เจ้ามังกรพรีเมี่ยม – ตอนที่ 892 ค้างคาวปรากฏตัวขึ้นอีก

ฟู่วๆ—-

ดวงจันทร์ที่คล้ายตะขอ ลมเย็นคำราม

ในสวนสาธารณะเชิงนิเวศอันมืดมิด ชายชุดดำที่มากมายล้อมรอบเข้ามา ชั่วพริบตาเดียวก็ล้อมหลินชิงเสว่ หลินจ้าวหยูน เจียงไป๋เสว่ และยังมีหญิงสาวชุดกิโมโนคนนั้นเอาไว้ด้วย

แสงจันทร์ที่เย็นยะเยือกส่องลงบนดาบซามูไรในมือของเหล่าชายชุดดำ คมดาบเปล่งแสงเย็นเฉียบแวววาวที่ชวนขนลุกนิดหน่อย

“อ๊ะ……”

หลินจ้าวหยูนรู้สึกว่าพวกเธอต้องตายแน่ จึงหลับตาลงสนิทแล้ว

หลินชิงเสว่ในฐานะพี่สาวไม่ได้สับสน และไม่สามารถสับสนได้ ปกป้องหลินจ้าวหยูนเอาไว้ไม่ขยับ

การแสดงออกของเจียงไป๋เสว่เปลี่ยนไปดูแย่อย่างมาก ระหว่างคิ้วยิ่งเผยความกดดันมหาศาลขึ้น

การรับมือชายชุดดำคนหนึ่ง เจียงไป๋เสว่สามารถทำได้สบาย

แต่รับมือชายชุดดำห้าคนแบบนี้ เจียงไป๋เสว่ยังมีความกดดัน แต่ว่าสามารถจัดการได้

ทว่าการรับมือสิบกว่าคนนั้น เธอไม่มีหนทางแล้ว

คนมากขนาดนี้ลงมือพร้อมกัน เดิมทีเธอไม่มีเวลามาสนใจ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าต้องดูแลความปลอดภัยของหลินชิงเสว่ และหลินจ้าวหยูนด้วย

“เป็นนินจาของตระกูลมูโตะ!”

หญิงสาวชุดกิโมโนคนนั้นกลับเอ่ยปากกะทันหัน ในดวงตาเขียนความหมดหวังไว้เต็มที่

“ตระกูลมูโตะ?”

พอได้ยิน หลินชิงเสว่และเจียงไป๋เสว่ต่างสีหน้าเปลี่ยนเล็กน้อย

มีเพียงหลินจ้าวหยูนที่ตะลึงนิดหน่อย “นินจา? บนโลกนี้มีนินจาจริงเหรอ?”

ก่อนหน้านี้ หล่อนคิดมาตลอดว่านินจาเรื่องพรรค์นี้แค่มีตัวตนอยู่ในเทพนิยายของญี่ปุ่นเท่านั้น

คำถามนี้ เจียงไป๋เสว่พยักหน้าแบบสีหน้าเคร่งขรึม “นินจา มีตัวตนอยู่จริง”

“แต่ว่าพวกเขาไม่ได้มีอภินิหารขนาดนั้นเหมือนในหนัง เหมือนกับนินจุตสึอะไรนั้นล้วนเป็นเรื่องแต่ง แต่พวกเขาสามารถควบคุมลมหายใจของตัวเองได้ เหมือนกับวิญญาณกลมกลืนเป็นหนึ่งเดียวกับสภาพแวดล้อมโดยรอบ เพราะเหตุนี้จึงบรรลุผลลัพธ์ที่โจมตีทีเดียวแล้วตายได้สำเร็จ”

“ชายชุดดำพวกนี้ล้วนเป็นแค่นินจาระดับต่ำที่สุด นินจาที่เก่งกาจบางส่วน สามารถเทียบเคียงได้แม้กระทั่งกับท่านเจ้ามังกร!”

“เก่งกาจขนาดนี้เลย…..”

หลินจ้าวหยูนทอดถอนใจครู่หนึ่ง และแปลกใจอยู่บ้าง นึกไม่ถึงว่าชายชุดดำพวกนี้จะเป็นนินจากัน

“หึๆ สาวน้อย เข้าใจได้ชัดเจนดีนะ ดูแล้วเธอคงเคยปะทะฝีมือกับเหล่านินจาญี่ปุ่นของพวกฉันมาก่อน!”

หัวหน้าของชายชุดดำสิบกว่าคนหัวเราะเยาะขึ้น เขาหัวเราะขึ้นมาจนเสียงน่าตกใจอย่างยิ่ง เสมือนเสียงเล็บแหลมคมขูดลงบนกระดานดำที่มันลื่นอย่างนั้นเลย

เจียงไป๋เสว่ไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่ยิ้มแล้วกุมมีดในมือเอาไว้แน่นกว่าเดิม

ในสายตามีความรู้สึกหนักหน่วงที่ยอมตายโดยไม่ยี่หระใดๆ อยู่นิดหนึ่ง หันหน้าพูดกับหลินชิงเสว่ “เดี๋ยวพอลงมือแล้ว ฉันจะพยายามขวางพวกเขาเอาไว้ พวกคุณถือโอกาสหนีไป แล้วแจ้งให้ถังเฉารู้!”

“หึๆ พวกเธอยังจะหนีรอดได้เหรอ?”

หัวหน้าของนินจาชุดดำหัวเราะเยาะอีกครั้ง “เดิมทีแค่อยากฆ่ายัยเด็กสาวของตระกูลโอดะคนนั้น ดันออกมากันเยอะขนาดนี้ แต่ว่าฉันชอบนะ”

หลังคำพูดนี้จบลง จากนั้นนินจาชุดดำเหล่านั้นก็มือหนึ่งหยิบดาบซามูไรออกมา มือหนึ่งล้วงมีดนินจาออกมา บีบประชิดไปยังเจียงไป๋เสว่อย่างช้าๆ

พวกเขามองออกว่าเจียงไป๋เสว่คือกำลังสู้รบเพียงหนึ่งเดียวของพวกเธอทางนี้ ฆ่าเธอแล้ว คนอื่นล้วนเป็นพวกอ่อนแอไร้ทางสู้

“เดี๋ยวก่อน!”

แต่ทว่าวินาทีต่อมา รอบด้านกลับมีเสียงตะโกนทุ้มต่ำของผู้ชายคนหนึ่งดังขึ้น

ทุกคนมองไปตามเสียง เห็นเพียงภาพเงาดำที่เหมือนค้างคาวปรากฏตัวอยู่ที่นี่แล้ว

หลังจากมองหน้าของผู้ชายคนนั้นชัดเจน ชั่วขณะนั้นสีหน้าเยี่ยนซื่อเฉิงเกิดความเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย

“เยี่ยนซื่อเฉิง……ไม่สิ ค้างคาว เป็นนายเหรอ?”

ผู้ชายที่ปรากฏตัวขึ้นคนนี้ไม่ใช่ใครอื่น คือค้างคาวเยี่ยนซื่อเฉิง

ครั้งก่อนช่วงชิงกองทัพปราณมังกรพ่ายแพ้ ถังเฉาจึงปล่อยเยี่ยนซื่อเฉิงไปสักครั้ง ทำให้เขามีชีวิตรอดจนถึงตอนนี้

เยี่ยนซื่อเฉิงหันหน้ามองเจียงไป๋เสว่แวบหนึ่ง บนหน้ามีความเหนื่อยใจ “ไป๋เสว่ อย่าเย็นชาขนาดนี้สิ อยู่ในหว่างเหลี่ยง ฉันคือค้างคาว แต่ว่าที่นี่คือต้าเซี่ย ฉันยังมีชื่อเรียก”

“เชอะ นายคนทรยศที่ไม่ซื่อตรงคนนี้ ยังอยากให้ฉันมีปฏิกิริยาแบบไหนกับนายกัน?”

เจียงไป๋เสว่เยาะเย้ย ไม่ซาบซึ้งใจต่อเขาสักนิด

ถึงแม้จะพูดแบบนี้ เธอกลับยิ่งกุมด้ามมีดแน่นขึ้นอีก

นินจามากขนาดนี้ เพียงพอที่จะทำให้เธอเสียเปรียบได้ แถมยังมีค้างคาวที่ความสามารถแกร่งกว่าเธออีกคนหนึ่ง คืนนี้จะเป็นวันตายของเธอจริงเหรอ?

เจียงไป๋เสว่กัดฟันไว้ ในสายตามีแววที่ไม่ยินยอม

เธอยังหาหลี่เห้าไม่เจอ ยังไม่ได้ถามให้กระจ่าง จะตายไปแบบนี้ได้อย่างไร?

แต่ค้างคาวยังคงส่ายหน้า เหมือนไม่ได้มีความหมายจะลงมือต่อเธอ

ทว่ากลับมองทางหัวหน้าของนินจาชุดดำ “นินจาลับของตระกูลใหญ่แบบพวกนายใจกล้ากันดีจริงๆ นะ จะพูดยังไงที่นี่ก็คือต้าเซี่ย พวกนายบุกรุกเข้ามาขนาดนี้ ไม่กลัวโดนจับขึ้นมาเพราะคิดว่าเป็นสายลับกันเหรอ?”

นินจาชุดดำที่เป็นหัวหน้าสีหน้าอึมครึมลงไปในชั่วพริบตาเดียว “ท่านหมายความว่าอะไร? พวกเราล้วนมีเป้าหมายเหมือนกัน ใครลงมือล้วนเป็นประโยชน์ของอีกฝ่าย หรือว่าพวกเราไม่ใช่แนวร่วมเดียวกันเหรอ?”

เยี่ยนซื่อเฉิงหัวเราะ “ฉันว่านายเข้าใจผิดเรื่องหนึ่งแล้วล่ะ คนที่อยากให้คุณโอดะตายคือพวกนายตระกูลมูโตะ ตระกูลโอดะเป็นกลุ่มการเมืองขั้วตรงข้ามที่แข็งแกร่งกว่าพวกนายตระกูลมูโตะ ดังนั้นพวกนายเลยคิดหาทุกวิถีทางกำจัดทิ้ง แต่พวกฉันไม่เคยพูดเลยว่าอยากฆ่าคุณโอดะ”

“พวกฉันแค่อยากเชิญคุณโอดะไปดื่มน้ำชาสักสองสามวัน ถามบางเรื่องกับหล่อนเท่านั้น”

เยี่ยนซื่อเฉิงพูดจาเรียบนิ่ง “ผู้นำของหว่างเหลี่ยงอยู่ที่ญี่ปุ่น หลงเหลือความลับอะไรเอาไว้กันแน่ ความลับอันนี้มีเพียงคุณโอดะที่รู้”

เจียงไป๋เสว่ที่แอบฟังพวกเขาสนทนากันรีบหันหน้าทันที มองโอดะไอคนนี้ด้วยท่าทางตื่นตกใจ “สรุปเธอรู้อะไรกัน ทำไมถึงมีกลุ่มอิทธิพลอยากจะฆ่าเธอมากขนาดนี้?”

คืนนี้ เธอมาที่นี่เพียงเพราะได้รับคำสั่งจากเบื้องบนว่ามีบุคคลที่สถานะไม่ชัดเจนแอบแฝงตัวเข้ามาที่นี่ จึงเข้าไปตรวจสอบให้ชัดเจนก่อน นึกไม่ถึงว่าจะเจอความลับน่าตกใจอย่างหนึ่ง

โอดะไอทำหน้าตื่นตระหนก ส่ายหน้าสุดชีวิต “ฉัน ฉันไม่รู้อะไรทั้งนั้น……”

สายตาหัวหน้าของนินจาชุดดำอึมครึมลงไป เผยแรงอาฆาตแค้นออกมา “พูดแบบนี้ แสดงว่าท่านอยากขัดขวางพวกเรางั้นเหรอ?”

“พูดว่าขัดขวางก็ไม่เชิง”

เยี่ยนซื่อเฉิงส่ายหน้า “เพียงแค่ตอนนี้คุณโอดะยังตายไม่ได้ ฉันหวังว่าพวกนายจะไว้ชีวิตหล่อนสักครั้ง—-อย่างน้อยตอนนี้หล่อนก็ตายไม่ได้ พวกเรายังต้องง้างความลับอะไรออกมาจากปากของหล่อนให้ได้”

หัวหน้าของนินจาชุดดำเงียบนิ่งอยู่นาน ก่อนจะตัดสินใจก้าวถอยไป

“พวกเราสามารถมอบตัวคุณโอดะให้คุณได้ แต่พวกคุณต้องรับปากผม รอไว้รู้ความลับแล้ว ต้องมอบตัวคุณโอดะให้พวกเราคืน หล่อนคือคนของญี่ปุ่น ความเป็นความตายของหล่อน ควรเป็นพวกเราตัดสินใจ”

“ได้”

เยี่ยนซื่อเฉิงตอบรับคำหนึ่ง

หัวหน้าของนินจาชุดดำลังเลอยู่พักหนึ่งก็โบกมือขึ้นแล้ว

ปังๆๆ!

นินจาชุดดำทั้งหมดล้วนระเบิดกลายเป็นหมอกดำก้อนหนึ่ง หายตัวไปจากที่เดิม

แก้วิกฤตอันตรายได้แล้ว แต่ว่าเจียงไป๋เสว่กลับผ่อนคลายไม่ลงสักนิด

สายตาเธอจ้องเยี่ยนซื่อเฉิงไม่กะพริบ คุ้มครองโอดะไอเอาไว้แล้ว

เยี่ยนซื่อเฉิงเห็นท่าทางนั้น จึงหัวเราะอย่างจำใจอยู่บ้าง “ไป๋เสว่ เห็นแก่ที่เมื่อก่อนพวกเราเป็นเพื่อนร่วมงานกัน ฉันออกหน้าช่วยพวกเธอเอาไว้ครั้งหนึ่ง เธอยังเป็นศัตรูกับฉันอยู่อีกเหรอ?”

เขายื่นมือข้างหนึ่งออกมา ชี้ไปยังโอดะไอที่อยู่ด้านหลัง ก่อนจะพูดว่า “เอาตัวผู้หญิงด้านหลังเธอมาให้ฉัน ฉันจะคิดเสียว่าคืนนี้ฉันไม่เคยเจอพวกเธอ และปล่อยพวกเธอไปได้”

ฟู่วๆ—-

ดวงจันทร์ที่คล้ายตะขอ ลมเย็นคำราม

ในสวนสาธารณะเชิงนิเวศอันมืดมิด ชายชุดดำที่มากมายล้อมรอบเข้ามา ชั่วพริบตาเดียวก็ล้อมหลินชิงเสว่ หลินจ้าวหยูน เจียงไป๋เสว่ และยังมีหญิงสาวชุดกิโมโนคนนั้นเอาไว้ด้วย

แสงจันทร์ที่เย็นยะเยือกส่องลงบนดาบซามูไรในมือของเหล่าชายชุดดำ คมดาบเปล่งแสงเย็นเฉียบแวววาวที่ชวนขนลุกนิดหน่อย

“อ๊ะ……”

หลินจ้าวหยูนรู้สึกว่าพวกเธอต้องตายแน่ จึงหลับตาลงสนิทแล้ว

หลินชิงเสว่ในฐานะพี่สาวไม่ได้สับสน และไม่สามารถสับสนได้ ปกป้องหลินจ้าวหยูนเอาไว้ไม่ขยับ

การแสดงออกของเจียงไป๋เสว่เปลี่ยนไปดูแย่อย่างมาก ระหว่างคิ้วยิ่งเผยความกดดันมหาศาลขึ้น

การรับมือชายชุดดำคนหนึ่ง เจียงไป๋เสว่สามารถทำได้สบาย

แต่รับมือชายชุดดำห้าคนแบบนี้ เจียงไป๋เสว่ยังมีความกดดัน แต่ว่าสามารถจัดการได้

ทว่าการรับมือสิบกว่าคนนั้น เธอไม่มีหนทางแล้ว

คนมากขนาดนี้ลงมือพร้อมกัน เดิมทีเธอไม่มีเวลามาสนใจ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าต้องดูแลความปลอดภัยของหลินชิงเสว่ และหลินจ้าวหยูนด้วย

“เป็นนินจาของตระกูลมูโตะ!”

หญิงสาวชุดกิโมโนคนนั้นกลับเอ่ยปากกะทันหัน ในดวงตาเขียนความหมดหวังไว้เต็มที่

“ตระกูลมูโตะ?”

พอได้ยิน หลินชิงเสว่และเจียงไป๋เสว่ต่างสีหน้าเปลี่ยนเล็กน้อย

มีเพียงหลินจ้าวหยูนที่ตะลึงนิดหน่อย “นินจา? บนโลกนี้มีนินจาจริงเหรอ?”

ก่อนหน้านี้ หล่อนคิดมาตลอดว่านินจาเรื่องพรรค์นี้แค่มีตัวตนอยู่ในเทพนิยายของญี่ปุ่นเท่านั้น

คำถามนี้ เจียงไป๋เสว่พยักหน้าแบบสีหน้าเคร่งขรึม “นินจา มีตัวตนอยู่จริง”

“แต่ว่าพวกเขาไม่ได้มีอภินิหารขนาดนั้นเหมือนในหนัง เหมือนกับนินจุตสึอะไรนั้นล้วนเป็นเรื่องแต่ง แต่พวกเขาสามารถควบคุมลมหายใจของตัวเองได้ เหมือนกับวิญญาณกลมกลืนเป็นหนึ่งเดียวกับสภาพแวดล้อมโดยรอบ เพราะเหตุนี้จึงบรรลุผลลัพธ์ที่โจมตีทีเดียวแล้วตายได้สำเร็จ”

“ชายชุดดำพวกนี้ล้วนเป็นแค่นินจาระดับต่ำที่สุด นินจาที่เก่งกาจบางส่วน สามารถเทียบเคียงได้แม้กระทั่งกับท่านเจ้ามังกร!”

“เก่งกาจขนาดนี้เลย…..”

หลินจ้าวหยูนทอดถอนใจครู่หนึ่ง และแปลกใจอยู่บ้าง นึกไม่ถึงว่าชายชุดดำพวกนี้จะเป็นนินจากัน

“หึๆ สาวน้อย เข้าใจได้ชัดเจนดีนะ ดูแล้วเธอคงเคยปะทะฝีมือกับเหล่านินจาญี่ปุ่นของพวกฉันมาก่อน!”

หัวหน้าของชายชุดดำสิบกว่าคนหัวเราะเยาะขึ้น เขาหัวเราะขึ้นมาจนเสียงน่าตกใจอย่างยิ่ง เสมือนเสียงเล็บแหลมคมขูดลงบนกระดานดำที่มันลื่นอย่างนั้นเลย

เจียงไป๋เสว่ไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่ยิ้มแล้วกุมมีดในมือเอาไว้แน่นกว่าเดิม

ในสายตามีความรู้สึกหนักหน่วงที่ยอมตายโดยไม่ยี่หระใดๆ อยู่นิดหนึ่ง หันหน้าพูดกับหลินชิงเสว่ “เดี๋ยวพอลงมือแล้ว ฉันจะพยายามขวางพวกเขาเอาไว้ พวกคุณถือโอกาสหนีไป แล้วแจ้งให้ถังเฉารู้!”

“หึๆ พวกเธอยังจะหนีรอดได้เหรอ?”

หัวหน้าของนินจาชุดดำหัวเราะเยาะอีกครั้ง “เดิมทีแค่อยากฆ่ายัยเด็กสาวของตระกูลโอดะคนนั้น ดันออกมากันเยอะขนาดนี้ แต่ว่าฉันชอบนะ”

หลังคำพูดนี้จบลง จากนั้นนินจาชุดดำเหล่านั้นก็มือหนึ่งหยิบดาบซามูไรออกมา มือหนึ่งล้วงมีดนินจาออกมา บีบประชิดไปยังเจียงไป๋เสว่อย่างช้าๆ

พวกเขามองออกว่าเจียงไป๋เสว่คือกำลังสู้รบเพียงหนึ่งเดียวของพวกเธอทางนี้ ฆ่าเธอแล้ว คนอื่นล้วนเป็นพวกอ่อนแอไร้ทางสู้

“เดี๋ยวก่อน!”

แต่ทว่าวินาทีต่อมา รอบด้านกลับมีเสียงตะโกนทุ้มต่ำของผู้ชายคนหนึ่งดังขึ้น

ทุกคนมองไปตามเสียง เห็นเพียงภาพเงาดำที่เหมือนค้างคาวปรากฏตัวอยู่ที่นี่แล้ว

หลังจากมองหน้าของผู้ชายคนนั้นชัดเจน ชั่วขณะนั้นสีหน้าเยี่ยนซื่อเฉิงเกิดความเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย

“เยี่ยนซื่อเฉิง……ไม่สิ ค้างคาว เป็นนายเหรอ?”

ผู้ชายที่ปรากฏตัวขึ้นคนนี้ไม่ใช่ใครอื่น คือค้างคาวเยี่ยนซื่อเฉิง

ครั้งก่อนช่วงชิงกองทัพปราณมังกรพ่ายแพ้ ถังเฉาจึงปล่อยเยี่ยนซื่อเฉิงไปสักครั้ง ทำให้เขามีชีวิตรอดจนถึงตอนนี้

เยี่ยนซื่อเฉิงหันหน้ามองเจียงไป๋เสว่แวบหนึ่ง บนหน้ามีความเหนื่อยใจ “ไป๋เสว่ อย่าเย็นชาขนาดนี้สิ อยู่ในหว่างเหลี่ยง ฉันคือค้างคาว แต่ว่าที่นี่คือต้าเซี่ย ฉันยังมีชื่อเรียก”

“เชอะ นายคนทรยศที่ไม่ซื่อตรงคนนี้ ยังอยากให้ฉันมีปฏิกิริยาแบบไหนกับนายกัน?”

เจียงไป๋เสว่เยาะเย้ย ไม่ซาบซึ้งใจต่อเขาสักนิด

ถึงแม้จะพูดแบบนี้ เธอกลับยิ่งกุมด้ามมีดแน่นขึ้นอีก

นินจามากขนาดนี้ เพียงพอที่จะทำให้เธอเสียเปรียบได้ แถมยังมีค้างคาวที่ความสามารถแกร่งกว่าเธออีกคนหนึ่ง คืนนี้จะเป็นวันตายของเธอจริงเหรอ?

เจียงไป๋เสว่กัดฟันไว้ ในสายตามีแววที่ไม่ยินยอม

เธอยังหาหลี่เห้าไม่เจอ ยังไม่ได้ถามให้กระจ่าง จะตายไปแบบนี้ได้อย่างไร?

แต่ค้างคาวยังคงส่ายหน้า เหมือนไม่ได้มีความหมายจะลงมือต่อเธอ

ทว่ากลับมองทางหัวหน้าของนินจาชุดดำ “นินจาลับของตระกูลใหญ่แบบพวกนายใจกล้ากันดีจริงๆ นะ จะพูดยังไงที่นี่ก็คือต้าเซี่ย พวกนายบุกรุกเข้ามาขนาดนี้ ไม่กลัวโดนจับขึ้นมาเพราะคิดว่าเป็นสายลับกันเหรอ?”

นินจาชุดดำที่เป็นหัวหน้าสีหน้าอึมครึมลงไปในชั่วพริบตาเดียว “ท่านหมายความว่าอะไร? พวกเราล้วนมีเป้าหมายเหมือนกัน ใครลงมือล้วนเป็นประโยชน์ของอีกฝ่าย หรือว่าพวกเราไม่ใช่แนวร่วมเดียวกันเหรอ?”

เยี่ยนซื่อเฉิงหัวเราะ “ฉันว่านายเข้าใจผิดเรื่องหนึ่งแล้วล่ะ คนที่อยากให้คุณโอดะตายคือพวกนายตระกูลมูโตะ ตระกูลโอดะเป็นกลุ่มการเมืองขั้วตรงข้ามที่แข็งแกร่งกว่าพวกนายตระกูลมูโตะ ดังนั้นพวกนายเลยคิดหาทุกวิถีทางกำจัดทิ้ง แต่พวกฉันไม่เคยพูดเลยว่าอยากฆ่าคุณโอดะ”

“พวกฉันแค่อยากเชิญคุณโอดะไปดื่มน้ำชาสักสองสามวัน ถามบางเรื่องกับหล่อนเท่านั้น”

เยี่ยนซื่อเฉิงพูดจาเรียบนิ่ง “ผู้นำของหว่างเหลี่ยงอยู่ที่ญี่ปุ่น หลงเหลือความลับอะไรเอาไว้กันแน่ ความลับอันนี้มีเพียงคุณโอดะที่รู้”

เจียงไป๋เสว่ที่แอบฟังพวกเขาสนทนากันรีบหันหน้าทันที มองโอดะไอคนนี้ด้วยท่าทางตื่นตกใจ “สรุปเธอรู้อะไรกัน ทำไมถึงมีกลุ่มอิทธิพลอยากจะฆ่าเธอมากขนาดนี้?”

คืนนี้ เธอมาที่นี่เพียงเพราะได้รับคำสั่งจากเบื้องบนว่ามีบุคคลที่สถานะไม่ชัดเจนแอบแฝงตัวเข้ามาที่นี่ จึงเข้าไปตรวจสอบให้ชัดเจนก่อน นึกไม่ถึงว่าจะเจอความลับน่าตกใจอย่างหนึ่ง

โอดะไอทำหน้าตื่นตระหนก ส่ายหน้าสุดชีวิต “ฉัน ฉันไม่รู้อะไรทั้งนั้น……”

สายตาหัวหน้าของนินจาชุดดำอึมครึมลงไป เผยแรงอาฆาตแค้นออกมา “พูดแบบนี้ แสดงว่าท่านอยากขัดขวางพวกเรางั้นเหรอ?”

“พูดว่าขัดขวางก็ไม่เชิง”

เยี่ยนซื่อเฉิงส่ายหน้า “เพียงแค่ตอนนี้คุณโอดะยังตายไม่ได้ ฉันหวังว่าพวกนายจะไว้ชีวิตหล่อนสักครั้ง—-อย่างน้อยตอนนี้หล่อนก็ตายไม่ได้ พวกเรายังต้องง้างความลับอะไรออกมาจากปากของหล่อนให้ได้”

หัวหน้าของนินจาชุดดำเงียบนิ่งอยู่นาน ก่อนจะตัดสินใจก้าวถอยไป

“พวกเราสามารถมอบตัวคุณโอดะให้คุณได้ แต่พวกคุณต้องรับปากผม รอไว้รู้ความลับแล้ว ต้องมอบตัวคุณโอดะให้พวกเราคืน หล่อนคือคนของญี่ปุ่น ความเป็นความตายของหล่อน ควรเป็นพวกเราตัดสินใจ”

“ได้”

เยี่ยนซื่อเฉิงตอบรับคำหนึ่ง

หัวหน้าของนินจาชุดดำลังเลอยู่พักหนึ่งก็โบกมือขึ้นแล้ว

ปังๆๆ!

นินจาชุดดำทั้งหมดล้วนระเบิดกลายเป็นหมอกดำก้อนหนึ่ง หายตัวไปจากที่เดิม

แก้วิกฤตอันตรายได้แล้ว แต่ว่าเจียงไป๋เสว่กลับผ่อนคลายไม่ลงสักนิด

สายตาเธอจ้องเยี่ยนซื่อเฉิงไม่กะพริบ คุ้มครองโอดะไอเอาไว้แล้ว

เยี่ยนซื่อเฉิงเห็นท่าทางนั้น จึงหัวเราะอย่างจำใจอยู่บ้าง “ไป๋เสว่ เห็นแก่ที่เมื่อก่อนพวกเราเป็นเพื่อนร่วมงานกัน ฉันออกหน้าช่วยพวกเธอเอาไว้ครั้งหนึ่ง เธอยังเป็นศัตรูกับฉันอยู่อีกเหรอ?”

เขายื่นมือข้างหนึ่งออกมา ชี้ไปยังโอดะไอที่อยู่ด้านหลัง ก่อนจะพูดว่า “เอาตัวผู้หญิงด้านหลังเธอมาให้ฉัน ฉันจะคิดเสียว่าคืนนี้ฉันไม่เคยเจอพวกเธอ และปล่อยพวกเธอไปได้”

เจ้ามังกรพรีเมี่ยม

เจ้ามังกรพรีเมี่ยม

เมื่อห้าปีก่อน ถูกว่าที่ภรรยาใส่ร้าย ในเวลาที่เกือบจะตาย มีผู้หญิงคนหนึ่งมาช่วยเขาอย่างสุดชีวิตห้าปีต่อมา อำนาจและทรัพย์สมบัติของโลกล้วนตกอยู่ในมือของเขา การกลับมาของม้าศึก แค่เพื่อที่จะตอบแทนบุญคุณในคืนนั้น แต่กลับพบว่า เธอได้คลอดลูกสาวคนหนึ่งสิ่งที่เป็นหนี้คุณไม่สามารถลบล้างให้หมดไปได้ ถ้าอย่างนั้นก็ปกป้องพวกคุณสองแม่ลูก……ทั้งชีวิตเลยแล้วกัน!

Options

not work with dark mode
Reset