ฉันต้องกลับไปจัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อย
กู้จิ้งเจ๋อเงยหน้าขึ้นมองและได้เห็นโม่ฮุ่ยหลิงที่กำลังนอนทอดกายด้วยท่วงท่าอันเย้ายวน
แต่ชายหนุ่มก็ไม่ได้สนใจอะไรนัก ถึงอย่างไรเขาและเธอก็เติบโตเป็นเพื่อนเล่นมาด้วยกัน สนิทสนมใกล้ชิดกันเกินกว่าที่จะรู้สึกรู้สา
แต่เป็นเพราะหน้าอกหน้าใจของโม่ฮุ่ยหลิงที่ดูจะชูชันราวกับเนินเขาอย่างผิดสังเกตยามที่เธอนอนราบลงไปนั่นแหละที่สะดุดตาเขาเข้า
เป็นหน้าอกที่ใหญ่ แต่ดูไม่เป็นธรรมชาติเอาเสียเลย
เขาไม่เคยสังเกตเรื่องนี้มาก่อน แต่ทันใดนั้นคำพูดของหลินเช่อก็แวบเข้ามาในหัว
‘หน้าอกปลอมน่ะดูง่ายจะตายไปค่ะ มันจะพุ่งชูชันอยู่อย่างนั้นต่อให้นอนลงก็เถอะ’
โม่ฮุ่ยหลิงไปทำหน้าอกมาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน
เขาจำไม่ได้เลยว่าเธอเคยพูดถึงเรื่องนี้
อันที่จริงตัวเขาเองก็ไม่ได้ต่อต้านกับการที่ผู้หญิงจะทำศัลยกรรมความงาม ตราบใดที่เจ้าตัวรู้สึกพอใจ เขาก็ไม่ได้เดือดร้อน
ถึงอย่างไรความอยากสวยอยากงามก็เป็นธรรมชาติของมนุษย์
แต่เขากลับไม่เคยได้ยินโม่ฮุ่ยหลิงพูดถึงเรื่องนี้มาก่อนเลย
ความสงสัยที่ก่อตัวขึ้นทำให้เขาถามเธอออกไปว่า “ฮุ่ยหลิง เธอไปทำศัลยกรรมมาเมื่อไหร่กัน”
โม่ฮุ่ยหลิงผุดลุกขึ้นทันที เธอเผลอก้มลงมองหน้าอก พลางยกมือขึ้นจับคางตัวเอง
เธอไปทำศัลยกรรมมาสองสามแห่งจริงๆ นั่นแหละ
ศัลยกรรมความงามทุกวันนี้กลายเป็นเรื่องปกติไปแล้วก็จริง แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่อยากให้กู้จิ้งเจ๋อรู้อยู่ดี
เธอแอบไปทำมาอย่างเงียบๆ แต่ละครั้งเธอจะหาโอกาสไปต่างประเทศสักพักและกลับมาเมื่อแผลหายสนิทดี
ผู้ชายอย่างกู้จิ้งเจ๋อนั้นงานยุ่งเกินกว่าจะสังเกตเห็นเรื่องแบบนี้ ปกติแล้วเขาไม่เคยถามคำถามประเภทนี้เลยด้วยซ้ำ จนกระทั่งตอนนี้…
“ฉัน…ฉันเปล่านะ ทำไมอยู่ๆ มาถามแบบนี้ล่ะ”
กู้จิ้งเจ๋อเหลือบมองหญิงสาว และรู้สึกว่าเขาไม่อาจทนมองเธอต่อไปได้อีก “ไม่มีอะไรหรอก แค่ถามดูเท่านั้นแหละ”
โม่ฮุ่ยหลิงก้มลงมองหน้าอกและคิดว่ามันก็ควรจะดูเป็นธรรมชาติดีสิ แน่ละ ก็ในเมื่อเธอยอมจ่ายเงินแพงที่สุดเพื่อให้ได้วัสดุที่ดีที่สุดและหมอมือฉมังที่สุด หน้าอกคัพซีนี่ไม่ใช่ของถูกๆ เลยนะ
ไม่คิดเลยว่ากู้จิ้งเจ๋อจะดูออก เธอฉีกยิ้มแล้วรีบพูดว่า “เนื้อตัวฉันทั้งหมดนี่ของแท้ทั้งนั้นนะคะ ฉันไม่เคยทำอะไรกับมันเลยสักนิด คุณคงคิดว่ามันดูสมบูรณ์แบบเกินไปละสิถึงได้คิดว่าฉันไปทำศัลยกรรมมาใช่ไหมละคะ”
กู้จิ้งเจ๋อยิ้มยังไม่รู้จะตอบว่าอะไรดี “ใช่ รูปร่างเธอสวยมาก”
โม่ฮุ่ยหลิงตอบ “แต่แน่นอนค่ะ ว่าฉันดูแลเอาใจใส่รูปร่างตัวเองเป็นอย่างดี ทั้งเล่นโยคะแล้วก็คอยระมัดระวังอย่างดีที่สุด ทุกคนคิดว่าที่ผิวฉันสวยใสแบบนี้ รูปร่างก็สมบูรณ์แบบอย่างนี้ ต้องขอบคุณความสวยที่ได้มาจากแม่ของฉันน่ะค่ะ ฉันเหมือนท่านมาก ก็เลยได้สืบทอดความงามนี้มาด้วย คุณว่าฉันสวยไหมละคะ”
กู้จิ้งเจ๋อมองหน้าเธอแล้วยิ้ม “ใช่ เธอสวยมาก”
แต่ถึงกระนั้น เมื่อมองใบหน้าของอีกฝ่าย ชายหนุ่มก็อดคิดว่ามันน่าประหลาดไม่ได้ ถ้าโม่ฮุ่ย
หลิงเหมือนแม่ของเธอกินแล้วก็ แต่ก็ควรจะมีตาชั้นเดียว ไม่ใช่ดวงตากลมโตสองชั้นแบบนี้ ที่สำคัญที่สุด คางของเธอนั้นเรียวแหลมเกินไป ทั้งที่แม่ของเธอสวยแบบผู้หญิงที่มีใบหน้ากลมแป้น
แต่กู้จิ้งเจ๋อก็เก็บความคิดนั้นไว้กับตัวเอง เขามองดูโม่ฮุ่ยหลิงอีกครั้ง ผิวของเธอนั้นก็สวยดีหรอก แต่…
ผิวของหลินเช่อนั้นผุดผ่องและนุ่มเนียนกว่ามาก
ไม่รู้เพราะเหตุใด ผิวเนียนใสราวกับกระเบื้องของหลินเช่อจึงผุดขึ้นมาในความคิด
ผิวของเธอนั้นขาวกว่าผู้หญิงส่วนใหญ่ทั่วไป
บางทีอาจจะเป็นเพราะผิวที่ขาวเกินไปของเธอนั่นเอง ที่ทำให้ใบหน้าของเธอดูไม่ค่อยโดดเด่นนัก การมองดูเธอจึงเหมือนกับการมองดูตุ๊กตากระเบื้องที่แสนบอบบาง
“จิ้งเจ๋อคะ ฉันกำลังพูดกับคุณอยู่นะ นี่คิดอะไรอยู่เหรอคะ” โม่ฮุ่ยหลิงร้องถามเสียงดังและลุกขึ้นนั่งอย่างหัวเสีย
กู้จิ้งเจ๋อยืนขึ้นและตอบว่า “ไม่มีอะไรหรอก ฉันแค่กำลังคิดว่าเธอไม่จำเป็นต้องทุ่มเทขนาดนั้นก็ได้ ฉันชอบเธอไม่ใช่เพราะว่าเธอผอม แต่ไม่ว่าเธอจะดูเป็นยังไง ฉันก็คิดว่าเธอดูสวยเสมออยู่นั่นเอง”
เขายังคงจำได้ดีเมื่อครั้งยังเป็นเด็ก เธอเป็นฝ่ายเดินมะงุมมะงาหราเข้ามาหาเขาในชุดเจ้าหญิงน้อย และบอกกับเขาว่า ‘พี่จิ้งเจ๋อคะ ไม่มีใครอยากเล่นกับพี่ ฉันจะเล่นกับพี่เอง’
นับตั้งแต่นั้นมา เขาก็บอกตัวเองว่า เขาจะต้องดีกับเธอ
แต่เมื่อมองดูโม่ฮุ่ยหลิงตอนนี้ ชายหนุ่มก็อดรู้สึกไม่ได้ว่าหลินเช่อนั้นพูดถูก
โม่ฮุ่ยหลิงจะต้องไปทำอะไรกับหน้าอกของเธอมาสักอย่างแน่
กู้จิ้งเจ๋อเข้าใจดีว่าทุกคนต่างก็มีความงามตามแบบฉบับอุดมคติของตัวเอง บางทีที่เธอไม่ยอมบอกเขา อาจเป็นเพราะเธออยากจะเชื่อว่ารูปร่างของเธอเป็นของธรรมชาติและเป็นของขวัญที่ได้ประทานมาจากพระเจ้า แต่กู้จิ้งเจ๋อไม่ได้ใส่ใจเรื่องพวกนั้น
เขาสนใจแค่ความจริงที่ว่าโม่ฮุ่ยหลิงโกหกเขาต่างหาก
แต่ถึงกระนั้นเขาก็ไม่ได้เปิดโปงเธอ
เขาเชื่อว่าเธอคงจะมีเหตุผลของเธอนั่นแหละ
กู้จิ้งเจ๋อจึงเพียงแค่ยิ้มและไม่ได้พูดอะไรอีก เขาจัดการกับเตาผิงจนเสร็จเรียบร้อย แต่เพราะอากาศที่ชื้นเกินไปทำให้ฟืนติดไฟได้ไม่ดีนัก แต่ถึงอย่างนั้นทั้งคู่ก็รู้สึกดีไปกับบรรยากาศ
ทั้งสองนั่งอยู่ด้วยกันบนโซฟา กู้จิ้งเจ๋อเปิดโทรทัศน์และหยิบรีโมตขึ้นมาถือเอาไว้ ขณะที่กำลังพยายามเปลี่ยนช่องเพื่อหาหนังดูนั่นเอง เขาก็ได้เห็นข่าวซีรีส์เรื่องใหม่ปรากฏอยู่บนจอ
“หลังจากที่กู้จิ้งอวี่บอกใบ้เรื่องความสัมพันธ์ไปแล้ว ก็ยังไม่มีความเห็นเพิ่มเติมใดๆ จากทีมงานซีรีส์อีก และความพยายามที่จะจัดการกับเรื่องนี้ของทางกองถ่ายก็ทำให้เป็นเรื่องยากที่จะสืบข้อเท็จจริง กู้จิ้งอวี่นั้นไม่เคยตกเป็นข่าวลือกับนักแสดงสาวคนไหนเลย ด้วยเหตุนี้ทุกคนจึงเฝ้าลุ้นความสัมพันธ์ครั้งนี้ด้วยความรู้สึกยินดีทีเดียวครับ”
แล้วบนจอโทรทัศน์ก็ปรากฏเป็นภาพของกู้จิ้งอวี่และหลินเช่อคู่กัน
“เกิดอะไรขึ้นน่ะ ทำไมกู้จิ้งอวี่ถึงไปมีข่าวพัวพันกับยัยหลินเช่อได้”
คำถามนั้นทำให้สีหน้าของกู้จิ้งเจ๋อยิ่งเคร่งเครียดถมึงทึง
โม่ฮุ่ยหลิงเห็นสีหน้าของอีกฝ่ายและคิดว่าเขากำลังโกรธ เธอจึงรีบพูดต่อด้วยน้ำเสียงใส่ไฟว่า “แม่หลินเช่อนี่ไร้ยางอายสิ้นดีเลยนะคะ หล่อนเข้าไปยุ่งกับน้องชายคุณได้ยังไงกันเนี่ย หน้าไม่อายสิ้นดี”
กู้จิ้งเจ๋อขัดขึ้นว่า “เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับหลินเช่อ”
โม่ฮุ่ยหลิงฟังแล้วจึงถามต่อไปเบาๆ ว่า “ตบมือข้างเดียวมันไม่ดังหรอกนะคะ แล้วอย่างนี้จะบอกว่าไม่เกี่ยวกับหล่อนได้ยังไงกันล่ะ”
“ฉันเชื่อว่าหลินเช่อไม่ใช่คนแบบนั้น” กู้จิ้งเจ๋อยืนกรานด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
โม่ฮุ่ยหลิงพ่นลมออกจมูกอย่างเยาะหยัน “คุณเชื่อหล่อนด้วยเหรอคะ ช่างไร้เดียงสาอะไรอย่างนี้ ฉันเคยเห็นผู้หญิงไร้หัวนอนปลายเท้าแบบเธอมามากมาย ผู้หญิงพวกนี้ยอมทำทุกอย่างได้เพื่อเงิน ยิ่งพวกที่อยู่ในวงการบันเทิงแล้วละก็”
“พอที!” กู้จิ้งเจ๋อผุดลุกขึ้นทันที
โม่ฮุ่ยหลิงถึงกับผงะ
ก่อนที่เธอจะลุกขึ้นยืนตามเขา หญิงสาวพยายามกลั้นน้ำตาเต็มที่เมื่อร้องตะโกนออกไปว่า “คุณตะคอกฉันเหรอคะ กู้จิ้งเจ๋อ นี่คุณตะคอกใส่ฉันเพราะผู้หญิงคนนี้งั้นเหรอคะ”
กู้จิ้งเจ๋อนิ่งไปชั่วครู่และหันมามองโม่ฮุ่ยหลิง “ไม่ใช่เพราะหลินเช่อหรอก กู้จิ้งอวี่เองก็อยู่ในวงการบันเทิงเหมือนกัน และเขาก็ไม่ใช่คนแบบนั้นด้วย มันจะต้องมีเหตุผลอะไรสักอย่างอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้แน่ๆ”
กู้จิ้งเจ๋อตัดสินใจที่จะกลับทันที เขาคว้าเสื้อโค้ตแล้วบอกว่า “ฉันจะต้องกลับไปจัดการกับเรื่องนี้”
“คุณจะไปตอนนี้เลยหรือคะ…” โม่ฮุ่ยหลิงถามด้วยความไม่พอใจ “ไหนคุณบอกว่าจะอยู่เป็นเพื่อนฉันไงล่ะ”
กู้จิ้งเจ๋อตอบ “ฮุ่ยหลิง ข่าวนี้จะสร้างปัญหาใหญ่ถ้ามีคนได้เห็นเข้า จะเป็นการดีกว่าที่ฉันจะรีบกลับไปจัดการมันซะให้เรียบร้อย”
โม่ฮุ่ยหลิงขบฟันแน่น เขาก็พูดถูกจริงๆ นั่นแหละ แต่เธอก็กระทืบเท้าปึงปัง “ฉันไม่สนหรอก คุณจะต้องชดเชยให้ฉันนะคะ กว่าจะได้เจอคุณก็ยากเย็นแทบแย่ แล้วมาตอนนี้คุณยังจะรีบกลับอีก”
กู้จิ้งเจ๋อถอนหายใจ เขาไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะเอาอกเอาใจเธอ จึงได้แต่ยิ้มอย่างปลอบประโลมและตอบว่า “โอเค แล้วฉันจะชดเชยให้เธอเอง”
โม่ฮุ่ยหลิงฝืนใจฉีกยิ้มออกมาได้ แม้ว่าลึกๆ ในใจแล้ว เธออยากจะบีบคอหลินเช่อตายคามือก็ตาม