เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก – ตอนที่ 255 คนที่ดูร้อนใจนั่นแหละที่ซ่อนเจตนาร้ายเอาไว้

อวี๋หมินหมิ่นมองหน้าหยางหลิงซิน “นี่ ก็พวกเขาเป็นสามีภรรยากัน พวกเขาก็ต้องรักใคร่กันดีสิ ไอ้เรื่องที่เธอเคยได้ยินเกี่ยวกับกู้จิ้งเจ๋อจากคนนอกน่ะล้วนเหลวไหลทั้งเพ อย่าให้ท่าทางของท่านประธานกู้หลอกเอาสิ”
 
 
เมื่อหยางหลิงซินได้ยินเช่นนั้น เธอก็หันไปมองกู้จิ้งเจ๋อแล้วรีบพยักหน้าอย่างขันแข็ง
 
 
อวี๋หมินหมิ่นพูดต่อไปอีกว่า “ยัยหลินเช่อนี่โชคดีจริงๆ ซื่อบื้อก็ซื่อบื้อ ทำอาหารก็ไม่ได้ แถมยังทำอะไรก็ไม่เป็น โชคดีนะที่พวกเขามีทุกอย่างที่บ้านให้พร้อมสรรพจนเธอไม่ต้องกระดิกตัวทำอะไรเลย”
 
 
ไม่ช้า คุณยายก็ฟื้น
 
 
หลินเช่อที่คอยเฝ้าดูอยู่ไม่ห่างยิ้มกับหญิงชรา “คุณยาย รู้สึกยังไงบ้างคะ”
 
 
“ดีมากเลย ยายไม่เป็นไร เหมือนฝันยาวๆ น่ะ…” หล่อนว่า
 
 
หลินเช่อหัวเราะ “โอ้ จริงสิคะ คุณยายคะไหนๆ ก็มาถึงเมืองบีนี่แล้ว แล้วยายก็แก่ลงทุกวัน หนูคิดว่ายายน่าจะอยู่ซะที่นี่นะคะ แต่นี้ไปหนูจะดูแลยายเอง ดีมั้ยคะ”
 
 
เมื่อหญิงชราได้ยินก็รีบแย้งโดยเร็ว “ไม่ ไม่นะ หลินเช่อ…”
 
 
หลินเช่อแปลกใจที่ยายของเธอปฏิเสธโดยไม่ลังเล
 
 
“ทำไมล่ะคะ คุณยาย ที่นี่ไม่ดีหรือคะ”
 
 
“ไม่หรอก มันก็แค่ หลินเช่อ ที่นี่น่ะดีมาก แต่ยายคิดว่าคนบ้านนอกคอกนายอย่างยายคงไม่เหมาะกับที่นี่ ไม่ต้องแปลกใจเลยว่าทำไมแม่ของหลานถึงไม่เคยกลับไปอีกเลยนับตั้งแต่จากมา เมืองนี้มันน่าทึ่งจริงๆ มีทุกอย่างเลย แต่ยายน่ะแก่แล้ว แล้วก็อยู่ที่โน่นมาทั้งชีวิต สุดท้ายใบไม้ก็ร่วงหล่นกลับสู่ราก ยายเหลือเวลาอีกไม่กี่ปีแล้ว ยายว่ายายควรจะกลับไปอยู่ที่นั่น”
 
 
เมื่อหลินเช่อได้ยินก็น้ำตาคลอ “แต่คุณยายขา ยายต้องอยู่ที่นั่นลำพังคนเดียว…”
 
 
“ก็ไม่เชิงหรอกจ้ะ มันเป็นหมู่บ้านเล็กๆ ก็จริง แต่ก็มีเพื่อนบ้านที่ดีและทุกคนก็อยู่ด้วยกันเหมือนเป็นครอบครัว พวกเขาดูแลยายเป็นอย่างดี แล้วตอนนี้ยายก็มีหลานแล้ว จะบอกว่ายายอยู่ลำพังได้ยังไงกันล่ะ มันอาจจะไกลก็จริง แต่ถ้ายายคิดถึง ยายก็โทรมาหาได้ มาเยี่ยมได้นี่นา จริงมั้ย”
 
 
หลินเช่อมองใบหน้าซูบผอมของคุณยาย เธอไม่อยากปล่อยให้ท่านต้องอยู่แบบนั้นเลยจริงๆ
 
 
ด้านนอก กู้จิ้งเจ๋อที่ออกไปจัดการธุระกลับมาถึงโรงพยาบาลแล้ว
 
 
เสียงเด็กสาวร้องดังด้วยความยินดีที่โถงทางเดินว่า “ท่านประธานกู้ คุณกลับมาแล้ว”
 
 
เมื่อหันกลับไปเขาก็ได้เห็นหยางหลิงซินยืนอยู่ตรงนั้น
 
 
ใบหน้าของเขาเย็นชาปราศจากความอบอุ่นใดๆ เมื่อมองดูเธอ และเพียงแต่ถามห้วนๆ ว่า “ทุกคนไปไหนกันหมด”
 
 
หยางหลิงซินตอบ “พี่เช่ออยู่ในห้องกับคุณยายค่ะ ส่วนพี่อวี๋กลับไปออฟฟิศแล้วเพราะพอดีมีเรื่องด่วน อ้อ จริงสิคะ ท่านประธานกู้” หยางหลิงซินดึงอาหารกล่องที่ซ่อนไว้ด้านหลังตัวเองออกมา “ฉันคิดว่าท่านประธานกู้คงยังไม่ได้ทานอะไร ฉันก็เลยกลับไปบ้านแล้วก็ทำอาหารมาให้ อยากลองชิมหน่อยมั้ยคะประธานกู้”
 
 
กู้จิ้งเจ๋อหรี่ตา กวาดมองทั่วใบหน้าเด็กสาว
 
 
หยางหลิงซินเงยหน้าและยิ้มให้อย่างใจจดใจจ่อ
 
 
จนครู่หนึ่งผ่านไป เขาก็ตอบว่า “ไม่ละ ฉันกินแล้ว”
 
 
และเดินตรงไปทางห้องพักโดยไม่ปรายตามองเธออีกเลย
 
 
หยางหลิงซินยังยืนถือกล่องข้าวอยู่ที่เดิม หน้าตึงด้วยความรู้สึกผิดหวัง
 
 
ตอนที่เธอได้ยินจากอวี๋หมินหมิ่นว่าหลินเช่อทำอาหารไม่เป็นนั้น เธอก็มีความหวังขึ้นมาเต็มเปี่ยม และรีบกลับบ้านเพื่อบรรจงทำอาหารใส่กล่องใบสวยมา แต่เธอไม่คาดคิดเลยซักนิดว่ากู้จิ้งเจ๋อจะปฏิเสธมัน เมื่อหันไปมองห้องพักคนป่วย เด็กสาวก็กัดริมฝีปากอย่างขมขื่นใจ
 
 
หลินเช่อโผล่หน้าออกมาจากห้องและบอกกับชายหนุ่มว่า “คุณยายบอกว่าท่านไม่อยากอยู่ที่นี่น่ะค่ะ ท่านอยากจะกลับบ้านเกิด เราจะทำยังไงดีล่ะคะ…”
 
 
หญิงสาวเศร้าใจหนัก ดวงตาหม่นมัวเมื่อมองดูเขา
 
 
กู้จิ้งเจ๋อปลอบว่า “เหตุผลของคุณยายก็เข้าใจได้อยู่นะ ท่านใช้เวลาตลอดทั้งชีวิตอยู่ที่นั่น ฉันเดาว่าท่านคงไม่อยากให้ช่วงเวลาบั้นปลายของชีวิตต้องเปลี่ยนแปลงอะไรมากมาย ถ้าท่านยังอายุน้อยกว่านี้ก็คงจะปรับตัวได้ง่ายกว่า แต่สำหรับคนแก่ การต้องปรับตัวให้เข้ากับสถานที่ใหม่เป็นเรื่องยากมาก”
 
 
“แต่ฉันทนให้ท่านกลับไปอยู่ที่นั่นไม่ได้นี่คะ ถ้าหากว่าเกิดอะไรขึ้นมาล่ะ…” หลินเช่อว่า
 
 
กู้จิ้งเจ๋อขยี้ผมเธออย่างอ่อนโยน ผู้หญิงคนนี้อาจจะซื่อบื้อในบางครั้ง แต่เธอก็มีจิตใจอันงดงาม ซึ่งเขาคิดว่านั่นเป็นสิ่งที่ละเอียดอ่อนอย่างยิ่ง “เอาละ งั้นฉันจะส่งคนไปคอยช่วยเหลือคุณยายที่นั่นก็แล้วกัน ต่อให้ท่านต้องกลับไปอยู่ที่นั่น แต่อย่างน้อยท่านก็ไม่ต้องอยู่ลำพังคนเดียวอีกแล้ว อย่ากังวลไปเลยนะ”
 
 
หลินเช่อไม่ทันได้คิดถึงเรื่องนี้ เมื่อได้ยินเขาพูดขึ้น เธอจึงบอกว่า “คุณพูดถูกค่ะ ถ้าทำแบบนั้นต้องดีแน่เลย”
 
 
เธอสร้างปัญหาให้เขาอีกแล้ว หลินเช่อนึกอายขึ้นมา
 
 
“ไม่ใช่ปัญหาหรอกน่า ฉันเพิ่งพูดอยู่หยกๆ นี่ไงว่ายายของเธอก็คือยายของฉัน”
 
 
“แต่…”
 
 
“ลองพูดคำว่า ‘แต่’ อีกครั้งเดียวฉันจะโกรธละนะ” กู้จิ้งเจ๋อหรี่ตาเป็นเชิงเตือน
 
 
“ก็ได้ๆ ฉันไม่พูดก็ได้ค่ะ” เธอมองเขาด้วยความรู้สึกอบอุ่นในหัวใจ “ขอบคุณนะคะกู้จิ้งเจ๋อ”
 
 
“ถ้าเธอขอบคุณจริงๆ ละก็ ทีหลังก็หัดพูดอะไรให้ตรงไปตรงมา หัดฉลาดแล้วก็เลิกซื่อบื้อตลอดเวลาได้แล้ว”
 
 
“พอเลย ไอคิวคุณนั่นแหละที่สูงเกินไป พวกเราเป็นคนธรรมดาก็คิดได้แบบนี้แหละค่ะ คุณต่างหากที่เป็นตัวประหลาด”
 
 
ถึงแม้ว่าคุณยายจะไม่อยากอยู่ที่นี่ แต่ระหว่างนี้ท่านก็ยังสามารถเที่ยวเล่นในเมืองได้
 
 
อุตส่าห์เดินทางอย่างยากลำบากมาถึงที่นี่ ท่านควรจะอยู่พักผ่อนให้สบายอีกซักสองสามวัน
 
 
อีกอย่าง ท่านจะได้พักผ่อนให้เต็มที่หลังการผ่าตัดด้วย
 
 
ด้วยเหตุนี้ จึงมีการเตรียมบ้านพักใกล้ๆ เอาไว้พร้อม
 
 
เพราะเป็นเพียงการผ่าตัดเล็ก คุณยายจึงไม่ต้องอยู่โรงพยาบาลนานนัก แล้วกู้จิ้งเจ๋อก็ส่งคนไปรับตัวเธอกลับมาที่วิลล่า
 
 
ระหว่างทาง คุณยายนั่งมาบนรถโดยมีหลินเช่อนั่งเคียงข้าง ด้านหน้ามีหยางหลิงซินที่อาสามาช่วย ทั้งสามมุ่งหน้าไปยังบ้านพักแบบวิลล่าที่เตรียมเอาไว้
 
 
นี่เป็นครั้งแรกที่หยางหลิงซินมีโอกาสได้นั่งบนรถยนต์ราคาแพง เธอลูบไล้เบาะหนังและพูดว่า “พี่เช่อคะ รถยี่ห้อนี้ดังมากเลยเหรอคะ”
 
 
หลินเช่อมองดูท่าทีไร้เดียงสาของเด็กสาวแล้วก็นึกถึงตัวเองในอดีต
 
 
แต่หลินเช่อเองก็ไม่มีความรู้ใดๆ ในเรื่องนี้ เธอจึงไม่แน่ใจที่จะตอบ
 
 
เธอพอจะจำโลโก้ปอร์เช่ได้ แต่ช่วงราคาของรถยี่ห้อนี้นั้นกว้างมากจนเธอบอกไม่ได้ว่ามันเป็นรุ่นถูกแพงแค่ไหน
 
 
หญิงสาวจึงตอบไปว่า “ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกันจ้ะ แต่คิดว่าน่าจะแพงทีเดียว”
 
 
หยางหลิงซินยิ้มอย่างน่าเอ็นดู “ได้ตามพี่เช่อมาด้วยนี่ทำให้ฉันได้เห็นอะไรๆ เป็นครั้งแรกหลายอย่างเลยค่ะ”
 
 
“นั่นเพราะว่าเธอเพิ่งเข้ามาอยู่ในวงสังคมไงล่ะ แต่ไอ้เรื่องมียี่ห้อไม่มียี่ห้อเนี่ย มันเป็นเรื่องที่คนมองจากภายนอก เรื่องสำคัญที่สุดก็คือการทำงานหนักแล้วก็มีความสุขกับตัวเอง” หลินเช่อชอบหยางหลิงซิน จึงพูดกับหล่อนอย่างจริงจังแทนที่จะพูดเล่นอย่างเคย
 
 
หยางหลิงซินนิ่งฟังและพยักหน้ารับแรงๆ ท่าทีดูเชื่อฟังเป็นอันดี
 
 
ไม่ช้าทุกคนก็มาถึงวิลล่า
 
 
เมื่อก้าวลงจากรถ คุณยายที่ได้เห็นภายนอกของตัวบ้านก็ร้องขึ้นว่า “โอ๊ย ตายแล้ว นี่สนามของใครกันเนี่ย ทำไมถึงได้ดูแลจนสวยสะอาดขนาดนี้”
 
 
หลินเช่อยิ้มและพาทั้งสองคนเดินเข้าไปดูใกล้ๆ
 
 
คุณยายถอนใจด้วยความทึ่ง “นี่มันใหญ่เกินไปแล้ว! นี่ฉันจะต้องอยู่ที่นี่งั้นรึ”
 
 
หลินเช่อบอก “ที่นี่อยู่ใกล้กับที่ที่หนูอย่ะค่ะ กู้จิ้งเจ๋อจะส่งคนมาคอยดูแลคุณยายในเรื่องต่างๆ แล้วก็จะมีหมอมาคอยตรวจดูอาการในช่วงสองสามวันนี้ด้วย พักที่นี่ให้สบายเถอะนะคะ”
 
 
ระหว่างหลินเช่อออกไปสั่งการคนที่จะมาคอยดูแล คุณยายก็หันมาถามหยางหลิงซินว่า “เสี่ยวเช่อแต่งงานกับจิ้งเจ๋อ นี่เขาดีขนาดนี้เลยหรือนี่”

เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก

เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก

หลินเช่อ สาวน้อยนักแสดงปลายแถวตัดสินใจวางยาลักหลับดาราชายชื่อดังอย่าง กู้จิ้งอวี่ เพื่อหาทางไต่เต้าขึ้นไปในวงการบันเทิง แต่สุดท้ายทุกอย่างกลับไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้เมื่อเหยื่อผู้โชคร้ายของเธอดันกลายมาเป็น กู้จิ้งเจ๋อ พี่ชายของเขาแทน! ทว่าหลังผ่านค่ำคืนอันเร่าร้อนไป การแยกทางกันแต่โดยดีกลับไม่ใช่บทสรุปของคนทั้งคู่ เพราะกู้จิ้งเจ๋อมีโรคประจำตัวสุดประหลาดอย่างหนึ่ง นั่นคือเขาไม่สามารถแตะต้องผู้หญิงคนไหนได้ หากสัมผัสตัวเพศตรงข้ามเมื่อไหร่ เขาจะคลื่นไส้และมีผื่นขึ้นทันที ดังนั้นเมื่อพบว่าเขาและหลินเช่อสามารถนอนร่วมเตียงกันได้โดยไม่มีอาการใดๆ ทั้งสิ้น ครอบครัวของกู้จิ้งเจ๋อจึงใช้อำนาจบีบบังคับให้ทั้งคู่แต่งงานกัน! เมื่อระฆังวิวาห์ลั่นแบบสายฟ้าฟาด หลินเช่อและกู้จิ้งเจ๋อจึงต้องสวมบทบาทคู่สามีภรรยาและเก็บข้าวของย้ายมาอยู่ใต้ชายคาเดียวกันในที่สุด

Options

not work with dark mode
Reset