเฉากล่าว

“กอบกู้ภาพลักษณ์? กอบกู้ยังไง?”

ฉู่หยางหน้าตาฉงน

“ที่นายโดนตระกูลฉู่แห่งตระกูลหลวงดูแคลนก็เพราะไร้น้ำยาเกินไป ฉันเข้าไปแทนนาย กระทำการในฐานะ ‘ฉู่หยาง’ หลังจากนี้ชื่อเสียงของนายจะโด่งดังในเมืองซื่อจิ่ว

“…….”

เฟิ่งหวงอีกด้านฟังด้วยสีหน้าพิศวง ไม่เจอกันมาพักหนึ่ง ทำไมรองหัวหน้าหลอกล่อเก่งขนาดนี้นะ

เธอจะรู้ได้ยังไงว่านี่เป็นวิธีที่สะดวกรวดเร็วที่สุด ขณะเดียวกัน ถังเฉาเริ่มวางแผนปูทางในเมืองซื่อจิ่วแล้ว

“แต่ถ้านายเข้าไปแทนฉัน แล้วจะกระทำการในนามฉันได้ยังไงล่ะ?”

ฉู่หยางไม่ใช่คนโง่ หน้าตาเขาเต็มไปด้วยความระแวง

ถังเฉาไม่พูดอะไร เพียงแต่หยิบหน้ากากเหล็กชิ้นหนึ่งขึ้นมาสวม

“ตอนนี้ล่ะ?”

เมื่อเห็นท่า ฉู่หยางมีสีหน้าเปลี่ยนไปอย่างมากในบัดดล เขาได้แต่ชี้ถังเฉาและตะลึงจนพูดอะไรไม่ออก

“นาย…..นาย นายคือ……”

หน้ากากนี้เป็นหน้ากากที่ถังเฉาสวมตอนเข้าร่วมการประชุมแดนเหนือ ตอนที่การประชุมจบลง เก้าตระกูลหลวงในเมืองซื่อจิ่วล้วนอยากดึงตัวผู้แข็งแกร่งที่มีนามว่า ‘เจ้ามังกร’ มาเข้าร่วมกับตัวเอง

แน่นอนว่าตระกูลฉู่ก็เป็นเช่นนั้น แต่ตอนนั้นผู้คนรู้เพียงว่าเขาใช้นามแฝงว่า‘เจ้ามังกร’ และสวมหน้ากาก ไม่มีใครรู้ว่าจริงๆแล้วเขาเป็นใคร

“ฉันคือคนที่นายเชิญมาออกหน้าแทนตระกูลฉู่แห่งตระกูลหลวง ฐานะนี้เป็นยังไง?”

ถังเฉายิ้มกว้างให้ฉู่หยาง

“……”

ฉู่หยางไม่พูดอะไร เอาแต่มองถังเฉาเหมือนไม่ได้สติ

เมื่อได้สติแล้ว เขายื่นบัตรเชิญในมือใส่มือถังเฉาด้วยสีหน้าตื้นตัน

“ถัง….ถังเฉา เราตกลงกันแล้วนะ นาย คือคนที่ฉันฉู่หยางเชิญมา ออกหน้าแทนตระกูลฉู่ของฉัน”

ถังเฉาตอบรับด้วยความยินดี

มองจนฉู่หยางออกไปแล้ว ถังเฉาหันกลับไปมองเฟิ่งหวง “พวกเราเข้าไปกันเถอะ”

เฟิ่งหวงหน้าตาตะลึงงัน ผ่านไปครู่ใหญ่ถึงได้สติ และเอ่ยอย่างเหลือเชื่อ “รองหัวหน้าคะ คุณจะผูกมัดตระกูลฉู่แห่งตระกูลหลวงไว้กับคุณใช่มั้ยคะ?”

“ใช่แล้ว”

สายตาถังเฉากลับมาเคร่งขรึมอีกครั้ง เขาเอ่ยเรียบๆ “ได้เวลาปูทางสภาพการณ์ของเมืองซื่อจิ่วแล้ว อีกไม่นานฉันจะประกาศศึกกับตระกูลถังแห่งราชวงศ์ต้าเซี่ย ช่วยพ่อแม่แท้ๆของฉันออกมา”

“เก้าตระกูลหลวงจะต้องเป็นกำลังให้ฉัน”

น้ำเสียงถังเฉาทุ้มต่ำ แฝงไว้ด้วยแรงอาฆาตอันน่ากลัว ใจของเฟิ่งหวงเต้นรัวเร็วขึ้น

หากประโยคนี้ถูกเผยแพร่ออกไป คนอื่นต้องเข้าใจว่าเขาเพ้อเจ้อแน่นอน

ราชวงศ์ เป็นการดำรงอยู่ที่เหนือชั้นยิ่งกว่าตระกูลหลวง เมื่ออยู่ต่อหน้าราชวงศ์ ตระกูลหลวงก็ต้องเคารพนบนอบเช่นเดียวกัน

ถังเฉากลับต้องการลงมือกับราชวงศ์ ความทะเยอทะยานของเขาไม่ได้ใหญ่ธรรมดาเลยนะ

แต่หลังจากตะลึงแล้ว สายตาเฟิ่งหวงกลับมาสงบอีกครั้ง

เธอเชื่อว่า หากเป็นรองหัวหน้า จะต้องทำได้อย่างแน่นอน

“ไปกันเถอะ”

สายตาของถังเฉากลับสู่ความสงบ เขาสวมหน้ากากเจ้ามังกรและเดินเข้าไปในโรงแรมใหญ่

เจ้ามังกรพรีเมี่ยม

เจ้ามังกรพรีเมี่ยม

เมื่อห้าปีก่อน ถูกว่าที่ภรรยาใส่ร้าย ในเวลาที่เกือบจะตาย มีผู้หญิงคนหนึ่งมาช่วยเขาอย่างสุดชีวิตห้าปีต่อมา อำนาจและทรัพย์สมบัติของโลกล้วนตกอยู่ในมือของเขา การกลับมาของม้าศึก แค่เพื่อที่จะตอบแทนบุญคุณในคืนนั้น แต่กลับพบว่า เธอได้คลอดลูกสาวคนหนึ่งสิ่งที่เป็นหนี้คุณไม่สามารถลบล้างให้หมดไปได้ ถ้าอย่างนั้นก็ปกป้องพวกคุณสองแม่ลูก……ทั้งชีวิตเลยแล้วกัน!

Options

not work with dark mode
Reset